การมีรถใหม่ป้ายแดงมาไว้ในครอบครองทุกวันนี้ โดยเฉพาะการผ่อน ค่อนข้างง่าย แต่ไม่ว่าจะซื้อรถใหม่เงินสดหรือเงินผ่อนก็ตาม ก็มีหลาย เรื่องที่มือใหม่กำลังจะซื้อรถคันแรกในชีวิตเป็นของตนเอง ควรศึกษาเรื่องต่างๆ ที่จะแนะนำในบทความนี้ ใช้สติคิดตามอย่างละเอียดรอบคอบ ถึง ความเป็นจริง ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อป้องกันความผิดพลาด ผ่อนไม่ไหว มีหนี้ กลายเป็นความทุกข์กาย ทุกข์ใจเป็นแรมปี
รถยนต์มีราคาแพง แต่ก็เสื่อมค่าเร็วมาก โดยเฉพาะรถยนต์ใหม่ป้ายแดง การซื้อรถยนต์ใหม่ด้วยเงินสด หรือเงินผ่อนก็ตาม ก็มีหลายเรื่องที่ควร จะต้องรู้ โดยเฉพาะมือใหม่เพิ่งจะมีรถยนต์เป็นของตัวเองครั้งแรก ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายกับรถทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ใช่รถของครอบครัว หรือ บริษัท หรือไม่เคยมีประสบการณ์ใช้งานรถยนต์มาก่อน ต้องศึกษาให้มาก เพราะมีโอกาสพลาด บางคู่เงินเดือนรวมกันประมาณ 40,000 ผ่อนรถ ป้ายแดงเกือบล้าน บางคนเงินเดือนไม่ถึง 20,00 บาท ดันไปผ่อนรถเดือนละ 7 พันกว่าบาท สุดท้ายก็ไม่รอด เพราะมีรายจ่ายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เช่น การเลิกกัน หรือมีบุตรหลาน การถูกลดเงินเดือน ทำให้ไม่มีเงินมากพอสำหรับการผ่อนรถ เพราะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น เป็นต้น
แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ บางคนทำประวัติการเงินให้เกินจริง มีรายได้มากเกินจริง แม้จะสามารถผ่านการอนุมัติมีรถให้ใช้งานได้ แต่ก็สร้าง ปัญหาตามมา เพราะมีรายจ่ายมากกว่าที่คิด เช่น ผ่อนรถเดือนละ 5,000 แต่มีค่าน้ำมันเดือนละ 5,000 เช่นกัน จากครั้งแรกที่คำนวณไว้ คิดว่า ไม่น่าจะมีอะไรมาก เพราะยังไม่มีรถใช้งานจริง คราวนี้ก็ทำให้ชีวิตเป็นทุกข์ หากซื้อเงินสด ก็สามารถขายได้ทันที แต่หากซื้อเงินผ่อน ยิ่งดาวน์น้อย หรือฟรีดาวน์ งวดที่ต้องผ่อนต่อเดือนมาก ก็จะสร้างปัญหาให้ทันที
ตัวอย่างเรื่องที่ควรรู้ก่อนซื้อหรือผ่อนรถใหม่ป้ายแดง
การซื้อรถใหม่ด้วยเงินสดหรือเงินผ่อน
วิธีซื้อรถยนต์ของคนส่วนใหญ่จะซื้อเงินผ่อน แต่ส่วนน้อยที่ซื้อเงินสด ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป
การซื้อรถใหม่ป้ายแดงด้วยเงินสด
ข้อดี
การซื้อรถใหม่ป้ายแดงด้วยเงินสด ย่อมเป็นเรื่องดี ไม่สร้างหนี้ แถมยังประหยัดเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อย่างมาก เช่น ค่าดำเนินการ ค่าประกันภัย การต่อพรบ, ภาษี จะต้องมีค่าดำเนินการ ค่างวดมีดอกเบี้ย VAT 7% ในกรณีที่มีปัญหาการเงิน หรือเบื่อ อยากเปลี่ยนคันใหม่ หรือรถมีปัญหา ก็ สามารถขายได้ทันที เพราะมือใหม่นั้นยากจะรู้ว่า ควรเลือกรถแบบใด ส่วนใหญ่ก็จะเลือกตามความชอบตัวเองไว้ก่อน กว่าจะได้รถที่เหมาะสมกับตัว เอง อาจจะเสียเงินไปหลายแสน และต้องเปลี่ยนรถยนต์ไปหลายคันเช่นกัน
อย่างบางคนชอบรถเก๋ง แต่ต้องทำงานที่ต้องมีการขนของ ขนสัมภาระ สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนไปใช้รถกระบะ หรือบางคนชอบรถใหญ่ แต่พอใช้ งานไปแล้ว ปรากฏว่ากินน้ำมันมาก สู้ไม่ไหว ก็สามารถเปลี่ยนรถใหม่ได้ทันที
ข้อเสีย
การซื้อรถยนต์ใหม่ด้วยเงินสด อาจจะไม่เสียค่าผ่อน ค่าดอกเบี้ย ค่กดำเนินการ หรือ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ แต่หากเลือกผิด ก็นำเงินแสนไปทิ้งได้เช่น กัน อย่างเช่น ซื้อรถเก๋ง แต่ต้องขนสัมภาระอยู่บ่อยๆ ทำให้ต้องเปลี่ยนรถไปใช้รถกระบะ การขายรถใหม่ป้ายแดงในช่วง 1-3 ปีแรก จะขาดทุน ค่อนข้างมาก หลายแสน หรือหลักล้าน ขึ้นอยู่กับราคาของรถ คนมีเงินสดเวลาใช้เงิน บางคนก็หน้าใหญ่ใช้ไม่คิด ทำให้มีโอกาสสูญเงินได้ง่ายๆ มี สตางค์ มักจะขาดสตินั่นเอง หากไม่ใช่คนมีวินัยการเงินจริงๆ มีโอกาสพลาด ได้รถไม่ตรงกับความต้องการ หรือได้รถมาแล้ว ไม่สามารถใช้งานได้ ต้องขาย และซื้อใหม่ ก็จะเสียเงินส่วนต่างหลักแสนบาท เสียเงินโดยใช่เหตุ
ดังนั้นการซื้อรถใหม่ป้ายแดงด้วยเงินสด หากไม่อยากเจ็บตัว เสียเงินเปล่า ต้องเลือกรถโดยใช้เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์ ส่วนรถที่ชอบ ใช้อารมณ์ เหนือเหตุผล ต้องเป็นคันที่ 2 คันแรกในบ้าน ต้องเป็นรถที่มีประโยชน์ใช้สอยคุ้มที่สุดไว้ก่อน หรือประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุด กรณีเพิ่งเริ่มต้นทำงาน เพราะรถเหล่านี้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า นอกจากนี้ ก็อย่าเปลี่ยนรถบ่อย บางคนเปลี่ยนรถทุก 5 ปี ทั้งๆ ที่ดูแลอย่างดี รถก็ไมได้ใช้งานอะไรมากมาย แต่เปลี่ยนเพื่อให้เป็นรถรุ่นล่าสุดอยู่ตลอดเวลา ชีวิตมีระดับ ต้องดูดี ดูมีหน้ามีตา แต่หากดูแลให้ดี รถใหม่ป้ายแดงสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน เกิน 15 ปี
การเปลี่ยนรถบ่อย เช่น ทุก 5 ปี ก็ควรเป็นรถที่ใช้งานค่อนข้างหนัก บางคนใช้รถ 2 ปี แต่ขับไปหลายแสนกิโลเมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับบางคนใช้ งานเกิน 10 ปี ยังขับได้ไม่ถึงหนึ่งแสนกิโลเมตร กรณีอย่างนี้ ก็ควรจะเปลี่ยนรถให้บ่อย เพราะภายนอกรถอาจจะดูดี แต่ภายใน เครื่องยนต์ ช่วงล่าง แย่เต็มที่ แต่หากใช้รถน้อยมาก รถไม่ช้ำ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยๆ เพราะจะเสียเงินเป็นแสน อย่าเปลี่ยนเพราะคนอื่นเขาทำกัน ก็เลย ทำตาม
ข้อเสียอีกประการสำคัญของการซื้อรถใหม่ด้วยเงินสดนั้นจะทำให้เงินลดน้อยลง บางครั้งก็เป็นการทำลายโอกาสดีๆ ของตนเอง เมื่อเทียบกับ การนำเงินนั้นไปลงทุน ตัวอย่างเช่น ถ้ามีเงิน 1,000,000 บาท - กรณีแรก หากซื้อรถใหม่ป้ายแดงด้วยเงินสด 800,000 บาท เหลือเงิน 200,000 บาท ผ่านไป 10 ปี รถอาจจะมีราคาเหลืออยู่ 400,000 หรือน้อยกว่านี้ ส่วนเงินสดที่เหลืออีก 200,000 บาท ก็มักจะหมดไปกับการแต่งรถ หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ตามมาหลังจากมีรถ อย่างการขับรถเที่ยว - กรณีที่สอง หากนำเงิน 200,000 บาท ไปดาวน์รถใหม่ เพื่อซื้อรถแบบเงินผ่อน แล้วนำเงินสด 800,000 บาท ไปซื้อบ้าน ที่ดิน คอนโด หรือ ทรัพย์สินที่มีโอกาสเพิ่มมูลค่า ก็จะมีเงินเพิ่ม อย่างการซื้อที่ดิน เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี มูลค่าที่ดินอาจจะเพิ่มเป็นหลักล้านบาท หรือนำเงินไปลงทุน อาจจะมีผลกำไรตามมาอีกมาก ในระยะเวลา 10 ปี อาจจะทำกำไรให้เป็นล้าน หรือลงทุนทำธุรกิจที่อาจจะทำกำไรให้ทุกเดือน นำกำไรบางส่วน มาผ่อนรถ แถมยังมีเงินเหลือใช้ เหลือเก็บ อีกต่างหาก
การซื้อรถใหม่ป้ายแดงด้วยเงินผ่อน
ข้อดี
การซื้อรถใหม่ด้วยเงินผ่อน ก็จะไม่ต้องจ่ายเงินทั้งหมดออกไป เหลือเงินนำไปใช้ทำอย่างอื่น และหลายคนก็ไม่สามารถซื้อเงินสดได้ เพราะไม่มี เงินมากขนาดนั้น การซื้อด้วยเงินผ่อน จึงช่วยให้สะดวก สามารถมีรถได้ โดยยังไม่ต้องจ่ายเงินทั้งหมด
ข้อเสีย
การซื้อรถใหม่ป้ายแดงด้วยเงินผ่อน อาจจะทำให้เกิดความเครียด ในระยะยาว โดยเฉพาะการดาวน์น้อยมาก หรือไม่ต้องมีเงินดาวน์ จะเป็นหนี้ มาก หากราคารถตกเร็ว ก็จะทำให้เป็นหนี้ที่ยากต่อการแก้ไข ขายรถก็ไม่ได้ เพราะมูลค่ารถน้อยกว่าค่างวดรวมกัน รถไม่มีราคา ติดลบ
กรณีการเงินไม่พร้อม ทำอะไรเกินตัว ด้วยการผ่อนรถป้ายแดง แล้วมีปัญหาการเงินอย่างหนัก ก็จะทำให้เกิดความทุกข์กาย ทุกข์ใจอย่างหนัก เช่นกัน การซื้อรถเงินผ่อนให้สบายใจ ควรซื้อรถเพื่อทำประโยชน์ มีโอกาสสร้างรายได้จากรถ อาจจะรับจ้างขนสินค้า หรือเปิดท้ายขายของ แต่หาก เป็นการซื้อมาเพื่อประดับบารมีหรือเพื่อความสะดวกสบาย หรือเพื่อให้มีเหมือนคนอื่น แบบนี้ไม่แนะนำ เอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นดีกว่า แล้วซื้อรถ มือสองมาไว้ใช้เท่าที่จำเป็น ถ้ากลัวรถเสีย ก็ซื้อสัก 2 คันไปเลย
การซื้อรถยนต์ใหม่ด้วยเงินผ่อน ในความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแล้ว เหมาะสำหรับคน 2 ประเภทเท่านั้น
1. คนมีวินัยการเงิน และทำธุรกิจส่วนตัว สมมุติว่า มีเงินสด 200,000 บาท และต้องใช้เงินนั้นหมุนเวียนทำธุรกิจ และมีความจำเป็นจะต้องใช้รถ เพื่อเดินทาง ขนสินค้า ใช้รถเพื่อช่วยทำมาหากิน ซึ่งในแต่ละเดือนสมมุติมีกำไรเดือนละ 50,000 บาท การผ่อนแบบฟรีดาวน์ ไม่ต้องมีเงินดาวน์จึง ได้รับประโยชน์อย่างมาก แต่หากต้องนำเงินบางส่วนสัก 100,000 บาท ไปดาวน์รถ จะมีเงินสดเหลือ 100,000 บาท ก็จะส่งผลต่อการนำเงินไป ลงทุน ทำให้ได้รับกำไรน้อยลง
2. คนมีวินัยการเงิน ทำงานมีรายได้ประจำไม่น้อยกว่า 3 เท่าของค่างวดรถที่จะต้องผ่อนในแต่ละเดือน หากผ่อนรถเดือนละ 5,000 ก็ต้องมีเงิน เดือน 15,000 บาทขึ้นไป มีรถสำรองอย่างรถจักรยาน หรือมอเตอร์ไซค์ สลับกันใช้ ไม่ติดหรู ติดสบายว่าจะต้องใช้รถยนต์อย่างเดียว แบบนี้มี โอกาสรอด
รายจ่ายที่แท้จริงจากการมีรถใหม่ป้ายแดง
มือใหม่ไม่เคยมีรถยนต์เป็นของตัวเองมาก่อน ยากจะรู้ว่า การมีรถยนต์นั้น จะมีรายจ่ายอะไรตามมาบ้าง รายจ่ายอาจจะแยกเป็น 2 ส่วน
รายจ่ายหลัก
รายจ่ายประเภทนี้จะเป็น ค่างวดในแต่ละเดือน ค่าบำรุงรักษา ค่าต่อภาษี พ.ร.บ. ประกันภัย การตกแต่งรถ ดูแลรถ ล้างรถ ค่าจอดรถ การซื้อ อุปกรณ์ของใช้เกี่ยวกับรถ เป็นต้น เป็นรายจ่ายหลัก ที่จะต้องจ่าย ไม่เช่นนั้นจะใช้งานรถไม่ได้ อย่างไม่ต่อภาษี ก็มีความผิด มือใหม่ไม่เคยมีรถมา ก่อน จะไม่มีทางรู้ว่า ยังมีรายจ่ายอื่นๆ อีกมาก อย่างบางคนเงินเดือน 16,000 บาท ผ่อนรถเดือนละ 7,000 บาท ก็คิดว่ารอด ยังมีเงินเหลือ แต่ คิดแบบนี้ก็รอดยาก
รายจ่ายไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นมาจากการมีรถยนต์
นอกจากรายจ่ายหลักอย่างค่าผ่อนรถ ภาษี พรบ. ค่าซ่อมบำรุง ฯลฯ แล้ว เมื่อมีรถยนต์ก็จะมีโอกาสเกิดรายจ่ายต่างๆ ที่ยากต่อการควบคุม เช่น
- บางคนเงินเดือน 20,000 บาท ผ่อนรถเดือนละ 7,000 กว่าบาท ก่อนหน้าก็คิดว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อยู่ตัวคนเดียว เหลือเงินอีก ประมาณ 12,000 พันกว่าบาท บ้านไม่ต้องเช่า น้ำมันก็ใช้ไม่มาก บ้านกับที่ทำงานไม่ไกลกันมาก ก็มีแค่ค่าอาหาร ของใช้ส่วนตัว ซึ่งเชื่อว่า เอาอยู่ แต่พอมี รถจริงๆ กลับไม่ใช่อย่างที่คิด มีรถก็ต้องมีแฟน มีครอบครัว มีพ่อแม่พี่น้อง มีเพื่อนฝูง ก็ต้องไปรับไปส่ง พาไปทำธุระ ทำให้อาจจะมีค่าน้ำมัน ค่า อาหารที่กินนอกบ้าน รวมๆ แล้วอาจจะเอาไม่อยู่
- พฤติกรรมการใช้เงิน วันัยการเงินที่เปลี่ยนไป ทำให้มีรายจ่าย มากขึ้น บางคนมีรถยนต์แล้ว ติดรถ ติดความสบาย ไปไหนมากไหน ต้องขับรถ ไปเท่านั้น บางคนไปทำธุระใกล้ๆ บ้านไม่เกิน 100 เมตร จากเมื่อก่อน เดินไป ปั่นจักรยาน ขับรถมอเตอร์ไซค์บ้าง พอมีรถยนต์ ก็ไม่แตะพาหนะ อย่างอื่นเลย คราวนี้ค่าน้ำมันก็จะต้องใช้มากกว่าเดิม
- เส้นทางที่จะต้องขับรถในแต่ละวัน มีผลทำให้รายจ่ายเพิ่มมากขึ้น อาจจะเปลี่ยนงาน หรือ ต้องเดินทางผ่านเส้นทางคดเคี้ยว หยุดรถบ่อย มี เนิน มีโค้ง ค่าน้ำมันจะเพิ่มมากขึ้น มากกว่า รถวิ่งทางตรงๆ ยาวๆ ไม่ค่อยมีไฟแดง ไม่ต้องหยุดรถบ่อยๆ ยิ่งรถที่ใช้เครื่องยนต์ใหญ่ด้วยแล้ว จะยิ่งมี รายจ่ายสูงมากขึ้น
- สำหรับคนโสด ที่แน่ใจว่า ชาตินี้จะไม่มีใคร จะไม่แต่งกับใคร รายจ่ายเรื่องรถอาจจะควบคุมได้ง่ายกว่า แต่หากมีแฟน ต้องรับส่ง และใน อนาคตมีลูก จะมีรายจ่ายเพิ่มเข้ามา ดังนั้น ต้องวางแผนให้รอบคอบ สำหรับการซื้อรถเงินผ่อน คิดให้รอบด้าน บางคนช่วงคบกับแฟน ก็ซื้อรถหรู คันใหญ่สร้างภาพให้ดูดี แต่ครั้นพอเป็นแฟนกัน ต้องไปมาหาสู่บ่อยๆ คราวนี้รายจ่ายก็เพิ่มขึ้น ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ค่าอาหารการกิน เป็น ต้น
- การแต่งรถ ปรับแต่งให้ผิดไปจากมาตรฐาน จะยิ่งทำให้เกิดรายจ่ายมากยิ่งขึ้น เช่น ใช้ยางใหญ่ขึ้น ราคาแพงขึ้น รถกินน้ำมันมากขึ้น เป็น ต้น
- ทุกครั้งที่ขับรถยนต์ก็จะมีรายจ่ายตามมาเสมอ อย่างน้อยก็หลักร้อย เป็นค่าน้ำมันหากแค่ขับเล่นๆ กินลม แล้วเข้าบ้าน แต่หากไปกิน ข้าวนอกบ้าน รายจ่ายจะเพิ่มมากขึ้นตามชนิดของอาหาร เครื่องดื่ม และประเภทของสถานที่ อย่างข้าวไข่เจียวในร้านอาหารตามสั่งทั่วไปขาย 30- 35 บาท แต่หากเป็นร้านอาหารอาจจะขายจานละ 100 บาทขึ้นไป ตามแต่ความหรู ดูดี ความมีชื่อเสียงของร้าน การมีรถยนต์ จะสามารถพาเจ้า ของรถไปยังสถานที่เหล่านี้ได้ แต่หากไม่มีรถ ใครจะกล้าเข้า รถยิ่งหรู บางทีก็จะยิ่งพากันไปสถานที่แพงๆ จากร้านคาราโอเกะจ่ายหลักร้อยหลักพัน แถวบ้าน อาจจะเป็นร้านแถวพระรามเก้า เพชรบุรี หรือ รัชดาซอย... คืนละหมื่น เป็นต้น
ปัญหาที่เกิดจากการมีรถใหม่ป้ายแดง
ปัญหาที่เกิดจากการมีซื้อรถป้ายแดงไม่ว่าเงินสดหรือเงินผ่อน ก็คือ ความทุกข์ใจ และปัญหาการเงิน
ปัญหาสำหรับคนซื้อรถเงินสด
สำหรับคนที่ซื้อรถด้วยเงินสด ก็จะมีปัญหาอีกแบบ จะเป็นความทุกข์ใจ ไม่มีความสุขในการใช้รถ หากได้รถที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง เช่น ซื้อรถ ใหญ่ เครื่องยนต์ใหญ่ อย่างพวก Camry, Accord หรือรถยุโรปทั้งหลาย เน้นความมีหน้ามีตา นั่งสบาย แต่ต้องมานั่งทุกข์ใจกับค่าน้ำมัน ค่าบำรุง รักษาที่ค่อนข้างแพง จะขายก็ไม่ได้ เพราะราคาตกมาก บางคนเริ่มต้นดีแล้ว ซื้อรถเล็กๆ อย่าง Honda CIty แต่เพราะความอยากมีหน้ามีตา ก็ไปซื้อ Accord แต่สู้ค่าน้ำมันไม่ไหว ก็ต้องกลับมาใช้รถเล็กๆ เหมือนเดิม กลายเป็นว่า เอาเงินหลายแสนไปทิ้ง ใช้รถเล็ก ก็ห่วงภาพลักษณ์กลัวไม่มีหน้ามี ตา ครั้นใช้รถใหญ่ ก็สู้ค่าน้ำมันไม่ไหว ไปไหนมีหน้ามีตา แต่กลับมาถึงบ้าน หน้าหงิก หน้างอ
ดังนั้นมือใหม่จะมีรถป้ายแดงคันแรก จะต้องเลือกรถให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันไว้ก่อน เพื่อนผู้เขียนบางคนเป็นข้าราชการระดับสูง มีกิจการส่วนตัว รายได้เดือนหลักแสนบาท แต่ใช้รถเล็กๆ อย่าง Honda Jazz ไม่ทำตามลูกน้อง ที่ใช้รถแพงกว่า รุ่นใหม่กว่า ทั้งๆ ที่เงินเดือน และ รายได้ของตัวเอง ก็มากกว่า กรณีอย่างนี้ ชีวิตก็จะไม่ทุกข์ใจ เพราะรถเล็กประหยัดน้ำมัน ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่มีปัญหาการเงิน ให้ทุกข์ใจแต่อย่าง ใด
ปัญหาสำหรับคนซื้อรถเงินด้วยเงินผ่อน
ส่วนคนที่ซื้อรถเงินผ่อนนั้น ก็อาจจะมีปัญหาทุกข์ใจ และปัญหาการเงินมากกว่า อย่างเช่น เงินไม่พอใช้ เพราะรถยนต์มีรายจ่ายมากกว่าที่คิด บางคนดาวน์ด้วย หรือฟรีดาวน์ จะยิ่งสร้างความทุกข์ใจ หรือ เกิดปัญหาการเงินมากยิ่งขึ้นไปอีก หลายเท่าตัว แต่ปัญหาที่น่ากลัวก็คือ เสียคน มีรถ แล้ว หน้าใหญ่ ใช้เงินมาก จมไม่ลง ไม่มีระเบียบวินัยการเงิน พฤติกรรมไม่ดีเหล่านี้ จะเกิดกับบางคนเมื่อมีรถยนต์ใช้
ดังนั้นมือใหม่ที่คิดจะซื้อรถยนต์ใหม่คันแรก ด้วยเงินผ่อนนั้นจะต้องหาทางป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อน เช่น อ่านบทความแนวนี้ ทำความเข้าใจ อย่างละเอียดรอบด้าน รู้จักประมาณตน มีรายได้แค่ไหน สามารถมีรถยนต์ ผ่อนรถยนต์ได้หรือยัง พร้อมหรือยัง ต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน
วิธีแก้ปัญหาที่เกิดจากการมีรถใหม่ป้ายแดง
แนวทางแก้ไขปัญหา ก็จะต่างกันไป สำหรับการซื้อรถยนต์ใหม่ด้วยเงินสดหรือเงินผ่อน วิธีการก็ต่างกันไป เพราะปัญหานั้น อาจจะไม่เกี่ยวกับ เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ปัญหาสำหรับคนซื้อรถเงินสด
ปัญหาในกรณีนี้มักจะเป็นความทุกข์ใจเสียมากกว่า เพราะได้รถที่อาจสร้างปัญหาในการใช้งาน เช่น รถยนต์ใหญ่ เครื่องยนต์ใหญ่ กินน้ำมันมาก ทำให้มีรายจ่ายมาก จะขายก็ไม่ได้ เสียดายเงิน จะซื้อเพิ่ม ก็ไม่มีที่จอด ก็ต้องหาวิธีแก้ไขในรูปแบบต่างๆ เช่น
- นำรถไปติดแก๊ส ช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิง
- ซื้อรถเก๋ง แต่ต้องใช้ขนของ ก็ต้องขายทิ้ง แต่หากทำใจขายไม่ได้ เพราะราคาตกมาก ก็อาจจะหาซื้อรถกระปะมือสองมาไว้ใช้งานแทน
- ใช้รถช่วยทำมาหากิน บางคนซื้อรถราคาแพง แต่รถก็มีส่วนช่วยทำมาหากิน อย่างรถสปอร์ตราคาหลายล้านสามารถใช้รถเป็นพรีเซนเตอร์ได้ อย่างบางคนที่ทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ก็สร้างภาพความสำเร็จ มีรถหรู บ้านหรู ทำให้คนสนใจเข้าร่วมธุรกิจกับตน ก็จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ มากขึ้น ไม่ใช่เป็นการซื้อรถแพงๆ มาจอดไว้เฉยๆ เสียเงินเปล่า
- ตัดใจขายทิ้ง แล้วเลือกรถที่เหมาะกับสไตล์การใช้ชีวิตของตนจริงๆ
- ทุกข์ใจกับคำพูดของคนรอบข้าง หากรถที่ตนเลือกนั้น ไม่คู่ควรกับเพื่อนที่ตนคบ จึงไม่เป็นที่ยอมรับ
- การซื้อรถด้วยเงินสด ในกรณีมีปัญหาการเงิน ก็สามารถนำรถไปจัดไฟแนนซ์ได้ หรือจำนำจอดชั่วคราวได้
แนวทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด สำหรับสำหรับมือใหม่ซื้อรถคันแรก ให้เลือกรถประหยัดน้ำมัน หรือ ใช้ประโยชน์ได้มากไว้ก่อน อย่างบางคนเน้นรถ เล็ก อย่าง Honda Jazz เบาะหลังพับได้ ขนของชิ้นใหญ่ได้ ประหยัดน้ำมัน ทั้งๆ ที่สามารถซื้อรถแพง และดีกว่านี้ ก็ได้ แต่คันแรก ต้องเป็นรถเล็กๆ ซึ่งก็จะใช้งานอย่างสบายใจ ขับได้ทั้งวัน ประหยัดน้ำมัน ประหยัดค่าใช้จ่าย คล่องตัว หาที่จอดง่าย
ปัญหาสำหรับคนซื้อรถเงินด้วยเงินผ่อน
ปัญหาในกรณีนี้มักจะหนักหนาสาหัสกว่าการซื้อรถด้วยเงินสด โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาในเรื่องการเงินด้วยแล้วจะหนักหนาสาหัสกว่ามาก ซึ่งก็ ต้องดูว่า ปัญหานั้นเกิดจากอะไร ตัวอย่างเช่น
การซื้อรถเงินผ่อนแต่ไม่มีปัญหาการเงิน
กรณีที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน แต่อาจมีปัญหาเรื่องการใช้งาน รถกินน้ำมันก็ต้องนำไปติดแก๊ส หรือ ใช้ขนสัมภาระไม่ได้ ก็ต้องตัดใจขายทิ้ง ยอมให้ จบ ให้ความทุกข์ใจในการใช้รถหมดไป เงินก็มีจะมาทุกข์ใจกับรถไปทำไม เครียดแล้วป่วยไม่คุ้ม ยิ่งรถยุโรป รถเครื่องยนต์ใหญ่ Accord, CRV, Camry รถพวกนี้ราคาตกมาก หากคิดว่ารถกับคน สไตล์การใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน ก็ต้องรีบตัดใจขายทิ้ง แล้วหาซื้อคันใหม่ที่ใช้ประโยชน์ได้ตรงตาม ต้องการ
การซื้อรถเงินผ่อนและมีปัญหาการเงิน
สำหรับคนซื้อรถด้วยเงินผ่อน และการเงินไม่ดี เงินไม่พอใช้ เพราะรถมีรายจ่ายมาก หรือตัวเองมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น หรือรายได้ลดลง ก็ต้องรีบ หาทางจัดการกับรถให้เร็วที่สุด ตัวอย่างเช่น
1. ทำงาน หรือ หาช่องทางสร้างรายได้ให้มากขึ้น
2. ใช้รถช่วยสร้างรายได้ เช่น รับส่งสินค้า เปิดท้ายขายของ ขับรถเที่ยว ทำช่องยูทูป ทำของแต่งรถขาย เป็นต้น
3. ทันทีที่พบว่า ตัวเอง เริ่มมีปัญหาการเงิน ก็จงรีบวิเคราะห์การเงินของตัวเอง อย่างเร่งด่วน หากผ่อนไม่ไหว หรือคาดว่าในอนาคต ก็คงจะมีปัญหา การเงินอย่างต่อเนื่อง ก็จงยอมรับความจริง อย่าดันทุรัง จงตัดใจขายรถ การขายรถติดไฟแนนซ์หากราคารถที่ซื้อขายในขณะนั้น สูงกว่า ค่างวดที่ เหลือทั้งหมด ก็จะขายได้ง่าย แต่หากราคารถที่ซื้อขายในขณะนั้นพอๆ กัน หรือน้อยกว่าค่างวดรวมที่เหลือทั้งหมด กรณีนี้ ต้องเร่งทำงานให้มากขึ้น หารายได้ให้มากขึ้น เพื่อให้มีเงินมาใช้จ่ายได้
4. อย่าปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึดรถไปอย่างเด็ดขาด ให้หาวิธีขายให้ได้ หรือยกให้คนอื่นผ่อนต่อ ก็ยังประหยัดเงินกว่าการยกรถให้ไฟแนนซ์ เพราะอาจ จะมีค่าใช้จ่ายตามมา หากราคาซื้อขายรถในตลาด เหลือน้อยกว่า ค่างวดรถที่เหลือทั้งหมด เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน ซับซ้อน ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี ซึ่ง
ก็มีวิธีตรวจสอบง่ายๆ โดยให้รวมค่างวดทั้งหมด สมมุติว่า เหลืองวดที่ต้องผ่อนอีก 40 งวด เป็นเงิน 300,000 บาท แต่ราคารถที่ซื้อขายกัน อยู่ประมาณ 300,000 บาท หากปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึดรถ ไฟแนนซ์จะตีราคารถน้อยกว่านั้น อาจจะไม่ถึง 250,000 ก็หมายความว่า ไม่เพียงยึด รถ แต่ยังต้องจ่ายให้ไฟแนนซ์อีกหลายหมื่นบาท
5. รถติดไฟแนนซ์เป็นชื่อของเราอยู่ อย่าปล่อยให้คนอื่นเอารถไปใช้ หรือขายต่อโดยยังไม่ปิดไฟแนนซ์อย่างเด็ดขาด เพราะจะตามมาด้วยคดีความ และการเสียค่าปรับ การจ่ายค่าเสียหายอีกหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท
การซื้อรถเงินด้วยเงินผ่อน หากผ่อนไม่ไหว ต้องตัดใจ ยอมเจ็บ ยอมอายชาวบ้าน ยอมรับความจริง อย่าดันทุรัง อย่าหาเงินทางอื่นมาโป๊ะค่าใช้ จ่าย เพื่อพยายามรักษารถเอาไว้ โดยเฉพาะการกู้เงินนอกระบบ จะยิ่งสร้างปัญหามากขึ้น หากสามารถตัดใจปล่อยรถได้เร็วเท่าไร ก็จะหมดทุกข์เร็ว เท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุด หากพบว่า ตัวเองเอาไม่อยู่แน่นอน จงรีบหยุดใช้รถ ขายรถให้เร็วที่สุด อย่ารอให้ราคาซื้อขายรถในท้องตลาดลดลงเหลือ น้อยกว่า ค่างวดรวมทั้งหมด
รายได้ที่แท้จริงและทรัพย์สินอื่นๆ
การคำนวณรายได้ที่แท้จริงของตนเอง ตลอดจนราคามูลค่าของทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีอยู่ ควรคิดคำนวณให้ละเอียด โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องซื้อ รถด้วยเงินผ่อน เพราะหากมีปัญหาการเงินขึ้นมาจะลำบาก และหากพบว่า ตัวเองไม่พร้อม เอาไม่อยู่แน่ๆ ก็ห้ามเสี่ยงเด็ดขาด
ส่วนการซื้อรถใหม่ด้วยเงินสดนั้น ก็ต้องดูด้วยเช่นกันว่า มีโอกาสดีๆ ที่สามารถซื้อได้บ่อยครั้งหรือไม่ อย่างเช่น ได้มรดกจากทางบ้านมา 1 ล้านบาท ซึ่งชาตินี้คงจะไม่ได้อีกแล้ว คงจะแค่ครั้งเดียวเท่านั้น กรณีนี้ก็ต้องเลือกรถด้วยเหตุผล อย่าใช้ความชอบ เน้นรถตลาด รถเล็ก ประหยัด น้ำมัน ประโยชน์ใช้สอยคุ้มค่าไว้ก่อน อาจจะเป็นพวกอีโคคาร์ ราคาไม่ถึง 500,000 อย่าไปซื้อพวกรถกระบะสี่ประตู พวกรถเก๋งแพงๆ เกือบล้าน ทั้งภาษีแพง ค่าใช้จ่ายสูง บางรุ่นราคาตกมาก แต่หากทำงาน ทำกิจการ มีเงินเข้ามาเรื่อยๆ ก็เลือกได้ตามใจชอบ
วินัยการเงินของผู้ซื้อรถใหม่
ก่อนจะซื้อรถใหม่ไม่ว่าจะซื้อเงินสด หรือ ซื้อเงินผ่อน หากวินัยการเงินไม่ดี ชอบเที่ยว ดื่ม กิน ติดอบายมุข ก็ห้ามยุ่งกับรถยนต์อย่างเด็ดขาด บางคนซื้อรถด้วยความคิดผิดๆ ว่า ซื้อเพื่อให้มีสมบัติ มีของติดตัวบ้าง ก็เลยซื้อรถ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะรถยนต์เป็นรายจ่ายที่ต้องจ่ายตลอด อายุการใช้งาน เงินมีแต่จะหมดไป ไม่ใช่สมบัติติดตัว แต่เป็นรายจ่ายติดตัวตลอดชีพ คนที่ไม่มีวินัยการเงิน ติดอบายมุข หากมีรถ ก็จะใช้เงินมากขึ้น บางคนพอโบนัสออก ก็หมดทั้งเงินทั้งรถ เพราะติดการพนัน
สำหรับคนไม่มีวินัยการเงิน หากซื้อรถด้วยเงินสด ก็จะทำให้เงินที่เหลืออยู่ หมดเร็วมากขึ้น เพราะเที่ยวได้ไกลมากขึ้น ไปสถานที่ที่แพงมากขึ้น จ่ายเงินมากขึ้น และเงินก็หมดเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน คนถูกรางวัลล็อตเตอรี่ได้เงินมากๆ น่าจะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
หากซื้อรถใหม่ด้วยเงินผ่อน ก็จะทำให้เงินในแต่ละเดือนไม่พอใช้ หากมีปัญหาเรื่องรายได้น้อยลง ตกงาน หรือมีภาระรายจ่ายอย่างอื่นเข้ามา ก็ จะมีปัญหาทันที ดังนั้น หากไม่มีวินัยการเงิน ใช้เงินเก่ง เก็บเงินไม่อยู่ ก็อย่ายุ่งกับการผ่อนรถอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์ และไม่ควรมีรถเหล่านี้ไว้ในครอบครองจะดีที่สุด เพราะพาหนะทั้งสองชนิดนี้ จะช่วยให้ใช้เงินได้มากขึ้น เพราะเดินทางไปไกลขึ้น ไปสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกขึ้น
อย่างผู้เขียนมีแค่จักรยานเก่าๆ คันเดียว บางวันยังปั่นจักรยานไปนั่งกินน้ำใบบัวบกตามร้าน...ใกล้บ้านหมดเงินหลักพันบาท แต่หากเป็นรถ ยนต์รายจ่ายจะมากกว่านี้ เพราะจักรยานไม่มีค่าประกันภัย ภาษี ค่าผ่อน ค่าซ่อมบำรุง เงินในตู้ ATM หมดแค่ไหน ก็จบแค่นั้น ไม่มีหนี้ผูกพันระยะ ยาว
สำคัญมาก
หากไม่มีวินัยการเงินก็ไม่ควรผ่อนรถยนต์ใหม่ป้ายแดง อย่างเด็ดขาด ห้ามทำอย่างเด็ดขาด รถเล็กๆ อย่างมอเตอร์ไซค์ก็เช่นกัน เน้นซื้อเงินสด เท่านั้น จะเป็นรถใหม่ หรือรถมือสอง ก็ได้ แต่ดีที่สุดก็คือ อย่ามีรถเหล่านี้ไว้ในครอบครอง อยู่แบบลำบากในเรื่องการเดินทาง แต่เงินจะเหลือ
วิธีขายรถเมื่อผ่อนไม่ไหว หรือการเงินมีปัญหา
ความรู้ในเรื่องนี้มีความสำคัญ ที่ควรจะต้องศึกษาตั้งแต่ก่อนตัดสินใจซื้อรถ หรือผ่อนรถใหม่ป้ายแดง ศึกษาทางหนีทีไล่ก่อน จะดีที่สุด อย่า ศึกษาเมื่อได้รถมาแล้ว แต่จงทำก่อนจะซื้อรถ เพราะหากได้รถมาแล้ว เกิดมีปัญหาการเงิน ผ่อนไม่ไหว ก็จะรู้วิธีจัดการกับปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งแนว ทางแก้ปัญหาในเรื่องนี้ก็มีหลายวิธีตามแต่ความหนักเบาของปัญหา ตัวอย่างเช่น
1. หากรถมีราคาซื้อขายในท้องตลาด สูงกว่า ค่างวดรถรวมทั้งหมด และตัวเองมีปัญหาการเงิน ก็จงตัดใจขาย การขายรถติดไฟแนนซ์ไม่ยาก หลาย เว็บไซต์มีบริการ เพียงแค่คนซื้อ และ คนขาย ต้องเตรียมหลักฐานให้พร้อม
2. หากรถมีราคาซื้อขายใกล้เคียงกับราคาในท้องตลาด ต้องทำใจว่า อาจจะต้องยกรถให้คนอื่นไปฟรีๆ แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายในการทำเรื่องเปลี่ยน ตัวผู้ผ่อนรถ มีค่าธรรมเนียมต่างๆ แต่อย่ายกให้ฟรีๆ โดยที่ยังไม่ปิดไฟแนนซ์ ห้ามทำอย่างเด็ดขาดไม่ว่าผู้รับจะเป็นคนสนิทกันก็ตาม ผิด กฏหมาย
3. หากรถมีราคาต่ำกว่า ค่างวดรถรวมทั้งหมด กรณีนี้ อาจจะขายรถได้ แต่ต้องนำเงินของตัวเองอีกส่วนหนึ่ง ไปจ่ายไฟแนนซ์ด้วยเช่นกัน เช่น ติด ไฟแนนซ์ 300,000 บาท แต่ขายรถได้แค่ 250,000 บาท ก็ต้องหาเงินอีก 50,000 บาท ไปจ่ายให้ไฟแนนซ์ รถบางยี่ห้อ บางรุ่น ราคาตกเร็ว และตกมาก จึงทำให้มูลค่าของรถเหลือน้อยกว่า ค่างวด บางคนเพิ่งผ่อนรถไปได้แค่ 7 งวด แต่ราคารถตกเร็วมาก เหลือพอๆ กับ ค่างวดรวมทั้งหมด แต่หากผ่านไปอีกหลายเดือน ก็มีแนวโน้มว่า ราคารถจะตกลงมากกว่านั้น การดาวน์น้อยๆ หรือฟรีดาวน์ มักจะเจอกับกรณีแบบนี้ หากไปผ่อนรถที่ ตลาดไม่นิยม ซึ่งรถเหล่านี้ อาจจะซื้อได้ง่าย เพราะเซลล์หรือศูนย์ก็อยากจะขายรถให้ได้มากๆ แต่ซื้อมาแล้ว มีโอกาสเจ็บตัวแน่อน
คำแนะนำ
ก่อนตัดสินใจผ่อนรถยนต์ใหม่ อย่าปล่อยให้ความอยากได้ หรืออารมณ์อยู่เหนือความเป็นจริง รายได้จริงๆ เท่าไร ไม่ไหว ก็อย่าไปดันทุรัง อย่าพาตัวเองไปเป็นหนี้ แต่หากจะผ่อนจริงๆ ต้องดาวน์ให้มากที่สุด การผ่อนแบบฟรีดาวน์ ไม่ต้องมีเงินดาวน์ หรือหลักพัน หลักหมื่น ห้ามทำอย่าง เด็ดขาด เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเจอกับปัญหาในการขายรถ เมื่อผ่อนไม่ไหว เพราะรถติดไฟแนนซ์ขายยากมาก ซึ่งสาเหตุของคนส่วนใหญ่จะมาจาก การยึดติดในตัวรถ ลงไม่ได้ ติดหรู อายคนรอบข้าง ที่ตัวเองไม่มีรถใช้ หากตัดใจ ทำใจได้ การขายจะไม่ยาก
วิธีลดรายจ่ายการการผ่อนรถยนต์
การลดรายจ่ายกรณีจะต้องผ่อนรถยนต์ เป็นอีกเรื่องสำคัญที่จะต้องรู้
1. มีพาหนะหลายแบบ จักรยาน มอเตอร์ไซค์ ใช้บริการรถสาธารณะ เพื่อจะได้สับเปลี่ยนใช้งาน อย่างช่วงไหนที่รายได้น้อย หรือมีภาระต้องจ่าย มาก ก็เน้นใช้รถมอเตอร์ไซค์ประหยัดน้ำมันมากกว่า รถยนต์เติมน้ำมันประมาณ 500 บาท อาจจะขับไปได้เพียง 150 กิโลเมตร แต่รถมอเตอร์ไซค์ เติมน้ำมัน 100 บาท หากเป็นรถเล็กๆ ก็เดินทางไปได้ไกลเกิน 200 กิโลเมตร
2. ย้ายที่พักไปอยู่ใกล้ที่ทำงาน
3. เปลี่ยนเส้นทางขับรถ ทางตรงไม่ค่อยมีไฟแดง ประหยัดน้ำมันมากกว่าเส้นทางคดเคี้ยว มีแยกเยอะ ต้องชะลอรถบ่อยๆ ทางชัน ขึ้นเขาลงเนิน
การลดรายจ่ายจะไม่ช่วยให้เกิดความอุ่นใจในเรื่องการเงินมากนัก หากมีภาระต้องผ่อนรถ ควรหาวิธีสร้างรายได้เสริมจะดีกว่า หรือทำงานหา รายได้เพิ่มทุกวิธีที่จะทำได้ มีเงินเพิ่มก็ย่อมอุ่นใจ สบายใจมากกว่าการพยายามลดรายจ่าย เพราะสุดท้ายก็จะต้องเบียดเบียนตัวเอง ด้วยการกินอยู่ อย่างลำบาก
ทางเลือกอื่นที่ดีกว่าการซื้อรถใหม่ป้ายแดง
การจะซื้อรถยนต์สักคัน ไม่ว่าจะซื้อเงินสด หรือ ผ่อน ก็ตาม ต้องดูว่า มีความจำเป็นต้องใช้หรือไม่ หากไม่มีความจำเป็น ก็ไม่ควรซื้อ แต่หากมี ความจำเป็นต้องใช้บ้าง ก็มีรถมือสองสภาพดีๆ มากมาย หรือหากไม่พร้อม การเงินไม่ดีนัก ก็ไม่ควรผ่อนรถใหม่ป้ายแดงอย่างเด็ดขาด แต่หากมี ความจำเป็นจะต้องใช้ ก็แนะนำรถมือสอง เพียงแต่ต้องรู้จักการซ่อมที่ถูกวิธี ก็จะไม่เสียเงินมาก และได้รถดีไว้ใช้งานอีกนาน
ตัวอย่างรถมือสองราคาไม่ถึงแสนเหล่านี้ จะมีค่าซ่อมบำรุงให้กลับไปอยู่ในสภาพดี น้องๆ รถใหม่ป้ายแดงประมาณ 30,000-50,000 บาท ก็ ใช้กันยาวๆ อีกหลายปี โดยแทบจะไม่มีปัญหากวนใจ แต่ต้องซื้อะไหล่เอง หาอู่เอง แล้วตกลงเรื่องค่าแรงในการซ่อม อย่าให้อู่ซื้ออะไหล่ เพราะอู่จะ บวกเพิ่มไม่ต่ำกว่า 1 เท่าตัว อย่างน้ำมันเกียร์ธรรมดากระป๋องละ 90 บาท อาจจะบวกเพิ่มเป็น 180 บาท หากรวมค่าอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนทั้งหมด แล้ว จึงมีโอกาสต้องเสียเงินค่าซ่อมหลักแสน ซึ่งเป็นกำไรของทางอู่ซ่อมรถ ไม่ใช่รายจ่ายที่แท้จริง และการเปลี่ยนอะไหล่ของรถยนต์มือสองนั้น ก็ ใช่ว่าจะเปลี่ยนทั้งคัน หากซ่อมเป็นจะใช้เงินไม่มากอย่างที่หลายคนเข้าใจ
แต่การซื้อรถมือสองจะต้องใช้รถตลาดเท่านั้น หากเป็นรถเก๋ง ก็ต้องเป็นรถเล็ก เครื่องยนต์เล็ก ประหยัดน้ำมัน ยี่ห้อยอดนิยม หากเป็นกระบะก็ ต้องมีคุณสมบัติคล้ายกัน ส่วนรถแปลกๆ ยี่ห้อคนไม่นิยม ต่อให้มีราคาถูกแค่ไหน ก็ห้ามซื้ออย่างเด็ดขาด อย่าง Accord, Camry, Benz, BMW, Volvo รถเหล่านี้ มีไว้สำหรับคนรวย แม้จะเป็นรถเก่า ราคาถูกมาก แต่ก็ไม่ใช่รถที่คนทั่วไปจะสามารถใช้ได้ บางคันไม่มีค่าซ่อมมากนัก แต่ค่าน้ำมันหนัก หนาสาหัสกว่าค่าซ่อม
สำหรับบทความนี้ ก็หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยสำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่กำลังจะซื้อรถคันแรกในชีวิต เพื่อจะได้เลือกรถที่ดีที่สุด ใช้ ประโยชน์ได้มากที่สุด ซึ่งรถแบบนี้มักจะไม่ใช่รถที่ชอบมากที่สุด ผู้เขียนมีเพื่อนหลายคนที่เลือกรถเพราะความชอบ และก็ได้รถที่ไม่สามารถใช้งาน ได้อย่างมีความสุข มีปัญหากับค่าน้ำมันบ้าง ปัญหาจุกจิกของรถบ้าง จนสุดท้ายก็ต้องไปใช้รถที่ปัญหาน้อย ประหยัดน้ำมัน ยี่ห้อยอดนิยม อะไหล่ หาง่าย ซื้อขายง่าย รถขนาดเล็ก ประโยชน์ใช้สอยคุ้ม
สูงสุดก็กลับคืนสู่สามัญ แต่กว่าจะกลับมาได้ บางคนก็หมดเงินไปหลักแสนกับการตามหาตัวตนของตนเองกับรถที่เหมาะกับตัวเอง แต่หากทำ ตัวสู่สามัญตั้งแต่แรก ก็จะไม่ต้องเสียเงินหลักแสน ความฉลาดในการเลือกรถ ต้องใช้เหตุผล หากใช้อารมณ์ ก็มักจะลงเอย ด้วยการเจ็บตัว สูญเสีย เงินจำนวนมาก