ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงพฤติกรรม หรือ การกระทำที่ไม่ดี ในเรื่องการนัดหมาย นัดแล้วไม่เป็นนัด ผัดวันประกันพรุ่ง เลื่อนไปเรือยๆ เลือนไปอีก ทำให้เกิดความเสียหายกับผู้นัดหมาย เพราะบางคนก็ใช่จะมีเวลา หรือบางทีก็เป็นการส่งงาน ก็ไมได้ตามนัดหมาย ย่อมเกิดความเสียหาย

ตัวอย่าง :

การให้ความสำคัญกับนัดหมายเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับคนทำธุรกิจ เช่น นัดโอนเงิน จ่ายเงิน ส่งงานตามมอบหมาย ก็ต้องเป็นนัด หากผัดวันประกันพรุ่ง เลื่อนไปเรือยๆ ก็จะไม่ได้รับความไว้วางใจ และส่งผลเสียต่อการทำงาน

การให้ความสำคัญกับการนัดหมาย โดยเฉพาะการชำระเงินค่าบริการต่างๆ อย่างการจ้างผลิตสินค้า การรักษาความเชื่อมั่นยิ่งชีวิต ไม่ ผัดวันประกันพรุ่ง ไม่เลื่อน ทำให้ผู้ผลิตได้รับความเสียหาย เพราะผู้ผลิตเองก็อาจจะนัดชำระเงินค่าวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการผลิตเช่นกัน ทำให้เสียหายกันไปเป็นทอดๆ ความเชื่อมั่นนี้ค่อนข้างสำคัญ เพราะบางครั้งแม้จะไม่มีเงินลงทุน แต่ทางผู้ผลิตสินค้าก็อาจจะไม่ลังเลที่จะผลิตสินค้าให้ก่อน แล้วจ่ายทีหลัง ซึ่งในบางกรณีไม่มีทุนมากพอสำหรับการผลิต แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าสินค้านั้นๆ จะสามารถขายได้

เด็กนักเรียนที่ไม่ทำงานส่งตามนัดหมาย ชอบ ผัดวันประกันพรุ่ง เลื่อนส่งการบ้าน ก็มักจะถูกทำโทษ หากติดเป็นนิสัยไม่ดีแล้ว ก็จะส่งผลเสียต่อการทำงานด้วยเช่นกัน การเลื่อนนัดหมาย ส่งงานบ่อย ย่อมมีผลต่อการได้รับความก้าวหน้าในการทำงาน