ฐานข้อมูลเป็นการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องใดๆ โดยมีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบระเบียบ เพื่อความสะดวกในการจัดการกับข้อมูลภายหลัง เช่น การค้นหาข้อมูลการพิมพ์ การจัดการรายงาน ฯลฯ

 

ลักษณะการจัดเก็บข้อมูล

การจัดเก็บข้อมูลทำได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับรูปแบบของข้อมูลที่ต้องการจัดเก็บ
1. การจดบันทึก เป็นรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานที่สุด อาจเป็นการบันทึกลงกระดาษหรือ แบบฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูล การจัดเก็บข้อมูล แบบนี้สามารถใช้เป็นหลักฐาน สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ แต่อาจไม่สะดวกในการจัดการ เช่น ค้นหา แก้ไข ข้อมูล
2. บันทึกหรือจัดเก็บข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ ด้วยโปรแกรมเก็บข้อมูล วิธีนี้ช่วยให้การจัดการกับ ข้อมูลมีความสะดวก ค้นหา แก้ไข ลบ ข้อมูล ฯลฯ ทำได้ง่ายกว่า รวดเร็วกว่า

ตัวอย่างฐานข้อมูลแบบต่างๆ

เพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้นอาจดูจากตัวอย่างดังต่อไปนี้
1. ฐานข้อมูลในโรงเรียน จะเป็นการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน ครู ภารโรง พัสดุสิ่งของ ฯลฯ อาจบันทึกข้อมูลลงกระดาษ แบบฟอร์มหรือจัดเก็บลงคอมพิวเตอร์ เมื่อมีการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็น ระเบียบ การค้นหาก็ทำได้ง่าย

2. ฐานข้อมูลของร้านค้า เมื่อมีการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและลูกค้าอย่างเป็นระบบดีแล้ว การ จัดการก็ง่าย สินค้ามีกี่รายการ ต้นทุน กำไรเท่าไร ก็ดูได้ทันที ในโลกธุรกิจ การมีข้อมูลจำนวนมากและมี การจัดการที่ดี มีผลต่อความได้เปรียบในการทำธุรกิจและการประสบความสำเร็จ

 

ประโยชน์ของการจัดเก็บข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์

การจัดเก็บข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ อาจเสียเวลากับการรวบรวมและป้อนข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อข้อมูลถูกจัดเก็บลงคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้วการเรียกใช้งานจะมีความสะดวกมาก และสามารถ นำไปใช้งานได้หลายรูปแบบ จะนำไปใช้ในระบบเน็ตเวิร์คหรือเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตก็ได้ทั้งนั้น

โปรแกรมบริหารจัดการข้อมูล

การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อบริหารจัดการข้อมูลก็จะใช้โปรแกรมประเภทฐานข้อมูล เช่น
1. Microsoft Access โปรแกรมนี้ผลิตโดยบริษัทไมโครซอฟท์ เป็นหนึ่งในโปรแกรมออฟฟิศ (Microsoft Office)
2. My SQL ฐานข้อมูลสำหรับเว็บไซต์ เป็นฟรีโปรแกรมนิยมใช้เก็บข้อมูลเพื่อบริการบนอินเตอร์-เน็ต
3. Oracle โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล สำหรับองค์กรหรือบริษัทขนาดใหญ่

 

บทความเนื้อหาใกล้เคียงกัน :

 

แชร์บทความนี้ให้เพื่อน :