ความหมาย : สำนวนนี้ใช้เปรียบเทียบผู้หญิงที่เคยมีครอบครัวมาก่อน แต่ยังคงมีเสน่ห์แพรวพราว ก็ย่อมจะมีประสบการณ์มากกว่าผู้หญิงโสดที่ยังไม่เคยผ่านการมีคู่ครองมาก่อน รู้จักการเอาอกเอาใจผู้ชายได้ดีกว่า

ดอกกระดังงาปกติจะมีกลิ่นหอม และจะหอมมากยิ่งขึ้นเมื่อเอาไปลนไฟ ซึ่งก็เปรียบได้กับผู้หญิงที่เคยแต่งงานมาก่อน ก็ย่อมจะมีเสน่ห์ ในด้านต่างๆ งานบ้านงานเรือน มีประสบการณ์ ชั้นเชิงในเรื่องผู้ชายมากกว่าผู้หญิงโสดที่ยังไม่เคยผ่านการมีครอบครัว ผู้หญิงที่มีคุณลักษณะเหมือนกระดังงาลนไฟ จึงมักจะเป็นที่หมายปองของทั้งชายหนุ่ม ชายสูงวัย

ตัวอย่าง :

นาง ละอ่อน เป็นแม่หม้ายสาวพราวเสน่ห์ เหมือนกระดังงาลนไฟ เพราะสามีเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปัจจุบัน เธอก็ยังครองความเป็นโสด และด้วยการดูแลตัวเองอย่างดี ผิวพรรณผุดผ่อง แถมร่ำรวยจากมรดกของสามี จึงทำให้มีชายหนุ่ม ชายสูงวัยมาติดพันหลายคน /p>

การเอากระดังงาไปลนไฟ จะใช้เพื่ออบขนมให้หอม ส่งกลิ่นเตะจมูก ให้รู้สึกอยากกิน ส่วนหญฺิงที่ได้ชื่อว่า เป็นกระดังงา ลนไฟ เคยผ่านผู้ชายมาก่อน ก็จะมีกิริยาจัดจ้าน เจนจัด เรื่องผู้ชาย เป็นเสน่ห์ดึงดูด ทำให้เกิดความน่าสนใจกว่าหญิงสาวโสด ที่ไม่ประสีประสาเรื่องนี้ แต่การได้ชื่อว่า เป็นกระดังงาลนไฟ ก็เป็นภาพพจน์ที่ไม่ดีนัก เป็นที่ครหา ติฉินนินทาได้ การเป็นผู้หญิงที่เคยผ่านผู้ชาย ผ่านการแต่งงาน เป็นหญิงหม้าย จึงควรระมัดระวังในเรื่องกิริยามารยาท โดยเฉพาะการแสดงออกในเรื่องผู้ชาย

ผู้หญิงบางคน อาจจะได้ชื่อว่า เป็น กระดังงาลนไฟ ที่มีเสนห์อย่างที่สุด หากอายุไม่มาก หน้าตาดี มีทรัพย์สมบัติมาก อาจจะเพราะอดีตสามีเป็นคนรวย การแยกทางกันหรืออาจจะตายจาก แต่ได้ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้จำนวนมาก จะเป็นที่หมายปองของผู้ชายอย่างมากเช่นกัน ซึ่งจะมีเรื่องที่พึงระวัง เพราะผู้ชายที่เข้ามาติดพันนั้น ไม่ได้หวังแต่ตัว แต่หวังสมบัติด้วยเช่นกัน ความเหงา เพราะต้องอยู่คนเดียว ก็ต้องระวังจิตของตัวเอง อย่าขาดสติคบคนไม่ดี เพราะมักจะนำความเดือดร้อนมาให้ โดยเฉพาะการคบกับคนมีอำนาจ มีอิทธิพล หากมีปัญหากันแล้ว อาจจะไม่มีใครสามารถช่วยอะไรได้ เพราะฝ่ายชายเป็นคนมีอิทธิพล เรื่องแบบนี้ พบเห็นหรือเป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่บ่อยๆ ซึ่งบางรายลงเอยด้วยเหตุร้ายถึงขั้นเสียชีวิตก็มี

สำนวน สุภาษิตที่ คล้ายกัน : ไก่แก่แม่ปลาช่อน