รวมตัวอย่างข้อสอบใบขับขี่เกี่ยวกับการขับรถยนต์ จักรยนต์ในสภานการณ์ต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องศึกษา เพื่อให้เข้าใจและใช้รถได้อย่างปลอดภัย สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุลงได้ หากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างขณะขับรถ ข้อสอบในหมวดนี้ค่อนข้างเยอะ เพราะมีความสำคัญ
ตัวอย่างข้อสอบเกี่ยวกับการขับรถในสถานการณ์ต่างๆ
หากเกิดฝนตกหนักจนมองเห็นทางไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. จอดรถบริเวณที่ปลอดภัย เปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟฉุกเฉิน
ข. เปิดไฟหน้าเร่งความเร็วผ่านบริเวณที่ฝนตกหนัก.
ค. เร่งความเร็วให้ผ่านบริเวณที่ฝนตกโดยเร็ว
ง. จอดรถทันที
เพื่อความปลอดภัยเมื่อออกรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ประมาณ 3-4 เมตร ควรทดสอบอะไรเป็นอันดับแรก
ก. ทดสอบไฟสูง
ข. ทดสอบไฟเลี้ยว
ค. ทดสอบสัญญาณแตร
*. ง. ทดสอบระบบเบรก.
ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถขณะฝนตกคือข้อใด
ก. เปิดไฟหรี่
ข. ขับรถช้าๆ โดยไม่ต้องเปิดไฟ
*. ค. เปิดไฟส่องสว่าง
ง. บีบแตรแล้วขับให้เร็วเพื่อป้องกันรถคันหลังชนท้าย
ข้อใดที่ทำให้การหยุดรถต้องใช้ระยะทางมากขึ้นจึงสามารถหยุดรถได้
ก. ความรวดเร็วในการตัดสินใจ
ข. ความเร็วในการเหยียบเบรก
*. ค. น้ำหนักบรรทุกเพิ่มมากขึ้น
ง. น้ำหนักบรรทุกลดน้อยลง
ข้อใดไม่ควรใช้เบรกมือ
ก. ติดไฟแดง.
*. ข. ขับรถลงทางลาดชัน
ค. จอดรถ
ง. หยุดบนทางลาดชัน
การขับรถขณะฝนตก.ข้อใดที่ผู้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติ
* ก. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทาง
ข. เปิดที่ปัดน้ำฝน
ค. ใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น
ง. ลดความเร็วของรถลงกว่าปกติ
เมื่อเกิดรถเสีย ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. จอดรถทิ้งไว้กลางถนน
ข. นำกิ่งไม้วางไว้ท้ายรถ
ค. เผาป่าข้างทางหากเป็นกลางคืน
*. ง. นำรถจอดเข้าข้างทาง, เปิดไฟฉุกเฉิน
สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถสีใด ที่ไม่ควรปรากฏขณะขับรถ
*. ก. สีแดง
ข. สีเขียว
ค. สีเหลือง
ง. สีฟ้า
การจับพวงมาลัยนิ้วมือควรอยู่ในลักษณะใด
*. ก. นิ้วมือทั้งห้า จับพวงมาลัยให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตัว
ข. นิ้วมือทั้งห้า กำพวงมาลัยให้แน่นที่สุด
ค. นิ้วมือทั้งห้าแตะที่พวงมาลัย สามารถหมุนพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว
ง. ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับพวงมาลัยเพียงสองนิ้ว
เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เหยียบเบรกทันที แล้วค่อยๆออกตัวเร่งความเร็วใหม่
ข. ถอนคันเร่ง.เหยียบเบรกเพื่อใช้เกียร์ต่ำ
ค. ถอนคันเร่ง.จับพวงมาลัยให้มั่นประคองรถต่อไป
*. ง. ตั้งสติให้มั่น จับพวงมาลัยให้ดี เร่งความเร็วหนีให้พ้นไป
ขณะขับรถขึ้นทางลาดชัน ถ้าเครื่องยนต์ดับควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. เหยียบเบรก.ดึงเบรกมือ เข้าเกียร์ว่าง.และ ติดเครื่องใหม่
ข. เหยียบเบรก.ดึงเบรกมือ และ ติดเครื่องใหม่
ค. เปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำ ดึงเบรกมือ และติดเครื่องใหม่
ง. ปล่อยให้รถไหลไป แล้วค่อยประคองรถ
ขณะขับรถ ถ้ากระจกบังลมหน้ารถแตกร้าว ควรปฎิบัติอย่างไร
*. ก. ตั้งสติ ลดความเร็ว จอดรถข้างทาง.เปิดไฟฉุกเฉิน
ข. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และขับรถต่อไป
ค. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และหยุดรถทันที
ง. ตั้งสติ จอดรถข้างทาง
เพื่อความปลอดภัยในการขับรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบสิ่งใดของรถก่อนเป็นลำดับแรก
*. ก. ที่ปัดน้ำฝน
ข. น้ำในหม้อน้ำ
ค. น้ำกลั่นแบตเตอรี่
ง. ตรวจเช็คประตูหน้าต่างรถ
ข้อใดเปิดไฟหน้ารถไม่ถูกต้อง
ก. เมื่อไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าในระยะต่ำกว่า 150 เมตร
*. ข. เมื่อต้องเร่งรีบไปทำงาน
ค. เมื่อฝนตกหนัก
ง. เมื่อมีควันไฟปกคลุมถนน
ในขณะที่ขับรถอยู่ มีกลิ่นเหม็นไหม้ แอร์เริ่มไม่เย็น เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ควรปฏิบัติอย่างไร
ก.ขั บต่อไปเรื่อยๆ
ข. ลดความเร็วลงแล้วขับต่อไป
ค. หยุดรถทันทีกลางถนนห้ามเคลื่อนย้าย
*. ง. จอดรถในที่ปลอดภัยแล้วเรียกช่างมาตรวจเช็ค
การหยุดรถบนทางลาดชัน ควรปฏิบัติตามลำดับอย่างไรจึงจะปลอดภัย
*. ก. เหยียบคลัทช์ เหยียบเบรก.ดึงเบรกมือ และปลดเกียร์ว่าง
ข. เหยียบคลัทช์ เหยียบเบรก.ปลดเกียร์ว่าง
ค. เหยียบคลัทช์ เหยียบเบรก.ดึงเบรกมือ
ง. เหยียบเบรกแล้วดึงเบรกมือ
การหมุนพวงมาลัยรถ ขณะจอดรถอยู่กับที่จะมีผลอย่างไร
ก. ทำให้หมุนพวงมาลัยง่ายขึ้น
*. ข. ดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ
ค. สิ้นเปลืองน้ำมันเพาเวอร์
ง. สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
การหยุดรถอย่างกะทันหัน(รถไม่ใช้เบรก.ABS) ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เหยียบเบรกแรงๆโดยไม่ต้องถอนเบรก
ข. เหยียบคลัทช์ก่อน แล้วจึงเหยียบเบรก
ค. เหยียบเบรกและคลัทช์พร้อมกัน
*. ง. เหยียบและปล่อยเบรกสลับกัน (ย้ำเบรกซ้ำๆ)
รถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน(รถไม่ใช้เบรก.ABS) จะมีผลอย่างไร
ก. จะหยุดรถได้ตามระยะที่กำหนด
*. ข. ล้อจะล็อค.และรถจะหมุน
ค. รถจะค่อยๆ ชะลอความเร็วลง
ง. ล้อจะล็อค.และรถจะหยุดทันที
ขณะขับรถยางรถแตก.จะมีอาการอย่างไร
ก. พวงมาลัยรถจะไร้น้ำหนัก
*. ข. พวงมาลัยจะหนัก.รถจะเอียง
ค. รถหยุดกะทันหัน
ง. เบรกจะไม่ทำงาน
ในขณะขับรถ ยางรถแตกหรือระเบิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. คุมสติ บังคับพวงมาลัย ลดความเร็วลงและไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหัน
ข. รีบเหยียบเบรกให้เร็วที่สุด
ค. หมุนพวงมาลัยอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเข้าข้างทาง
ง. ปลดเกียร์ว่างแล้วรีบเหยียบเบรก
ในขณะที่กำลังขับรถ ถ้าฝากระโปรงหน้ารถเปิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ลดความเร็วแล้วจอดข้างทาง.เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย
ข. หักเลี้ยวรถเข้าข้างทางทันที เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย
ค. เบรกกะทันหัน
ง. เหยียบคันเร่งให้มิดเพื่อฝากระโปรงจะได้กระแทกปิด
ข้อใดเป็นวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อรถเกิดไฟลัดวงจร
ก. หาผ้าหนา ๆ มาตบ
*. ข. ตัดกระแสไฟ หรือหาทางงัดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อน
ค. วิ่งหาน้ำมันมาราด
ง. ใช้ทรายสาดใส่
การปรับระดับที่นั่งคนขับห่างเกินไป จะมีผลอย่างไร
ก. ทำให้เข้าเกียร์ได้ง่าย
ข. ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจนดีมาก.สามารถตัดสินใจได้ดี
*. ค. บังคับพวงมาลัยลำบาก.ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ไม่สะดวก.เกิดเหตุฉุกเฉินไม่สามารถใช้คลัทช์ และเบรกได้
ง. ทำให้เบรกรถสะดวก
การตรวจสอบว่าเข็มขัดนิรภัยยังใช้งานได้ดีหรือไม่ ควรตรวจสอบอย่างไร
*. ก. กระตุกดึงสายเข็มขัดอย่างเร็ว แล้วสายเข็มขัดต้องล็อค
ข. ดูว่าเป็นของใหม่หรือไม่
ค. ดูว่าเข็มขัดมียี่ห้อหรือไม่
ง. ต้องมีสีเข้มๆ
ถ้ารถเสียหลักลื่นไถลพร้อมเสียการทรงตัว ควรปฏิบัติอย่างไรเป็นลำดับแรก
ก. รีบเข้าเกียร์ต่ำเพื่อชะลอความเร็ว
ข. ค่อยๆ เหยียบแป้นคลัทช์
ค.หมุนพวงมาลัยไปซ้ายบ้าง.ขวาบ้าง
*. ง. ลดความเร็วจับพวงมาลัยให้มั่น
การจอดรถชิดขอบทาง.ล้อหน้าควรอยู่ในลักษณะใด
ก. หันเข้าหาขอบทาง
ข. อยู่อย่างไรก็ได้
*. ค. ตรงและขนานกับขอบทางหรือฟุตบาต
ง. หันออกจากขอบทาง
การเข้าเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่งมีผลเสียอย่างไร
ก. ไม่มีผลต่อส่วนใดของรถ
*. ข. เข้าเกียร์ยากและทำให้เกียร์เสียเร็วกว่าปกติ
ค. ทำให้น้ำมันเกียร์หมดเร็ว
ง. เครื่องยนต์กินน้ำมันเครื่อง
การขับรถถอยหลังควรใช้ความเร็วระดับใด
*. ก. ถอยช้าๆ แล้วใช้ความระมัดระวัง
ข. ถอยแบบไหนก็ได้
ค. ถอยเหมือนกับเดินหน้า
ง. ใช้ความเร็วตามสภาพของรถ
ข้อใดเป็นการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ถูกต้อง
*. ก. ขึ้นเบรกมือ-ปลดเกียร์ว่าง.-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-เหยียบคลัทช์-สตาร์ทเครื่องยนต์
ข. ปลดเกียร์ว่าง-ขึ้นเบรกมือ-สตาร์ทเครื่องยนต์
ค. เหยียบคลัทช์-สตาร์ทเครื่องยนต์
ง. ปลดเบรกมือ-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-สตาร์ทเครื่องยนต์
หากเกิดฝนตกหนักจนมองเห็นทางไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. จอดรถทันที
ข. เปิดไฟหน้าเร่งความเร็วผ่านบริเวณที่ฝนตกหนัก
ค. เร่งความเร็วให้ผ่านบริเวณที่ฝนตกโดยเร็ว
*. ง. จอดรถบริเวณที่ปลอดภัย เปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟฉุกเฉิน
การจับพวงมาลัยขณะขับรถทางตรง.มือขวาและซ้ายของผู้ขับขี่ ควรอยู่ในตำแหน่งลักษณะใดของหน้าปัดนาฬิกา
*. ก. ตำแหน่งเลข.2 และเลข.10
ข. ตำแหน่งเลข.4 และเลข.10
ค. ตำแหน่งเลข.3 และเลข.10
ง. ตำแหน่งเลข.6 และเลข.10
เมื่อขับรถในขณะฝนตก.ท่านไม่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เปิดที่ปัดน้ำฝน
*. ข. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดทาง
ค. ขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
ง. ลดความเร็วของรถ
เมื่อขับรถในขณะฝนตก.ท่านไม่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เปิดที่ปัดน้ำฝน
*. ข. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดทาง
ค. ขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
ง. ลดความเร็วของรถ
จากรูป หากท่านต้องการที่จะขับตรงผ่านไป ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังทุกครั้งก่อนถึงทางแยก
ข. ระวังรถด้านซ้ายเพราะอยู่ใกล้ช่องทางของเรา
ค. ระวังรถทางขวาเพียงอย่างเดียว และขับต่อไป
ง. ขับด้วยความเร็วเท่าเดิม
จากรูป หากท่านต้องการที่จะขับตรงผ่านไป ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ชะลอรถและให้รถทางขวามือขับผ่านไปก่อน
ข. ขับรถต่อไปได้เลยเพราะเราคือทางเอก
ค. ขับด้วยความเร็วเท่าเดิม
ง. เร่งเครื่องยนต์เพื่อขับผ่านไปก่อน
จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวา ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. หยุดรถให้ห่างเพื่อความปลอดภัย
ข. ขับไปในช่องทางขวาเพื่อเลี้ยวได้เลย
ค. เลี้ยวพร้อมกับรถคันหน้าได้ทันที
*. ง. ชะลอรถเนื่องจากรถคันหน้าจะเลี้ยวซ้าย
จากรูป หากท่านพบเห็นสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นสีเหลือง.ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. เร่งความเร็วและขับผ่านไป
ข. บีบแตรและขับผ่านไป
*. ค. ค่อยๆ เหยียบเบรกย้ำๆ เพื่อเตือนรถข้างหลังระวังและเตรียมหยุด
ง. เหยียบเบรกเพื่อหยุดรถทันที
จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวซ้าย ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ลดความเร็ว และระมัดระวังรถด้านซ้าย รวมทั้งคนเดิมข้ามถนน
ข. เลี้ยวซ้ายได้ทันที
ค. เร่งความเร็วเพื่อให้สามารถเลี้ยวได้เร็ว
ง. บีบแตรก่อนทำการเลี้ยวรถ
จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวซ้าย ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. ขับตามรถคันหน้าให้ชิดและทำการเลี้ยวทันที
*. ข. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ชะลอรถ หยุดให้คนเดินถนนข้ามทางก่อน
ค. บีบแตรเพื่อให้คนเดินข้ามถนนด้วยความรวดเร็ว
ง. เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเพื่อเตือนรถด้านหลัง
จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวา ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. ควรเลี้ยวให้ทันเนื่องจากมีรถคันใหญ่ขวางรถฝั่งตรงข้าม
ข. เร่งความเร็วเพื่อเลี้ยวขวาทันที
*. ค. หยุดรอในตำแหน่งที่จะเลี้ยวและให้รถด้านตรงข้ามผ่านไปก่อน
ง. ขับรถไปในช่องทางด้านขวาเพื่อทำการเลี้ยว
จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวา ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
*. ก. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ชะลอรถ หยุดให้คนเดินถนนข้ามทางก่อน
ข. ขับตามรถคันหน้าให้ชิดและทำการเลี้ยวทันที
ค. บีบแตรเพื่อให้คนเดินข้ามถนนด้วยความรวดเร็ว
ง. ขับรถออกในช่องทางขวาเพื่อทำการเลี้ยว
จากรูป หากท่านต้องการขับตรงไป ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร
ก. บีบแตรเพื่อให้รถคันหน้าเร่งความเร็ว
ข. ขับต่อไปด้วยความเร็วเท่าเดิม
*. ค. ลดความเร็วลง.และให้ทางแก่รถที่เลี้ยวออกมา
ง. เปิดไฟฉุกเฉินและขับผ่านไปด้วยความรวดเร็ว
จากรูป รถคันใดอยู่ในจุดบอดของรถคันสีขาว
*. ก. รถ ค.
ข. รถ ก. และรถ ข.
ค. รถ ข. และรถ ค.
ง. รถ ก. และรถ ค.
ด้วยสาเหตุใด ผู้ขับขี่จะต้องหันหน้ามองไปทางด้านข้างก่อนทำการเปลี่ยนช่องจราจร
ก. จะทำให้สามารถเปลี่ยนช่องจราจรได้รวดเร็วมากขึ้น
*. ข. เพื่อตรวจดูจุดบอดของรถด้านขวา
ค. เพื่อเปลี่ยนช่องจราจรในกรณีที่ไม่ต้องการเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว
ง. เพื่อให้สามารถเห็นผู้คนที่เดินอยู่บริเวณทางเดินเท้า
ข้อใดคือความหมายที่ถูกต้องของจุดบอด
ก. บริเวณด้านหลังของรถที่กระจกมองหลังจับภาพไม่ได้
*. ข. บริเวณที่คนขับไม่สามารถมองเห็นได้ชัดในขณะขับรถ
ค. บริเวณด้านหน้าของรถที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้
ง. บริเวณด้านซ้ายของรถที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้
ถ้าเครื่องดับขณะกำลังเคลื่อนที่ออกจากทางลาดชัน ท่านควรปฏิบัติอย่างไรเป็นลำดับแรก
*. ก. ทำการเบรกทันทีเพื่อไม่ให้รถไหล
ข. เปลี่ยนไปเข้าเกียร์ว่าง.
ค. ติดเครื่องใหม่
ง. เปิดไฟฉุกเฉิน
การขับขี่ขึ้นหรือลงทางลาดชัน ควรใช้เกียร์ใด
*. ก. เกียร์ต่ำ
ข. เกียร์สูง.
ค. เกียร์ว่าง.
ง. เกียร์ใดก็ได้
ในการขับขี่ลงทางลาดชัน ผู้ขับขี่ควรใช้เกียร์ต่ำเนื่องจากสาเหตุใด
ก. เพื่อเพิ่มกำลังของรถ
*. ข. เพื่อหน่วงความเร็วของรถ
ค. เพื่อลดความร้อนของเครื่องยนต์
ง. เพื่อเพิ่มความเร็วของรถ
เพราะเหตุใดจึงไม่ควรใช้เบรกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานในขณะขับขี่ลงทางลาดชัน
ก. จะทำให้เสียเวลาในการเดินทาง
ข. จะทำให้เปลืองน้ำมัน
*. ค. จะทำให้ผ้าเบรกไหม้
ง. จะทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า
ในการขับขี่ลุยน้ำ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ลดความเร็วลง.แต่เร่งเครื่องยนต์ให้มากกว่าปกติเล็กน้อย
ข. เปิดไฟฉุกเฉิน
ค. ขับรถด้วยความเร็วมากขึ้น
ง. ขับรถด้วยความเร็วปกติ
เหตุใดขณะขับรถลุยน้ำจึงต้องเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกติเล็กน้อย
ก. เพื่อให้รถมีความเร็วคงที่
ข. เพื่อให้เครื่องยนต์ร้อน
ค. เพื่อให้รถมีความเร็วมากขึ้น
*. ง. เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับ
ท่านควรปฏิบัติอย่างไรขณะขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม
*. ก. ขับช้าๆ ตามหลังรถคันหน้าในระยะห่างพอสมควร
ข. พยายามไม่ใช้เบรกโดยเด็ดขาด
ค. พยายามขับจี้ท้ายรถคันหน้าตลอดเวลา
ง. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเวลา
หลังจากขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม ท่านควรทดสอบระบบใดต่อไปนี้
ก. ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์
ข. ระบบไฟฟ้า
*. ค. ระบบเบรก
ง. ระบบช่วงล่าง
ข้อใดต่อไปนี้คือประโยชน์สูงสุดของการชะลอรถด้วยเครื่องยนต์ในขณะลงทางลาดชัน
*. ก. ลงทางลาดชันด้วยความปลอดภัย
ข. ลดการสึกหรอของผ้าเบรก.
ค. ช่วยประหยัดน้ำมัน
ง. เพิ่มการทรงตัวของรถ
เพราะเหตุใดรถจึงลื่นไถลได้ง่ายขณะฝนตกใหม่ๆ
ก. น้ำฝนทำให้ถนนชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ
*. ข. น้ำฝนจะกลายเป็นแผ่นฟิล์มรองรับระหว่างยางกับพื้นถนน
ค. ถนนคอนกรีตดูดซับน้ำฝนได้เป็นอย่างดี
ง. พื้นถนนปรับอุณหภูมิเร็วเกินไป
ข้อใดไม่ควรปฏิบัติเมื่อขับขี่ในขณะฝนตกหนัก
*. ก. ขับรถเร็วและกระแทกเบรกรถอย่างรุนแรง
ข. ขับด้วยความเร็วต่ำ
ค. เปิดไฟหน้ารถ
ง. หยุดรถรอบนถนน
ข้อใดต่อไปนี้ปฏิบัติได้ถูกต้องสำหรับการขับขี่ในเวลากลางคืน
ก. เปิดไฟสูงตลอดเวลาขณะขับขี่
*. ข. ขับให้ช้ากว่าปกติหรือไม่เร็วกว่าสายตาที่มองเห็น
ค. ขับให้เร็วได้ตามปกติ
ง. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเวลาขณะขับขี่
หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติสิ่งใดเป็นอันดับแรก
ก. แจ้งกู้ภัย
ข. แจ้งตำรวจ
ค. แจ้งประกันภัยรถยนต์
*. ง. ให้สัญญาณเพื่อเตือนให้รถอื่นทราบ
หากมีผู้บาดเจ็บหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ท่านควรปฏิบัติอย่างไรหากตัวท่านมิได้รับบาดเจ็บ
*. ก. ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล
ข. ไม่ต้องสนใจหากผู้บาดเจ็บไม่ใช่คนที่ท่านรู้จัก.
ค. แจ้งตำรวจที่อยู่บริเวณใกล้เคียง.
ง. รีบแจ้งหน่วยกู้ภัยให้เร็วที่สุด
ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับการขับขี่อย่างประหยัดน้ำมัน
ก. รถจะประหยัดน้ำมันมากขึ้นหากวิ่งด้วยความเร็วที่สูงขึ้น
*. ข. รถจะประหยัดน้ำมันหากขับด้วยความเร็วคงที่
ค. รถจะประหยัดน้ำมันมากขึ้นหากเร่งเครื่องบ่อยครั้ง.
ง. รถจะประหยัดน้ำมันมากขึ้นหากวิ่งด้วยความเร็วที่ไม่คงที่
หากกำลังขับขี่รถอยู่บนถนน แล้วฝนเริ่มตก.ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ลดความเร็วของรถลง
ข. เร่งความเร็วของรถเพื่อให้ผ่านฝนไปให้เร็ว
ค. เปิดไฟฉุกเฉินและรีบขับผ่านบริเวณนั้นไป
ง. หยุดรถข้างทางทันที
เมื่อขับรถในเวลากลางคืน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ทิ้งระยะห่างระหว่างรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ
ข. เปิดไฟฉุกเฉินขณะทำการแซงรถคันหน้า
ค. พยายามขับรถเข้าไปให้ใกล้กับรถคันหน้าเพื่อให้รถคันหน้าเห็นรถเราได้ชัดเจน
ง. ใช้ไฟสูงตลอดทางของการขับรถ
ก่อนการขับรถเป็นระยะทางไกลๆ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังก่อนการเดินทาง
*. ข. พักผ่อนให้เพียงพอ
ค. รับประทานอาหารก่อนการเดินทาง.
ง. หาเพื่อนนั่งไปด้วยขณะเดินทาง
จากสถานการณ์ดังรูป หากต้องการจะเคลื่อนที่ต่อไป ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไรเป็นลำดับแรก
ก. เปิดสัญญาณไฟ
*. ข. ตรวจสอบความปลอดภัยทางด้านขวา
ค. บีบแตรให้สัญญาณ
ง. ลดกระจกแล้วโบกมือขอทาง
เมื่อต้องขับรถเข้าใกล้ทางรถไฟที่ไม่มีแผงกั้น ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้อง
*. ก. ชะลอรถและควรเตรียมพร้อมที่จะหยุดรถตลอดเวลา
ข. เพิ่มความเร็วเพื่อให้ผ่านไปได้เร็ว
ค. บีบแตรเตือนเพื่อความปลอดภัย
ง. เปิดกระจกเพื่อฟังเสียงสัญญาณเตือนรถไฟ
เมื่อขับผ่านทางที่มีป้ายเตือนว่า “ระวังทางข้างหน้าหินหล่นทับเส้นทางบ่อย” หรือป้ายเตือนดังในรูป ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ชะลอความเร็วลง.ขับขี่ด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
ข. รีบเร่งความเร็วเพื่อผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ค. ไม่ต้องทำอะไร เพราะโอกาสที่จะเกิดยาก.
ง. หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
เมื่อพบว่าไฟไหม้เครื่องยนต์ขณะขับรถ ผู้ขับรถควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ขับรถลงแม่น้ำข้างทาง
ข. จอดและสละรถทันที
*. ค. ตั้งสติ ค่อยๆ ขับรถจอดข้างทาง
ง. แจ้งกู้ภัยทางหลวง
สิ่งใดต่อไปนี้มีผลทำให้รถเปลืองน้ำมัน
ก. ดอกยางสึกหรอ
ข. ขับรถด้วยความเร็วคงที่
ค. ระยะการปรับเบรกปกติ
*. ง. บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด
ปัจจัยใดต่อไปนี้มีผลต่อการเกิดสถานการณ์อันตรายมากที่สุด
*. ก. ความไม่พร้อมของคนขับ
ข. ลักษณะทางภูมิศาสตร์
ค. การเคลื่อนที่ของรถ หรือคนเดินเท้า
ง. สภาพผิวจราจร
ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการขับรถอย่างปลอดภัย
ก. หากง่วงนอนมากควรขับรถด้วยความเร็วสูง.เพื่อให้ตื่นตัว
*. ข. การเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าในขณะฝนตกควรมากกว่าการขับรถในสภาวะปกติ
ค. ไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง.
ง. ควรขับรถด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.เพื่อถึงที่หมายเร็วขึ้น
จากรูป หากท่านต้องการแซงรถข้างหน้าแล้วกลับช่องทางเดินรถด้านซ้าย ท่านจะต้องให้สัญญาณไฟอย่างไร
*. ก. ตรวจสอบความปลอดภัยแล้วเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวาก่อนแซง.
ข. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายขณะแซง.
ค. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวาก่อนและตามด้วยสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายขณะแซง.
ง. ไม่จำเป็นต้องเปิดสัญญาณไฟหากรถคันหน้าขับด้วยความเร็วต่ำ
ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใดจึงจะปลอดภัยเมื่อรถคันหน้าหยุด
ก. หนึ่งช่องรถ
ข. 3 เมตร
ค. 5 เมตร
*. ง. ห่างพอสมควรและสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย
สถานการณ์ใดใช้ไฟฉุกเฉินได้อย่างเหมาะสม
ก. เปิดไฟฉุกเฉินในขณะที่หมอกลงจัด
ข. เปิดไฟฉุกเฉินเมื่อกำลังจะเลี้ยวซ้ายบริเวณทางแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร
ค. เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อให้ผู้ขับขี่ท่านอื่นทราบว่าตนจะวิ่งตรงไป
*. ง. เปิดไฟฉุกเฉินเมื่อรถจอดเสียอยู่บริเวณไหล่ทาง
รถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบเบรกกะทันหัน (รถที่ไม่มีระบบเบรก.ABS) จะมีผลอย่างไร
ก. จะหยุดรถได้ตามระยะที่กำหนด
ข. รถจะค่อยๆ ชะลอความเร็วลง.
*. ค. ล้อจะล็อกและรถอาจจะหมุน
ง. ล้อจะล็อกและรถจะหยุดทันที
การหยุดรถอย่างกะทันหัน (รถที่ไม่มีระบบเบรก.ABS) ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. เหยียบเบรกสลับกับปล่อยเบรกเป็นจังหวะ
ข. เหยียบเบรกแรงๆ
ค. เหยียบเบรกเท้าสลับกับดึงเบรกมือ
ง. เหยียบเบรกเท้าและดึงเบรกมือพร้อมกัน
ข้อใดปฏิบัติไม่ถูกต้องในการเบรกฉุกเฉิน
ก. หักพวงมาลัยหลบเมื่อจำเป็นต้องหลบการปะทะด้านหน้า
ข. มือทั้งสองข้างต้องจับอยู่ที่พวงมาลัย
*. ค. ใช้เบรกมือช่วย
ง. หลีกเลี่ยงการเหยียบกระแทกเบรกสำหรับเบรกที่ไม่ใช่ระบบเบรก.ABS
การจอดรถลักษณะใดที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
*. ก. จอดรถซ้อนคัน
ข. จอดรถชิดขอบทางด้านซ้าย
ค. จอดรถในลานจอดรถ
ง. จอดรถภายในอาคารจอดรถ
รูปใดต่อไปนี้ ห้ามจอด
ก. รูป 1. และรูป 2.
*. ข. รูป 2. และรูป 3.
ค. รูป 1. และรูป 3.
ง. ทั้งรูป 1. 2. และ 3.
หากท่านจอดรถชิดขอบทางทางด้านซ้ายอยู่ และต้องการที่จะเคลื่อนตัวออก.ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. มองดูรถที่ตามมาผ่านกระจกมองข้างและกระจกมองหลัง.จากนั้นเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวา
ข. เปิดสัญญาณไฟเพื่อเตือนให้รถคันที่ตามมาชะลอความเร็วลง.
ค. ไม่จำเป็นต้องหันมองดูรถที่จอดอยู่ข้างหน้า มองแค่รถที่ตามมาก็พอ
ง. ให้สัญญาณมือเพื่อขอทาง
เมื่อฝนเริ่มตกหนักในขณะที่ท่านขับรถอยู่ในเขตที่จำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ขับด้วยความเร็วเท่าเดิม
*. ข. ชะลอความเร็วลง.
ค. ขับรถเข้าข้างทางและรอจนกว่าฝนจะหยุดตก.
ง. เร่งความเร็ว
สาเหตุใดต่อไปนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการชนท้าย
ก. คนข้ามถนนตัดหน้า
ข. สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน
*. ค. ขับรถชิดคันหน้ามากเกินไป
ง. การหยุดรถทุกๆ แยก.
การขับรถทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้ามากเกินไป จะเกิดผลเสียอย่างไรกับสภาพการจราจร
ก. การจราจรคล่องตัวมากขึ้น
ข. จะขับรถด้วยความปลอดภัยมากขึ้น
ค. ลดอุบัติเหตุ
*. ง. เกิดปัญหาการจราจรติดขัด
เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่ต้องทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าเป็นระยะเท่าใด
*. ก. ระยะห่างที่เหมาะสมกับความเร็วของรถ
ข. 2 เมตร
ค. 3 เมตร
ง. ไม่น้อยกว่า 4 เมตร
ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้องในการขับขี่
*. ก. เมื่อรถคันหลังขับตามมาในระยะกระชั้นชิด ควรเพิ่มความเร็ว
ข. น้ำหนักและความเร็วของตัวรถมีผลต่อระยะทางในการหยุดรถ
ค. ระยะปลอดภัยของรถใหญ่จะต้องมีมากกว่าระยะปลอดภัยของรถยนต์
ง. เมื่อระยะห่างกับรถคันหน้าน้อยเกินไป ควรลดความเร็ว
การเปลี่ยนช่องทางจราจร ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เปลี่ยนช่องจราจรเมื่อใดก็ได้
*. ข. มองกระจกข้าง.ให้สัญญาณแล้วเปลี่ยนช่องจราจรเมื่อเห็นว่าปลอดภัย
ค. เปลี่ยนช่องจราจรโดยเร็วเพื่อหลบรถคันอื่น
ง. ให้สัญญาณมือและสัญญาณไฟแล้วเปลี่ยนช่องจราจรได้เลย
หากท่านเห็นรถบรรทุกที่อยู่ข้างหน้าเปิดไฟเลี้ยวซ้ายแต่กำลังเคลื่อนไปทางขวา ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. รักษาระยะห่างไว้และรอให้รถใหญ่เคลื่อนไปในทิศทางที่แน่นอน
ข. ขับเข้าไปใกล้ๆ เพื่อเตรียมแซง
ค. ให้เข้าใจว่าผู้ขับขี่รถใหญ่นั้นเปิดสัญญาณไฟผิด
ง. เตรียมแซงเมื่อรถใหญ่เริ่มชะลอความเร็ว
จากรูป รถคันสีน้ำเงิน หรือรถคันสีเขียว มีสิทธิที่จะได้ไปก่อน
ก. รถคันสีน้ำเงิน
*. ข. รถคันสีเขียว
ค. รถคันไหนไปก่อนก็ได้
ง. มีสิทธิที่จะไปพร้อมๆ กัน
กรณีที่ท่านเห็นรถคันอื่นให้สัญญาณเพื่อเลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องทางการเดินรถ ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ชะลอความเร็วและให้ทาง
ข. เร่งความเร็วเพื่อจะไปก่อน
ค. หยุดรถ
ง. จอดรถ
จากรูป รถคันใดจะต้องให้ทาง
*. ก. รถคันสีขาว
ข. รถคันสีแดง
ค. รถที่มีความเร็วสูงกว่า
ง. รถที่มีความเร็วต่ำกว่า
รูปใดแสดงการกลับรถที่ถูกต้อง
ก. รูป 1.
ข. รูป 2.
*. ค. รูป 3.
ง. รูป 1. และ รูป 3.
ข้อใดต่อไปนี้เป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง
ก. ไม่แซงหากรถคันหน้ากำลังแซงอยู่
*. ข. แซงขณะที่รถข้างหลังกำลังจะแซงรถของท่าน
ค. ไม่แซงหากมีรถวิ่งสวนมาในระยะใกล้
ง. แซงได้หากรถข้างหน้าของท่านเปิดไฟเลี้ยวซ้ายและชะลอความเร็วลง
จากรูป หากรถที่ท่านกำลังจะแซงเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวา ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ชะลอความเร็วและรอจนกว่ารถคันหน้าเลี้ยวผ่านไป
ข. เพิ่มความเร็วของรถและแซงผ่านไป
ค. ให้สัญญาณไฟสูงเพื่อบอกให้รู้ว่าจะแซงผ่านไปก่อน
ง. ให้สัญญาณแตรเพื่อบอกให้รู้ว่าจะแซงผ่านไปก่อน
ข้อใดต่อไปนี้กล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับการแซงรถคันหน้าที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกัน
ก. ใช้ระยะทางและเวลาในการแซงน้อยลง
ข. ใช้ระยะทางมากขึ้น เวลาในการแซงเท่าเดิม
ค. ใช้ระยะทางเท่าเดิม เวลาในการแซงมากขึ้น
*. ง. ใช้ระยะทางและเวลาในการแซงมากขึ้น
หากท่านขับรถด้วยความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแต่ท่านรู้สึกว่าเร็วเกินไป ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ชะลอความเร็วลงจนท่านคิดว่าปลอดภัย
ข. ขับให้ใกล้เคียง.100 กม.ต่อชั่วโมง
ค. ออกจากเส้นทางนั้น
ง. หยุดรถของท่านทันที
การขับขี่ในทางลักษณะใดที่ไม่จำเป็นต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว
ก. ทางเลี้ยวซ้ายเข้าซอย
*. ข. ทางบังคับเลี้ยว
ค. ทางเลี้ยวซ้ายออกจากซอย
ง. ทางกลับรถ
การเปิดไฟสูงในสถานการณ์ใดถูกต้อง
*. ก. เปิดไฟสูงขณะที่ไม่มีรถสวนทาง
ข. เปิดไฟสูงขณะฝนตกหนัก
ค. เปิดไฟสูงเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ
ง. เปิดไฟสูงเมื่อขับรถตามหลังคันหน้า
เมื่อรถของท่านเสียบริเวณกลางถนน ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
ก. นำสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมมาไว้ท้ายรถของท่าน
ข. จอดรถทิ้งไว้กลางถนน
*. ค. เปิดไฟฉุกเฉินและนำรถจอดเข้าข้างทาง
ง. ก่อกองไฟข้างทางในกรณีที่รถท่านเสียเวลากลางคืน
ท่านควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินในกรณีใด
*. ก. เมื่อรถของท่านเสีย
ข. เมื่อท่านขับรถด้วยความเร็วต่ำขณะที่กำลังหลงทาง
ค. เมื่อท่านขับรถด้วยความเร็วต่ำเนื่องจากฝนตกหนัก
ง. เมื่อท่านต้องการขับผ่านสี่แยกไปในทิศทางตรง.
ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไม่ถูกต้องสำหรับการเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินตลอดเวลา
ก. ทำให้ไม่สามารถส่งสัญญาณไฟเลี้ยวได้
*. ข. ทำให้ผู้ขับขี่คันอื่นเข้าใจว่าเป็นรถที่ขับเร็ว
ค. ทำให้ผู้ขับขี่คันอื่นสับสนว่ารถคันที่เปิดไฟฉุกเฉินกำลังเลี้ยวไปด้านใดด้านหนึ่ง
ง. ทำให้ผู้ขับขี่คันอื่นคิดว่าเป็นรถที่จอดนิ่งอยู่
การหยุดรถในสถานการณ์ใดจะใช้ระยะทางมากกว่าปกติ
*. ก. ขณะฝนตก
ข. ตอนกลางคืน
ค. ขณะที่มีลมแรง
ง. ขณะมีหมอก.
สิ่งใดเป็นปัจจัยที่ทำให้การเบรกด้อยประสิทธิภาพ
ก. การดูแลเอาใจใส่สภาพเครื่องยนต์และระบบช่วงล่าง
ข. ความว่องไวในการตอบสนองของร่างกายดีเยี่ยม
*. ค. การดื่มสุราก่อนขับรถ
ง. การดูแลเอาใจใส่ลมยาง.
หากท่านจอดรถในทางเดินรถหรือบนไหล่ทางในเวลากลางคืน ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร
*. ก. เปิดไฟหรี่
ข. เปิดไฟเลี้ยวซ้าย
ค. เปิดไฟเลี้ยวขวา
ง. เปิดไฟต่ำ
จากรูป เมื่อท่านพบรถประจำทางเปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อออกจากป้ายรถเมล์ ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ไม่ต้องสนใจและขับแซงรถประจำทางไปในทันที
*. ข. ชะลอความเร็วและให้รถประจำทางไปก่อน
ค. บีบแตรหรือกะพริบไฟสูง
ง. เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อบอกให้รถประจำทางไปก่อน
จากรูป หากท่านต้องการแซงบนถนนที่มีรถวิ่งสวนมา ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. ขับแซงไปได้เลยโดยไม่ต้องสนใจรถที่สวนมา
ข. หากท่านคิดว่าท่านขับได้เร็วกว่ารถที่สวนมาแล้ว จึงทำการแซงได้ทันที
*. ค. หยุดรอให้รถที่ขับสวนมาผ่านไปก่อนแล้วค่อยขับแซง
ง. หากคิดว่าถนนมีความกว้างพอจึงแซงไปได้เลย
ท่านกำลังขับขี่ผ่านบริเวณที่มีรถจอดอยู่ข้างทาง.แต่ท่านสังเกตเห็นลูกบอลกลิ้งออกมา ท่านควรปฏิบัติอย่างใด
ก. ขับรถด้วยความเร็วเท่าเดิมและให้สัญญาณไฟสูง
ข. ขับรถด้วยความเร็วเท่าเดิมและให้สัญญาณแตร
*. ค. ลดความเร็วลงและเตรียมที่จะหยุดรถ
ง. จอดรถและโบกมือให้เด็กไปเก็บลูกบอล
จากรูป ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้องเกี่ยวกับการแซง
*. ก. รถคันหลังไม่สามารถแซงคันหน้าได้
ข. รถคันหลังสามารถแซงได้หากไม่มีคนข้ามถนน
ค. รถคันหลังสามารถแซงได้หากไม่มีรถสวนมา
ง. รถคันหลังสามารถแซงได้หากไม่มีป้ายหยุดบนขอบทาง.
เมื่อท่านขับรถเข้าใกล้รถที่จอดอยู่ข้างทาง.ท่านควรปฏิบัติอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด
ก. ขับต่อไปโดยไม่ต้องระวังสิ่งใด
ข. เร่งความเร็วผ่านไปทันที
ค. ให้สัญญาณไฟสูงเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ
*. ง. เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เตรียมพร้อมที่จะหยุดเสมอ
เมื่อท่านขับรถเข้าใกล้รถที่จอดอยู่ข้างทาง.ท่านควรปฏิบัติอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด
ก. เร่งความเร็วผ่านไปทันที
*. ข. เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เตรียมพร้อมที่จะหยุดเสมอ
ค. ให้สัญญาณไฟสูงเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ
ง. ขับต่อไปโดยไม่ต้องระวังสิ่งใด
ในการขับขี่ท่านควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมใดมากที่สุด
*. ก. ขับขี่เร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
ข. เปลี่ยนช่องจราจร
ค. ขับขี่ด้วยความเร็วคงที่
ง. แซงรถคันอื่น เมื่อเห็นว่าปลอดภัย
เมื่อท่านขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขังแล้ว ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
ก. หยุดรถ รอผ้าเบรกให้แห้ง
ข. หยุดรถ ตรวจสอบยาง
*. ค. ใช้เท้าแตะเบรกเพื่อให้ผ้าเบรกแห้งเร็ว
ง. ขับรถให้เร็วขึ้นเพื่อให้ผ้าเบรกแห้ง
การขับขี่ผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. หากไม่มีสัญญาณไฟจราจร ให้รถคันที่ใหญ่กว่าผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน
ข. เมื่อพบป้ายเตือนทางร่วมทางแยกให้ขับรถไปตามปกติ
ค. เมื่อพบป้ายเตือนสัญญาณไฟบริเวณทางร่วมทางแยกให้เพิ่มความเร็วขึ้นเล็กน้อย
*. ง. ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
จากรูปรถคันสีน้ำเงิน หรือรถคันสีเขียวมีสิทธิที่จะผ่านไปก่อน
*. ก. ให้รถคันสีเขียวไปก่อน
ข. ให้รถคันสีน้ำเงินไปก่อน
ค. รถคันไหนไปก่อนก็ได้ หากมีความเร็วสูงกว่า
ง. รถคันไหนไปก่อนก็ได้ หากมาถึงก่อน
ข้อใดเป็นการขับรถอย่างปลอดภัย
ก. แซงรถคันข้างหน้าในขณะเข้าโค้ง
*. ข. เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าในระยะที่ผู้ขับขี่สามารถหยุดรถได้ทัน
ค. แซงด้านซ้ายในถนน 2 ช่องจราจร เมื่อรถคันหน้าขับช้า
ง. เปิดไฟสูงตลอดเวลาในการขับรถเวลากลางคืน
จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวาที่ทางแยกรูปตัว T ท่านจะต้องปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ให้ทั้งรถทางขวาและซ้ายไปก่อน
ข. ให้รถทางขวาไปก่อน
ค. ให้รถทางซ้ายไปก่อน
ง. เลี้ยวขวาได้ทันที
จากรูป เมื่อท่านขับรถมาถึงทางแยกพบสัญญาณไฟเขียว แต่เกิดจราจรติดขัดในเส้นทางที่ท่านจะสัญจร ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ขับรถเข้าไปต่อคันหน้า
*. ข. รอจนกว่ารถข้างหน้าของท่านจะเคลื่อนตัว แล้วจึงขับรถเข้าไปต่อคันหน้า
ค. ขับรถเข้าไปตรงกลางแยก.แล้วรอจนกว่ารถข้างหน้าจะเคลื่อนตัว
ง. พยายามขับแทรกไปทางขวาของรถคันหน้า
จากรูป รถคันสีฟ้าและรถคันสีเหลืองต้องการจะเลี้ยวขวาเพื่อไปเลี้ยวซ้ายในซอยที่ 1 รถคันใดอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
ก. รถคันสีฟ้า
ข. รถคันสีเหลือง
*. ค. เหมาะสมทั้งคู่
ง. ไม่เหมาะสมทั้งคู่
จากรูป รถคันสีแดงและรถคันสีเหลืองต้องการไปในทิศทางเดียวกัน รถคันใดมีสิทธิไปก่อนเมื่อมีสัญญาณให้หยุดทั้งสองทิศทาง
ก. รถคันสีเหลือง
*. ข. รถคันสีแดง
ค. คันใดก็ตามที่มาถึงทางแยกก่อน
ง. คันใดก็ตามที่ขับด้วยความเร็วที่สูงกว่า
หากท่านพบสัญญาณไฟกะพริบสีแดงที่บริเวณทางร่วมทางแยก.ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร
ก. ชะลอความเร็วลง.และขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง
*. ข. หยุดรถหลังเส้นหยุดรถ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง
ค. ขับรถต่อไปตามปกติ เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าแก่รถคันที่ตามมา
ง. แจ้งเจ้าพนักงานว่าสัญญาณไฟจราจรขัดข้อง.
หากท่านพบสัญญาณไฟกะพริบสีเหลืองที่บริเวณทางร่วมทางแยก.ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ชะลอความเร็วลง.และขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง
ข. หยุดรถหลังเส้นหยุดรถ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง
ค. ขับรถต่อไปตามปกติ เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าแก่รถคันที่ตามมา
ง. แจ้งเจ้าพนักงานว่าสัญญาณไฟจราจรขัดข้อง
จากรูป ในกรณีที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร รถคันสีแดงหรือรถคันสีเหลืองมีสิทธิที่จะได้ไปก่อน
ก. รถที่มาถึงทางแยกก่อน
ข. รถคันสีแดง
*. ค. รถคันสีเหลือง
ง. รถที่มีความเร็วสูงกว่า
จากรูป หากรถคันสีแดง.และรถคันสีเหลือง.ต้องการจะเลี้ยวขวาในเวลาเดียวกัน รถคันใดจะมีสิทธิไปก่อน
*. ก. สามารถไปได้ในเวลาเดียวกัน
ข. รถคันสีแดง
ค. รถคันสีเหลือง
ง. รถที่มีความเร็วสูงกว่า
การขับขี่ในบริเวณชุมชนที่ถูกต้อง.ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ขับด้วยความเร็วสูง
ข. ขับด้วยความเร็วปกติ
ค. ขับด้วยความเร็วปกติ แต่ชะลอความเร็วเมื่อพบป้ายเตือน
*. ง. ขับด้วยความเร็วที่ต่ำ
ในการขับขี่ภายในชุมชน ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับสิ่งใด
*. ก. ป้ายโฆษณาข้างทาง2
ข. รถโดยสารที่กำลังจอดและกำลังเคลื่อนที่ออก.
ค. สัตว์ที่ถูกปล่อยอยู่บนถนน
ง. คนขี่จักรยาน
เมื่อขับขี่เข้าใกล้บริเวณทางม้าลายหน้าโรงเรียน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. พยายามใช้ความเร็วคงที่ในการผ่านบริเวณนั้น
ข. ขับรถชิดขอบทางด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง
*. ค. ชะลอความเร็วลง
ง. ให้สัญญาณเตือนผู้คนในละแวกนั้น
เมื่อขับรถเข้าใกล้บริเวณทางม้าลาย แต่ไม่มีคนข้ามทางม้าลาย ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ใช้สัญญาณแตรเสียงสั้นเพื่อเตือน
*. ข. ไม่ต้องให้สัญญาณ เพียงชะลอความเร็วลงก็พอ
ค. ใช้สัญญาณแตรเสียงยาวเพื่อเตือน
ง. ใช้สัญญาณไฟสูงเพื่อเตือน
หากท่านกำลังขับขี่เข้าสู่วงเวียน และพบรถขนาดใหญ่ที่กำลังเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายแต่ตัวรถค่อยๆ เคลื่อนตัวไปทางขวา ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. รักษาระยะห่างไว้
ข. ให้สัญญาณแตร
ค. แซงไปทางด้านซ้าย
ง. ขับตามรถใหญ่
ข้อใดต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติในการขับขี่ผ่านวงเวียน (การขับขี่ผ่านวงเวียน)
ก. ขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ
*. ข. ขับแซงไปมา
ค. ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
ง. ให้สัญญาณไฟเลี้ยวก่อนออกจากวงเวียนเสมอ
ข้อใดเป็นการขับรถเข้าทางโค้งอย่างปลอดภัย
*. ก. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง
ข. ใช้ความเร็วสูงกว่าที่กำหนด
ค. เปลี่ยนเกียร์ขณะเข้าทางโค้ง
ง. เหยียบเบรกกะทันหันขณะเข้าทางโค้ง
หากรถคันสีเหลืองต้องการมุ่งหน้าตรงผ่านวงเวียน จะต้องเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อออกจากวงเวียนที่ตำแหน่งใด
ก. จุดที่ 2
ข. จุดที่ 1
*. ค. จุดที่ 3
ง. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายทุกๆ จุด
จากรูป หากท่านกำลังขับตามหลังคนขี่จักรยาน แต่ท่านต้องการที่จะเลี้ยวซ้าย ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ชะลอความเร็วจนกว่าจักรยานจะผ่านทางเลี้ยว
ข. พยายามแซงจักรยานก่อนที่จะถึงทางเลี้ยว
ค. จอดรถเพื่อรอจนกว่าคนขี่จักรยานจะผ่านทางเลี้ยว
ง. ทำการเลี้ยวโดยไม่ต้องสนใจจักรยาน
สิ่งใดที่ท่านควรระวังเป็นพิเศษเมื่อพบรถโดยสารจอดอยู่ในถนนฝั่งตรงข้าม
ก. รถโดยสารอาจเคลื่อนที่โดยฉับพลัน
*. ข. ผู้เดินเท้าอาจเดินออกมาทางข้างหลังรถโดยสาร
ค. รถโดยสารอาจเสียอยู่
ง. ไม่ต้องระวัง.เนื่องจากเป็นถนนฝั่งตรงข้าม
ดังรูปในกรณีที่รถสีน้ำตาลมาจากทางหลักและรถสีน้ำเงินออกมาจากซอยซึ่งเป็นทางรอง.รถคันใดต้องหยุดให้ทาง
ก. รถคันสีน้ำตาล
*. ข. รถคันสีน้ำเงิน
ค. รถคันใดก็ได้
ง. รถคันที่มีความเร็วต่ำกว่า
ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการแซง.
ก. แซงบริเวณเขตห้ามแซงด้วยความระมัดระวัง
ข. ไม่ควรแซงในทางที่มีทัศนวิสัยไม่ดี
ค. ควรประเมินเวลาที่ใช้ในการแซงให้ถูกต้อง
*. ง. แซงในขณะที่เห็นว่าปลอดภัยแล้วเท่านั้น
เมื่อท่านเห็นสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองในขณะที่ท่านกำลัง จะขับขี่ผ่านทางแยกในเวลาเช้าตรู่ที่ไม่มีการจราจรอยู่ในบริเวณรอบๆ ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่
*. ข. ชะลอความเร็วและเตรียมหยุดรถ
ค. ขับต่อไปด้วยความเร็วสูงขึ้น
ง. ชะลอความเร็วลงและขับผ่านไป
ในขณะที่ท่านกำลังหยุดรอสัญญาณไฟอยู่ที่ทางแยก.แล้วไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ตรวจสอบการจราจรรอบๆ ข้างก่อน จากนั้นจึงออกรถ
ข. ขับรถผ่านทางแยกไปโดยเร็ว เพื่อไม่ให้รถคันหลังเสียเวลา
ค. รอจนกว่ารถคันข้างหลังของท่านจะให้สัญญาณแตร แล้วจึงออกรถ
ง. ปฏิบัติอย่างไรก็ได้ แล้วแต่ผู้ขับขี่
จากรูป ผู้ขับขี่รถคันสีแดงควรปฏิบัติอย่างไร
ก. บีบแตรเพื่อเตือนให้รถคันอื่นรับรู้
*. ข. มองกระจกข้าง.ให้สัญญาณ และเปลี่ยนช่องทางเมื่อปลอดภัย
ค. เร่งความเร็วขึ้นและแซงโดยไม่ต้องมองกระจกข้าง
ง. เร่งความเร็วไปข้างหน้าและรีบเปลี่ยนช่องจราจร
จากรูป ผู้ขับขี่รถคันสีแดงควรระมัดระวังรถคันใดมากที่สุด
*. ก. รถจักรยานยนต์
ข. รถคันสีน้ำเงิน
ค. รถคันสีเขียว
ง. ไม่จำเป็นต้องระวังรถคันใดเลย
ข้อใดเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักการขับรถอย่างปลอดภัย
*. ก. ตรวจความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
ข. ไม่จำเป็นให้สัญญาณไฟเลี้ยวในการเปลี่ยนช่องจราจร
ค. ในการกลับรถไม่จำเป็นต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว
ง. ในการขับรถตรงผ่านทางแยกควรให้สัญญาณไฟกะพริบฉุกเฉิน
หลักการขับรถเข้าโค้งที่ถูกต้องควรปฏิบัติเช่นไร
ก. เพิ่มความเร็วก่อนเข้าโค้ง.ลดความเร็วขณะออกจากโค้ง
*. ข. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง.เพิ่มความเร็วขณะออกจากโค้ง
ค. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง.ลดความเร็วขณะออกจากโค้ง
ง. เพิ่มความเร็วก่อนเข้าโค้ง.เพิ่มความเร็วขณะออกจากโค้ง
ถ้าขณะขับรถเกิดยางแตกหรือยางระเบิดควรปฏิบัติเช่นไร
ก. เหยียบคลัตช์ให้เร็วแล้วตามด้วยเบรก
ข. เหยียบเบรกโดยเร็ว
*. ค. จับพวงมาลัยให้มั่น แล้วค่อยๆ เบรกและนำรถเข้าข้างทาง
ง. เหยียบคลัตช์อย่างเดียว
ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใด จึงจะปลอดภัยเมื่อรถคันหน้าหยุด
*. ก. ห่างพอสมควรและสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย
ข. 3 เมตร
ค. 5 เมตร
ง. หนึ่งช่วงรถ
ขณะขับรถหากเกิดคันเร่งค้างควรทำอย่างไร
ก. เปิดไฟฉุกเฉิน
*. ข. ตั้งสติ ใช้ปลายเท้างัดคันเร่งขึ้นมา
ค. ดึงเบรกมือ
ง. ย้ำคันเร่งหลายๆ ครั้ง.
ข้อใดคือการใช้ไฟฉุกเฉินที่ถูกต้อง
ก. ฝนตก
ข. ขับผ่านสี่แยก
*. ค. รถเสียบนทางด่วน
ง. บริเวณที่มีหมอกลงจัด
การใช้เกียร์เพื่อขึ้นและลงเขาข้อใดถูก
*. ก. ขึ้นและลงใช้เกียร์ต่ำ
ข. ขึ้นใช้เกียร์ต่ำและลงใช้เกียร์สูง
ค. ขึ้นใช้เกียร์ต่ำและลงใช้เกียร์ว่าง
ง. ขึ้นและลงใช้เกียร์สูง
อะไรไม่ใช่เป้าหมายในการขับรถอย่างปลอดภัย
ก. ไม่ขับรถไปชนคันอื่น
*. ข. ขับให้ถึงที่หมายเร็วที่สุด
ค. ไม่เป็นเหตุให้รถคันอื่นชนกัน
ง. ป้องกันไม่ให้รถคันอื่นมาชนเรา
เหตุใดจึงห้ามเปิดไฟสูงขณะที่ขับรถตามคันหน้าหรือรถที่วิ่งสวนทางมา
*. ก. เพราะจะทำให้ผู้ขับรถคันหน้าและรถที่วิ่งสวนทางมามองทางไม่ชัดเจน
ข. จะทำให้ผู้ขับรถคันหน้าหลับใน
ค. จะทำให้เรามองทางข้างหน้าไม่ชัดเจน
ง. จะทำให้รถที่วิ่งสวนทางมาหลับใน
การขับรถทางไกลเมื่อรู้สึกว่าตนเองง่วงควรปฏิบัติอย่างไร
ก. วิ่งแล้วเบรกบ่อยๆ เพื่อให้หายง่วง
ข. ขับรถหวาดเสียวเพื่อให้ระบบประสาทตื่นตัว
*. ค. หยุดพัก.นอน หรือยืดเส้นยืดสายตามจุดพัก.หรือปั๊มน้ำมัน
ง. เร่งเครื่องเพื่อให้ถึงจุดหมายโดยเร็ว
ข้อใดไม่ใช่วิธีการขับรถที่ปลอดภัยในขณะที่ฝนตก.
ก. เปิดไปฉุกเฉินตลอดเวลาที่ฝนตก
ข. ทิ้งช่วงห่างจากรถคันหน้า เผื่อไว้มากๆ
ค. เปิดไฟหน้า
*. ง. ใช้อัตราความเร็วที่ปลอดภัย
ในการข้ามทางรถไฟรางคู่ที่ไม่มีเครื่องกั้นเมื่อรถไฟผ่านไปแล้วผู้ขับรถควรระวังสิ่งใดต่อไปนี้
ก. รถที่จะข้ามมาจากฝั่งตรงข้าม
*. ข. รถไฟที่อาจจะสวนทางมาอีกทางหนึ่ง
ค. คนที่จะเดินข้ามทางรถไฟ
ง. รถที่หยุดรอด้านหลัง
ในการขับรถข้ามทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้นเมื่อคันด้านหน้าขับข้ามทางรถไฟไปแล้วท่านควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ก่อนข้ามทางรถไฟต้องตรวจสอบความปลอดภัยอีกครั้ง
ข. ขับตามคันด้านหน้าไปได้เลย
ค. หยุดรอเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณ
ง. รอสัญญาณไฟเขียว
เมื่อท่านขับรถที่มีน้ำหนักบรรทุกมาก.ข้อใดถูกต้องมากที่สุด
*. ก. ประสิทธิภาพของเบรกจะน้อยลง.เบรกยาวขึ้น
ข. ระบบกันสะเทือนจะนุ่มนวลมากขึ้น
ค. ควันไอเสียจะมากขึ้น
ง. เครื่องยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ
เมื่อท่านขับรถที่บรรทุกสิ่งของที่มีความสูงจะมีผลอย่างไร
ก. แรงหนีศูนย์ของรถและสิ่งของจะน้อยลง
*. ข. จุดศูนย์ถ่วงจะสูงขึ้นทำให้พลิกคว่ำได้ง่าย
ค. แรงเหวี่ยงของรถจะน้อยลงเนื่องจากน้ำหนักบรรทุก
ง. ระยะเบรกจะสั้นลง
สิ่งใดที่ไม่มีผลต่อระยะการเบรกรถ
ก. บริษัทของผู้ผลิตยาง
*. ข. ความเหนื่อยล้า
ค. สภาพถนนที่เปียก
ง. น้ำหนักบรรทุก
ข้อใดถูกต้องที่สุดในการควบคุมความเร็วของรถ
ก. การชะลอรถควรใช้เบรกเท่านั้น
*. ข. ในการขับรถควรใช้คันเร่งควบคุมในการเร่งและชะลอรถให้มากที่สุด
ค. การใช้เกียร์ช่วยลดความเร็วให้ใช้เฉพาะทางลงลาดชันเท่านั้น
ง. ควรใช้เบรกมือร่วมกับเบรกเท้าเพื่อช่วยลดการสึกหรอเบรกเท้า
ข้อใดปฏิบัติไม่ถูกต้องเมื่อรถของท่านจอดเสียกลางถนนหลวง
ก. ตั้งสัญลักษณ์แสดงว่ามีรถจอดเสียในระยะ 150 เมตร
ข. เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินพร้อมไฟหน้ารถ
*. ค. ยืนโบกด้านท้ายรถเพื่อส่งสัญญาณกันรถชนท้ายรถเรา
ง. เปิดฝากระโปรงด้านหน้าและท้ายรถ เพื่อส่งสัญญาณ
ก่อนขับรถ ผู้ขับขี่ที่ดีควรเตรียมความพร้อมของตนเองอย่างไร
*. ก. พักผ่อนให้เพียงพอ
ข. ดื่มเหล้า
ค. กินยาบ้า
ง. เที่ยวดึก.
ข้อใดเป็นการเตรียมความพร้อมของรถก่อนขับรถ
ก. ตรวจสภาพอากาศ
ข. ต่อใบอนุญาตขับรถ
ค. ดูหนังสือแผนที่ทางหลวงแผ่นดิน
*. ง. ตรวจแรงดันลมยาง,เบรก,น้ำมันหล่อลื่น
เมื่อเกิดรถเสีย ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. เปิดไฟฉุกเฉิน, นำรถจอดเข้าข้างทาง
ข. จอดรถทิ้งไว้กลางถนน
ค. นำกิ่งไม้วางไว้ท้ายรถ
ง. ก่อกองไฟข้างทางหากเป็นกลางคืน
สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถสีใด ที่ไม่ควรปรากฏขณะขับรถ
ก. สีเขียว
*. ข. สีแดง
ค. สีเหลือง
ง. สีฟ้า
การจับพวงมาลัยนิ้วมือควรอยู่ในลักษณะใด
*. ก. นิ้วมือทั้งห้า จับพวงมาลัยให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตัว
ข. นิ้วมือทั้งห้า กำพวงมาลัยให้แน่นที่สุด
ค. นิ้วมือทั้งห้าแตะที่พวงมาลัย สามารถหมุนพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว
ง. ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับพวงมาลัยเพียงสองนิ้ว
เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ถอนคันเร่ง.เหยียบเบรกเพื่อใช่เกียร์ต่ำ
ข. เหยียบเบรกทันที แล้วค่อยๆ ออกตัวเร่งความเร็วใหม่
ค. ตั้งสติให้มั่น จับพวงมาลัยให้ดี เร่งความเร็วหนีให้พ้นไป
*. ง. ถอนคันเร่ง.จับพวงมาลัยให้มั่นประคองรถต่อไป
ขณะขับรถ ถ้ากระจกบังลมหน้ารถแตกร้าว ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน ลดความเร็ว จอดรถข้างทาง
ข. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และขับรถต่อไป
ค. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และหยุดรถทันที
ง. ตั้งสติ จอดรถข้างทาง.
ขณะฝนตกใหม่ๆ รถมักลื่นไถล เพราะเหตุใด
ก. น้ำฝนจะชะล้างถนนให้สะอาด
*. ข. น้ำฝนจะกลายเป็นฟิล์มรองรับระหว่างยางกับพื้นถนน
ค. ฝนตกทำให้ถนนชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ
ง. ถนนคอนกรีตดูดซับน้ำฝนได้อย่างดี
ข้อใดไม่ควรปฏิบัติขณะขับรถเมื่อฝนตกหนัก
ก. ใช้ความเร็วไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
*. ข. เบรกรถอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
ค. เปิดไฟหน้ารถในขณะขับรถ
ง. ลดความเร็วลงและเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น
เพื่อความปลอดภัยในการขับรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบสิ่งใดของรถก่อนเป็นลำดับแรก
*. ก. ที่ปัดน้ำฝน
ข. น้ำในหม้อน้ำ
ค. น้ำกลั่นแบตเตอรี่
ง. ตรวจเช็คประตูหน้าต่างรถ
ในขณะขับรถลุยน้ำ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ขับรถด้วยความเร็ว
ข. เปิดไฟฉุกเฉิน
ค. เปิดไฟหน้ารถ
*. ง. เร่งเครื่องยนต์ให้มากกว่าปกติเล็กน้อย และควบคุมเครื่องยนต์ไม่ให้ดับ
หลังจากขับรถลุยน้ำ ผ้าเบรกเปียกมีวิธีแก้ไขให้แห้งได้อย่างไร
ก. เหยียบเบรกแรงๆ
ข. ขับรถให้เร็วๆ
*. ค. ขับรถช้าๆ เหยียบเบรกเบาๆ แล้วปล่อยหลายๆ ครั้ง
ง. จอดรถเข้าเกียร์ว่างและเร่งเครื่องยนต์ไว้สัก. 10 นาที
เหตุใดขณะขับรถลุยน้ำจึงต้องเลี้ยงคลัตช์และเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกติเล็กน้อย
*. ก. เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับ
ข. เพื่อให้รถมีความเร็วมากขึ้น
ค. เพื่อให้เครื่องยนต์ร้อน
ง. เพื่อให้ความร้อนของเครื่องยนต์สูงกว่าปกติ
ข้อใดเปิดไฟหน้ารถไม่ถูกต้อง
ก. เมื่อฝนตกหนัก
*. ข. เมื่อต้องเร่งรีบไปทำงาน
ค. เมื่อมีควันไฟปกคลุมถนน
ง. เมื่อไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าในระยะต่ำกว่า 150 เมตร
การขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. ขับช้าๆ ตามหลังรถคันหน้าในระยะห่างพอสมควร
ข. ห้ามใช้เบรกอย่างเด็ดขาด
ค. พยายามขับให้จี้ติดท้ายรถคันหน้าตลอดเวลา
ง. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเวลา
เพื่อความปลอดภัยก่อนขับรถ ผู้ขับขี่ควรเตรียมความพร้อมอย่างไร
ก. รับประทานเครื่องดื่มกระตุ้นประสาทชนิดเข้มข้น
*. ข. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ค. ต่อทะเบียนรถให้เรียบร้อย
ง. เติมน้ำมันให้เต็มถัง
ข้อใดเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด
ก. ถนน
*. ข. ผู้ขับขี่รถ
ค. สัญญาณไฟจราจร
ง. ไฟส่องถนนบริเวณทางร่วมทางแยก
พฤติกรรมการขับรถข้อใดถือว่าไม่ปลอดภัย
*. ก. นางสมศรีขับรถปฏิบัติตามความพอใจของตัวเอง
ข. นายสมชายขับรถจักรยานยนต์สวมรองเท้าหุ้มส้น
ค. นางจิตราขับรถในเขตกรุงเทพฯ ใช้ความเร็วเพียง.50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ง. นายทองใบขับรถนอกเขตเทศบาลใช้ความเร็วเพียง. 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.
ก่อนออกรถจากไหล่ทางด้านซ้าย ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไรให้ปลอดภัยมากที่สุด
ก. มองกระจกมองข้างด้านขวา
ข. เปิดไฟเลี้ยวซ้าย หันศีรษะไปด้านซ้าย
*. ค. มองกระจกมองข้างด้านขวา เปิดไฟเลี้ยวขวา พร้อมกับหันศีรษะมองข้ามไหล่ขวาไปทางด้านหลังก่อนออกรถ
ง. มองกระจกมองหลัง
ภายหลังออกรถไปประมาณ 3 ถึง. 4 เมตร ควรทดสอบระบบใด
*. ก. เบรก
ข. ปรับกระจกมองหลัง
ค. ปรับกระจกมองข้าง
ง. ไฟเลี้ยว
การขับรถขึ้นทางลาดชัน ควรใช้เกียร์อย่างไร2
ก. ใช้เกียร์ต่ำแต่เมื่อใกล้ถึงยอดเขาให้เปลี่ยนเป็นเกียร์สูง
ข. ใช้เกียร์สูงและลดความเร็วลง
*. ค. ใช้เกียร์ต่ำและขับด้วยความระมัดระวัง
ง. ใช้เกียร์ 4 ขึ้นไปขณะขึ้นทางลาดชัน
ในขณะที่ขับรถอยู่ มีกลิ่นเหม็นไหม้ แอร์เริ่มไม่เย็น เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. จอดรถในที่ปลอดภัยแล้ว ตรวจเช็กรถในเบื้องต้น
ข. ขับต่อไปเรื่อยๆ
ค. ลดความเร็วลงแล้วขับต่อไป
ง. หยุดรถทันทีกลางถนนห้ามเคลื่อนย้าย
ขณะขับรถเครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง. ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. หยุดรถที่ปลอดภัย เอาน้ำแข็งมาแช่เครื่องยนต์
*. ข. หยุดรถที่ปลอดภัย แล้วปล่อยให้เครื่องเย็นก่อน
ค. หยุดรถที่ปลอดภัย แล้วเปิดฝาหม้อน้ำ เติมน้ำทันที
ง. หยุดรถที่ปลอดภัย แล้วเอาน้ำมาราดเครื่องยนต์
ในการขับรถทางไกล ผู้ขับขี่ควรเตรียมความพร้อมของร่างกายอย่างไร
*. ก. พักผ่อนให้เพียงพอ
ข. รับประทานอาหารเพิ่มเป็น 2 เท่า ของวันปกติ
ค. ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังให้มากๆ
ง. ใช้ยากระตุ้นประสาท (ยาบ้า)
การขับรถในทางลักษณะใด ที่ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลี้ยว
ก. ทางเลี้ยวซ้ายเข้าซอย
ข. ทางเลี้ยวซ้ายออกจากซอย
*. ค. ทางบังคับเลี้ยว
ง. ทางกลับรถ
การหมุนพวงมาลัยรถ ขณะจอดรถอยู่กับที่จะมีผลอย่างไร2
*. ก. ดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ
ข. สิ้นเปลืองน้ำมันเพาเวอร์
ค. สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
ง. ทำให้หมุนพวงมาลัยง่ายขึ้น
การหยุดรถอย่างกะทันหัน (รถไม่มีเบรก.ABS) ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เหยียบเบรกแรงๆ โดยไม่ต้องถอนเบรก
*. ข. เหยียบและปล่อยเบรกสลับกัน (ย้ำเบรกซ้ำๆ)
ค. เหยียบเบรกและดึงเบรกมือพร้อมกัน
ง. เหยียบเบรก.และดับเครื่องยนต์พร้อมกัน
รถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน (รถไม่มีเบรก.ABS) จะมีผลอย่างไร
*. ก. ล้อจะล็อก. และรถจะไม่สามารถควบคุมได้
ข. รถจะค่อยๆ ชะลอความเร็วลง
ค. จะหยุดรถได้ตามระยะที่กำหนด
ง. ล้อจะล็อก. และรถจะหยุดทันที
ก่อนขับรถเข้าโค้งหรือมุมเลี้ยว ควรใช้ความเร็วอย่างไร
ก. ลดความเร็วลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
*. ข. ควบคุมความเร็วของรถให้เหมาะสมกับโค้งหรือมุมเลี้ยว
ค. ใช้ความเร็วคงที่
ง. เพิ่มความเร็วให้มากขึ้นกว่าเดิม
ขณะขับรถยางรถแตก. จะมีอาการอย่างไร
ก. รถหยุดกะทันหัน
*. ข. พวงมาลัยจะหนัก.รถจะเอียง
ค. พวงมาลัยรถจะไร้น้ำหนัก
ง. เบรกจะไม่ทำงาน
ยางที่หมดอายุจะมีลักษณะอย่างไร
*. ก. มีรอยแตกร้าวตามแนวขอบยาง
ข. ยางจะมีสีดำสนิท
ค. ยางจะมีสีขาวนวล
ง. เวลาเปียกน้ำจะไม่เกาะยาง.
ในขณะขับรถ ยางรถแตกหรือระเบิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
*. ก. คุมสติ บังคับพวงมาลัย ลดความเร็วลงและไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหัน
ข. รีบเหยียบเบรกให้เร็วที่สุด
ค. ปลดเกียร์ว่างแล้วรีบเหยียบเบรก
ง. หมุนพวงมาลัยอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเข้าข้างทาง
ในขณะที่กำลังขับรถ ถ้าฝากระโปรงหน้ารถเปิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
ก. เบรกกะทันหัน
ข. หักเลี้ยวรถเข้าข้างทางทันที เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย
*. ค. ลดความเร็วแล้วจอดข้างทาง.เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย
ง. เหยียบคันเร่งให้มิดเพื่อฝากระโปรงจะได้กระแทกปิด
ข้อใดเป็นวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อรถเกิดไฟลัดวงจร
ก. ใช้ทรายสาดใส่
ข. วิ่งหาน้ำมันมาราด
ค. หาผ้าหนาๆ ปิดหรือดับไฟ
*. ง. ตัดกระแสไฟ หรือหาทางงัดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อน
ลมยางล้อหน้าอ่อน จะมีผลต่อการขับขี่อย่างไร
*. ก. เวลานั่งรู้สึกเหมือนรถจะกระตุกอยู่ตลอดเวลา
ข. ยางล้อหน้าสึกหรอ พวงมาลัยหนัก.และรถกินน้ำมันมากขึ้น
ค. ประหยัดน้ำมันแต่เปลืองยาง
ง. ประหยัดยางแต่เปลืองน้ำมัน
การปรับระดับที่นั่งคนขับห่างเกินไป จะมีผลอย่างไร
ก. ทำให้เข้าเกียร์ได้ง่าย
ข. ทำให้เบรกรถสะดวก
ค. ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจนดีมาก.สามารถตัดสินใจได้ดี
*. ง. บังคับพวงมาลัยลำบาก.ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ไม่สะดวก.
การตรวจสอบว่าเข็มขัดนิรภัยยังใช้งานได้ดีหรือไม่ ควรตรวจสอบอย่างไร
ก. ต้องมีสีเข้มๆ
ข. ดูว่าเข็มขัดมียี่ห้อหรือไม่
ค. ดูว่าเป็นของใหม่หรือไม่
*. ง. กระตุกดึงสายเข็มขัดอย่างเร็ว แล้วสายเข็มขัดต้องล็อก.
ข้อใดไม่ใช่การมองที่ถูกวิธีในขณะขับรถ
ก. การมองถึงสภาพของถนนที่แตกต่างกัน
ข. การมองการเคลื่อนไหวของรถและคน
*. ค. มองไปยังสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขับรถ
ง. การมองเห็นฝูงสัตว์เลี้ยงกำลังข้ามถนน
การเข้าเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่งมีผลเสียอย่างไร
*. ก. เข้าเกียร์ยากและทำให้เกียร์เสียเร็วกว่าปกติ
ข. ทำให้น้ำมันเกียร์หมดเร็ว
ค. เครื่องยนต์กินน้ำมันเครื่อง
ง. ไม่มีผลต่อเกียร์
การขับรถถอยหลังควรใช้ความเร็วระดับใด
ก. ใช้ความเร็วตามสภาพของรถ
ข. ถอยเหมือนกับเดินหน้า
*. ค. ถอยช้าๆ แล้วใช้ความระมัดระวัง
ง. ถอยแบบไหนก็ได้
การตรวจลมยางควรตรวจเมื่อใด
ก. ตรวจเมื่อไรก็ได้
ข. ขณะที่บรรทุกของหนัก
ค. ขณะวิ่งใช้งานแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง
*. ง. ขณะที่ยางยังเย็นอยู่
ข้อใดเป็นการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ถูกต้อง
*. ก. ขึ้นเบรกมือ-ปลดเกียร์ว่าง.-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-สตาร์ทเครื่องยนต์
ข. ปลดเกียร์ว่าง-ขึ้นเบรกมือ-สตาร์ทเครื่องยนต์
ค. เหยียบคลัตช์-สตาร์ทเครื่องยนต์
ง. ปลดเบรกมือ-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-สตาร์ทเครื่องยนต์
ข้อใดไม่ควรปฏิบัติขณะขับรถเมื่อฝนตกหนัก.
ก. ลดความเร็วลงและขับด้วยความระมัดระวัง
ข. ใช้เกียร์ต่ำกว่าปกติ 1 เกียร์
*. ค. เบรกรถอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
ง. เปิดไฟหน้ารถ
การจับพวงมาลัยขณะขับรถทางตรง.มือซ้ายและขวาของผู้ขับขี่ ควรอยู่ในตำแหน่งลักษณะใดของหน้าปัดนาฬิกา
*. ก. ตำแหน่งเลข.2 และเลข.10
ข. ตำแหน่งเลข.3 และเลข.10
ค. ตำแหน่งเลข.4 และเลข.10
ง. ตำแหน่งเลข.6 และเลข.10
ข้อใดไม่มีผลให้ระยะการหยุดรถ (ระยะเบรก) ยาวขึ้น
ก. สภาพพื้นผิวถนน
ข. น้ำหนักบรรทุก
*. ค. น้ำมันหล่อลื่น
ง. ความเร็วของรถ
ผู้ขับขี่ควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อใด
*. ก. เมื่อรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ
ข. เมื่อขับรถผ่านทางร่วมทางแยก
ค. เมื่อจะกลับรถหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถ
ง. เมื่อมีหมอก.ฝน ฝุ่น ควัน ในทางเดินรถ
การฝึกขับรถแบบ “ขับไปพูดไป” มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
ก. เพื่อป้องกันไม่ให้ง่วงซึม
*. ข. ฝึกสมองให้เกิดสมาธิและสมองทำงานสัมพันธ์กับตา
ค. เพื่อให้เหมือนทฤษฎีฝรั่ง
ง. เหมือนคนบ้าขับรถ
เมื่อเราเตรียมขับรถแซงรถคันหน้า เราควรปฏิบัติเช่นไรเป็นอันดับแรก.
ก. ให้สัญญาณไฟก่อน
*. ข. ให้ดูกระจกก่อน
ค. รีบเร่งเครื่องแล้วแซงได้เลย
ง. เปิดไฟฉุกเฉินแล้วแซงได้เลย
ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถฝ่าหมอกควันหรือฝนคือข้อใด
ก. เปิดไฟหรี่
ข. ขับรถช้าๆ โดยไม่ต้องเปิดไฟ
*. ค. เปิดไฟส่องสว่าง
ง. บีบแตรแล้วขับให้เร็วเพื่อป้องกันรถคันหลังชนท้าย
หลังจากขับรถลุยน้ำ เมื่อเราขึ้นที่แห้งแล้วควรปฏิบัติเช่นไรเป็นอันดับแรก
*. ก. ทดสอบเบรกหลายๆ ครั้ง
ข. ทดสอบไฟเลี้ยวหลายๆ ครั้ง
ค. ทดสอบสัญญาณแตร
ง. ทดสอบไฟสูงต่ำ
การขับรถทางไกลเมื่อรู้สึกว่าตนเองง่วงควรปฏิบัติอย่างไร2
ก. เร่งเครื่องเพื่อให้ถึงจุดหมายโดยเร็ว
ข. ขับรถหวาดเสียวเพื่อให้ระบบประสาทตื่นตัว
ค. วิ่งแล้วเบรกบ่อยๆ เพื่อให้หายง่วง
*. ง. หยุดพักนอน หรือยืดเส้นยืดสายตามจุดพัก.หรือปั๊มน้ำมัน
ข้อใดไม่ใช่วิธีการขับรถที่ปลอดภัยในขณะที่ฝนตก
*. ก. เปิดไปฉุกเฉินตลอดเวลาที่ฝนตก
ข. ทิ้งช่วงห่างจากรถคันหน้า เผื่อไว้มากๆ
ค. เปิดไฟหน้า
ง. ใช้อัตราความเร็วที่ปลอดภัย
ถ้าขณะขับรถเกิดยางแตกหรือยางระเบิดควรปฏิบัติเช่นไร
ก. เหยียบคลัตช์อย่างเดียว
ข. เหยียบเบรกโดยเร็ว
ค. เหยียบคลัตช์ให้เร็วแล้วตามด้วยเบรก
*. ง. ถือพวงมาลัยให้มั่น แล้วค่อยๆ เบรกและนำรถเข้าข้างทาง.
ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใดจึงจะปลอดภัยเมื่อรถคันหน้าหยุด
ก. 3 เมตร
ข. 5 เมตร
ค. หนึ่งช่องรถ
*. ง. ห่างพอสมควรและสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย
ข้อใดผิด
ก. ห้ามพูดโทรศัพท์ขณะขับรถ
*. ข. ห้ามหยุดรถให้คนข้ามทาง
ค. ห้ามหยุดหรือจอดรถคุยกันกลางถนน
ง. ห้ามแซงซ้ายในที่ห้ามแซงซ้าย
ท่านควรหมุนพวงมาลัยลักษณะใดในการเลี้ยงรถ
ก. ปั่นพวงมาลัยและตีกลับเอง
*. ข. ใช้วิธีคลึงไปคลึงมาบนพวงมาลัย
ค. ใช้ระบบดึง-ดัน
ง. หมุนระบบสอดสร้อยมาลา
เมื่อเห็นผู้ขับขี่เกิดอุบัติเหตุควรปฏิบัติเช่นไร
ก. ขับรถตามปกติ
*. ข. ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเท่าที่จำเป็น
ค. รีบขับรถหนี
ง. ขับรถช้าๆ ชะลอดูเหตุการณ์