บทความแนะนำเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ น่ารู้เกี่ยวกับขัาวสารและข้าวที่เรากินกันอยู่ทุกวัน เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับการซื้อ การบริโภค ให้ตรงตามต้องการ หรือวางแผนในเรื่องอาหารการกิน ตลอดจนการควบคุมค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร

คนไทยกินข้าวเป็นอาหารหลัก แต่เรารู้จักข้าวดีกันแค่ไหนกันนะ เรืีองนี้สำคัญเหมือนกัน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนควบคุมเรื่องการใช้ จ่ายหรือควบคุมเรื่องอาหาร ดูแลสุขภาพ

ข้าวสารชนิดต่างๆ

ข้าวสารมีหลายชนิด ราคาต่างกันไป เช่น
1. ข้าวขาวล้วน 100% จะเป็นข้าวที่ราคาถูกที่สุด เหมาะสำหรับการหุงเพื่อทานไม่เกิน 2 มื้อ เช่น มือเช้ากับเที่ยง ถ้าเกินนั้นข้าวจะแข็งมาก ราคาไม่แพง ถุงละ 5 กิโลกรัม ไม่ถึง 100 บาท อาจจะซื้อข้าวหอมมะลิหรือข้าวกล้องมาผสม เพื่อให้มีคุณค่าทางอาหารมากขึ้น
2. ข้าวขาวผสมข้ามหอมมะลิ เช่น ข้าวขาว 70๔ ข้าวหอมมะลิ 30๔ มีราคาที่แพงขึ้น แต่ก็เหมาะสำหรับการหุงเพื่อทานไม่เกิน 2 มื้อ
3. ข้าวหอมมะลิ 100% เป็นช้าวที่มีความนิ่ม หากเป็นช่วงที่อากาศเย็น หรือหน้าหนาว 2 วันข้าวก็ยังไม่บูด
4. ข้าวกล้อง เป็นข้าวสารที่มีราคาแพงกว่าข้าวชนิดอื่น อุดมไปด้วยสารอาหารมากกว่า แต่เวลาหุงต้องใช้เวลานาน กินไฟ อาจจะไม่เหมาะสำหรับชาวหอ พัก ค่าไฟฟ้าแพง แต่บางคนก็นำข้าวกล้องไปผสมกับข้าวขาวหรือข้าวหอมมะลิ
5. ข้าวสารผสมธัญพืช ถ้าสามารถทานแบบนี้ได้ ก็จะเป็นเรื่องดี ด้วยการนำธัญพืช ถั่วลิสงดิบ ถั่วเหลือง ลูกเดือย ข้าวโพด ฯลฯ มาผสมกับข้าวสาร แล้ว หุงไปด้วยกัน

ราคาข้าวสาร

ราคาข้าวสารมีความแตกต่างกันไป ในแต่ละช่วง อย่างข้าวถุงละ 5 กิโลกรัม ยี่ห้อเดียวกัน ในห้าง Lotus บางช่วงขาย 119 บาท 139 และ 188 บาท เรื่องนี้ก็กลายเป็นคำถามพอสมควรว่า จริงๆ แล้วรับมากี่บาทกันแน่ การซื้อข้าวสารในห้างจึงต้องดูช่วงโปรโมชัน

 

ตัวอย่างข้าวหอมมะลิของเบญจรงค์ 5 กิโลกรัม ราคาตามห้างไม่ถึง 200 บาท แต่ข้าวหอมมะลิของบางยี่ห้อ จะไม่แพงขนาดนี้ ราคาประมาณร้อย กว่าบาทเท่านั้น ส่วนข้าวขาวราคาไม่ถึง 100 บาทก็มี หากซื้อข้าวในต่างจังหวัดจะมีราคาถูกกว่านี้ ร้านขายของชำก็ขายถูกกว่านี้สำหรับข้าวหอมมะลิ กเหมือนกัน

 

แหล่งซื้อข้าวสารราคาถูก ยังมีอีกหลายทางเลือก เช่น ร้านค้าของชำ โรงสี ร้านขายข้าวสารโดยตรง ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ งบน้อยก็ซื้อข้าว คุณภาพต่ำมาผสมกับข้าวคุณภาพสูง ในห้างจะมีข้าวสารที่ผสมในลักษณะนี้ ซึ่งจะมีราคาแพง เป็นค่าใช้จ่ายในการผสม ดังนั้นซื้อมาผสมเองดีกว่า

หากกินข้าววันละ 3 มื้อ แต่ละคนก็จะกินข้าวประมาณ 10-15 กิโลกรัมต่อเดือน คิดเป็นเงินก็ประมาณ 300-600 บาท ไม่เกินไปจากนี้ ขึ้นอยู่กับ ชนิดของข้าว

 

ข้าวสาร 5 กิโลกรัม หุงข้าวได้กี่จาน

ด้วยความที่ว่างงานมาก ก็เลยมีเวลาทดสอบ ด้วยการนำข้าวถุงละ 5 กิโลกรัมที่วางขายตามห้าง เทใส่ถ้วยที่แถมมากับหม้อหุงข้าวจะได้ประมาณ 33 ถ้วย ซึ่งจะหุงข้าวได้ประมาณ 33 จาน ปริมาณใกล้เคียงกับอาหารตามสั่งหรือข้าวราดแกงส่วนใหญ่

 

การคำนวณต้นทุนก็จะไม่ยาก หากเป็นร้านอาหารตามสั่งมักจะไม่ซื้ออาหารเป็นถุงเหมือนใน Lotus แพงเกินไป ส่วนใหญ่จะซื้อไม่เกินถึงละ 150 บาทหรืออาจจะใช้ข้าวคุณภาพต่ำกว่านั้นข้าวถุงละ 5 กิโลอาจจะไมเกิน 100 บาท ก็คำนวณต้นทุนได้ไม่ยาก ค่าใช้จ่ายต่อจานให้นำราคาต่อถุงหารด้วย 33 เข่น 100 หาร 33 เท่ากับประมาณ 3 บาท ต่อจานเท่านั้นเอง ข้าวมีหลายราคา หากกินข้าวขาว ถุง 5 กิโลกรัมไม่ถึง 100 บาท ต้นทุนต่อจานก็จะ น้อยกว่านี้

 

ชนิดของข้าวกับการให้พลังงาน

ข้าวมีหลายชนิด ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ข้าวกล้อง ข้าวเหนียว ข้าวเหนียวให้พลังงานสูงมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้แรงมากๆ ส่วนคนปกติ แม้จะกิน ไม่มาก ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ในมื้อเช้าก็อยู่ท้อง จนมื้อเที่ยง แต่อาจจะมีอาการง่วงนอน

 

บางคนนิยมทานข้าวกล้อง เพราะให้พลังงานมากกว่า อิ่มเร็วกว่า ไม่เปลืองข้าวมากเหมือนข้าวขาว ซึ่งก็เหมาะสำหรับคนชนบทที่มีข้าวเปลือก มีโรงสี ใกล้บ้านไว้สีเอง ก็จะได้ข้าวกล้องในราคาประหยัด การทำข้าวกล้องจริงๆ แล้วมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่กลับแพงกว่าข้าวขาว จะทำอย่างไรได้ ปลูกเองก็ไม่ได้ โรงสีก็ไม่มีเป็นของตัวเอง

 

การเก็บข้าวสาร

การเก็บข้าวสารที่ง่ายและสะดวก ให้ใช้ถังน้ำขนาด 6 ลิตร มีฝาปิดมิดชิด ป้องกันมอดได้ ส่วนการป้องกันมวดบางคนก็แนะนำให้ใช้ใบมะกรูดใส่เข้าไป บางคนก็แนะนำให้ใส่โลหะที่เป็นสเตนเลสไว้ในข้าวสาร

ข้าวสารแต่ละชนิดกับการหุงข้าว

เชื่อว่ามีหลายคนที่หุงข้าวไม่เป็น ไม่รู้ว่าจะใส่น้ำแค่ไหน ข้าวเท่าไหร่ หากเป็นข้าวสารที่ใส่ถุงขายตามห้าง หรือร้านสะดวกซื้อไม่ค่อยมีปัญหา เพราะ จะมีข้อความอธิบายวิธีหุงข้าว ไว้ที่ถุงอยู่แล้ว หรืออาจจะทดลองตามนี้ก็ได้
1. ข้าวใหม่ ยิ่งใหม่มากก็ใส่น้ำน้อยๆ เช่น ลองใส่ข้าว 1 ถ้วย ต่อน้ำ 1 ถ้วยครึ่ง ถ้าหุงแล้วแฉะก็ลดน้ำให้น้อยลง
2. ข้าวขาว ข้าวเก่าต้องใช้น้ำเยอะ เช่น ข้าว 1 ถ้วยต่อน้ำ 2 ถ้วย
3. ข้าวกล้อง ต้องใช้น้ำเยอะ และใช้เวลานานกว่าข้าวจะสุก เปลืองไฟฟ้ามากกว่าข้าวธรรมดา ก่อนหุงจึงควรแช่น้ำไว้นานหน่อย จะช่วยให้สุกเร็วขึ้น ผู้ เขียนเคยแช่ไว้ข้ามคืน ปรากฏว่ารากมันงอกออกมา

 

การอยู่ในเมืองอาจจะไม่เป็นปัญหา เพราะน้ำสะอาดอยู่แล้ว แต่หากไปเที่ยวป่า ใช้น้ำไม่สะอาด ข้าวจะบูดเร็ว ใช้น้ำสะอาดข้าวจะอยู่ได้นานกว่า

นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับฤดูด้วย หน้าหนาวหากหุงข้าวหอมมะลิ 100% ใช้น้ำสะอาด ใส่น้ำพอดี สองวันข้าวก็ยังไม่เสีย นอกเสียจากจะใช้ข้าวขาว อยู่ ได้วันเดียว เกินกว่านั้นแข็งมาก

เรื่องสำคัญที่จะต้องรู้เกี่ยวกับข้าว

การกินข้าวไม่ว่าแบบใดก็ตาม เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และประหยัดมาก เงิน 100 บาท อาจจะซื้อข้าวกล่อง อาหารตามสั่ง เบอร์เกอร์ ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ ทานได้เพียงวันเดียว แต่หากซื้อข้าวสารมาหุงทานเองสัก 1 กิโลกรัม ก็ยังมี เงินเหลือ ซื้อไข่ เนื้อ ผัก ไว้ทำอาหารทานได้หลายวัน มีเงินประมาณ 500 บาท ก็อยู่ได้ทั้งเดือน

 

คนรุ่นใหม่บางคนกินข้าวไม่เป็น กินขนม กินอาหารตามโฆษณา เห็นอะไรก็อยากจะกิน ก็ไม่อยู่ท้อง แต่ละเดือนหมดเงินเกินหมื่นบาทกับค่าอาหาร เรื่องนี้ควรเรียนรู้ไว้บ้าง เพราะชีวิตคนเรานั้นมีขึ้นมี มีลง เงินในบางช่วงอาจจะมีมาก ในบางช่วยอาจจะมีเงินน้อย ต้นเดือนกินอยู่อย่างราชา ปลายเดือน อยู่เหมือนยาจก การรู้จักกินแบบเรียบง่าย ประหยัด แต่อิ่มท้อง สามารถเลือกได้เพราะเมืองไทยเป็นเมืองอาหาร หาของกินง่าย อาหารดีๆ ไม่แพงมีให้ เลือกมากมาย

 

ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยเรา จึงควรมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับข้าวสาร เช่น ข้าวประเภทไหนที่ถูกปากเรา วิธีหุง การเลือกซื้อข้าวสาร และการ ทำอาหารเองง่ายๆ กินกับข้าวสวยร้อนๆ อย่างเช่น ไข่นึ่ง ไข่ตุ๋น ข้าวไข่เจียวหมูสับ ทำเองตันทุนประมาณ 15 บาท ซื้อกินจานละ 30 บาท อิ่มท้องกว่า บะหมี่สำเร็จรูปถ้วยละ15 บาท คุณค่าทางอาหารสู้ข้าวสวยร้อนๆ กับไข่นึ่งแบบนี้ ไม่ได้เลย วิธีทำก็สุดแสนจะง่าย เทข้าวสารใส่หม้อ ล้างไข่ให้สะอาด ใส่ในซึ้ง ต้องใช้ถ้วยกระเบื้อง ถ้าใช้ถ้วยพลาสติก ความร้อนไม่พอ ไข่จะไม่สุก