ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึง คนที่ แพ้แล้วพาล ความหมายตรงตัว แพ้แล้วก็ไม่ยอมรับความ จริงๆ ยังพยายามหาเรื่องเพื่อจะเอาชนะด้วยวิธีอื่น ไม่เคารพ กฏกติกา ก็มักจะทำให้เกิดปัญหาตามมา เรื่องทะเลาะวิวาท กัน

ตัวอย่าง :

วงการฟุตบอลไทย นั้นไม่เหมือนชาติใดในโลก มีหลายครั้งที่ เล่นในเกมแล้วแพ้ แต่ก็ไม่ยอมรับผลการตัดสิน แพ้แล้วพาล หา เรื่องชวนทะเลาะหรือสร้างปัญหาด้วยวิธีอื่น อย่างการยกพวกตีกัน หรือทำร้ายกรรมการ

เราไม่ควรคบหากับคนที่ไม่รู้จักแพ้ ยอมแพ้คนอื่นไม่เป็น คน ประเภทนี้เกิดมาเพื่อจะชนะคนอื่นเท่านั้น และเมื่อพบว่าตัวเองแพ้ ก็มักจะหาเรื่องเพื่อจะหาทางเอาชนะด้วยวิธีอื่น แพ้แล้วพาล คบ กันไปก็ไม่มีประโยชน์ เพื่อนแบบนี้ควรอยู่ให้ห่าง

การเลือกตั้งในประเทศไทยมีปัญหาเพราะพฤติกรรมของคน บางกลุ่มที่ แพ้แล้วพาล ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ทำให้ประเทศ ชาติเกิดปัญหา เพราะพากันออกมาเดินขบวนต่อต้าน สร้างความ เดือดร้อนไปทั่วกรุงเทพและเมืองใหญ่

คนที่มีพฤติกรรม แพ้แล้วพาล หรือโกรธแค้นอาฆาตที่ตัวเอง เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ คนแบบนี้คบยาก บางคนแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ไม่ยอมอย่างเด็ดขาด และการจะเพิ่มระดับความ โกรธแค้นมากขึ้นเรื่อยๆ ตามขนาดของปัญหา เรื่องที่ต้องระวัง อย่างมากก็คือเรื่องชู้สาวและเรื่องทรัพย์สิน