Sponsored Ads


บทความแนะนำให้รู้จักคอมพิวเตอร์ ความสำคัญของคอมพิวเตอร์ ประโยชน์ของของคอมพิวเตอร์ รูปแบบหน้าตาของคอมพิวเตอร์แบบต่างๆ ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่เราจะต้องรู้จัก เพราะคอมพิวเตอร์ไม่ได้มีประโยชน์แค่ในสำนักงานอีกต่อไปแล้ว แต่ยังมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราทุกคน

 

คนรุ่นใหม่รู้จักคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี เพราะในสิบกว่าปีที่ผ่านมาได้มีการส่งเสริมให้ศึกษาคอมพิวเตอร์กันอย่างมาก ประกอบกับบริการหรือความสามารถหลายๆ ด้านที่คอมพิวเตอร์สามารถทำได้นั้น ไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะสำหรับการทำงานเท่านั้น แต่ความสามารถหลายๆ ด้านที่เพิ่มเข้ามา มีประโยชน์สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันด้วย เช่น อ่านข่าวในเว็บไซต์ต่างๆ ค้นหาข้อมูลที่ต้องการจาก Google แช็ตหรือสนทนาผ่านเน็ต การแบ่งปัน แชร์รูปภาพใช้งานโปรแกรมประเภท Social ผ่าน Facebook การดูวิดีโอใน Youtube ตลอดจนการหาเงินจากอินเตอร์เน็ตแบบต่างๆ อย่างการเปิดร้านค้า ขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทกับการดำเนินชีวิตของผู้คนมากกว่าเมื่อก่อนอย่างมาก ซึ่งจะเน้นไว้ทำงานกันมากกว่า

แต่คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันมีความสามารถที่มากกว่านั้น เรียกได้ว่า ครอบคลุมทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตเลยทีเดียว การใช้ขีวิตในปัจจุบัน จึงมีความจำเป็นต้องศึกษาคอมพิวเตอร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยโดยเฉพาะคนรุ่นเก่า ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป อย่างนั้นก็ควรรู้วิธีค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น เพราะการทำธุรกิจ ทำมาค้าขาย หรือทำอะไรก็ตามเวลาติดขัด ตัดปัญหา เรื่องหนึ่งเรื่องใด ก็สามารถค้นหาจากอินเตอร์เน็ตได้ มีคำตอบทุกเรื่อง แถมมีวิดีโอสอนทุกเรื่องที่เราอยากจะรู้

คอมพิวเตอร์คืออะไร
คำจำกัดความของคอมพิวเตอร์ในที่นี้จะหมายถึงคอมพิวเตอร์ประเภทตั้งโต๊ะหรือโน๊ตบุ๊ค ซึ่งในปัจจุบันความหมายนี้ดูจะแคบไปแล้ว เพราะเทคโนโลยี่ได้พัฒนาไปไกลมาก หน้าตาคอมพิวเตอร์ก็เปลี่ยนไป อาจจะอ่านไว้ทำข้อสอบก็พอได้ครับ
“ อุปกรณ์อะไรก็ได้ที่สามารถรับข้อมูลเข้าไปประมวลผล แล้วได้ผลลัพธ์ออกมาตามต้องการ โดยส่วนต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นคอมพิวเตอร์จะต้องประกอบไป ด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้ หน่วยรับ ข้อมูล หน่วยความจำหน่วยประมวลผลกลาง และหน่วยแสดงผลข้อมูล ”

ส่วนประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
มี 3 ส่วนหลักๆ ดังนี้
1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) เป็นอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เช่น จอภาพ (Monitor) เมาส์ (Mouse) แป้นพิมพ์ (Keyboard) ซีพียู (CPU) พรินเตอร์ (Printer) สแกนเนอร์ (Scanner) ยูพีเอส (UPS)ซีดีรอมไดรว์ (CD-ROM DRIVE) โมเด็ม (Modem) แผ่นดิสก์ เก็ต (Disket) แรม (Ram) ฮาร์ดดิสก์ (Harddisk) การ์ดเสียง (Sound Card) เป็นต้น


2. ซอฟท์แวร์ (SoftWare) เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้หรือเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถทำงานต่างๆ ตามที่เราต้องการ ซึ่งอาจแบ่งได้ 2 ประเภท คือ โปรแกรมระบบปฏิบัติการและโปรแกรมประยุกต์สำหรับใช้งานเฉพาะทางหรือ Application


3. บุคลากร (Peopleware) เป็นบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เช่น คนใช้ คนขาย คนสอน คนซื้อ คนสร้าง โปรแกรม คนผลิต โดยสรุปแล้วก็คือ บุคคลทุกคนที่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง กับคอมพิวเตอร์นั่นเอง

หน้าตาของคอมพิวเตอร์ที่หลากหลายมากในปัจจุบัน
จากคำจำกัดความของคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันเราก็จะพบว่า มีอุปกรณ์อีเล็คทรอนิกหลากหลายประเภทที่จัดว่าเป็นคอมพิวเตอร์ ไม่ได้หมายถึงคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊คเท่านั้น ตัวอย่างเช่น

มือถือสมาร์ทโฟน
มือถือประเภทนี้ได้รับความนิยมมาก ซึ่งหลายๆ รุ่นมีความสามารถทำอะไรได้ไม่ต่างจากคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เลยทีเดียว ส่วนใหญ่ก็รองรับการทำงานพื้นฐานทั้งหมด ยกเว็บการทำงานหนักๆ อย่างการพิมพ์เอกสารตกแต่งภาพ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้แม้ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับงานพวกนี้ แต่บางรุ่นก็สามารถทำได้

มือถือเหล่านี้จัดเป็นคอมพิวเตอร์อีกประเภทหนึ่ง ส่วนใหญ่จะรองรับการเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดโดยเฉพาะแบบ Bluetooth ซึ่งจะช่วยให้เราพิมพ์ข้อมูล ตอบอีเมล์ พิมพ์รายงานได้ แต่การใช้งานหลักๆ จะเน้นการไว้เสพข้อมูลมากกว่า เช่น ดูภาพ ฟังเพลง ดูวิดีโอ Youtube ท่องอินเตอร์เน็ต ถ่ายรูป เล่น Facebook แช็ทแบบเห็นหน้า เน้นการใช้งานที่ไม่ต่อเนื่องนานนัก

ปัจจุบันมือถือสมาร์ทโฟนมีหลายค่าย หลายบริษัทให้เลือกใช้งาน โดยจะแบ่งแยกกันตามระบบปฏิบัติการที่ใช้ในมือถือเหล่านั้น เช่น iOSที่ใช้ใน iPhone ระบบ Android ที่ใช้ในมือถือ Samsung ระบบ Windows ที่ใช้ในมือถือ Noia เป็นต้น

แท็บเล็ตพีซี
Tabet PC ก็จัดเป็นคอมพิวเตอร์อีกประเภทหนึ่งเช่นกัน โดยจะแยกกันอย่างชัดเจนตามระบบปฏิบัติการที่ใช้ในอุปกรณ์เหล่านี้ ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการคล้ายกับมือถือ แท็บเล็ตพีซีจะมีหน้าจอที่ใหญ่กว่ามือถือสมาร์ทโฟนหลายรุ่นจะสามารถต่อเมาส์ ต่อคีย์บอร์ด ฮาร์ดดิสก์ภายนอก แฟลชไดรว์ หน่วยความจำเพิ่มหรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้ จึงทำให้กลายร่างเป็นคอมพิวเตอร์ได้ทันที สามารถทำงานที่หนักขึ้นมาได้อีกระดับหนึ่ง แต่ก็เหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อเสพข้อมูลคล้ายมือถือสมาร์ทโฟน เพียงแต่มีหน้าจอที่ใหญ่กว่า ใช้งานได้สะดวกกว่า ข้อดีของมือถือแบบสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตก็คือความสะดวกในการพกพาและใช้งาน เพราะสามารถเปิดเครื่อง เพื่อใช้งานได้ทันทีไม่ต้องรอเหมือนคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ค และไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟเช่นกัน หลายรุ่นสามารถใช้งานได้หลายวัน หากใช้งานเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น อย่างการเช็คอีเมล์ อ่านข่าว ฟังเพลง

ตัวอย่างแท็บเล็ตแบบต่างๆ
1. iPad แท็บเล็ตที่ถือได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่ดีที่สุด มี 2 ขนาด ให้เลือกใช้ตามความต้องการ เนื่องจากผู้ผลิตมีรายเดียว จึงทำให้ระบบของ iPad ค่อนข้างเสถียรมาก ไม่ค่อยเจอปัญหาบ่อยนัก
2. แท็บเล็ต Android เป็นแท็บเล็ตที่มีการผลิตออกมาหลากหลายยี่ห้อและหลายรุ่นมาก เป็นตัวเลือกให้คนทุกระดับที่มีงบประมาณตั้งแต่ พันกว่าบาทขึ้นไปจนถึง 2 หมื่นกว่าบาท สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ รองรับการใช้งานได้เช่นเดียวกับ iPad แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องความเสถียร บางรุ่นรวนบ่อย แฮงค์ แม้จะแค่เปิดฟังเพลงก็ตาม
3. แท็บเล็ต Windows เป็นแท็บเล็ตอีกประเภทหนึ่งที่น่าใช้ที่สุดหากราคาถูกกว่านี้ เพราะระบบจะคล้ายกับคอมพิวเตอร์ที่เราใช้ๆ กันอยู่นั่นเอง ซึ่งระบบปฏิบัติการที่ใช้จะเป็นแบบเดียวกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊ค

กล้องดิจิตอลระบบ Android
กล้องดิจิตอลบางรุ่น ของ Samsung จะมีระบบปฏิบัติการในตัว ทำให้สามารถถ่ายภาพและส่งเข้าเว็บไซต์หรือนำไปตกแต่ง ก่อนจะแชร์กันผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ต้องเอาเข้าไปปรับแต่งในคอมพิวเตอร์ให้เสียเวลา

Mini PC ระบบ Android
อุปกรณ์ตัวนี้เล็กมากๆ ขนาดประมาณนิ้วหัวแม่มือ แต่ทำหน้าที่เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กได้ โดยนำไปต่อกับทีวีบ้าน ต่อเมาส์ ต่อคีย์บอร์ด ก็จะสามารถใช้งานได้คล้ายกับคอมพิวเตอร์ แต่จะเน้นไว้ดูข้อมูล มากกว่าเช่นท่องเน็ต เล่น Facebook อ่าน รับส่ง ตอบอีเมล์ ดูวิดีโอ ดูภาพ ไม่เน้นไว้ทำงาน พิมพ์เอกสาร หรือแต่งภาพ เพราะมันไม่ไหว แต่สะดวกในการใช้งานไม่น้อยเลย ประหยัดไฟอีกด้วย

 

Notebook
โน้ตบุ๊คถือว่าเป็นคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่เราคุ้นเคยและรู้จักกันดีอยู่แล้ว ความสามารถก็ใกล้เคียงคอมพิวเตอร์ หรือมากกว่าในปัจจุบัน อีกทั้งยังพกพาสะดวก ใช้งานได้ทุกที

คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่เราคุ้นเคย
คอมพิวเตอร์แบบนี้ จะไว้สำหรับการทำงานอย่างจริงๆ จังๆ เพราะสะดวกมากกว่าอุปกรณ์ทุกแบบข้างต้นที่ได้กล่าวไปแล้ว เมื่อทำงานในคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะเสร็จแล้ว หลายๆ คนก็จะนำข้อมูลไปเก็บไว้ในอุปกรณ์เหล่านั้น เช่น ภาพ เพลง eBook หรือวิดีโอไว้ในมือถือหรือแท็บเล็ต เพราะสะดวกเวลาต้องการจะใช้งาน เป็นต้น

คอมพิวเตอร์ประเภทอื่นๆ
ยังมีคอมพิวเตอร์ในรูปแบบหรือรูปทรงอื่นๆ อีกหลายแบบ ซึ่งจะเป็นการใช้งานเฉพาะทางจริงๆ อย่างเช่น นาฬิกาหรือ Smartwatch หรือแว่นตา GoogleGlass ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้ผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ได้เช่นกัน

 

ไม่ว่าคอมพิวเตอร์จะเปลี่ยนไปแค่ไหน หรือมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร นั่นไม่สำคัญเท่ากับข้อมูลที่มีอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ที่เราต้องหาทางใช้ประโยชน์จากมันให้ได้นั่นเอง คนรุ่นเก่าหลายคนละเลยที่จะศึกษาเรื่องนี้เพราะมองว่าตัวเองแก่เกินเรียนแล้ว ทำให้ขาดโอกาสในการใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์เหล่านี้ อย่างมือถือสมาร์ทโฟนระบบ Andoid สักเครื่องราคาเริ่มต้นไม่ถึง สองพันบาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นคอมพิวเตอร์อีกประเภทหนึ่งเหมือนกัน หากรู้จักใช้งาน เราก็สามารถใช้ทำอะไรได้หลายอย่าง จะค้นหาข้อมูลจาก Google ดูวิดีโอ Youtube ค้นหาเส้นทางขณะเดินทาง แช็ทหรือสนทนากับเพื่อนฝูง ครอบครัว แบบเห็นหน้า หรือข้อความอย่างเดียว ทำเว็บไซต์ ค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ แม้กระทั่งจัดการกับข้อมูลในร้านค้าออนไลน์ที่ขายของผ่านอินเตอร์เน็ตก็สามารถทำได้

เทคโนโลยี่ด้านคอมพิวเตอร์เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราไม่จำเป็นต้องตามให้ทันทุกเรื่อง แต่ตามให้ทันแค่เรื่องที่มีประโยชน์กับเราดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะทุกวันนี้ ความรู้ด้านนี้ เริ่มกว้างมากและซับซ้อนกว่าเดิม ต้องเน้นเฉพาะทางมากขึ้น