Sponsored Ads

คำสรรพนามเป็นคำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อหลีกเลี่ยงการเรียกชื่อซ้ำๆ เช่น นายแดงเป็นพนักงานบริษัทนี้ เขาทำงานมาหลายปีแล้ว คำว่า เขา จะเป็นคำสรรพนาม คำสรรพนามมีหลายแบบ หลายชนิด

 

การกล่าวคำนาม โดยเฉพาะคำเรียกชื่อ คน สัตว์ สิ่งของแบบซ้ำๆ จะทำให้เกิดความรำคาญ น่าเบือ หรือประโยคดูยาวเกินไป ในทุกภาษาจึงต้องมีคำสรรพนาม ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน

ตัวอย่างประโยคที่มีการใช้คำสรรพนาม
Tom is a teacher. Tom teachs science. Tom .....
ทอม อีส อะ ทีเฉอะ. ทอม ทีช ไซเอนซฺ ทอม ....
ทอมเป็นครู ทอมสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ทอม... การใช้ประโยคในลักษณะนี้จะมีความซ้ำซ้อน กล่างชื่อ Tom ซ้ำๆ จึงต้องมีการใช้ สรรพนาม เข้ามาช่วยเรียบเรียงประโยค เช่น ใช้ He ซึ่งแปลว่า เขา แทนชื่อ ทอม

Tom is a teacher. He teachs science. He .....

 

ประเภทของคำสรรพนาม

1. Personal Pronoun สรรพนามแสดงแทนชื่อคน

สรรพนามเหล่านี้จะใช้แทนชื่อคน ลดการเรียกชื่อซ้ำๆ กล่าวถึงชื่อบ่อยๆ ตัวอย่างสรรพนามกลุ่มนี้ เช่น

 

สรรพนามใช้เป็นประธานของประโยค

I ไอ ฉัน, He ฮี เขา, She ชี เธอ, It อิท มัน, One วัน คนหนึ่งคน อะไรบางอย่างหนึ่งอย่าง, We วี พวกเรา, You ยู คุณ, They เดย์ พวกเขา
He teachs science.
ฮี ทีช ไซเอ๊นซ
เขา สอน วิชาวิทยาศาสตร์

 

สรรพนามใช้เป็นกรรม

me, him, her, it, us, you, them
Tom love sara. His sister love me.
ทอม เลิฟ ซาร่า ฮิส ซิสเตอร์ เลิฟ มี.
ทอม รัก ซาร่า. น้องสาวของเขา รัก ฉัน จากประโยคนี้จะมีการใช้ His เป็นสรรพนามแทนชื่อ ทอม และ มี/me ทำหน้าที่เป็น กรรม แทน ฉัน ไม่ระบุชื่อตัวเอง แต่ใช้ me แทนชื่อ

 

2. Possesive Pronoun สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ

สรรพนามกลุ่มนี้จะใช้ในความหมายว่า เป็นของฉัน เช่น หนังสือเหล่านี้เป็นของฉัน แมวตัวนั้นเป็นของเรา ตัวอย่างสรรพนามกลุ่มนี้ mine มายเน่อะ เป็นของฉัน
ours อาวเซอะ เป็นของเรา เป็นของพวกเรา
yours ยัวเซอะ เป็นของคุณ เป็นของพวกคุณ
his ฮีส เป็นของเขา
hers เฮอเซอะ เป็นของเธอ
its อิทเซอะ เป็นของมัน ใช้กับสัตว์ สิ่งของ
theirs แดเซอะ เป็นของพวกเขา

All books are mine
ออล บุ๊คเซอะ อาร์ มายเนอะ
หนังสือทั้งหมดเป็นของฉัน ลองแต่งประโยคด้วยการเปลี่ยนจากคำว่า mine เป็นคำอื่นได้ตามต้องการ

 

3. Demonstrative Pronoun สรรพนามบ่งชี้เฉพาะ

สรรพนามเหล่านี้จะใช้กล่าวถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใด แบบบ่งชี้เป็นการเฉพาะ ตัวอย่างสรรพนามกลุ่มนี้ เช่น
That แดท สรรพนามแทนสิ่งนั้น หากเทียบกับภาษาไทย อาจจะเป็นประโยค อันนั้นเป็นของฉัน
This ดิส สรรพนามแทนสิ่งนี้
These ดิส เหล่านี้
Those โดส เหล่านั้น
Such ซัช ใช้ในความหมาย อย่างนั้น เช่นนั้น พวกนั้น

That book is mine
แดท บุ๊คเซอะ อาร์ มายเนอะ
หนังสือหล่านั้น เป็น ของฉัน That book เป็นเอกพจน์ ใช้ is

These books are mine.
ดีส บุ๊คเซอะ อาร์ มายเนอะ
หนังสือเหล่านี้ เป็น ของฉัน หนังสือเหล่านี้มีหลายเล่ม เป็นพหูพจน์ ใช้ อาร์ are

I am not such a fool
ไอ แอม นอต ซัช อะ ฟูล
ฉันไม่ใช่ คนโง่เช่นนั้น ชัช /such ใช้ในความหมายว่า เช่นนั้น แบบนั้น อย่างนั้น ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น ไม่ได้โง่แบบนั้น แต่โง่กว่านั้น

no such place exists
โน ซัช เพลซ เอ็กซีสตฺ
ไม่มีสถานที่ดังกล่าวอยู่ หรือสถานที่เช่นนั้นไม่มีอยู่จริง

 

4. Reflexive Pronoun สรรพนามแบบเน้นตัวเอง self

อาจจะเรียกว่า สรรพนามแบบเซลฟฺ เน้นตัวเอง มีความหมายถึง ด้วยตัวเอง โดยตัวเอง ตัวอย่างสรรพนามกลุ่มนี้ เช่น

 

เอกพจน์

himself ฮิมเซลฟึ ด้วยตัวเขาเอง โดยตัวเขาเอง
herself เฮอเซลฟึ ด้วยตัวเธอเอง โดยตัวเธอเอง
myself มายเซลฟึ ด้วยตัวฉันเอง โดยตัวฉันเอง
yourself ยัวเซลฟึ ด้วยตัวคุณเอง โดยตัวคุณเอง
itself อิทซลฟึ ด้วยตัวมันเอง โดยตัวมันเอง
oneself วันเซลฟึ

Tom can swim across the river by himsrlf
ทอม แคน สวิม อะครอส เดอะ รีเวอร์ บาย เด็มเซลสี
ทอมสามารถว่ายน้ำข้ามแม่น้ำได้ด้วยตัวเขาเอง ไม่มีใครช่วย ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ว่ายน้ำเก่งมาก ประโยคนี้ประธาน มีคนเดียว /Tom เป็นเป็นเอกพจน์จะใช้ himself

 

พหูพจน์

ourselves เอ๊าเออเซลสี ด้วยตัวพวกเราเอง โดยตัวพวกเราเอง
yourselves ยัวเซลสี ด้วยตัวพวกท่านเอง โดยตัวพวกท่านเอง
themselves เด็มเซลสี ด้วยตัวพวกเขาเอง โดยตัวพวกเขาเอง

Three men can swim across the river by themselves.
ทรี เมน แคน สวิม อะครอส เดอะ รีเวอร์ บาย เด็มเซลสี
ชายสามคนสามารถว่ายน้ำข้ามแม่น้ำได้ด้วยตัวพวกเขาเอง ไม่มีใครช่วย ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ว่ายน้ำเก่งมาก ประโยคนี้ประธาน ชายสามคน /three men เป็นพหูพจน์ จะใช้ themselves

 

5. Interrogative Pronoun สรรพนามสร้างคำถาม who, what

คำสรรพนามเหล่านี้จะใช้สร้างประโยคคำถาม หรือในลักษณะคล้ายคำถาม หรือไม่รู้ว่าคืออะไร ตัวอย่างสรรพนามกลุ่มนี้ เช่น

who ฮู ใคร
whom ฮูม ใคร คนไหน ผู้ใด
whose ฮูส ของ... เหล่านั้น ฝั่งไหน ของใคร
what วอท อะไร

What is your name?
วอท อิสซะ ยัว เนม
คุณชื่ออะไร

I don't know who he is.
ไอ ดอน โน ฮู ฮี is
ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร

whose book is this?
ฮูส บุ๊ค อิส ดิส
หนังสือเหล่านี้ของใคร

 

6 Indefinite Pronoun สรรพนามไม่เจาะจง

คำสรรพนามเหล่านี้ไว้ใช้แบบไม่เจอะจง ระบุตรงๆ ว่าเป็นใคร หรืออะไร ไว้กล่าวลอยๆ ตัวอย่างสรรพนามกลุ่มนี้ เช่น
all ออล ทั้งหมด ทุกคน
any แอนนิ ได ใคร บ้าง
one วัน หนึ่ง สิ่งหนึ่ง คนหนึ่ง หนึ่งคน หนึ่งประการ
anything แอนนีติง สิ่งใด อะไรก็ตาม อะไรบ้าง
anyone แอนิวัน ใครๆ คนหนึ่งคนใด

All have to die.
ออล แฮพ ทู ดาย
ทุกคนต้องตาย ใช้ออล /all ในความหมายว่า ทุกคน

anyone can do it
แอนนิวัน แคน ดู อิต
ใครก็ตาม ก็สามารถทำมันได้ หรือ ทุกคนสามารถทำได้

I didn't hear anything
ไอ ดิ๊น เฮีย แอนนิติง
ฉันไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

 

7. Relative Pronoun สรรพนามไว้เชื่อมข้อความ

สรรพนามเหล่านี้จะใช้เชื่อมประโยคสั้นๆ ข้อความสั้นๆ เข้าด้วยกัน ตัวอย่างสรรพนามกลุ่มนี้ เช่น
who ฮู ใช้ในความหมายว่า ผู้ซึ่ง
that แดท ใช้ในความหมายว่า ซึ่ง นั้น
as แอส ใช้ในความหมายว่า ราวกับว่า เหมือน ในระหว่าง
what วอท ใช้ในความหมายว่า อะไรซึ่ง

It is the car that I will buy tomorrow.
อิท อีส เดอะ คาร์ แดท ไอ วิล บาย ทูโมโร
นั่นเป็นรถ ที่ซึ่ง ฉันจะซื้อในวันพรุ่งนี้ ใช้ that ในความหมายว่า ซึ่งหรือที่ซึ่ง เชื่อมประโยค It is the car กับ I will buy tomorrow เชื่อมข้อความหรือประโยคเล็กๆ เข้าด้วยกัน ให้ดูกระชับ สละสลวย

Tom is new teacher who will teach math the next week.
ทอม อิส นิว ทีเช่อะ ฮู วิลล ทีช แมธ เดอะ เนกซท วิค
ทอมเป็นครูคนใหม่ซึ่งจะสอนวิชาคณิตศาสตร์ในสัปดาห์หน้า

 

8. Distributive Pronoun สรรพนามแบบแจกแจง แยกย่อย

สรรพนามเหล่านี้จะใช้ในลักษณะให้เลือกให้เลือกหรือกล่าวถึงอย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวอย่างสรรพนามกลุ่มนี้ เช่น

either อี๊เซ่อ อย่างหนึ่งอย่างใดในระอย่างสองอย่างนั้น
neither นีเซ่อ ไม่อย่างหนึ่งอย่างใด ในระหว่าง 2 อย่างนั้น

You can buy the pet either of dog or cat
ยู แคน บาย เดอะ เพ็ท อีเซ่อ ออฟ ด้อก ออร์ แคท
คุณสามารถซื้อสัตว์เลี้ยง ไม่ตัวใด ก็ตัวหนึ่ง ในระหว่างสุนัขหรือแมว เลือกได้อย่างเดียว

It's either Spanish or English that she speaks
อิส สะ อีเซ่อ สแปนนิช ออร์ อิงลิช แดท ชี สปีคซึ
มันเป็นทั้งภาษาเสปน หรือ ภาษาอังกฤษ ที่เธอพูด

Either of you has to go with me
อีเซ่อ ออฟ ยู แฮส ทู โอ วิธ มี
ไม่คนใดก็คนหนึ่งระหว่างพวกคุณทั้งสอง ที่จะต้องไปกับฉัน

I don't like neither of dog or cat.
ไอ ด๊อนท ไลค นีเซ่อ ออฟ ด้อก ออร์ แคท
ฉันไม่ชอบทั้งสุนัขและแมว ไม่ชอบทั้งสองอย่าง

It's neither Spanish or English that she speaks
มันไม่ใช่ทั้งภาษาเสปน หรือ ภาษาอังกฤษ ที่เธอพูด

Neither of dog or cat that I like.
นีเซ่อ ออฟ ด้อก ออ แคท แดท ไอ ไลค
นั่นไม่ใช่สุนัขหรือแมวในแบบที่ฉันชอบ ตัวเลือกที่มีให้ไม่ชอบทั้งสองอย่าง

I prefer a book to be either fact or fiction. But this one is neither one thing nor the other.
ฉันชอบหนังสือที่เป็นความจริงหรือนวนิยายเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องหนึ่งหรือเรื่องอื่น ๆ หรือ
ฉันชอบหนังสือแนวเรื่องจริงหรือแนวนวนิยาย แต่นี่ไม่ใช่เรื่องหนึ่งเรื่องใดในแบบที่ฉันชอบ ไม่ใช่หนังสือในแนวที่ชอบอ่านทั้งสองเล่ม ซึ่งอาจจะเป็นวิทยาศาตร์หรือเรื่องลี้ลับ

สำหรับสรุปเกี่ยวกับสรรพนามในบทความนี้ ก็คงจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจโดยย่อเกี่ยวกับคำสรรพนามในภาษาอังกฤษ ซึ่งจะต้องศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อศึกษาแบบเจาะลึกถึงตัวอย่างการใช้งานแต่ละแบบ เพื่อจะให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น