บทความแสดงรูปแบบการใช้คำกริยา 3 ช่อง mishear misheard misheard ได้ยินผิดเป็นอีกเรื่อง กับประโยคในภาษาอังกฤษหรือ Tense ทั้ง 12 แบบ เช่น Present Tense, Past Tense และ Future Tense โดยแต่ละแบบยังมีเท้นส์ย่อยอีก 4 แบบ รวมเป็น 12 แบบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจการใช้คำกริยา 3 ช่องนี้ มากยิ่งขึ้น
กริยาช่องที่ 1 / กริยาช่องที่ 2 / กริยาช่องที่ 3/ คำแปล
mishear มิสสะเฮีย / misheard มิสสะเฮิด / misheard มิสสะเฮิด / ได้ยินผิดเป็นอีกเรื่อง หรือได้ยินไม่ถนัด หรือเข้าใจผิดว่าอีกฝ่ายเข้าไปใจอีกทาง หรือตัวเองฟังแล้วเข้าใจไปอีกทาง
ตัวอย่างการใช้คำกริยานี้
ประโยค She mishears him for some questions.
คำอ่าน ชี มิสสะเฮียสะ ฮิม ฟอร ซัม เควสชั่นสึ
คำแปล หล่อนได้ยินคำพูดเขาผิดไป หรือคิดไปเป็นอีกเรื่อง /She mishears him ในบางคำถาม /for some questions กรณีอย่างนี้ก็ต้องถามซ้ำอีกครั้ง
ตัวอย่างการใช้คำกริยานี้กับประโยคหรือ Tense 12 แบบ ในภาษาอังกฤษ
การนำคำกริยา 3 ช่อง ไปใช้สร้างประโยค เพื่อสื่อสาร สนทนา หรือการเขียน แต่ละคำอาจจะใช้ในบางสถานการณ์เท่านั้น ไม่ได้ใช้ครบทุก Tense ไม่นิยมพูดกัน หรือ นำไปแต่งประโยคภาษาอังกฤษ ตัวอย่างต่อไปนี้จึงเป็นเพียงรูปแบบการใช้คำกริยา 3 ช่อง กับ เท้นส์ ต่างๆ เท่านั้น
Tense 1 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Simple
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 โดยจะกล่าวถึง เรื่องที่เป็นข้อเท็จจริง เรื่องจริงในขีวิตประจำวัน หรือเรื่องราวที่เกิดวันนี้
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันนี้ ฉัน กินข้าวผัด * บอกเรื่องราวที่เกิดในวันนี้
- ฉันมีพี่ชาย 2 คน * บอกความจริง
- เธอร้องเพลงเก่งมาก
- ดวงอาทิตย์ ขึ้นทาง ทิศตะวันออก * ความจริง ข้อเท็จจริง
- สุนัขตัวผู้ คลอดลูกไม่ได้ * ความจริง ข้อเท็จจริง
- ทุเรียนมีกลิ่นเหม็นสำหรับบางคน หรือ ทุเรียนมีหนาม * เป็นเรื่องจริง ความจริง
- ฉันแปรงฟันทุกวัน
- ไปอาบน้ำได้แล้ว * ประโยคคำสั่ง หรือ ประโยคขอร้อง
- พวกเขาเล่นฟุตบอล
- ฉันทำการบ้าน
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 1 + เติม s ออกเสียง สึ ท้ายคำด้วย ตัวอย่าง mishear เป็น He mishears. / เขา ได้ยินผิด
1. He mishears. (He เขาคนเดียว)
2. She mishears. (She เธอคนเดียว)
3. It mishears. (It มันตัวเดียว)
4. The boy mishears. (The boy จะหมายถึง เด็กชายหนึ่งคน หรือ คนเดียว)
5. A boy mishears. (A boy จะหมายถึง เด็กชายคนเดียว หรือ หนึ่งคน)
6. This boy mishears. (This boy จะหมายถึง เด็กชายคนนี้คนเดียว)
7. That dog mishears. (That dog จะหมายถึง สุนัขตัวนั้นตัวเดียว มีแค่ 1 ตัว)
8. Somchai mishears. (Somchai สมชายเพียงคนเดียว เท่านั้น)
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 1 + ไม่เติม s ตัวอย่างเช่น mishear เป็น We mishear. / พวกเรา ได้ยินผิด
1. You mishear. (You คุณ หรือพวกคุณ มีหลายคน)
2. We mishear. (We พวกเรา มีหลายคน)
3. They mishear. (They พวกเขามีหลายคน)
4. These boys mishear. (These boys คำว่า boy เติม s จะหมายถึง เด็กชายเหล่านี้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป)
5. Those boys mishear. (Those boys คำว่า boy เติม s จะหมายถึง เด็กชายเหล่านั้นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป)
6. The boys mishear. (The boys คำว่า boy เติม s จะหมายถึง เด็กชายตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป)
7. Somchai and Somsak mishear. (Somchai and Somsak สมชายและสมศักดิ์รวมกันเป็น 2 คน)
8. I mishear. ** I เป็นข้อยกเว้น กริยาไม่ต้องเติม s แม้ว่า I จะเป็นเอกพจน์
Tense 2 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Continuous
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ ขณะนี้ ของวันนี้ กำลังทำอะไรอยู่ในขณะนี้ จะมีคำว่า กำลัง ในประโยคด้วย
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ขณะนี้พวกเรากำลังเล่นฟุตบอล
- ตอนนี้ฉันกำลังทำการบ้าน
- วันนี้ ตอนที่คุณโทรศัพท์มา ฉันกำลังอาบน้ำอยู่
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + is + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mishear เป็น He is mishearing. / เขากำลัง ได้ยินผิด อยู่ในตอนนี้ ขณะนี้
1. He is mishearing.
2. She is mishearing.
3. It is mishearing.
4. The boy is mishearing.
5. A boy is mishearing.
6. This boy is mishearing.
7. That dog is mishearing.
8. Somchai is mishearing.
9. I am mishearing. * ยกเว้น I จะใช้ I am
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + are + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mishear เป็น We are mishearing. / พวกเรากำลัง ได้ยินผิด อยู่ในตอนนี้ ขณะนี้
1. you are mishearing.
2. We are mishearing.
3. They are mishearing.
4. The boys are mishearing.
5. These boys are mishearing.
6. Those boys are mishearing.
7. Somchai and Somsak are mishearing.
Tense 3 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Perfect Simple
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 3 โดยจะล่าวถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในวันนั้นหรือขณะที่ได้พูดถึง เหตุการณ์นั้นได้จบลงแล้ว เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำสิ่งนั้น ทำสิ่งนี้เสร็จแล้ว ประโยคเหล่านี้จะมีคำว่า ได้ทำแล้ว หรือ เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว แล้ว
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันนี้ ตอนที่คุณโทรศัพท์มา ฉันได้อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว
- วันนี้ ฉันได้ทำการบ้านเสร็จแล้ว
- เวลานี้ พวกเขาได้หยุดเล่นฟุตบอลแล้ว
- พวกเขาได้ประชุมเสร็จแล้ว
- ฉันทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + has + กริยาช่องที่ 3 เช่น mishear เป็น He has misheard. / เขาได้ ได้ยินผิด แล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว หรือ เสร็จแล้ว
1. He has misheard.
2. She has misheard.
3. It has misheard.
4. The boy has misheard.
5. A boy has misheard.
6. This boy has misheard.
7. That boy has misheard.
8. Somchai has misheard.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + have + กริยาช่องที่ 3 เช่น mishear เป็น We have misheard. / พวกเราได้ ได้ยินผิด แล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว หรือ เสร็จแล้ว
1. You have misheard.
2. We have misheard.
3. They have misheard.
4. These boys have misheard.
5. Those boys have misheard.
6. The boys have misheard.
7. Somchai and Somsak have misheard.
8. I have misheard. ** I เป็นข้อยกเว้น ใช้กับ have แม้ว่า I จะเป็นเอกพจน์
Tense 4 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Perfect Continuous
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยไม่ได้หยุดพักเลย ในช่วงเวลาหนึ่งของวันนั้น วันนี้ ตัวอย่างเช่น
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันนี้ ตั้งแต่เวลา 8:00 จนถึงขณะนี้ ฉันได้ประชุมมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พูดถึง ก็ยังไม่เลิกประชุม หรือ เขาได้เข้าประชุมมาตั้งแต่ 8 โมงเช้าแล้ว (ขณะนี้ก็ยังประชุมอยู่)
- เขาได้ทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว ยังไม่หยุดเลย ขณะที่พูดถึงนี้ เขาก็ยังไม่หยุด
- พวกเขาขับรถมา 6 ชั่วโมงกว่าแล้ว (ขณะที่พูดถึงนี้ พวกเขาก็ยังขับรถอยู่ ยังไม่หยุดพักรถ พักคน)
- เขานั่งทำการบ้านมาตั้งแต่เช้า (ขณะที่พูดถึงเขา เขาก็ยังทำอยู่ ยังทำไม่เสร็จ )
- พวกเขาเล่นฟุตบอลมา 2 ชั่วโมงแล้ว (ขณะที่พูดถึง พวกเขาก็ยังเล่นอยู่ ยังไม่เลิกเล่น)
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + has + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น mishear เป็น He has been mishearing. / เขาได้ ได้ยินผิด มาตั้งแต่เวลา (เช้า, 8 โมงเช้า, เที่ยง) แล้ว ขณะนี้ก็ยังทำอยู่
1. He has heen mishearing.
2. She has been mishearing.
3. It has been mishearing.
4. The boy has been mishearing.
5. A boy has been mishearing.
6. This boy has been mishearing.
7. That boy has been mishearing.
8. Somchai has been mishearing.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + have + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น mishear เป็น We have been mishearing. / พวกเราได้ ได้ยินผิด มาตั้งแต่เวลา (เช้า, 8 โมงเช้า, เที่ยง) แล้ว ขณะนี้ก็ยังทำอยู่
1. You have been mishearing.
2. We have been mishearing.
3. They have been mishearing.
4. These boys have been mishearing.
5. Those boys have been mishearing.
6. The boys have been mishearing.
7. Somchai and Somsak have been mishearing.
8. I have been mishearing. ** I เป็นข้อยกเว้น ต้องใช้กับ have แม้ว่า I จะเป็นเอกพจน์
Tense 5 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Simple
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 2 โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว อาจจะมีคำที่สื่อความหมายให้รู้ อย่างคำว่า เมื่อวานนี้ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เมื่อวานนี้ ฉัน กินข้าวผัด
- เมื่อวาน เขาอาบน้ำครั้งเดียว
- พวกเขาเล่นฟุตบอล สัปดาห์ที่แล้ว
- เมื่อวานนี้ฉันทำการบ้าน
- เมื่อวานนี้พวกเรามีประชุม หรือได้เข้าร่วมประชุม
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 2 เช่น mishear เป็น He misheard. / เขา ได้ยินผิด แล้ว เมื่อวานนี้
1. He misheard.
2. She misheard.
3. It misheard.
4. The boy misheard.
5. A boy misheard.
6. This boy misheard.
7. That boy misheard.
8. Somchai misheard.
9. I misheard.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 2 เช่น mishear เป็น We misheard. / พวกเรา ได้ยินผิด แล้ว เมื่อวานนี้
1. You misheard.
2. We misheard.
3. They misheard.
4. These boys misheard.
5. Those boys misheard.
6. The boys misheard.
7. Somchai and Somsak misheard.
Tense 6 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Continuous
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกลาวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต โดยมีลักษณะเป็นการกระทำที่มีความต่อเนื่อง
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เมื่อวานนี้ ตอนที่เธอโทรศัพท์มา ฉันกำลังทำการบ้านอยู่
- เมื่อวานเวลานี้ พวกเรากำลังเล่นฟุตบอล
- อาทิตย์ที่แล้ว วันนี้ ฉันกำลังทำการบ้าน
- เมื่อวานนี้เวลา 8 โมงเช้า ฉันกำลังกินข้าวผัดอยู่
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + was + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mishear เป็น He was mishearing. / เขากำลัง ได้ยินผิด เมื่อวานนี้ หรือสัปดาห์ที่แล้ว ปีที่แล้ว ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว
1. He was mishearing.
2. She was mishearing.
3. It was mishearing.
4. The boy was mishearing.
5. A boy was mishearing.
6. This boy was mishearing.
7. That boy was mishearing.
8. Somchai was mishearing.
9. I was mishearing.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + were + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mishear เป็น We were mishearing. / พวกเรากำลัง ได้ยินผิด เมื่อวานนี้ หรือสัปดาห์ที่แล้ว ปีที่แล้ว ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว
1. You were mishearing.
2. We were mishearing.
3. They were mishearing.
4. The boys were mishearing.
5. These boys were mishearing.
6. Those boys were mishearing.
7. Somchai and Somsak were mishearing.
Tense 7 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Perfect Simple
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 3 โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่ได้จบลงไปแล้ว มักจะใช้พูดถึง 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำใดๆ โดยมักจะมีคำว่า เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว หรือ แล้ว ในประโยคนั้นๆ ที่บอกให้รู้ว่าเป็น Past Perfect Simple
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ตอนที่คุณโทรศัพท์มา ฉันได้อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว (การกระทำ อาบน้ำ ได้เกิดขึ้นก่อน คุณจะโทรศัพท์เข้ามา และฉัน ก็ได้อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว )
- เมื่อวานนี้ตอนที่พ่อแม่มาถึงบ้าน ฉันก็ได้กินอาหารเที่ยงเรียบร้อยแล้ว (ฉันได้กินอาหารเที่ยง เกิดขึ้นก่อน พ่อแม่จะมาถึง และก็จบลงแล้ว กินข้าวเสร็จแล้ว )
- ก่อนฝนจะตกเมื่อวานนี้ พวกเขาก็ได้หยุดเล่นฟุตบอลแล้ว เลิกเล่นก่อนฝนจะตกลงมา
- เมื่อคืนนี้ ตอนที่คุณมาถึง ฉันก็ได้ทานอาหารค่ำเรียบร้อยแล้ว
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3 เช่น mishear เป็น He had misheard. / เขาได้ ได้ยินผิด แล้ว หรือ เสร็จแล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว
1. He had misheard.
2. She had misheard.
3. It had misheard.
4. The had misheard.
5. A boy had misheard.
6. This boy had misheard.
7. That boy had misheard.
8. Somchai had misheard.
9. I had misheard.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3 เช่น mishear เป็น We had misheard. / พวกเราได้ ได้ยินผิด แล้ว หรือ เสร็จแล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว
1. You had misheard.
2. We had misheard.
3. They had misheard.
4. These boys had misheard.
5. Those boys had misheard.
6. The boys had misheard.
7. Somchai and Somsak had misheard.
Tense 8 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Perfect Continuous
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์นั้นมีลักษณะต่อเนื่อง มักจะใช้พูดถึงเหตุการณ์ หรือสิ่งที่เกิดขึ้น 2 เหตุการณ์ ในเวลาเดียวกัน
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เมื่อวานนี้ ตอนที่ลูกค้ามาถึงบริษัท พวกเขาก็ได้ประชุมกันมาตั้งแต่เวลา 8:00 เช้าแล้ว (การประชุมมีความต่อเนื่อง และขณะที่ลูกค้ามาถึง ก็ยังประชุมอยู่)
- เขาได้ทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว ก่อนที่คุณจะมาถึง (การทำงานมีความต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะมาถึงแล้ว แต่เขาก็ยังทำงานต่อ ยังไม่หยุด)
- เมื่อวาน พวกเขาได้ขับรถมา 6 ชั่วโมงกว่าแล้ว ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ (การขับรถเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องในอดีต)
- เขาได้นั่งทำการบ้านมาตั้งแต่เช้าแล้ว ก่อนพ่อแม่มาถึง (ทำการบ้าน เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง)
- พวกเขาได้เล่นฟุตบอลมา 2 ชั่วโมงแล้ว ก่อนฝนตก (เล่นฟุตบอลเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง)
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + been + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mishear เป็น He had heen mishearing. / เขาก็ได้ ได้ยินผิด มาแล้วตั้งแต่เวลา
1. He had heen mishearing.
2. She had heen mishearing.
3. It had heen mishearing.
4. The boy had heen mishearing.
5. A boy had heen mishearing.
6. This boy had heen mishearing.
7. That boy had heen mishearing.
8. Somchai had been mishearing.
9. I had been mishearing.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + been + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mishear เป็น We had heen mishearing. / พวกเราก็ได้ ได้ยินผิด มาแล้วตั้งแต่เวลา
1. You had heen mishearing.
2. We had heen mishearing.
3. They had heen mishearing.
4. These boys had heen mishearing.
5. Those boys had heen mishearing.
6. The boys had heen mishearing.
7. Somchai and Somsak had heen mishearing.
Tense 9 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Simple
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่จะเกิดในอนาคต พรุ่งนี้ หรือ อีกหลายวันข้างหน้า หรือในอนาคต มีคำว่า จะ (ทำอะไร) ในประโยค
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันพรุ่งนี้ ฉันจะกินข้าวผัด
- พร่งนี้ฉันจะไปอาบน้ำอุ่น
- พวกเขาจะเล่นฟุตบอลพรุ่งนี้
- ฉันจะทำการบ้านพรุ่งนี้
- พวกเขาจะประชุมวันศุกร์นี้
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1 เช่น mishear เป็น He will mishear. / เขาจะ ได้ยินผิด
1. He will mishear.
2. She will mishear.
3. It will mishear.
4. The boy will mishear.
5. A boy will mishear.
6. This boy will mishear.
7. That boy will mishear.
8. Somchai will mishear.
9. I will mishear.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1 เช่น mishear เป็น We will mishear. / พวกเราจะ ได้ยินผิด
1. You will mishear.
2. We will mishear.
3. They will mishear.
4. These boys will mishear.
5. Those boys will mishear.
6. The boys will mishear.
7. Somchai and Somsak will mishear.
Tense 10 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Continuous
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีความหมายว่า กำลังอยู่ระหว่างทำเหตุการณ์นั้นในอนาคต
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เวลา 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ ฉัน จะกำลัง อาบน้ำ
- พรุ่งนี้แปดโมงเช้า ฉัน จะกำลัง ประชุมอยู่
- พรุ่งนี้เที่ยงตรง เรา จะกำลังกินข้าว เที่ยงกันอยู่ที่โรงแรม
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + be + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mishear เป็น He will be mishearing. / เขาจะกำลัง ได้ยินผิด
1. He will be mishearing.
2. She will be mishearing.
3. It has will be mishearing.
4. The boy will be mishearing.
5. A boy will be mishearing.
6. This boy will be mishearing.
7. That bog will be mishearing.
8. Somchai will be mishearing.
9. I will be mishearing.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + be + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mishear เป็น We will be mishearing. / พวกเราจะกำลัง ได้ยินผิด
1. You will be mishearing.
2. We will be mishearing.
3. They will be mishearing.
4. These boys will be mishearing.
5. Those boys will be mishearing.
6. The boys will be mishearing.
7. Somchai and Somsak will be mishearing.
Tense 11 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Perfect Simple
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 3 โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่จะจบลงในเวลาที่กำหนด มักจะมีคำว่า แล้ว เรียบร้อยแล้ว เสร็จแล้ว ในประโยค
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เวลา 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ ฉันจะได้ประชุมสร็จแล้ว
- เวลาบ่ายโมงพรุ่งนี้ พวกเราจะหยุดเล่นฟุตบอลแล้ว
- พรุ่งนี้ 5 โมงเย็น ฉันจะเรียนดนตรีเสร็จแล้ว
- เมื่อคุณมาถึงโรงแรม พวกเราจะกินข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + กริยาช่องที่ 3 เช่น mishear เป็น He will have misheard. / เขาจะได้ ได้ยินผิด เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว
1. He will have misheard.
2. She will have misheard.
3. It will have misheard.
4. The boy will have misheard.
5. A boy will have misheard.
6. This boy will have misheard.
7. That boy will have misheard.
8. Somchai will have misheard.
9. I will have misheard.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + กริยาช่องที่ 3 เช่น mishear เป็น We will have misheard. / พวกเราจะได้ ได้ยินผิด เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว
1. You will have misheard.
2. We will have misheard.
3. They will have misheard.
4. These boys will have misheard.
5. Those boys will have misheard.
6. The boys will have misheard.
7. Somchai and Somsak will have misheard.
Tense 12 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Perfect Continuous
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่มีลักษณะเป็นการกระทำอย่างต่อเนื่อง จะได้กำลังทำอะไรบางอย่าง ในช่วงเวลาที่กำหนด ประโยคในลักษณะนี้ไม่ค่อยได้ใช้กันบ่อยนัก ใช้น้อยมากในการแต่งประโยค หรือสนทนา พูดจากัน
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ก่อนที่ผมจะไปถึงที่บ้านพรุ่งนี้เวลา 10 โมงเช้า คุณจะได้กำลังเตรียมตัวสัก 2 ชั่วโมง (กำลังเตรียมตัวเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง ต้องทำนู่น นี่ จัดของ ฯลฯ )
- พรุ่งนี้เวลา 8:00-10:00 น. พวกเราจะได้กำลังประชุมกันอยู่ (กำลังประชุม เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง)
- พรุ่งนี้ 10 โมงเช้า คุณจะได้กำลังใช้อินเตอร์เน็ตประมาณ 2 ชั่วโมง
- ฉันจะได้กำลังเรียนกีตาร์ 3 เดือน ในปีหน้า
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น mishear เป็น He will have been mishearing. / เขา จะได้กำลัง ได้ยินผิด
1. He will have been mishearing.
2. She will have been mishearing.
3. It will have been mishearing.
4. The boy will have been mishearing.
5. A boy will have been mishearing.
6. This boy will have been mishearing.
7. That boy will have been mishearing.
8. Somchai will have been mishearing.
9. I will have been mishearing.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น mishear เป็น We will have been mishearing. / พวกเรา จะได้กำลัง ได้ยินผิด
1. You will have been mishearing.
2. We will have been mishearing.
3. They will have been mishearing.
4. These boys will have been mishearing.
5. Those boys will have been mishearing.
6. The boys will have been mishearing.
7. Somchai and Somsak will have been mishearing.
การใช้คำกริยานี้กับ Going to
'
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีความหมายว่า กำลังจะ ไปทำ ..อะไร..บางอย่าง ความหมายจะคล้ายกับเท้นส์ Present Continuous Tense ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ฉัน กำลังจะ ไปกิน ผลไม้
- ฉัน กำลังจะ ไปประชุม
- ฉัน กำลังจะไป ทำการบ้าน
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + is + going to + กริยาช่องที่ 1 เช่น mishear เป็น He is going to mishear. / เขา กำลังจะไป ได้ยินผิด
1. He is going to mishear.
2. She is going to mishear.
3. It is going to mishear.
4. The boy is going to mishear.
5. A boy is going to mishear.
6. This boy is going to mishear.
7. That boy is going to mishear.
8. Somchai is going to mishear.
9. I am going to mishear. ** I จะใช้ am
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + are + going to + กริยาช่องที่ 1 เช่น mishear เป็น We are going to mishear. / พวกเรา กำลังจะไป ได้ยินผิด
1. You are going to mishear.
2. We are going to mishear.
3. They are going to mishear.
4. These boys are going to mishear.
5. Those boys are going to mishear.
6. The boys are going to mishear.
7. Somchai and Somsak are going to mishear.
สรุป
คำกริยา 3 ช่อง แต่ละคำจะมีรูปแบบการใช้กับเท้นส์ (Tense) ทั้ง 12 แบบ เป็นรูปแบบมาตรฐาน แต่โอกาสจะได้ใช้หรือนำไปแต่งประโยค เพื่อใช้สื่อสารในชีวิตจริงมากน้อยต่างกันไป กริยาบางคำอาจจะใช้กับเท้นส์เพียงไม่กี่เท้นส์เท่านั้น และในเท้นส์นั้นๆ ก็อาจจะใช้บางประธานของประโยคเท่านั้น ส่วนผู้ที่จะได้ใช้ทั้งหมดทุกเทนส์ก็จะมีเพียงผู้ที่ศึกษาภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำรายงานส่งอาจารย์