ถอดล้อรถยนต์ เปลี่ยนล้ออะไหล่เอง เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำเองให้เป็น สำหรับคนใช้รถยนต์ เพราะในการใช้งานรถยนต์ย่อมจะมีโอกาสเกิดเหตุไม่คาดคิด ยางแบน ยางระเบิด โดนลวด โดนตะปู หรือชนฟุตบาท ทำให้ยางแตก จึงจำเป็นต้องสามารถถอดล้อรถเองได้ ซึ่งก็ไม่ยากเลย ผู้หญิง หรือเด็กก็ทำได้
ปกติในรถยนต์จะมีล้อสำรองและเครื่องมือสำหรับถอดเปลี่ยนล้อติดรถมาให้อยู่แล้ว นอกเสียจากจะเป็นรถมือสองที่ผ่านมาหลายมือ ผ่านการใช้งานมาหลายคนแล้ว เครื่องมือเหล่านี้อาจจะไม่เหลืออยู่แล้ว ก็ควรหาซื้อมาสำรองไว้ติดรถ เอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ตัวอย่างอุปกรณ์ที่ต้องมีติดรถยนต์ไว้ตลอดเวลา
1. ที่ถอดน็อตล้อ การเลือกแบบที่มีด้ามยาวแบบนี้ จะช่วยทุนแรงเวลาถอด เหมาะสำหรับคุณผู้หญิง
2. แม่แรง ปกติจะมีติดรถอยู่แล้ว แต่หากจะต้องซื้อใหม่ ต้องเลือกให้รองรับกับน้ำหนักรถ แม่แรงที่มีลักษณะในรูป ต้องระวังแม่แรงล้ม เมื่อยกรถลอยขึ้นแล้ว เพราะพืนดินต่างระดับ
3. ที่วัดลมยาง ไว้วัดแรงดันลมยาง หากยางเริ่มอ่อน แรงดันลมน้อยกว่ามาตรฐาน การใช้รถจะไม่ปลอดภัย ขับทางไกลมีโอกาสยางระเบิดได้
4. ที่เติมลมยาง หรือที่สูบลมยางสำหรับจักรยานก็เพียงพอแล้ว แต่ต้องเลือกแบบมีที่พักลม และมีค่า PSI สูงๆ ไว้ก่อน ซึ่งจะสามารถใช้เติมยมยางรถยนต์ได้สบายๆ ไม่หนักไม่เหนื่อยมากนัก นอกเสียจากยางจะแบนติดดิน สำหรับคุณผู้หญิง ควรซื้อติดรถไว้เลย หากมีปัญหาไม่มีแรงสูบลม ก็สามารถกวักมือเรียกคนช่วยได้ไม่ยาก ที่สูบลมจักรยาน สามารถหาซื้อได้ตามร้านทุกอย่าง 20 บาท ถูกกว่าสั่งซื้อจากเน็ต แต่ตัวหัวสูบต้องซื้อสำรองหรือเลือกที่มีคุณภาพดีๆ เพราะในร้านทุกอย่าง 20 บาท มักจะใช้ได้ไม่กี่ครั้ง ก็เสียแล้ว
5. ล้ออะไหล่สำรอง ยางอะไหล่สำรองต้องหมั่นตรวจเช็คลมยางเช่นกัน หากไม่มีติดรถก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านปะยาง
วิธีการ ถอดล้อรถยนต์
ขั้นตอนการถอดล้อรถยนต์ เพื่อเปลี่ยนล้อ ไม่ยากหากรู้เทคนิค
1. กรณีล้อมีฝาครอบ จำเป็นจะต้องงัดฝาครอบออกก่อน โดยจะสามารถดึงออกมาได้เลย ศึกษาได้จากวิดีโอใน Youtube มีหลายคลิปทำวิดีโอสอน แต่ที่ดีที่สุด ก็ควรจะหาโอกาสฝึกถอดเอง เวลาเข้าศูนย์ หรือนำรถไปซ่อม ก็ให้ช่างสอนวิธีถอด ลองทำสักครั้ง เผื่อไว้เวลาเกิดปัญหา ก็จะจำได้ ว่าต้องทำอย่างไร
2. ในรถบางรุ่นจะเป็นฝาครอบปิดน็อตล้อ ก็ต้องถอดฝาครอบนี้ออกก่อนเช่นกัน จะมีสลักตามชอบต้องงัดออกก่อน
3. ต่อไปจะถอดล้อรถ สำคัญมาก เพื่อป้องกันรถเคลื่อนที่ ให้ดึงเบรคมือ และใช้หินหรือไม้หนุนล้อ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้รถขยับ เพราะถ้ารถขยับเขยื้อนขณะถอดล้อออกมาแล้ว จะทำให้แม่แรงล้มได้ คราวนี้จะสร้างปัญหาใหญ่ตามมา จานเบรคอาจจะคดได้
4. ใช้บล็อกถอดน็อตล้อ โดยหมุนทวนเข็ม เพื่อคล้ายน้อต ไม่ต้องคลายน้อตจนหลุด เอาแค่พอหลวมๆ ใช้นิ้วหมุนน็อตล้อออกมาได้ก็พอ น้อตทุกตัวให้ปฏิบัติหมือนกัน ห้ามถอดให้หลุด
5. กรณีน็อตล้อแน่นมาก จำเป็นจะต้องใช้การยืนเหยียบแทนการใช้มือ ทิ้งน้ำหนักตัวลงให้เต็มที่ไปเลยถ้าน็อตล้อแน่นมาก การถอดน็อตล้อต้องหมุนทวนเข็มนาฬิกาหรือหมุนไปทางซ้ายมือ หากต้องการขันให้แน่นต้องหมุนตามเข็มาฬิกาหรือหมุนไปทางขวามือ
6. ยกรถให้ลอยขึ้นด้วยแม่แรง โดยวางตำแหน่งแม่แรงให้ตรงกับรอยตะเข็บตัวถังรถใกล้ๆ กับล้อที่ต้องการถอดออก แล้วขึ้นเม่แรงให้รถลอย จากนั้นให้ถอดน็อดล้อออกและถอดล้อออกตามลำดับ นำล้อสำรองมาวาง ไว้ใต้รถก่อน ในบริเวณใกล้ๆ กับล้อที่ถอดถอกมา ให้ตรงกับตะเข็บ ที่ใช้แม่แรงยกรถ หากพลาด แม่แรงล้ม ก็จะมีล้อรองไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย
7. ในระหว่างที่ใช้แม่แรงยกรถให้ลอยอยู่นั้น ต้องระวังการเปิดปิดประตู หรือ ทำให้รถเคลื่อนที่ เคลื่อนไหว เพราะแม่แรงอาจจะเคลื่อน ทำให้ล้มได้ วิธีที่ไม่ประมาท ให้นำล้อสำรองที่จะนำมาใส่แทน ไปรองไว้ใต้รถบริเวณล้อที่ถอดออกมา ใต้ตะเข็บ สำหรับรถที่มีเสกิร์ต อาจจะต้องหาตำแหน่งอื่น หากรถล้มอาจจะทำให้ชุดแต่งแตกหักได้
8. ถอดล้อที่มีปัญหาออกมา นำไปวางใต้ท้องรถ แทนที่ล้ออะไหล่สำรอง ที่วางไว้ก่อนหน้านั้น แล้วใส่ล้อสำรองเข้าไปแทน ขันน้อตให้พอแน่น ทุกตัว นำล้อใต้ท้องรถออก แล้วปรับแม่แรงลง ให้ล้อแตะพื้นจากนั้น จึงขันให้แน่นอีกครั้ง โดยขันไปทางขวามือตามเข็มนาฬิกา
9. ตรวจดูลมยาง หากน้อยไป ก็จัดการเติมให้เหมาะสม จากนั้นจึงขับรถหาร้านปะยาง หรือทำช่วงล่าง เพื่อซ่อมล้อที่มีปัญหา และเปลี่ยนกลับไปเหมือนเดิม ล้ออะไหล่อาจจะเป็นล้อกระทะเหล็ก ไม่เข้ากัน ไม่เหมาะสำหรับการขับระยะทางไกล นอกจากนี้ หากยางเก่ามากแล้ว อาจจะเกิดอันตราย ยางแตก ยางระเบิดได้ จึงควรรีบขับรถไปร้านปะยางทันที
10. สำหรับมือใหม่ที่ไม่แน่ใจว่า ขันน็อตแน่นพอหรือยัง หลังจากขับรถไปสักพัก ควรจอดและลองขันน็อตล้อแต่ละตัว เพื่อความมั่นใจ สิ่งเหล่านี้ควรจะทำเมื่อมีการถอดล้อทุกครั้ง แม้จะเป็นร้านหรืออู่ก็ตาม เพราะบางครั้งจะขันไม่แน่น ผู้เขียนเจอมากับตัวเองแล้ว ล้อหลุดบนทางด่วน เสียเวลา เสียเงินจ้างรถลากลงมา และเสียค่าซ่อมอีกตามมาเกือบหมื่นบาท เพราะล้อที่หลุดเป็นล้อหลัง การลากรถลงมา จะใช้วิธียกท้ายให้ลอย แล้วลากรถไปยังอู่ ซึ่งส่วนหน้ารถจะมีน้ำหนักมากกว่าส่วนท้ายรถ การสั่นสะเทือนขณะลากรถ ก็ทำให้โช้คพังไปด้วย
การควบคุมรถและพวงมาลัยกรณียางระเบิด ยางแตกหรือล้อหลุด
ขณะขับรถอาจจะเกิดเหตุไม่คาดคิด จะต้องตั้งสติและปฏฺิบัติดังนี้ กรณี ยางระเบิด แตกหรือล้อหลุด
1. ห้ามแตะเบรค การเบรคจะทำให้รถหมุน ต้องพยายามขืนพวงมาลัยอย่าให้รถหมุน
2. ให้ประคองพวงมาลัยให้มั่นคง ประคองให้รถเคลื่อนไปข้างหน้าตรงๆ ปล่อยให้รถหยุดเอง หากจะต้องเบรค อย่าแตะแรงมาก รถจะมีโอกาสหมุน และพลิกคว่ำได้ จะต้องขืนพวงมาลัยไปในทิศทางตรงกับข้ามกับทิศทางที่รถพยายามจะหมุน
3. อาจจะต้องเลือกที่จะชนกับอะไรสักอย่างข้างทาง เพื่อเช่นต้นไม้ หลักกิโลเมตร หรือแม้แต่จะลงข้างทางก็ตาม แต่ระวังอย่าไปชนเสาไฟหรือสิ่งของหรือทรัพย์สินที่มีราคาสูง เพื่อหยุดรถ ไม่ให้ไถลไปไกล เพราะอาจจะสร้างความเสียหายมากกว่านั้น
โอกาสยางระเบิด ยางแตก หรือล้อหลุด จะเกิดขึ้นเมื่อไร
การใช้งานรถยนต์ตามปกติโอกาสที่จะเกิดปัญหาต่างๆ เหล่านี้ อาจจะเกิดขึ้นในกรณีดังนี้
1. โอกาสยางระเบิด มักจะเกิดจากลมยางอ่อน ขับรถทางไกล แดดร้อน ยางอ่อนทำให้อากาศร้อนในยางขยายตัวได้มาก หากยางเริ่มเสื่อมสภาพด้วยแล้ว มีโอกาสระเบิดสูงมาก เป็นประสบการณ์ตรงที่เจอกับตัวเอง
ดังนั้นหากขับรถในสถานการณ์แบบนี้ ต้องระวังให้ดี ลมยางอ่อน และยางเก่า มีโอกาสสูงมาก ขับรถทางไกล ต้องเติมลมยางให้มากกว่าปกติ ตามมาตรฐานอาจกำหนดไว้ที่ 30 อาจจะเติม 33-35 เป็นต้น
2. ยางแตก โอกาสเกิดเหตุทำให้ยางแตก เช่น ขับรถชนของทาง เหยียบของมีคม ไม่ว่าจะขับด้วยความประมาทหรือมึนเมาก็ตาม บางคนใจลอย สตาร์ทรถแล้ว ขับปีนปีนฟุตบาทไปเลยก็มี ทำให้ยางแตกได้
3. ล้อหลุด มักจะเกิดในกรณีที่มีการถอดเปลี่ยนล้อ หรือเปลี่ยนยาง แล้วช่างขันน้อตไม่แน่น ดังนั้นหลังจากออกจากร้านยาง หรือถอดเปลี่ยนล้อเอง จำเป็นจะต้องหยุดรถเพื่อตรวจสอบเป็นระยะๆ อีกครั้งให้มั่นใจ
หากการถอดเปลี่ยนล้อรถ เป็นเรื่องที่คิดว่า ยากเกินไปสำหรับตัวเอง ไม่สามารถทำเองได้ ก็ขอให้เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ติดรถให้พร้อมก็พอ เพราะหากอุปกรณ์พร้อม การขอความช่วยเหลือจากคนอื่นก็คงจะไม่ยากอย่างแน่นอน