การลงทุนมีหลายแบบ เล่นหุ้น ซื้อบ้าน ซื้อทอง และความรัก การหาคู่ครองก็เช่นกัน หลายคนเลือกลงทุนด้านนี้ด้วยการจีบ ไล่จับคนรวย คนมีฐานะ เป็นการลงทุนที่น่ากลัว...และต้องตามให้ทัน ทันความคิดตัวเองและทันความคิดของคนที่เข้ามาในชีวิต พลาดไปแล้ว อาจจะหมดเยอะ หากจะต้องเลิกรากัน มีสมบัติมาก ก็จะเสียหายมาก

 

ประเภทการลงทุน ความรัก การหาคู่

การลงทุนในลักษณะนี้มี 2 แบบ ที่ต้องระวัง

1. จีบคนรวย ไล่จับคนรวย คนมีฐานะ

เรื่องนี้เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ โดยเฉพาะในแวดวงข้าราชการ เพราะมีคุณสมบัติพิเศษที่มีเงินเดือน มีบำนาญให้ใช้ตราบชีวิตจะหาไม่ หากจีบได้ก็สบายทั้งชาติ การเป็นข้าราชการที่ยังโสด มีฐานะ จึงต้องระวังตัวให้ดี เพราะคนที่เข้ามาไล่จีบ ไล่จับนั้น ส่วนใหญ่มีภาระ มีหนี้ มีความต้องการอยากได้คนช่วยดูแลรายจ่ายตัวเอง หากหลวมตัวคบแล้วก็ลำบากแน่นอน

 

เชื่อไหมว่า บางคนเป็นอดีตขาราชการอายุก็ 70 กว่าไปแล้ว แต่มีเด็กสาวอายุคราวหลาน 20 กว่าๆ เท่านั้น มาพัวพันไม่เลิก ทั้งๆ ที่เด็กคนนี้ก็หน้าตาดี แต่ก็เลือกจะคบคนสูงวัยขนาดนี้ แม้จะมีอายุมาก แต่หากไม่มีภูมิต้านทานก็เสร็จได้เหมือนกัน บางคนอาจจะอิจฉา แต่สำหรับคนที่เคยผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้ว มันไม่ได้มีความสุขอย่างที่คิด เพราะมักจะมีปัญหาตามมาเสมอ เช่น รับเงินจากอีกฝ่ายไปจ่ายให้อีกฝ่าย

 

นอกจากข้าราชการแล้ว คนมีฐานะ มีทรัพย์สินเงินทองมาก ก็มีโอกาสเสี่ยง ผู้เขียนมีเพื่อนรู่นเดอะ สูงวัยเกิน 50 ขึ้นไป จึงพบเห็นพฤติกรรมเหล่านี้บ่อยมาก บางคนก็น่าสงสาร เป็นข้าราชการแต่เงินเดือนไม่มาก และมีหนี้ท่วมหัวที่กู้ คนที่เข้ามานั้น แรกๆ ไม่รู้ว่ามีหนี้ ไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน พอรู้ภายหลัง ก็ทิ้งไปหาคนใหม่ สร้างความเจ็บช้ำใจอย่างมาก เพราะตัวเองนั้นรักจริง อยากมีคู่ที่เข้าใจอยู่ด้วยกันจนแก่จนเฒ่า ไม่ใช่ ได้แล้วทิ้งแบบนั้น ฝ่ายที่ทิ้งก็เป็นผู้หญิงอีกต่างหาก แสบไหมล่ะ

 

บางคู่ก็น่าสงสารและน่าสมน้ำหน้ายิ่งนัก ต่างคนต่างคิดว่า อีกฝ่าย มีฐานะ แถมเป็นข้าราชการทั้งคู่ แม้จะมีครอบครัวแล้ว แต่ก็ทิ้งครอบครัวไปคบกัน สุดท้ายเมื่ออีกฝ่ายรู้ว่า มีแต่หนี้ กู้ไม่ได้ เป็นภาระ จึงเลิกคบ สร้างความอับอาย ชอกช้ำระกำใจอย่างมาก

 

2. หลอกเอาเงินจากคนที่มาไล่จีบ ไล่จับ

บางคนถือโอกาสสวมรอยทำตัวเป็นคนรวย มีสมบัติมากมายแต่ซุกหนี้ไว้ใต้พรม หลอกเอาเงินคนที่มาไล่จีบอีกที กลยุทธที่ได้ผล ก็หลายแบบ เช่น อ้างว่ามีสมบัติ มีที่ดิน แต่อยู่ระหว่างรอให้ทางบ้านทำเรื่องแบ่งมรดก หลอกเอาเงินจนหมดตัว แล้วก็ไปหาเหยื่อรายต่อไป

 

พฤติกรรมทั้ง 2 แบบนี้ เรามักจะพบได้ทั่วไป ในชีวิตประจำวัน หากมีทรัพย์สมบัติ เงินทอง มีผลประโยชน์มาก เรื่องพวกนี้มันจะเข้ามาเอง ต้องตามให้ทัน เพราะนี่คือการลงทุนอย่างหนึ่ง ที่มีแต่ได้กับได้ ลงทุนไม่มาก แต่คุ้มค่า ถ้าสำเร็จ ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งตัว ได้ทั้งทรัพย์สมบัติ แม้จะต้องเลิกรากัน ก็ยังจะได้ส่วนแบ่งมากน้อย ตามจำนวนทรัพย์ของอีกฝ่าย

 

ความน่ากลัวของคนเหล่านี้จากประสบการณ์ตรงที่เจอกับบรรดามิตรสหายรุ่นเดอะก็คือ การเกาะติด กัดไม่ปล่อย และบางคนที่เป็นคนมีอิทธิพล มีอำนาจด้วยแล้ว ยิ่งสร้างความยุ่งยากให้ชีวิต การหาคู่ชีวิต ต้องใจเย็นและมีสติ อย่าให้ความเหงา มาครอบงำ

 

การมีคู่โดยมองที่ผลประโยชน์เป็นหลัก สุดท้ายก็มักจะได้ความสัมพันธ์แบบผลประโยชน์เหมือนการทำธุรกิจ ผู้เขียนก็มีเพื่อนแบบนี้ คบกันโดยเน้นเรื่องผลประโยชน์เรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่ใช่ความรัก เมื่อการแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว ก็จำเป็นจะต้องเลิกรากันไป เพราะคนที่คิดแต่เรื่องผลประโยชน์นั้น หากคบกันแล้ว ตัวเองไม่ได้ผลประโยชน์ ก็จะไม่คบต่อ

 

คนส่วนใหญ่ก็อยากจะมีคู่ครอง หรือมีครอบครัว แต่การเลือกคู่ครองนั้น หากมีความตั้งใจแบบใด ก็มักจะได้แบบนั้นเป็นการตอบแทน หากมองที่ผลประโยชน์ ก็อาจจะอยู่กันไม่นาน สุดท้ายก็จะเสียเวลาทั้งสองฝ่าย การอยู่คนเดียวให้เฉาตาย ย่อมจะดีกว่าการมีคู่ที่ไม่ใช่ สร้างแต่ปัญหาและภาระให้ปวดหัว