สำหรับใครที่มีรถเก่าอยู่ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือจักรยานยนต์ หรือ กำลังคิดจะหารถเก่ามาซ่อม มาปั้น มาบูรณะใหม่ เอาไว้ใช้งาน ก็มีหลายเรื่องที่ควรรู้ โดยเฉพาะการซ่อมให้รถกลับมามีสภาพที่สมบูรณ์เพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน สามารถใช้งานได้ทุกวัน ไม่มีปัญหา ทั้งการเงิน ค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมรถ ปัญหารถเสีย จุกจิก

รถเก่า ที่มีอยู่ หรือ รถบางรุ่นที่มีราคาถูกมาก หรืออาจจะได้ฟรีมาก็ดี ก่อนคิดจะปั้น หรือ ซื้อมาซ่อมบำรุงเพื่อใช้งาน ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ ก็จะมีหลายเรื่องที่มือใหม่ควรรู้ ป้องกันเสียเงิน เสียเวลา เสียอารมณ์กับรถ เพราะซ่อมไม่จบ หรือสร้างปัญหาในภายหลังจากที่ซ่อมเสร็จแล้ว ไม่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ กินน้ำมันมากเกินไป ซ่อมไม่จบ เรื่องนี้ก็ยกเว้นแต่จะเป็นความชอบส่วนตัว และไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน ตัวอย่างคันนี้ไปเจอในยูทูป ซื้อมา 25,000 บาท ซ่อมรวมๆ จบที่ 292,900 บาท ป๊าดดดดดดดด

ตัวอย่างข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจปั้นรถเก่า

การมีรถเก่าในบ้าน จะเป็นรถยนต์ หรือ จักรยานยนต์ หรือแม้แต่จักรยานก็ตาม ก่อนตัดสินใจซ่อม บูรณะ หรือ ปั้นให้เป็นรถใหม่ หรือสมบูรณ์สามารถขับใช้งานได้ ก็มีหลายเรื่องที่ต้องคิดให้หลายตลบ เพราะงบมักจะบานปลายเสมอ ตัวอย่างเช่น

ปั้นแล้ว ทำรถเสร็จแล้ว ใช้งานในชีวิตประจำวันได้หรือไม่

นี่คือเรื่องแรกที่ต้องหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน โดยพิจารณาในเรื่องสำคัญก็คือค่าใช้จ่ายที่จะตามมา กับการใช้รถคันนั้นไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือจักรยานยนต์
1. อัตราบริโภคน้ำมัน หากมีเงินมากพอ ไม่เดือดร้อน ก็ไม่มีปัญหา กรณีของรถยนต์หากเครื่องยนต์เกิน 1600 CC ก็ไม่ควรทำ ปล่อยรถไปเป็นซากอยู่อย่างนั้น หรือขายซากไป เพราะแม้จะได้รถกลับมาในสภาพดี ขับได้ทุกวัน แต่กินน้ำมันมาก เช่น กิโลเมตรละ 6 บาท เติมน้ำมัน เบนซิน แก๊สโซฮอลล์ ราคาลิตรละ 34 บาท มีค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันกิโลเมตรละ 34 หาร 6 = 5.6 บาท แบบนี้ก็ไม่ไหว ขับ 100 กิโลเมตร เติมน้ำมัน 560 บาท หรือกรณีติดแก๊สก็ต้องศึกษาอัตราบริโภคแก๊ส ค่าติดตั้ง การบำรุงดูแลอีกเช่นเดียวกัน
2. กรณีของรถมอเตอร์ไซค์ก็เช่นกัน แม้ว่าจะค่อนข้างประหยัดกว่ารถยนต์อย่างมากก็ตามที ก็ต้องดูว่า หากขับทุกวัน มีค่าใช้จ่ายสูงหรือไม่ มีความทนทานหรือไม่ ค่าน้ำมันกิโลเมตรละกี่บาท
3. นอกจากค่าน้ำมันแล้ว ก็ต้องดูว่า รถขับสบายไหม สามารถใช้งานได้บ่อยๆ คุ้มกับเงินที่จ่ายออกไปหรือไม่ เช่น ทำรถกระบะเก่า ให้ดูดีขึ้น แต่นั้นได้ 2 คน นั่งไม่สบาย สุดท้ายก็ต้องจอด นานๆ ขับสักที และนานมากขึ้นๆๆ ก็เริ่มจะไม่ขับ ไม่จับ ไม่แตะ

มีที่จอดหรือไม่

เรื่องนี้สำคัญ บางคนอยู่คอนโด ได้รถเก่า เป็นรถเต่า นำไปปั้น สวยมาก แต่จอดตากแดด ตากฝน ไม่กี่เดือน น้ำแดง สนิมไหลเป็นทาง เจอแบบนี้ ไม่นานก็จะผุทั้งคัน ในการซ่อมบำรุง หรือ ทำรถนั้น หากจะต้องทำสีใหม่ทั้งคัน อย่าคิดว่าจะจบง่ายๆ จะไม่เหมือนรถเดิมๆ จากโรงงาน แม้จะเก่ามากแล้ว แต่การจอดตากแดด ตากฝน ก็ไม่เป็นสนิมง่ายๆ เหมือนรถทำสีทั้งคั้น

นอกจากรถยนต์แล้ว รถจักรยานยนต์ก็เช่น กัน รถทำสี รถแต่งสวย ต้องศึกษาในเรื่องนี้เหมือนกัน จอดตากแดดตากฝนไม่นานก็ขึ้นสนิม

ราคาขายต่อเป็นอย่างไรบ้าง ดีไหม

ก่อนตัดสินใจปั้นรถ ก็ต้องดูในเรื่องราคาขายต่อด้วย เป็นรถที่นิยมกันหรือไม่ ราคาดี ราคาไม่ตก ไม่เช่นนั้นก็เสียเงินเปล่าๆ โดยเฉพาะรถยนต์ ยิ่งเป็นรถที่เครื่องยนต์ใหญ่เกิน 1600 cc ด้วยแล้ว อย่างพวก Honda Accord, Toyota Camry หรือรถที่กินน้ำมัน แม้จะเครื่องยนต์เล็ก อย่าง Nissan NV ก็ไม่ไหวเหมือนกัน สุดท้ายแล้วราคาจะเหลือไม่กี่หมื่นบาท ขายต่อก็ยากอีกต่างหาก

กรณีเป็นรถสะสม รถนำเข้าเฉพาะรุ่น หรือรถที่ราคาไม่ตก ก็น่าทำ น่าปั้่น ทำให้สวย เรื่องนี้ก็ต้องศึกษา อย่างรถมอเตอร์ไซค์รุ่นเก่าบางรุ่นราคาสูงมาก เมื่อแต่งในสภาพเดิมสวย เก็บไว้ก็มีราคา แบบนี้ก็น่าปั้นรถ

ซื้อรถมือสองสภาพสมบูรณ์ดีกว่าไหม

การทำรถยนต์เก่า ซ่อม บูรณะ ปั้นรถ จะมีค่าใช้จ่ายหลักแสนเสมอ ไม่ว่าจะได้รถมาฟรี หรือ หลักพัน หลักหมื่น กรณีคำนวณค่าซ่อม ค่าทำรถอย่างละเอียดแล้ว เกิน 50,000 บาท ขึ้นไป ก็ให้พิจารณารถมือสองสภาพดีเป็นทางเลือก เพราะรถที่ได้มาในสภาพเดิมๆ จะมีความทนทานมากกว่า ทุกอย่างเดิม หาอะไหล่ง่าย ที่สำคัญเน้นรถเล็กประหยัดน้ำมันเอาไว้ก่อน

ส่วนกรณีของรถรุ่นเดียวกันก็จริง แม้ว่าราคาจะถูกกว่า แต่ก็ต้องพิจารณารายการซ่อมต่างๆ ว่ามีโอกาสจ่ายเพิ่มหรือไม่ เช่น ราคาถูกกว่า สภาพภายนอกอาจจะไม่สวย สีซีด อุปกรณ์ต่างๆ เก่ากว่า ในครั้งแรกก็จะซื้อตามงบ แต่เมื่อได้รถมาใช้งานแล้ว ขอให้เชื่อเถอะว่าจะไม่สามารถทำใจใช้รถที่สภาพไม่สวยต่อไปได้ พอมีเงินก็ต้องหาทางปรับแต่ง ซ่อมบำรุง สุดท้ายอาจจะเสียเงินมากกว่า เช่นการสีทั้งคันก็หลักหมื่นบาท เป็นต้น

จะมีโอกาสได้ใช้งานรถมากน้อยแค่ไหน

การตัดสินใจซ่อมรถ ทำรถ ปั้นรถ โดยเฉพาะในช่วงมีเงินมาก สติจะไม่มี บางคนเห็นว่ามีรถเก่า เงินก็มี ไม่เดือดร้อน เห็นคนนั้นแต่งรถ คนนี้ทำรถก็อยากจะทำบ้าง แต่ทำรถเสร็จแล้วหลักๆ ก็จอดไม่ได้ใช้ เพราะแม้สภาพรถจะสวย แต่การขับอาจจะไม่สบายเหมือนรถใหม่ หรือมีคุณสมบัติบางอย่างที่ไม่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน อย่างคันนี้ขับไม่สบาย นั่งไม่สบาย กินน้ำมันอีกต่างหาก

สรุป

การทำรถ ปั้นรถ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ต้องมีสติ คิดให้รอบคอบ รอบด้าน จากประสบการณ์นั้นก็จะมี 2 กรณี 1. อยากมีรถไว้ใช้งาน แต่เงินไม่ค่อยมี งบน้อย ด้วยความอยากได้ ก็เลยตัดสินใจซื้อ ด้วยหวังว่า จะค่อยๆ ทำไป ซ่อมไป หรือไม่คิดจะซ่อม ใช้ไปตามสภาพ อย่างรถตู้คันนี้ ซื้อมา 35,000 บาท ซ่อมหมดไปไม่กี่พันบาท ตั้งใจจะทำแค่นั้น แต่ไปๆ มาๆ แต่งหมดไป 2 แสนกว่าบาท กรณีอยากมีรถต้องเน้นรถเอามาใช้งานแบบไม่ต้องสนใจสภาพ อย่างรถกระบะ เป็นต้น ก็จะไม่คิดมาก แต่หากจะต้องใช้เป็นรถหลักในชีวิตประจำวันด้วยแล้ว ก็จะเริ่มใส่ใจสังคม เริ่มอายที่ใช้รถเก่า ก็จะเริ่มทำรถ สุดท้ายจะเสียเงินมากขึ้น

2. มีเงินเหลือใช้ และอยากจะทำรถในฝันสักคัน บางคนอยู่ดีๆ ก็เกิดอยากได้กระบะมาแต่งแบบวัยรุ่นสร้างตัว เริ่มตั้งแต่ หารถ หาเครื่อง ทำสี ทำล้อ ฯลฯ รวมๆ แล้วก็บานปลายหมดไปหลักแสนบาท และก็เน้นจอดเป็นหลัก เพราะมีรถหลายคันที่มีความสบายในการขับขี่มากกว่า สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ และรอวันกลับไปอยู่ในสภาพเดิม