ก่อนจะหาซื้อ มือถือ Androidมาใช้งานนั้น เราจำเป็นต้องศึกษาคุณสมบัติของมือถือก่อน ว่ามีอะไรบ้าง จะได้เลือกซื้อได้ตรงวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เพราะอุปกรณ์พวกนี้ตกรุ่นเร็วมาก และราคาก็ตกเร็วมากเช่นกัน การซื้อมาใช้งานนั้น เรื่องการขายต่อลืมไปได้เลย เพราะราคาตกมากจนทำใจขายไม่ได้ ข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของมือถือแต่ละรุ่นนั้น ในอินเตอร์เน็ตมีข้อมูลค่อนข้างละเอียดอยู่แล้ว

 

คุณสมบัติเกี่ยวกับ WiFi และ 2G/3G
มือถือ Android จะมีทั้ง Wi-Fi สำหรับการเชื่อมต่อเน็ตและรองรับการใช้ซิมเพื่อโทรศัพท์ มีรุ่นเก่าบางรุ่นที่ไม่รองรับ 3G ต้องศึกษาให้ดีก่อนจะซื้อมาใช้งาน

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบโทรศัพท์ค่ายมือถือในประเทศไทยที่อาจจะพบข้างกล่องมือถือ Android
GSM 850/900/1800/1900 MHz
ตัวเลขนี้บอกให้รู้ว่ามือถือ Android รุ่นนี้รองรับระบบ 2G-2.5G หรือรองรับการรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแบบ GPRS/EDGE ทุกเครือข่าย แนะนำให้จำตัวเลขสัญญาณความถึ่แทนค่ายมือถือก็แล้วกัน dtac=850, AIS=900, True=1800 และ TOT=1900 มือถือ Android รุ่นเก่าที่ราคาไม่แพง เพราะรองรับสูงสุดได้แค่ EDGE สรุปง่ายๆ บ้านเรา ที่ทำงานเรา ฯลฯ หากสัญญาณมือถือรองรับแค่ GPRS ก็เล่นเน็ตผ่านมือถือ Android ได้ความเร็วไม่เกิน 40 Kbps หรือหากรองรับสัญญาณมือถือระดับ Edge จะเล่นเน็ตเร็วขึ้นแต่ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 236 Kbps

UMTS 850/900/1900/2100 MHz
ตัวเลขนี้บอกให้รู้ว่ามือถือ Android รุ่นนี้รองรับระบบ 3G หรือรองรับการรับส่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่ 7.2 Mbps ทุกเครือข่าย แนะนำให้จำตัวเลขแทนค่ายมือถือเช่นเดียวกัน dtac=850, True=850, AIS=900, TOT=1900/2100

ความสามารถในการรับ/ส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายมือถือ
การพัฒนาระบบของมือถือมีหลายรุ่น แต่ละรุ่นจะเรียกว่า 1 Generation หรือ 1G, 2G, 3G ตามที่เราได้ยินกันนั่นเอง
1G โทรศัพท์มือถือระบบอนาล็อก ส่งได้แต่เสียงผ่านระบบเครือข่ายมือถือเท่านั้น
2G โทรศัพท์มือถือระบบดิจิตอล (GSM Global System for Mobile Communications ) สามารถส่งเสียงและส่งข้อมูลผ่านทางระบบสัญญาณมือถือได้แต่ 9.6 Kbps
2.5G เป็นความสามารถของระบบโทรศัพท์ที่สามารถส่งเสียงและส่งข้อมูล (ข้อความ วิดีโอ ภาพ) ผ่านทางระบบสัญญาณมือถือได้ที่ความเร็วในระดับ GPRS (General Packet Radio Service) หรือ 40 Kbps
2.7G เป็นความสามารถของระบบโทรศัพท์ที่สามารถส่งเสียงและส่งข้อมูล (ข้อความ วิดีโอ ภาพ) ผ่านทางระบบสัญญาณมือถือได้ที่ความเร็วในระดับ Edge หรือ (Enhance Data Rates for Global) หรือ 236 Kbps-473 Kbps (ถูกจำกัดไว้แค่ 236 Kbps)
3G เป็นความสามารถของระบบโทรศัพท์ที่สามารถส่งเสียงและส่งข้อมูล (ข้อความ วิดีโอ ภาพ เสียง) ผ่านทางระบบสัญญาณมือถือได้ที่ความเร็วในระดับ 3G หรือ 7.2 Mbps
4G : เป็นความสามารถของระบบโทรศัพท์ที่สามารถส่งเสียงและส่งข้อมูล (ข้อความ วิดีโอ ภาพ เสียง) ผ่านทางระบบสัญญาณมือถือได้ที่ความเร็วในระดับ 4G หรือ 21 Mbps

*** แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่สามารถทำความเร็วในการรับส่งข้อมูลได้ตามนั้น เพราะเราไม่ได้ใช้มือถือ Android อยู่คนเดียว ใช้กันทั่วประเทศก็ต้องแบ่งๆ กันไป หากต้องการความเร็วสูงก็มีวิธีครับ ผมจะใช้วิธีขับรถไปจอดใต้เสามือถือ วิธีนี้จะเชื่อมต่อได้เร็วมาก เพราะอยู่ต้นน้ำ สัญญาณที่ถูกปล่อยออกมาก็รับได้มากกว่าปลายน้ำ ตอนนี้ก็ตั้งใจว่าจะย้ายไปเช่าบ้านอยู่ติดกับเสามือถือเสียเลย

ข้อมูลผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ในประเทศไทย
การให้บริการจะแยกความถี่กัน ส่งผลให้มือถือ Android ที่สามารถโทรศัพท์ได้ ก็จะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มเช่นเดียวกัน คือมือถือ Android ที่รองรับระบบของ Truemove+Dtac และอีกกลุ่มรองรับ AIS และ TOT การเลือกซื้อมาใช้งานก็ต้องดูด้วยว่าพื้นที่ที่เราอยู่นั้น รองรับเครือข่ายรายไหนดีกว่ากัน จะได้เลือกใช้บริการได้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นไม่มีคลื่นใช้งานไม่ได้

กลุ่มความถี่ 850 MHz
1. Truemove บริการระบบ GSM บนความถี่ 1800 MHz และให้บริการ 3G บนโครงข่าย HSPA ความถี่ 850 MHz
2. Dtac ให้บริการทางเสียงและสื่อสารข้อมูล ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัด บนเทคโนโลยี EDGE/GPRS ความถี่ 850 MHz และ 3G บนเทคโนโลยี HSPA ความถี่ 850 MHz

กลุ่มความถี่ 900 MHz
1. AIS EDGE/GPRS ความถี่ 900 MHz และ 3G บนเทคโนโลยี HSPA ความถี่ 900 MHz
2. TOT ให้บริการทางเสียงและสื่อสารข้อมูล ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัด บนเทคโนโลยี EDGE/GPRS ความถี่ 900/1900 MHz และ 3G บนเทคโนโลยี HSPA ความถี่ 1900/2100 MHz

ข้อมูลเกี่ยวกับ คลื่นความถี่มือถือในไทย อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.needformen.com/phone/3g-frequency.html

คุณสมบัติเกี่ยวกับ จอแสดงผลของมือถือ Android
1. ขนาดของหน้าจอ เช่น 3 นิ้ว 4 นิ้ว 5 นิ้ว 6 นิ้ว 7 นิ้ว เป็นต้น ขนาดของหน้าจอที่ใหญ่ก็ดูภาพได้สบายตา หากเน้นไว้ท่องเน็ตด้วย ก็ควรเลือกจอใหญ่ๆ ไว้ก่อนจะดีกว่า บางรุ่นอย่าง Gnet มีหน้าจอใหญ่ถึง 6 นิ้วเลยทีเดียว

2. ประเภทของจอแสดงผลมีหลายแบบเช่น จอ LCD, Capasitive, IPS, Retina, Amoled ฯลฯ จอแต่ละประเภทให้ความสวยงามของภาพต่างกัน

3. ระบบสัมผัส รองรับกี่จุด การใช้งานทั่วไป ไม่ค่อยมีผลมากนัก แต่หากเล่นเกมหรือโปรแกรมเกี่ยวกับดนตรี เช่น กลองชุด ก็จำเป็นต้องมีระบบสัมผัสหลายจุด อย่างแอพกลอง มีหลายชิ้น บางคนสามารถแยกประสาทการทำงานของแต่ละนิ้วได้

4. ความละเอียดหน้าจอ เช่น 800 x 480, 1280 x 800 เป็นต้น จะสัมพันธ์กับภาพหรือข้อมูลที่เราต้องนำมาแสดงในหน้าจอ เช่น การดูภาพที่มีขนาดใหญ่เกิน 800 Pixels แต่หน้าจอมือถือ Android เราแค่ 800 ก็ต้องเลื่อนดูส่วนที่ขาดหายไปนั่นเอง หรือกรณีต่อออกทีวี หากมือถือ Android เราหน้าจอแค่ 800 ภาพที่ส่งออกไปทางหน้าจอทีวีก็จะไม่เต็มจอหรือไม่คมชัดเป็นต้น

5. จำนวนจุดหรือความหนาแน่นของพิกเซ่ลในหน้าจอ (ppi: pixel per inche) หนาแน่นมาก ภาพหรือข้อความก็จะคมชัด ความสวยงามของภาพ ลองดูหน้าจอ iPhone แล้วไปดูจอมือถือ Android ราคาถูกเปรียบเทียบกัน ก็จะเห็นผลชัด หากเน้นไว้อ่านข้อมูลจากหน้าจอ ก็ควรเลือกรุ่นที่มีความหนาแน่นของพิกเซ่ลมากๆ

6. ลักษณะของหน้าจอ เป็นกระจกหรือพลาสติก สามารถป้องกันรอยขีดข่วนบนหน้าจอได้หรือไม่

7. มุมมองภาพ ได้กี่องศา เวลามองด้านข้าง แล้วภาพหน้าจอยังคมชัด

คุณสมบัติเกี่ยวกับ CPU/GPU/RAM/Storage
เป็นคุณสมบัติเกี่ยวกับ ซีพียู หน่วยความจำแรม และพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง
1. CPU ซีพียูมีหลายแบบเช่น Single Core จะพบในมือถือ Android รุ่นเก่าใช้ Android รุ่น 2.3 3.0 ซีพียูแบบ Dual Core จะเร็วกว่าแบบ Single Core สองเท่าตัว นิยมมากในขณะนี้เพื่อใช้กับ Android 4.0/4.1 และซีพียูแบบ Quad Core ใช้ในมือถือ Android เสป็คสูง แพง เร็วกว่า Single Core 4 เท่าและ Dual Core 2 เท่าตัว กรณีเลือกซื้อมือถือ Android ที่ใช้ Android 4.0/4.1 ขึ้นไป ควรเลือกอย่างน้อย Dual Core เพื่อความไหลลื่นในการใช้แอพ แต่ก็อยู่ที่การใช้งาน หากไม่เน้นเล่นเกมหรือใช้แอพที่กินกำลังเครื่องมาก การใช้แบบ Single Core จะประหยัดพลังงานมากกว่า ใช้งานกับแบตเตอรี่ได้นานกว่า

2. GPU เป็นชิพช่วยประมวลผลด้านกราฟิค การมี GPU จะช่วยให้การแสดงผลทำได้ดี ทำได้เร็วกว่า ทำให้เหมาะสำหรับแอพประเภทเกม หรือเกี่ยวกับวิดีโอ และภาพขนาดใหญ่

3. RAM หน่วยความจำแรม มีผลต่อความเร็วในการแสดงผล ยิ่งมากก็ยิ่งดี

4. Storage หน่วยความจำในเครื่อง (ROM) เป็นพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง เช่น 8 GB, 16 GB พื้นที่ส่วนนี้บางส่วนจะถูกกันไว้สำหรับใช้เก็บตัวระบบปฏิบัติการ Android ในมือถือ Android ส่วนใหญ่จะมีช่อง Micro SD Card ใส่เมมโมรี่การ์ดได้ส่วนใหญ่จะได้สูงสุด 32 GB ทำให้เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้

คุณสมบัติเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
1. ระบบปฏิบัติ Android ในมือถือ Android จะมีหลายรุ่น เช่น รุ่น 2.3 รุ่น 3.0 รุ่น 4.0, รุ่น 4.1, รุ่น 4.2 ระบบปฏิบัติการ Android จะพัฒนาเร็วมาก ทำให้มีรุ่นใหม่และมือถือ Android ก็จะตกรุ่นเร็ว แต่รุ่นที่ใช้กันมากที่สุด จะยังคงเป็น 2.3 เกือบจะ 50% ของอุปกรณ์ที่ใช้ Android ทั่วโลก เพราะฉะนั้นแอพต่างๆ จึงยังรองรับการใช้งานได้ดี แต่การเลือกรุ่นใหม่ล่าสุด ก็มีคุณสมบัติดีๆ ให้ใช้งานมากกว่า เช่น 4.04 เป็นต้นไป จะจับภาพหน้าจอด้วยการกดปุ่ม Power+Volume Down ที่ตัวเครื่องได้ น่าจะมีมาตั้งนาน เพราะการจับภาพหน้าจอนั้น จำเป็นจริงๆ มือถือ Android บางรุ่นจะมีตัวอัพเดท บางรุ่นไม่สามารถอัพเดทได้ เช่นให้รุ่น 4.0.4 มาก็ใช้ได้แค่นั้น ความสามารถนี้จะมีเฉพาะในมือถือ Android แพงๆ อย่าง HTC หรือ Samsung รุ่นแพงๆ

คุณสมบัติเกี่ยวกับ ระบบเซนเซอร์และชิพต่างในแท็บเล็ค
คุณสมบัติเหล่านี้จะถูกตัดทอนลงไปเรื่อยๆ ตามยี่ห้อและราคาของมือถือ Android ในมือถือ Android ราคาประหยัดจากจีนจะไม่มีหลายรายการ หากเน้นซื้อมือถือ Android ไว้เล่นเกม ต้องดูเซ็นเซอร์เกี่ยวกับการหมุนเครื่องและการเอียง เพราะหลายเกมต้องใช้ความสามารถนี้ของตัวมือถือ Android
1. ระบบดาวเทียมบอกพิกัด: GPS มีประโยชน์ในการใช้โปรแกรมแผนที่ โปรแกรมนำทาง ถ่ายภาพพร้อมแนบพิกัด GPS
2. เข็มทิศ (Digital Compass) มีประโยชน์ในการใช้โปรแกรมแผนที่ โปรแกรมนำทาง เช่นกัน
3. เซ็นเซอร์ตรวจจับการหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer) กรณีหมุนเครื่องหน้าจอก็จะหมุนตาม เพื่อแสดงผลให้สัมพันธ์กับการถือเครื่อง
4. เซ็นเซอร์ตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light)
5. เซ็นเซอร์ตัวจับระยะห่างใบหน้ากับมือถือ เพื่อปิดหน้าจอในขณะใช้โทรศัพท์ ป้องกันใบหน้าไปโดนปุ่มใดๆ

คุณสมบัติเกี่ยวกับ ระบบการเชื่อมต่อและพอร์ตต่าง
1. WiFi 802.11b/g/n สำหรับเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน WiFi
2. Bluetooth สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นผ่านบลูธูทหรือรับส่งข้อมูลระหว่างเครื่อง
3. รองรับ NFC (Near Field Communication)
4. พอร์ต Micro USB สำหรับต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อถ่ายโอนข้อมุล ในมือถือ Android รุ่นแพงบางรุ่นจะรองรับการใช้งานสาย OTG เพื่อต่อกับแฟลชไดรว์ คีย์บอร์ด เมาส์
5. พอร์ต micro Sd card สำหรับใช้งานกับ Memory Card
6. ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
7.. พอร์ตสายชาร์จ

การมีระบบการเชื่อมต่อและพอร์ตเหล่านี้มากๆ จะเป็นเรื่องดี เพราะจะช่วยให้มือถือ Android สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกได้มาก

คุณสมบัติเกี่ยวกับ กล้อง ภาพ วิดีโอ เสียง ในมือถือ Android
มือถือ Android แพงๆ ก็จะมีคุณสมบัติมากกว่า แต่ก็ต้องดูว่า คุณสมบัตินั้นๆ ตรงกับสิ่งที่เราต้องการใช้หรือไม่

คุณสมบัติเกี่ยวกับกล้องดิจิตอล
กล้องในมือถือ Android จะมี 2 ตัวคือ กล้องดิจิตอลด้านหลังและกล้องดิจิตอลด้านหน้า
กล้องดิจิตอลด้านหลัง
กล้องนี้ไว้สำหรับถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ
1. ความละเอียดของกล้อง หน่วยเป็นล้านพิกเซล แต่คุณภาพก็ยังสู้กล้องดิจิตอลจริงๆ ไม่ได้ หากเน้นต้องการถ่ายภาพจริงๆ ต้องเลือกรุ่นที่กล้องดีจริงๆ ซึ่งต้องหาข้อมูล ดูภาพตัวอย่างก่อนซื้อจริง ประโยชน์ของกล้องที่มากับมือถือ Android ก็คือ เราจะสามารถนำภาพที่ได้ไปใช้งานได้เลย แต่กรณีใช้กล้องดิจิตอลโดยเฉพาะก็ต้องมีสาย OTG ช่วยถ่ายโอนข้อมูลจากกล้องลงมือถือ Android
2. ขนาดภาพที่ได้จากกล้องในมือถือ Android มีขนาดต่างๆ ขนาดใหญ่หรือเล็ก ก็ขึ้นอยู่กับกล้องว่ามีกี่ล้านพิกเซ่ล มือถือ Android ราคาไม่ถึง 2 หมื่นกล้องดีๆ คงจะหายาก
3. การแนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย ค่อนข้างมีประโยชน์มากกรณีทำเว็บไซต์แนวท่องเที่ยว เพราะเราสามารถแนบตำแหน่งแผนที่ไปกับรูปภาพได้ด้วย เวลาที่ใครต้องการเดินทางไปสถานที่นั้นๆ จะค่อนข้างง่าย
4. คุณสมบัติในการบันทึกวีดีโอ บันทึกภาพเคลื่อนไหว ที่ความละเอียดต่างๆ ตามคุณภาพของกล้อง เช่น 640 x 480 พิกเซล หรือระดับ HD และไฟล์วิดีโอที่ได้จะเป็นไฟล์แบบไหน เช่น .3GP, Mp4 เป็นต้น
5. ความสามารถในการซูมดิจิตอลได้กี่เท่า

กล้องดิจิตอลด้านหน้า
กล้องด้านหน้าไว้สำหรับใช้โปรแกรมประเภทแช็ตหรือวิโอคอล สนทนากันแบบเห็นภาพ หรือถ่ายรูปตัวเอง
1. ตัวอย่างคุณสมบัติ ความละเอียด เช่น 2 ล้านพิกเซล
2. รองรับ Video Call

ข้อมูลไฟล์วิดีโอ ไฟล์เสียงและไฟล์ภาพที่เครื่องรองรับ สามารถนำมาใช้งานได้
1. ไฟล์วิดีโอ ไฟล์วิดีโอมีหลายแบบ1080 P AVI, MP4, FLV, 3GP, MKV, WMV เป็นต้น
2. ไฟล์เสียงและไฟล์เพลงแบบต่าง เช่น AVI, MP4, FLV, 3GP, MKV, WMV etc.
3. ไฟล์รูปภาพ เช่น JPG/BMP/PNG/GIF

หากชอบฟังเพลง ต้องทดสอบคุณภาพเสียงของลำโพงก่อน ว่าตรงตามต้องการหรือไม่ เพราะเปลี่ยนทีหลังไม่ได้นะจ๊ะ

คุณสมบัติเกี่ยวกับแอพหรือโปรแกรม
เป็นคุณสมบัติที่เกี่ยวกับการใช้งานแอพในมือถือ Android นั้นๆ โดยปกติตัวระบบปฏิบัติการทั้ง Android จะมีแอพมาตรฐานมาให้ และยังสามารถติดตั้งแอพต่างๆ เพิ่มเติมได้ โดยมือถือ Android จะมีแอพรองรับมากเกินห้าแสนแอพ
แอพต่างๆ ก็มีแอพทั้งฟรีและเสียเงินให้ดาวน์โหลดมากมาย

มือถือ Android บางรุ่นไม่รองรับแอพบางตัว ซึ่งเป็นแอพยอดนิยม เช่น Line, FaceBook ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนซื้อ

คุณสมบัติเกี่ยวกับแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของมือถือ Android เราต้องเลือกซื้อรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการ วันหนึ่งเราทำงานกี่ชั่วโมง จำเป็นต้องมีมือถือ Android ติดตัว เพื่อค้นหาข้อมูล ดูข้อมูล อ่านข่าว ฯลฯ ผ่านมือถือ Android วันละกี่ชั่วโมง จะได้เลือกให้เหมาะสม
แบตเตอรี่มาตรฐาน ที่มาพร้อมเครื่องจำนวน mAh มาตรฐานไม่เท่ากันในมือถือ Android มียี่ห้อและมือถือ Android ราคาประหยัด