กรุงเทพเป็นเมืองน้ำ และแทนที่จะใช้พื้นที่ทำการเกษตร มีตึกรามบ้านช่องเต็มไปหมด ปัญหาเรื่องน้ำ การระบายน้ำ จึงเป็นเรื่อง ใหญ่ที่ยากจะหลีกเลี่ยง เพราะกรุงเทพฯ มีลักษณะเหมือนกระทะ น้ำจะไหลมารวมที่นี่จากหลายทิศหลายทางก่อนจะไหลลงทะเล นั่นไม่ เท่าไหร่ ยังพอรับได้ แต่เมื่อผู้ว่าฯ บอกให้ไปอยู่บนเขาบนดอย นี่สิ มันทำให้รู้สึกแย่มากๆ แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะกรุงเทพเป็นที่ลุ่ม ป้องกันอย่างไร ก็ยากอยู่ดี อนาคตอย่างไรก็ไม่รอด แน่นอน แต่โชคดีที่รอบๆ กรุงเทพมีพื้นที่สูง มียอดเขา ยอดดอยห่างจากกรุงเทพ ร้อยกว่ากิโลเมตรเท่านั้นเอง

เราไปสำรวจพื้นที่โดยรอบกรุงเทพกันดีกว่า มีที่ไหนน่าอยู่บ้าง ทั้งการหนีน้ำท่วมชั่วคราวหรือวางแผนอยู่กันยาวๆ

นครนายก

หากเป็นพื้นที่รอบๆ กรุงเทพ แล้ว นครนายกถือว่าน่าอยู่ที่สุด เพราะว่า ไม่มีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่าน ยกเว้นช่วงองครักษ์ ตรงนั้น ไม่รอด และเป็น พื้นรอบเชิงเขาลาดขึ้นไปหาผืนป่าเขาใหญ่ จะน่ากลัวก็น้ำหลากเท่านั้น กรณีฝนตกหนัก แต่จะน่ากลัวมากกกก หาก เชื่อนคลองท่าด่านแตก หุๆๆ รังสิต อยุธยาจมหมดแน่ จะรอดก็ฝั่งทับกวาง เจ็ดคต เท่านั้น หากเน้นความปลอดภัยจริงๆ เส้นบ้านนา ไปวิหารแดงหรือไปแก่งคอย ปลอดภัยแน่นอน ไม่ใช่ จุดที่น้ำไหลผ่าน ยกเว้นอ่างเก็บน้ำบนเจ็ดคตแตก อาจจะมีปัญหา แต่ก็ไม่น่าจะมาก เพราะอ่างไม่ใหญ่มาก

ทับกวาง โป่งก้อนเส้า เจ็ดคต

ถ้ากลัวเขื่อนแตกที่ทับกวางถือว่าน่าอยู่ไม่มีแม่น้ำสายหลักๆ ไหลผ่าน จะมีก็น้ำหลากจากภูเขา ช่วงฝนตกหนัก ที่นี่มีพื้นที่แบ่งขาย แถมยังมีที่กางเต็นท์เจ็ดคต ซึ่งมีความสูงหนีน้ำขึ้นมาอยู่ได้สบายๆ ข้อดีของทับกวาง จะเป็นพื้นที่สูงไล่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ไปหา อ. มวกเหล็ก และปากช่องไปตามลำดับ เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยแน่นอน ยังไม่ต้องถึงกับหนีขึ้นดอย ที่ไหน แค่นี้ก็เอาอยู่แน่นอน ปัจจุบันเริ่ม พัฒนามากขึ้น เพราะที่กางเต็นท์เจ็ดคตเป็นที่นิยมของช่วงหน้าหนาว

อ.มวกเหล็ก สระบุรี

พื้นที่ติดต่อกันจากทับกวาง ไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไปที่ อ.มวกเหล็ก ที่นี่ปลอดภัยน้ำไม่ท่วม แต่อาจจะมีน้ำหลาก จากเขา ต้นแม่น้ำมวกเหล็ก ใน ซึ่งเคยกวาดเมืองมวกเหล็กให้สะอาดเอี่ยมมาแล้ว เปลี่ยนน้ำเน่าๆ ในคลองที่ไหลผ่านตัวอำเภอมวกเหล็กให้ เป็นน้ำที่ไสสะอาดอยู่พักหนึ่ง ก็ต้อง เลือกที่สูง ห่างคลองมวกเหล็ก ซึ่งมวกเหล็กตอนนี้เจริญกว่าเมื่อก่อนมาก ทำให้คลองที่แคบลง อย่างมากอยู่แล้ว ยิ่งแคบลงไปอีก ถ้าน้ำหลากมาอีกสัก รอบไม่รู้จะเป็นอย่างไร

พื้นที่ตั้งแต่ทับกวางขึ้นไปยัง มวกเหล็ก วังม่วง ปากช่อง เป็นพื้นที่สูงขนาดใหญ่ต่อเนื่องกันที่ปลอดภัยจากน้ำท่วม เพาะไม่มีแม่น้ำ สายสำคัญไหลผ่าน หากวางแผนจะหาบ้านในระยะยาว ถือว่าน่าสนใจ แต่ละแวกนี้โรงงานเยอะ น้ำไม่ท่วม แต่อากาศอาจจะแย่

ปราจีนบุรี

ปราจีนบุรีไล่ตั้งแต่ วงเวียนนเรศวร ไต่ระดับความลาดขึ้นไปหาเขาใหญ่ ผ่านเนินหอม บ้านห้วยเกษียร วังบอน และเข้าเขาใหญ่ เป็น พื้นที่ที่น่าอยู่ ที่นี่ มีการเผาไร่ เผานาบ้าง เป็นบางครั้ง แต่ไม่แย่มากเหมือนภาคเหนือ เป็นเขตที่ห้ามมีโรงงาน ค่าครองชีพต่ำ เมืองไม่ พัฒนามาก 10 กว่าปีที่ผ่านมา เปลี่ยนแปลงน้อยมาก ผ่านเส้นทางหลวงหมายเลข 3077 เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว มีบ้านเรือนไม่กี่หลัง ผ่านไป 10 กว่าปี มีสร้างเพิ่มไม่กี่หลังเท่านั้นเอง ถือว่าน่าอยู่ มีที่แบ่งขาย

สถานที่เหล่านี้ บางแห่งเคยเป็นที่รองรับผู้คนมากมายเมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 มาแล้ว ซึ่งระหว่างนั้น ผมก็ได้มีโอกาสขับรถ สำรวจเส้นทางหนีน้ำ ก็เลยพอจะจำได้ว่า ตรงไหนที่มันท่วม หรือเป็นจุดที่น้ำไหลผ่าน สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก็คือ หากเกิดน้ำท่วมแบบนั้นอีก ต้องย้ายด่วนจะไปอยู่ตรงไหน ซึ่งก็มี สถานที่ที่พร้อมรองรับทันที เช่น

สถานที่กางเต็นท์เจ็ดคต

สถานที่หนีน้ำที่ดีที่สุดอันดับหนึ่ง ต้องยกให้สถานที่กางเต็นท์เจ็ดคตเป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางมากางเต็นท์ได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว หากน้ำท่วม ฉับพลันก็หนีมาพักที่นี้่ได้ทันที อาหารการกินสะดวกเช่นกัน ดีกว่าเขาใหญ่ อาหารถูกกว่า ราคาพอๆ กับข้างล่าง ราคา เดียวกัน เขาใหญ่ของแพง อาหาร แพงกว่า แถมที่นี่ไม่มีสัตว์ใหญ่ แต่ต้นตะเคียนเยอะไปหน่อย ส่วนการเดินทางมาที่นี่ต้องใช้เส้นทาง ผ่าน วงแหวนรอบนอก ออกคลอง 5 รังสิต-องครักษ์ เข้า บ้านนา แก่งคอย ทับกวาง และเจ็ดคต

เส้นทางนี้จะเลี่ยงรังสิต นวนคร วังน้อย ตัวจังหวัดสระบรี ซึ่งจะมีน้ำท่วมหลายจุดเลย ทำให้ขับรถผ่านไม่ได้ เส้นทางนี้เริ่มได้รับ ความนิยมอย่างมาก ช่วงน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพเมื่อปี 2554 เพื่อเดินทางไปภาคอีสาน

เขื่อนเก็บน้ำวังบอน ปราจีนบุรี

ก่อนเข้าเขาใหญ่ ก็จะมีเขื่อนวังบอน สามารถมาพักกางเต็นท์ได้ การเดินทางจากกรุงเทพมาที่นี่ ถ้าน้ำยังไม่ท่วมมากนัก ตลอดเส้น ทางจากกรุงเทพ เข้าวงแหวน ออกคลอง 5 ไม่มีจุดที่น้ำท่วม แต่ช่วงที่น้ำท่วมหนักในกรุงเทพเมื่อปี 2554 นั้น จะสามารถเดินทางไปได้ แค่คลอง 8 เท่านั้น ที่เขื่อนวังบอนเขาใหญ่ ช่วงน้ำท่วมก็มีผู้ประสบภัยมากางเต็นท์อยู่จำนวนมาก ที่นี่เดินทางเข้ากรุงเทพก็สะดวก และ อาหารการกินก็หาได้ง่าย ไม่แพง เพราะห่างตลาดสดไม่มากนัก พื้นที่ไม่ชันมาก สามารถขับรถออกไปทางปากพลี หรือนครนายกได้ แต่ เจ็ดคตต้องขึ้นเขาลงเขา เปลืองน้ำมันหากต้อง ไปทำธุระติดต่อธนาคาร สถานที่ราชการ ร้านค้า เจ็ดคตเหมาะสำหรับไปอยู่แล้วห้ามลง เขาบ่อยๆ แต่วังบอนสะดอกในการออกไปทำธุระ เข้าออกพื้นที่ ได้สะดวกกว่า แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ สถานที่สำคัญๆ ดันไปอยู่ในตัวเมือง ซึ่งน้ำท่วม

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ถัดจากเขื่อนวังบอนก็จะเป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ช่วงน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา มีผู้คนมาพักที่นี่กันมาก แต่เขาใหญ่ต้องเสียค่า ธรรมเนียมเข้าพื้นที่ และค่ากางเต็นท์คืนละ 30 ในขณะที่อ่างเก็บน้ำวังบอนไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมกางเตนท์ (เมื่อก่อนนะครับ) ส่วน เจ็ดคตแล้วแต่จะบริจาค

ปัญหาใหญ่ที่ควรใส่ใจมากกว่าน้ำท่วม

การย้ายหนีน้ำในกรุงเทพมาอยู่บนเขาบนดอยแบบนี้ ไม่ใช่ปัญหา แต่หากต้องมาอยู่จริงๆ และมาตั้งหลักเลย จะทำมาหากินอะไร นี่ ต่างหากที่ผมคิด ว่า เราต้องวางแผนเผื่อไว้สำหรับอนาคต สำหรับผมไม่มีปัญหา เพราะทำงานผ่านเน็ต ขอให้มีสัญญาณมือถือก็ สามารถทำงานได้ ส่งงานทางเน็ตได้ จะ อยู่ที่ไหนก็ได้ ขอให้มีตู้ ATM ไว้ถอนเงิน แต่คนอื่นจะทำอย่างไร ดังนั้นเรื่องการย้ายหรือหาที่อยู่ ใหม่เพื่อหนีน้ำในอนาคต อาจไม่สำคํญเท่ากับการวาง แผนเรื่องรายได้ เรื่องอาชีพ เพราะหากมีรายได้ อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ แต่หากไม่มีงาน มันก็แย่ หนีน้ำไปอดตายบนดอย คงจะไม่เข้าทีเป็นแน่