แนะนำแนวทางเอาตัวรอดเมื่อมีรายได้ค่อนข้างน้อยกับการทำอาชีพอิสระ ทำงานส่วนตัว รายได้อาจจะไม่แน่นอน หรืองานการก็ไม่มีความ มั่นคง เรื่องรายได้ อาจจะเข้ามามาก หรือเข้ามาน้อย โดยเฉพาะคนที่มีรายได้น้อยมาก จึงต้องหาวิธีบริหารเงินให้ดี เพื่อให้สามารถเอาตัวรอดได้ ซึ่งก็มีหลายวิธี ที่คนทำอาชีพส่วนตัวจะต้องรู้
การเรียนรู้เพื่อเอาตัวรอด กับรายได้น้อยๆ ซึ่งอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เป็นสิ่งจำเป็น ที่จะต้องศึกษา เพราะคนทำอาชีพอิสระ จะมีโอกาสต้องได้เจอ สักช่วงหนึ่งของชีวิต อย่างแน่นอน เพียงแต่อาจจะระยะเวลาสั้นๆ หรือ ระยะยาวเท่านั้น
แนวทางเอาตัวรอดแบบต่างๆ สำหรับคนรายได้น้อย
การทำงานส่วนตัว อาชีพอิสระ บางอาชีพเพิ่งจะเริ่มต้น หรืออาจจะเริ่มไปได้สักพัก แต่มีเหตุที่ทำให้รายได้ในบางเดือนน้อย หรือลดลงอย่าง ต่อเนื่องและยาวนาน จึงต้องรู้วิธีเอาตัวรอด หลายทาง เช่น
1. อย่าประมาทในเรื่องการใช้จ่าย ต้องมีวินัยการเงิน
ถ้าหากมีรายรับทางเดียว ก็อย่าได้ประมาท ในเรื่องการใช้จ่าย โดยเฉพาะ การสร้างหนี้ผูกพันระยะยาว ที่เป็นเงินก้อนใหญ่ อย่างรถหรือบ้าน รีบสร้างหนี้เร็วเกินไปจะทำให้เครียด และหากต้องเจอกับปัญหารายได้ค่อนข้างน้อย ลดลงอย่างต่อเนื่อง ที่น่ากลัวที่สุดก็คือหายไปเลย จึงต้องวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งงานของตัวเองให้ดี อย่างการทำวิดีโอ ทำช่องยูทูป TikTok Facebook วิดีโอ ยิ่งต้องระวังให้มาก ไม่มั่นใจก็เน้นซื้อเงินสด และศึกษาการขายต่อด้วย ง่ายหรือยาก ได้ราคาหรือขาดทุน
สำหรับคนมีรายได้น้อยมากๆ แม้จะเป็นการซื้อสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ 5 บาท สิบบาท ก็ต้องระวังให้มาก อย่างกาแฟกระป๋องละ 17 บาท ซื้อ วันละกระป๋อง ก็ 510 บาทต่อเดือน เข้าไปแล้ว หรือปีละ 6,120 บาท ไม่น้อยเลย นี่ยังไม่นับรวมการใช้เงินไปกับเรื่องอื่น โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือย จะยิ่งมีรายจ่ายสูงมาก อย่างการกิน... แค่วันละขวดๆ 60 บาท คิดเป็นเงิน 1,800 บาทต่อเดือนแล้ว หรือ 21,600 บาทต่อปี ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก
2. ต้องรู้รายจ่ายพื้นฐานที่น้อยที่สุดที่สามารถเอาตัวรอดได้
วิเคราะห์ให้รอบด้าน ถึงรายจ่ายพื้นฐานของตัวเองในแต่ละเดือน ตัดความสะดวกสบายทิ้งไปก่อน สิ่งใดที่ต้องจ้างคนอื่นทำ ก็ลดให้หมด ให้ เหลือเฉพาะรายจ่ายที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อให้รู้ว่า รายจ่ายพื้นฐานที่สามารถเอาชีวิตรอดได้นั้น มากน้อยเพียงใด เช่น
- ของใช้ส่วนตัว สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ฯลฯ
- อาหาร ในแต่ละวัน
- ของใช้ในแต่ละเดือน ชั่วโมงเน็ต
- ค่าน้ำมันรถ
- ฯลฯ
3. ใช้ชีวิตให้เรียบง่าย เพื่อให้มีรายได้น้อยที่สุด
การมีชีวิตเรียบง่าย รายจ่ายก็จะน้อยมาก คนทำงานอิสระ ที่ไม่จำเป็นจะต้องพบเจอผู้คน อย่างการทำงานผ่านเน็ต จะสามารถลดรายจ่าย ได้มากกว่า งานประเภทอื่น ความเรื่องมาก ใช้ชีวิตซับซ้อนจะทำให้มีรายจ่ายมาก ตามไปด้วย
4. เรียนรู้วิธีทำอาหารกินเอง
การซื้ออาหารสำเร็จจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ทั้งๆ ที่ต้นทุนไม่มาก ดังนั้นหากสามารถทำอาหารกินเองได้ จะประหยัดเงินเกินครึ่งหนึ่ง อย่าง ข้าวไข่เจียวหมูสับจานละ 30 บาท ต้นทุนจริงๆ ประมาณ 15-20 บาท เท่านั้น ที่เหลือ ก็เป็นค่าบริการของร้านอาหาร ที่ทำให้เรากิน ปัจจุบันอาหารตาม สั่งค่อนข้างแพง จานละเกิน 40 -50 บาท ขึ้นไป ทั้งๆ ที่ต้นทุนจริงๆ ไม่ได้มากขนาดนั้น
ตัวอย่างการคำนวณในเรื่องอาหารอย่างง่ายๆ
- ข้าวสาร 1 ถุง ขนาด 5 กิโลกรัม จะหุงข้าวได้ประมาณ 48 จาน ปริมาณพอๆ กับสั่งตามร้านอาหารทั่วไป เมื่อคิดต้นทุนแล้วจะอยู่ประมาณ 1.5 - 4 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้าว ข้าวขาวราคาถูก แบบที่ร้านส่วนใหญ่ใช้ จะอยู่จานละประมาณไม่เกิน 3 บาท
- ไข่ไก่ขายยกแผง 30 ฟอง จะถูกกว่า เช่น เบอร์ 0 ค่อนข้างใหญ่ประมาณ 150 บาท ต่อฟองละประมาณ 5 บาท
* ในเรื่องของต้นทุนค่าอาหาร อย่างเมนูง่ายๆ ข้าวไข่เจียว หรือข้าวไข่เจียวหมูสับ ผู้อ่านก็คงจะมองออกแล้วว่า ต้นทุนจริงๆ ประมาณกี่บาท แต่ขายจานละ 30 บาท หรือแพงกว่านี้ ตามแต่ความหรูของร้าน ประเภทของร้าน อย่างร้านคาราโอเกะ อาจจะเจอไข่เจียว จานละ 80 บาทอย่างนี้ ต้นทุนจริงๆ ไม่ถึง 20 บาท *
เมนูอาหารง่ายๆ ประหยัดเงิน มีหลายแบบ ลองศึกษาได้จากวิดีโอในยูทูป เพื่อจะเลือกเมนูที่สามารถทำกินเองได้ อย่างเช่น การทำไข่ต้ม ไข่ตุ๋นยางมะตูมด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้า เมนูแบบนี้ง่ายที่สุดในโลก และยังประหยัดมากเช่นกัน
5. รีบหาซื้อที่ดินเป็นของตนเอง
การทำอาชีพอิสระ โดยเฉพาะอาชีพที่ไม่ต้องไปติดต่อกับใคร อยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน ส่งงานผ่านเน็ต ส่งของให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ ฯลฯ งาน แบบนี้ ต้องรีบหาซื้อที่ดิน หรือ เช่าที่ดิน หรือเช่าบ้าน หรือแยกตัวไปอยู่ไกลๆ ในต่างจังหวัด เพื่อประหยัดรายจ่าย หรือหากพ่อแม่พี่น้องมีที่ดิน อยู่บ้าง ก็ควรขออนุญาต หรือ ขอเช่าเพื่อสร้างเป็นสำนักงาน พ่อแม่พี่น้องบางคน อาจจะกลัวจะไปแย่งสมบัติ แย่งที่ดิน ก็ต้องคุยกันให้เข้าใจ ทำสัญญาปีต่อปีกันไปเลยก็ เพื่อความสบายใจ หรือไม่ก็ไปหาที่เช่าใกลๆ ในต่างจังหวัด หากอาชีพของตนนั้นทำผ่านเน็ตได้
การทำงานอิสระ จำเป็นต้องมีที่ทำงานเป็นหลักแหล่งส่วนตัว พ่อแม่อาจจะมีบ้านอยู่แล้ว พ่อแม่บางคนก็อาจจะมองว่า ก็อยู่บ้าน นั่งทำงาน ในบ้าน ไม่เห็นจะต้องไปทำที่อยู่ของตัวเอง หากพ่อแม่ไม่เข้าใจ อธิบายแล้วก็ไม่พัง ก็ควรหาที่อยู่ใหม่ เพราะอาจจะไม่มีสมาธิในการทำงาน เหมือนการมีที่ทำงานเป็นส่วนตัว
หากคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็ต้องแยกตัวออกไป ไม่เช่นนั้น ก็อาจจะมีปัญหา เพราะคนทำอาชีพอิสระ รายได้น้อยๆ มักจะถูกด่า บ่น ดูถูก ทำให้เสียสมาธิ และอาจจะมีเรื่องที่คนในครอบครัว รบกวนอยู่ตลอดเวลา ให้ช่วยทำเรื่องนั้น เรื่องนี้ หรือกรณีมีหลาน มีเด็กในบ้าน ก็ไม่ต้องทำงาน ทำการกันพอดี กวนทั้งวัน การแยกตัวจึงเป็นเรื่องดีที่สุด เอาตัวเองให้รอดก่อน
ในต่างจังหวัดไกลๆ ก็มีที่มากมายที่สามารถอยู่ได้ และไม่แพง หากไม่สนใจว่า จะต้องมีฉโนด ขอเพียงให้มีที่อยู่เพื่อช่วยลดรายจ่าย มีความ เป็นส่วนตัว และสิ่งสำคัญมาก การมีที่ดิน จะสามารถเพราะปลูกพืชผักต่างๆ ได้ ซึ่งจะช่วยลดรายจ่ายในเรื่องอาหารลงไปได้อีก ทำให้รายจ่าย น้อยมาก หากกินใช้เฉพาะในสิ่งที่จำเป็น มีรายได้ เดือนละ 3,000-4,000 บาท ก็ยังชีพได้สบาย หากมีรายได้มากกว่านั้น ก็จะเป็นเงินเก็บทันที แต่หาก อาศัยอยู่ในเมือง จะเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมรายได้ได้น้อยขนาดนี้
6. แม้จะมีเงินเหลือเก็บหลักร้อย ก็ต้องหาช่องทางลงทุน
แต่ละเดือนหากมีเงินเก็บเหลือบ้าง แม้จะเพียงหลักร้อย ก็ต้องรีบหาทางลงทุน หรือนำเงินไปลงทุน เงินหลักร้อย หลักสิบบาท ก็สามารถลง ทุนได้ เช่น
-การซื้อวัตถุดิบมาผลิตงานฝีมือ ใช้เงินซื้อวัตถุดิบไม่มาก สามารถตั้งราคาได้ ตามฝีมือ ความสวยงาม และสินค้า แบบนี้ ไม่เน่าไม่เสีย อยู่ได้นาน อาจจะขายได้เร็ว หรือช้า แต่หากมีโอกาสขายได้ ก็ย่อมจะมีโอกาสทำกำไร บางทีเงินลงทุนไม่กี่สิบบาท อาจจะทำกำไรได้หลักร้อยบาท ก็ได้
- การซื้อสินค้าคนอื่นมาต่อยอด เช่น ซื้อร้องเท้ามาเพนต์แบบนี้ รองเท้าคู่ละ 100 กว่าบาท เพนท์แล้วขายคู่ละ 200 ก็ยังมีโอกาสทำกำไรได้ เพียงแต่การซื้อสินค้าคนอื่นมาต่อยอดต้องระวัง ในเรื่องต้นทุน ซึ่งยากในการควบคุม และรองเท้าที่เก็บไว้นานๆ กาวอาจจะเสื่อมคุณภาพ ทำ ให้พื้นรองเท้าเสีย
- งานที่ใช้เงินลงทุนน้อยมากๆ หลักร้อยบาทต่อปี ก็มีรองรับ เช่น ทำเว็บไซต์หาเงินคลิกโฆษณา ทำวิดีโอลงยูทูป ทำเฟสบุ๊คเพจ นายหน้าขาย สินค้า ฯลฯ
* คนรวยที่เริ่มจากการลงทุนหลักร้อยบาท มีตัวอย่างให้เลือกมากมาย แต่สิ่งสำคัญก็คือ ต้องลงมือทำ อย่ารอ ให้มีทุนมากๆ เพราะพอมี ทุนมาก ก็จะหาทางใช้เงินซื้อความสะดวกสบายให้ตัวเอง มักจะไม่ได้ลงทุน มีเงินน้อยๆ ยังสามารถลงทุนให้เกิดกำไรได้ หากมีเงินมากๆ โอกาสรวย ก็จะมากเช่นกัน *
7. อย่ายุ่งกับการซื้อหรือผ่อนรถยนต์ จักรยานยนต์ ใหม่
การมีรถยนต์ในความครอบครองจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ดูแล ภาษี ค่าน้ำมันที่ค่อนข้างสูง หากไม่มีความจำเป็น ก็ไม่ควรซื้อ ส่วน รถจักรยานยนต์ นั้นควรจะมี แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นรถใหม่ป้ายแดงเสมอไป อย่างผู้เขียนซื้อคันนี้มือสอง 9000 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ที่เกิดขึ้น ทั้งค่าตัวรถ ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ภาษี ฯลฯ ตามที่จดไว้อย่างละเอียด ก็ประมาณ 28,000 บาท ซึ่งมูลค่ารถเหลืออยู่ประมาณ 8000-9000 บาท ในปัจจุบันนี้ ดังนั้นก็ขาดทุนไปกับรถไม่มาก
แต่เพื่อนผู้เขียนบางคนผ่อนจักรยานยนต์ แบบฟรีดาวน์ ผ่อนเดือนละ 2,500 x 36 งวด เท่ากับ 90,000 บาท เลยทีเดียว และเมื่อรวมค่า ใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย ก็เกิน 100,000 บาม สำหรับการผ่อนรถ Honda Wave 110i ในขณะนี้ราคารถตกลงมาเหลือประมาณ 30,000 กว่าบาท เท่า นั้นเอง จะเห็นว่า แม้จะเป็นมอเตอร์ไซค์คันเล็กๆ แต่การผ่อนนั้นจะมีรายจ่ายตามมาเยอะกว่ากันมาก ในส่วนรถยนต์ก็เช่นกัน รถมือสองราคา ไม่ถึงแสนบาท สภาพดี ก็มีให้เลือกมากมาย ไม่ต้องจ่ายเงินหลายแสนบาท หรือหลักล้านไปกับรถยนต์
ในเรื่องยานพาหนะ สำหรับการทำอาชีพอิสระ อย่างน้อยก็ควรมีรถจักรยานยนต์ และจักรยาน การเดินทางระยะใกล้ก็ใช้จักรยาน เดินทาง ระยะไกลหน่อย ก็ใช้จักรยานยนต์ แม้จะมีรายได้ค่อนข้างน้อย แต่การมีรถจักรยานยนต์ ก็ไม่ถึงกับทำให้ลำบากในเรื่องการเงินมากนัก หาก เป็นการใช้รถเพื่อทำธุระส่วนตัวบ้าง ค่าน้ำมันเดือนละ 100 บาท ก็อาจจะใช้ไม่หมด เพราะรถเล็กๆ เหล่านี้ ขับได้ไกลเกิน 150 กิโลเมตร ต่อ การเติมน้ำมันแค่ 100 บาท เลยทีเดียว
แต่กรณีของรถยนต์ ไม่เพียงมีค่าน้ำมันที่แพงกว่า แต่ค่าซ่อมบำรุง ภาษี ประกันภัยต่อปี อาจจะเกิน 10,000 บาท หากไม่จำเป็นหรือยังไม่พร้อมก็อย่าไปยุ่งกับรถ หากจะต้องใช้ก็เน้นรถมือสอง เครื่องยนต์เล็กๆ ยอดนิยม Honda, Toyota ขายต่อง่าย ราคาไม่ตกมาก ประหยัดน้ำมัน
8. หนีจากสังคมบ้าง เก็บตัว ตั้งตัวก่อน
การเข้าสังคม ต้องเจอะเจอเพื่อนฝูงก็จะทำให้มีรายจ่าย เพราะการเจอกันของคนเรานั้น จะต้องมีเรื่องกิน เรื่องดื่ม เรื่องใช้เงิน ค่าเดินทาง เจอกันบ่อย เงินก็หมดเร็ว จึงควรวางแผนในเรื่องนี้ให้ดี โดยเฉพาะการอยู่ในท้องถิ่นของตัวเอง บางคนเจอค่าซองสารพัดงานเยอะมาก เงินหามาได้ ก็หมดไปกับค่าซ่อง ซึ่งบางครั้งก็มากเกินไป
บางคนเป็นโสด ใส่ซองให้คนอื่นมาทั้งชีวิต แต่ที่บ้าน ก็ไม่เคยได้จัดงานอะไรเลย แบบนี้เสียเปรียบแน่นอน
9. เอาตัวเองให้รอด ยังไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตใคร
หากครอบครัวก็ไม่ถึงกับลำบาก พ่อแม่ พี่น้อง ก็พอจะมีงานการทำ มีอยู่มีกิน ยังทำงานได้ ยังแข็งแรง ก็อาจจะต้องขอผัดผ่อนไปก่อน ในการช่วย เหลือ แล้วรีบตั้งตัวให้ได้ เผื่อไว้รองรับในยามพ่อแม่แก่ชรา เริ่มเจ็บป่วย เพราะบางคนพอเริ่มทำงานได้ ก็ส่งเงินให้ครอบครัว ทำให้พ่อแม่เสียคน ทั้งๆ ที่ยังแข็งแรง แต่เมื่อลูกๆ ส่งเงินให้ ก็ไม่ทำอะไร ใช้เงินฟุ่มเฟือย ติดการพนันก็มี
สุดท้ายก็จะพากันแย่ เพราะงานอิสระที่ทำนั้น อาจจะไม่ได้มั่นคง หากมี ปัญหาเมื่อไร ก็จะพากันเดือดร้อนไปทั้งครอบครัว ดังนั้น หากต่างคนต่างมีแรง ก็ทำๆ ไปก่อน ทำหนักบ้าง เบาบ้าง ก็ตามแต่แรงจะอำนวย แต่ ไม่ใช่โยนภาระการหาเงินให้ลูกคนหนึ่งคนใดทันที ทำแบบนั้น ก็รอวันพังงานการมีปัญหาเมื่อไร ก็จะพากันลำบากทั้งหมด
10. ดูแลสุขภาพร่างกาย จิตใจ อย่าให้มีปัญหา
สุขภาพที่แข็งแรง จิตใจที่ดี ไม่มีปัญหา ก็จะไม่มีค่ารักษาพยาบาล เรื่องนี้สำคัญมาก เมื่อไม่เจ็บป่วยหรือมีอาการบาดเจ็บรบกวน ก็จะทำงาน ได้อย่างเต็มที่ แต่หากมีปัญหาสุขภาพ ก็จะสร้างปัญหาทันที ร่างกายและจิตใจของคนทำงานอิสระ ทำงานส่วนตัว จึงมีความสำคัญมาก ความ มั่นคงของชีวิตอยู่ที่สุขภาพ สุขภาพดี ก็จะทำงานได้อีกนาน สุขภาพแย่งานการก็จะมีปัญหาตามมา
11. อย่าหวังพึ่งพาสิ่งมีชีวิต จงพึ่งพาสิ่งไม่มีชีวิต
สิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง หรือสัตว์เลี้ยง อย่าได้หวังไปพึ่งพา เพราะอาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้นมาได้ เช่น คาดหวังว่า มีลูกหลาน ก็ ทุ่มเทลงทุนไปกับลูกหลาน คนที่อายุยังน้อย ย่อมมีโอกาสเปลี่ยนแปลง บางคนอุตส่าห์อบรมสั่งสอน หวังจะให้รับช่วงทำงานต่อ หรือมาช่วย กันทำงาน แต่เรียบจบแล้ว กลับเลือกงานที่ตัวเองอยากจะทำ ไม่สนใจมาช่วยสานต่องานของตน ก็จะทำให้เสียเวลาเปล่า ดังนั้นอย่าไปหวังพึ่ง พาคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นลูกหลาน ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่คนรักคู่ครอง เพราะแต่ละคนย่อมจะมีทางเดินของตัวเอง
ส่วนการพึ่งพาสิ่งไม่มีชีวิต พึ่งพาระบบ หากสามารถทำได้ จะมีความมั่นคงสูงกว่ามาก เช่น การผลิตสินค้าของตนเอง แล้วเน้นให้คนอื่นช่วยทำตลาด อย่างการส่งไปขายใน Lazada หรือการนำเงินไปลงทุนด้านอื่นๆ โดยที่ตนเองก็ไม่ต้องเสียเวลาไปทำงานมากนัก อย่างการทำบ้านให้เช่า เป็นต้น แนวทางนี้มีความมั่นคง และระบบเหล่านี้ไม่มีชีวิต ไม่เถียง ไม่โกง ไม่สร้างปัญหา แต่ต้องบริหารจัดการให้ดี
12. ระวังอย่าพาตัวเองไปยุ่งกับคนมีปัญหา
การทำงานอิสระ ทำงานส่วนตัวต้องระวังอย่าพาตัวเองไปเจอกับปัญหา ไปรับปัญหา มาใส่สมอง มาใส่ความคิด เพราะจะทำให้เสียสมาธิใน การทำงาน หากปัญหาเหล่านั้นรบกวนอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการพาตัวเองไปยุ่ง ไปคบกับคนมีปัญหา หรือคนรอบตัวมีปัญหา และเป็น ปัญหาที่เราก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ เช่น บางคนอยากรวย แต่ไม่ขยันทำงาน บางคนมีปัญหาทะเลาะกับแฟน ฯลฯ การรับฟังปัญหาต่างๆ มากเกินไป สุดท้ายเราจะป่วยเสียเอง เพราะเอาปัญหาของคนอื่นมาคิด ฉีดสารพิษใส่ตัวเอง ส่งผลกระทบต่อสมาธิในการทำงาน ปัญหาเรื่องรายได้ลดลง ก็จะตามมา
13. พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
การพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้มีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้น มีช่องทางหาเงินมากขึ้น หากไม่พัฒนาตัวเอง อยู่กับที่ งานแบบเดิม หากงานมีปัญหา รายได้ที่น้อยอยู่แล้ว ก็จะทำให้ชีวิตต้องลำบากมากยิ่งขึ้น
แนวทางดังที่แนะนำ หากสามารถทำได้ แม้จะมีรายได้ค่อนข้างน้อย สำหรับคนทำอาชีพส่วนตัว ก็จะสามารถเก็บเงินได้อย่างแน่นอน ไม่ ต้องมีเงินเดือนหลักหมื่นบาท ก็อาจจะมีเงินเก็บมากกว่าคนที่เงินเดือนมากกว่าตัวเองหลายเท่าตัว