ความหมาย : สำนวนที่มักใช้พูดตำหนิติเตียน ดุด่า ว่ากล่าวคนที่ลืมตัว โดยเฉพาะคนที่เคยมีฐานะ หน้าที่การ งานที่ต่ำต้อย พอได้ดี มีเงิน มีหน้าที่การงาน มีอำนาจ ชี้ผิดชี้ถูกคนอื่นได้ ก็ลืมตัว เย่อหยิ่ง ถือตัว ถืออำนาจ วางอำนาจ

โดยธรรมชาติของกิ้งก่า แม้จะไม่มีสร้อยทางสวมที่คอ มันก็มักจะทำหัวเชิดๆ และผงกหัว ดูไม่มีสัมมาคารวะ ก็เลยน่าจะกลายมา เป็นสำนวนแบบนี้ เพราะคนบางคนหากมีหน้าที่การเงิน มีอำนาจ มีเงิน รวยขึ้น บางคนก็ทำหน้าเชิดเหมือนกิ้งก่า ไม่ก้มหัวให้ใครง่ายๆ ดูเหมือนกิ้งก่า ดูหยิ่งผยอง ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว ธรรมชาติของมันก็เป็นแบบนั้นเอง

คนประเภทนี้เรามักจะพบเจอได้บ่อยๆ ทั้งคนรอบตัว หรือคนที่เราจะต้องติดต่อสื่อสารด้วย แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่เคยมีฐานะ ต่ำต้อย ทั้งการเงิน การงานมาก่อน แต่คนที่รวยจริงๆ หรือมีอำนาจ อาจจะไม่ใช่แบบนี้ เพราะเคยผ่านมาแล้ว แต่พวกเศรษฐีใหม่ หรือ มีตำแหน่งงานการที่ดีขึ้นในช่วงแรกๆ มักจะหลงอำนาจ หลงลืมตัว และไม่ให้เกียรติใคร เรื่องนี้ก็เป็นปกติธรรมดาของคนเรา

ตัวอย่าง :

อดีตของนาย ทองอยู่ นั้น เคยเป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้เงินหลายสิบล้านบาท กลายเป็นเศรษฐี พฤติกรรมก็เปลี่ยนไป กลายเป็นคนถือตัว หยิ่งผลอง สำคัญว่าตัวเองรวย ไม่คบใคร ไม่ให้เกียรติ์ใคร กลายเป็นพวกกิ้งก่าได้ทอง ลืมกำ พูดตัวเอง

การเปลี่ยนงานใหม่ ของนาย สมบัติ เป็นความโชคดีที่ได้รับการปรับตำแหน่งสูงขึ้น เป็นผู้จัดการมีอำนาจในการดูแลรับผิดชอบ พนักงานเป็นพันคน ทำให้พฤติกรรมของนายสมบัติเริ่มเปลี่ยนไป เพราะตำแหน่งหน้าที่การงานที่มีทั้งเงินและอำนาจ จึงกลายเป็นคน เย่อหยิ่ง ถือตัว วางอำนาจ เหมือนกิ่งก่าได้ทอง ไม่น่าคบหาเหมือนเมื่อก่อน