รวมตัวอย่างการใช้บุรุษสรรพนาม I, You, We, He, She, They และ It กับคำกริยา 3 ช่อง หรือกริยายึดตามกาลเวลา เมื่อวานนี้ วันนี้และพรุ่งนี้ จะใช้คำกริยาไม่เหมือนกัน การใช้คำสรรพนามต่างๆ ก็จะต้องใช้กับคำกริยาให้ถูกต้องเช่นกัน
ทำความรู้จักคำกริยา 3 ช่องกันก่อน
ก่อนจะเรียนรู้การใช้คำสรรพนามกับกริยา 3 ช่อง จำเป็นต้องทำความเข้าใจกับ Tense จำเป็นต้องศึกษาคำกริยา 3 ช่อง ให้เข้าใจเสียก่อน เพราะเป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้เข้าใจเรื่อง Tense ได้ดียิ่งขึ้น
คำกริยา 3 ช่อง ใช้ตามกาล
คำกริยาภาษาอังกฤษจะใช้ตามกาลเวลา เมื่อวานนี้ วันนี้ หรือพรุ่งนี้อนาคต ดังในหัวข้อก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเรียกว่า กริยา 3 ช่อง หรือนิยมเรียกกันว่า v1, v2, v3
ตัวอย่างคำกริยา กิน/eat/อีท ก็จะแบ่งเป็นกริยา 3 ช่อง แต่เป็นคำเดียวกัน ความหมายเหมือนกัน เพียงแต่ต้องเปลี่ยนรูปเพื่อใช้กับกาลเวลาที่ต่างกัน
คำกริยาช่องที่ 1 หรือ v1
eat อีท กิน คำกริยานี้จะใช้กับการกระทำในวันนี้ เวลานี้ ปัจจุบันนี้ เช่น วันนี้แดงกินก๋วยเตี๋ยว กริยาช่อง 1 หรือ v1 จะต้องเติม s หรือไม่เติม s ต่อท้าย ขึ้นอยู่กับจำนวนประธานประโยค คนเดียว (แดง) ก็ต้องเติม s เป็น eats หลายคน (แดงและสมศรี)ก็ไม่ต้องเติม s เป็น eat
ตัวอย่างการใช้คำสรรพนามกับคำกริยาช่องที่ 1
การใช้คำสรรพนามกับคำกริยาช่องที่ 1 จะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ คำกริยาแบบเอกพจน์และพหูพจน์ ซึ่งจะต่างกันเล็กน้อย คำสรรพนาม He, She และ It จะต้องเติม s หลังคำกริยานั้นๆ
คำกริยาแบบเอกพจน์
He
He eats noodles today.
ฮี อีทสึ นูเดิ้ล ทูเดย์
เขา กิน ก่วยเตี๋ยว วันนี้
คำกริยา eat จะต้องเติม s
She
She eats noodles today.
ชี อีทสึ นูเดิ้ล ทูเดย์
หล่อน กิน ก่วยเตี๋ยว วันนี้
คำกริยา eat จะต้องเติม s
It
It eats noodles today.
อิท อีทสึ นูเดิ้ล ทูเดย์
มัน กิน ก่วยเตี๋ยว วันนี้
คำกริยา eat จะต้องเติม s
คำกริยาแบบพหูพจน์
I
I eat noodles today.
ไอ อีท นูเดิ้ล ทูเดย์
ฉัน กิน ก่วยเตี๋ยว วันนี้
eat จะไม่เติม s
You
You eat noodles today.
ยู อีท นูเดิ้ล ทูเดย์
คุณ กิน ก่วยเตี๋ยว วันนี้
eat จะไม่เติม s
We
We eat noodles today.
วี อีท นูเดิ้ล ทูเดย์
พวกเรา กิน ก่วยเตี๋ยว วันนี้
eat จะไม่เติม s
They
They eat noodles today.
เดย์ อีท นูเดิ้ล ทูเดย์
พวกเขา กิน ก่วยเตี๋ยว วันนี้
eat จะไม่เติม s
คำกริยาช่องที่ 2 หรือ v2
eat เป็นคำกริยาช่องที่ 1 ส่วนคำกริยาช่องที่ 2 ate เอท กิน คำกริยานี้จะใช้กับการกระทำในอดีต อาจจะเป็นวันก่อน เมื่อวาน หรือตอนไหนก็ได้ ในอดีต เช่น เมื่อวานนี้ แดงกินข้าวผัด กริยาช่องที่ 2 หรือ v2 อาจจะมีการเปลี่ยนรูป หรือการออกเสียง เช่น eat เป็น ate
ตัวอย่างการใช้คำสรรพนามกับคำกริยาช่องที่ 2
การใช้คำสรรพนามกับคำกริยาช่องที่ 2 คำสรรพนามทุกคำจะไม่มีการแบ่งแยกเป็นคำสรรพนามเอกพจน์ หรือพหูพจน์ จะใช้เหมือนกันหมด
He
He ate noodles yesterday.
ฮี เอ๊ท นูเดิ้ล เยสเตอร์เดย์
เขา กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อวันนี้
คำกริยาช่องที่ 1 eat จะเปลี่ยนเป็นคำกริยาช่องที่ 2 ate คำสรรพนามทุกคำจะใช้ ate เหมือนกัน
She
She ate noodles yesterday.
ชี เอ๊ท นูเดิ้ล เยสเตอร์เดย์
หล่อน กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อวันนี้
คำกริยาช่องที่ 1 eat จะเปลี่ยนเป็นคำกริยาช่องที่ 2 ate คำสรรพนามทุกคำจะใช้ ate เหมือนกัน
It
It ate noodles yesterday.
อิท เอ๊ท นูเดิ้ล เยสเตอร์เดย์
มัน กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อวันนี้
คำกริยาช่องที่ 1 eat จะเปลี่ยนเป็นคำกริยาช่องที่ 2 ate คำสรรพนามทุกคำจะใช้ ate เหมือนกัน
I
I ate noodles yesterday.
ไอ เอ๊ท นูเดิ้ล เยสเตอร์เดย์
ฉัน กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อวันนี้
คำกริยาช่องที่ 1 eat จะเปลี่ยนเป็นคำกริยาช่องที่ 2 ate คำสรรพนามทุกคำจะใช้ ate เหมือนกัน
You
You ate noodles yesterday.
ยู เอ๊ท นูเดิ้ล เยสเตอร์เดย์
คุณ กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อวันนี้
คำกริยาช่องที่ 1 eat จะเปลี่ยนเป็นคำกริยาช่องที่ 2 ate คำสรรพนามทุกคำจะใช้ ate เหมือนกัน
We
We ate noodles yesterday.
วี เอ๊ท นูเดิ้ล เยสเตอร์เดย์
พวกเรา กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อวันนี้
คำกริยาช่องที่ 1 eat จะเปลี่ยนเป็นคำกริยาช่องที่ 2 ate คำสรรพนามทุกคำจะใช้ ate เหมือนกัน
They
They ate noodles yesterday.
เดย์ เอ๊ท นูเดิ้ล เยสเตอร์เดย์
เขา กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อวันนี้
คำกริยาช่องที่ 1 eat จะเปลี่ยนเป็นคำกริยาช่องที่ 2 ate คำสรรพนามทุกคำจะใช้ ate เหมือนกัน
คำกริยาช่องที่ 3 หรือ v3
eat เป็นคำกริยาช่องที่ 1 ส่วนคำกริยาช่องที่ 3 eaten อีทเท่น กิน คำกริยานี้จะใช้ในความหมายว่าได้กระทำสิ่งนั้น ได้ทำเรื่องนั้น หรือได้กระทำต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เช่น วันนี้แดงได้กินก๋วยเตี๋ยวแล้ว Daeng has eaten noodles. กริยาช่องที่ 3 หรือ V3 จะต้องมี Has หรือ Have เติมข้างหน้า
ตัวอย่างการใช้คำสรรพนามกับคำกริยาช่องที่ 3
การใช้คำสรรพนามกับคำกริยาช่องที่ 3 จะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ คำกริยาแบบเอกพจน์และพหูพจน์ ซึ่งจะต่างกันเล็กน้อย คำสรรพนาม He, She และ It จะใช้ has + คำกริยาช่องที่ 3 (eaten) ส่วน I, You, We และ They จะใช้ have + คำกริยาช่องที่ 3 (eaten)
คำกริยาแบบเอกพจน์
He
He has eaten noodles this morning.
ฮี แฮส อีททึ่น นูเดิ้ล ดิส มอร์นิง
เขา ได้กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อเช้าวันนี้
คำกริยาช่อง 3 eaten จะต้องมี has อยู่ข้างหน้า
She
She has eaten noodles this morning.
ชี แฮส อีททึ่น นูเดิ้ล ดิส มอร์นิง
หล่อน ได้กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อเช้าวันนี้
คำกริยาช่อง 3 eaten จะต้องมี has อยู่ข้างหน้า
It
It has eaten noodles this morning.
อิท แฮส อีททึ่น นูเดิ้ล ดิส มอร์นิง
มัน ได้กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อเช้าวันนี้
คำกริยาช่อง 3 eaten จะต้องมี has (แฮส) อยู่ข้างหน้า
คำกริยาแบบพหูพจน์
I
I have eaten noodles this morning.
ไอ แฮฟฟึ อีททึ่น นูเดิ้ล ดิส มอร์นิง
ฉัน ได้กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อเช้าวันนี้
คำกริยาช่อง 3 eaten อีททึ่น จะต้องมี have แฮฟฟึ อยู่ข้างหน้า
You
You have eaten noodles this morning.
ยู แฮฟฟึ อีททึ่น นูเดิ้ล ดิส มอร์นิง
คุณ ได้กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อเช้าวันนี้
คำกริยาช่อง 3 eaten อีททึ่น จะต้องมี have แฮฟฟึ อยู่ข้างหน้า
We
We have eaten noodles this morning.
วี แฮฟฟึ อีททึ่น นูเดิ้ล ดิส มอร์นิง
พวกเรา ได้กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อเช้าวันนี้
คำกริยาช่อง 3 eaten อีททึ่น จะต้องมี have แฮฟฟึ อยู่ข้างหน้า
They
They have eaten noodles this morning.
เดย์ แฮฟฟึ อีททึ่น นูเดิ้ล ดิส มอร์นิง
พวกเขา ได้กิน ก่วยเตี๋ยว เมื่อเช้าวันนี้
คำกริยาช่อง 3 eaten อีททึ่น จะต้องมี have แฮฟฟึ อยู่ข้างหน้า
หมายเหตุ
การใช้คำสรรพนาม I, You, We, He, She, They และ It กับคำรริยาช่องที่ 3 จะมีรายละเอียดการใช้งานที่ซับซ้อน โดยจะแยกไปตามกาลหรือ Tense เชน
1. การใช้คำสรรพนามกรณีเป็น Present Perfect
กล่าวถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในวันนั้นหรือขณะที่ได้พูดถึง เหตุการณ์นั้นได้จบลงแล้ว เช่น ขณะนั้นเวลาเที่ยงแต่ได้พูดถึงเมื่อเช้าว่าได้กินกาแฟไปแล้วคำกริยาแบบนี้จะใช้ในการพูดหรือแต่งประโยคที่มีความหมายว่าได้ทำสิ่งนั้นไปแล้ว ในขณะที่พูด ก็ได้ทำเรียบร้อยแล้ว
สถานการณ์ที่จะใช้ประโยคเหล่านี้ อาจจะเป็นการสนทนากันในวันนั้น บางคนอาจจะถามเพื่อนว่า กินอะไรมาหรือยัง คนตอบ ก็ตอบว่า ได้กินข้าวแล้ว ประโยคในลักษณะนี้จะเติมคำว่า has หรือ have หน้าคำกริยา และคำกริยาต้องผันเป็น V3 หรือ กริยาช่อง 3
He has eaten fried rice this morning.
ฮี แฮส อีทเท่น ฟราย ไรซ์ ดีส มอร์นิ่ง
เขากินข้าวผัดเช้านี้ หรือ เขาได้กินข้าวผัดแล้วเมื่อเข้านี้ ประธานมีคนเดียว คือ He/ฮี หรือ เขา จะต้องใช้ has/แฮส สรรพนาม She และ It ใช้เหมือนกัน ส่วนสรรพนาม I, You, We และ They จะใช้ have/แฮฟฟึ
2. การใช้คำสรรพนามกรณีเป็น Past Perfect
กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตที่ได้จบลงไปแล้ว เช่น ก่อนฝนจะตก เขาได้กินข้าวเสร็จแล้ว
หากมีคำพูดที่ต้องการพูดในลักษณะที่ว่า ได้ทำเสร็จแล้ว อาจจะเป็นการเล่าเรื่องราวในอดีตว่า เมื่อแม่มาถึง เขาก็ได้กินข้าวเสร็จแล้ว จะเป็นเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นและจบลงแล้วในอดีต
He had eaten fried rice when she arrived.
ฮี แฮด อีททิ่ง ฟราย ไรซ์ เว๊น ชี อะร๊ายฟฺ
เขาได้กินข้าวผัดหรือได้ทานอาหารเสร็จแล้วเมื่อหล่อนเดินทางมาถึง ประธานมีคนเดียวคือ He จะใช้ แฮด / had เป็นกริยาช่วย คำสรรพนาม She, It, I, You, We และ They จะใช้ had/แฮด เหมือนกันทั้งหมด
การใช้คำสรรพนามกับคำกริยาช่องที่ 3 ยังมีความซับซ้อนมากกว่านี้ เพราะมีเรื่องของ Tense มาเกี่ยวข้อง ศึกษาได้จากบทความ เรื่อง สรุปการใช้ Tense ภาษาอังกฤษ ตัวอย่างประโยค คำอ่าน คำแปล
ตัวอย่าง คำกริยา 3 ช่อง เช่น
คำกริยา 3 ช่อง ยังมีอีกเป็นหาบ เยอะมากทีเดียว ก็ต้องท่องจำอย่างเดียว
arise arose arisen เกิดขึ้น
awake awakened / awoke awakened / awoken ตื่น
backslide backslid backslidden / backslid ย้อนกลับ
be was, were been เป็น, อยู่, คือ
bear bore born / borne ทน
ฯลฯ
การใช้คำสรรพนามกับคำกริยาภาษาอังกฤษซึ่งมี 3 ช่อง หรือ 3 กาล ยังมีเรื่องยุ่งๆ ที่จะต้องใช้ให้ถูกต้อง ที่สร้างความปวดหัว สับสน ต้องจำอย่างมาก หวังว่าบทความนี้ก็คงพอจะช่วยให้เข้าใจในเบื้องต้นและสามารถศึกษาต่อยอดได้ การฝึกแต่งประโยคจะช่วยให้จำได้ดียิ่งขึ้น