ความหมาย : สำนวนนี้ใช้พูดถึงบางอย่างที่เกิด ขึ้นเร็วและหยุดลงอย่างรวดเร็ว เหมือน ไฟไหม้ฟาง ไฟลุกลามอย่างรวด เร็วและดับลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเป็นเรื่องราว ข่าวลือ หรืออารมณ์ในใจเราเอา โกรธง่าย หายเร็ว

ตัวอย่าง :

ช่วงต้นปี หลายคนมักจะมีไฟอยากทำงาน ทำนู่นทำนี่ มีโครงการ สารพัดที่อยากจะพัฒนาตนเอง เปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น แต่ความตั้งใจอยาก จะทำนั้น บางทีก็เหมือน ไฟไหม้ฟาง พอพ้นปีไหม่ไปได้ วันสองวัน ก็ เหมือนเดิม ความตั้งใจที่อยากจะพัฒนาตนเองก็หมดลงแล้ว แล้วชีวิตก็ เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เรื่องราวที่ไม่จริง ข่าวลืม ต่างๆ แม้จะกลายเป็นข่าวใหญ่โต แต่หาก พิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง ข่าวหรือเรื่องราวเหล่านั้นก็จะหายไปเร็วมาก เหมือน ไฟไหม้ฟาง ต่างจากเรื่องจริง ที่จะยังอยู่ในความทรงจำของผู้คน ไปอีกนาน

คนเราส่วนใหญ่มีความตั้งใจอยากจะพัฒนาตนเองไปในทางที่ดี แต่ มักจะยอมแพ้เสียก่อน อย่างคนใช้เงินเก่งมาก ปลายเดือนก่อนเงินเดือน ออก บางคนก็จะวางแผนอย่างดี จะเก็บเงิน จะนำเงินไปลงทุน หรือใช้ จ่ายให้เกิดประโยชน์มากที่สุด แต่อามณ์แบบนี้ก็มักจะอยู่ได้สักพักแค่นั้น เหมือน ไฟไหม้ฟาง พอเงินเดือนออก ก็ใช้จ่ายอย่างไร้สติ พอเริ่มตั้งสติได้ เงินก็แทบจะไม่เหลือแล้ว ก็จะวนซ้ำอยู่อย่างนี้ ปล่ายเดือน ก็คิดเหมือน เดิม เอาน่า เอาใหม่ คิดวนซ้ำ เหมือน พายเรือในอ่าง อยู่อย่างนั้น

การจะพัฒนาตนเองให้เก่ง เพื่อให้ประสบความสำเร็จ ต้องฝึกฝนตัว เองในเรื่องการทำงาน พยายามทำงานอย่างมีระเบียบวินัย ทำตามความ แผนที่วางไว้ ให้ได้ อย่าเอาแต่คิดแต่ไม่ทำ หรือลงมือทำแต่ก็ไม่สานต่อ ให้เสร็จ เพราะหากปล่อยให้เกิดการทำงานแบบนี้อยู่บ่อยๆ อารมณ์ใน การทำงาน ก็จะเหมือน ไฟไหม้ฟาง มีแต่ความคิดที่จะทำ แต่การลงมือทำ ทำได้หน่อยเดียวก็ท้อและหยุดเสียก่อน กลายเป็นคนทำอะไรก็ไม่ ประสบความสำเร็จ