บทความที่มีหมวดหมู่ จะเป็นบทความที่ใดๆ ก็ตามที่เราต้องการนำเสนอในเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง การจัดให้มีหมวดหมู่ก็เพื่อความเป็นระเบียบ และง่ายในการค้นหาของผู้เข้าชมเว็บไซต์
สำหรับเว็บไซต์ englishforthai.com นำเสนอเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ การเรียนภาษาอังกฤษ หมวดหมู่ก็จะมีค่อนข้างเยอะ ขอยกตัวอย่างพอหอมปากหอมคอก็แล้วกันครับ

Categories บทความมีหมวดหมู่
บทความหล่านี้ในเรื่องนั้นๆ จะมีเรื่องย่อยๆ แตกแขนงไปอีก จึงต้องทำหมวดหมู่เพื่อความเป็นระเบียบ
อุปกรณ์ช่วยเรียนภาษาอังกฤษ
ฝึกสนทนาภาษาอังกฤษ
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
ไวยากรณ์อังกฤษ
ฯลฯ

รายละเอียดของหมวดหมู่และบทความภายในหมวดหมู่
เพื่อความง่ายในการฝึกทดลองทำ แนะนำให้ก็อปปี้บทความตัวอย่างเหล่านี้ไปลงเว็บได้เลย จะได้สมจริง เพราะผมเชื่อว่า หลายคนเขียนไม่เก่ง คงจะหาตัวอย่างที่สมจริงได้ยาก ก็ใช้บทความ ของผมแก้ขัดไปก่อน

หมวดหมู่ อุปกรณ์ช่วยเรียนภาษาอังกฤษ
equipments-for-learning-english-by-yourself
คำอธิบายหมวด
การเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง ต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือช่วย เพราะจะช่วยให้เรียนรู้ได้เร็ว เช่น มือถือที่เล่นไฟล์ MP3 ได้ เครื่องเล่ม MP3 หรือ MP4 โน้ตบุ๊ค แท็ปเล็ต โดยเฉพาะมือถือนั้น แทบจะทุกคนมีติดตัวกันทั้งนั้น

บทความในหมวดนี้
บทความที่ 1
มือถือทุกประเภทที่เล่นไฟล์ MP3 ได้
mobile-with-mp3-player-feature
ผมมองว่ามือถือสามารถเป็นเครื่องมือช่วยเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตนเองที่พื้นฐานที่สุดและส่วนใหญ่เราก็มีมือถือกันแทบทุกคน โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา เราสามารถก็อปปี้ไฟล์บท ความภาษาอังกฤษแบบ MP3 ลงมือถือไว้ศึกษาด้วยตนเองได้ตลอดเวลา หรือจะเป็นมือถือที่สามารถเล่นไฟล์วิดีโอได้ ก็ยิ่งดี เพราะบทความภาษาอังกฤษในอินเตอร์เน็ตอย่างในเว็บไซต์ Youtube.com จะมีวิดีโอมากมายให้ดาวน์โหลดมาไว้ศึกษาด้วยตนเองได้
ตัวอย่างวิดีโอใน Youtube ผมแนะนำให้เลือกวิดีโอที่สอนภาษาไทยให้ฝรั่งนะครับ เพราะว่าผู้สอนจะพูดไทยและฝรั่งสลับกัน หรือบางเจ้าก็มีผู้ช่วยที่เป็นฝรั่งและคนไทย สลับกันพูด ทำให้เรา เรียนรู้ได้เร็วกว่าที่เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ

ในการเลือกซื้อมือถือให้เลือกรุ่นที่สามารถใช้หน่วยความจำหรือการ์ดเก็บข้อมูลได้ เพราะไฟล์บทเรียนภาษาอังกฤษแบบ MP3 หรือจะเป็นไฟล์วิดีโอก็ตามมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ต้องการ พื้นที่ในการจัดเก็บมากพอสมควร

สำหรับหนังสือหรือคู่มือช่วยในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ อาจจะเลือกของสำนักพิมพ์ MIS เพราะเจ้านี้จะทำซีดีสอนประกอบเนื้อหาในหนังสือมาให้ด้วย ทำให้สามารถอ่านและฟังบทความ MP3 ได้ เรียนรู้ได้ผลกว่า

บทความที่ 2
คอมพิวเตอร์อุปกรณ์ช่วยเรียนภาษาที่ดีที่สุด
computer-for-learning-english-by-yourself
คอมพิวเตอร์ทุกแบบไม่ว่าจะเป็นแบบตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ค แท็ปเล็ต ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ช่วยเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด โดยเฉพาะถ้าสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ก็สามารถค้นหาบทความ วิดีโอ ไฟล์เสียงสอนภาษามาไว้ศึกษาด้วยตนเองได้

คอมพิวเตอร์จะมีโปรแกรมช่วยจัดการกับภาษาอังกฤษมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดิกชันนารี โปรแกรมแปลภาษา จากไทยเป็นอังกฤษหรืออังกฤษเป็นไทยก็ตาม หรือโปรแกรมช่วยตัดต่อไฟล์ เสียงในแผ่นซีดีเพื่อก็อปปี้ลงมือถือหรือแท็ปเล็ต เพราะการศึกษาบทเรียนต่างๆ จากหน้าจอคอมพิวเตอร์อาจจะไม่สะดวก เมื่อเทียบกับการก็อปปี้ลงมือถือที่เราสามารถพกพาติดตัวไปได้ทุก ที่

คอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะทุกวันนี้ราคาถูกลงมาก หรือจะเลือกโน้ตบุ๊คมือสองจากญี่ปุ่นก็ใช้ได้เล่นกัน มีโน้ตบุ๊คดีๆ ในราคาเริ่มต้นสามพันกว่าบาทเท่านั้นเอง แต่ประสิทธิภาพวางใจได้ โดยเฉพาะยี่ห้อดีๆ อย่าง IBM, Fujitsu, Toshiba

ตัวอย่างโปรแกรมเกี่ยวกับภาษาอังกฤษที่ควรติดตั้งลงเครื่อง
โปรแกรมดิกชันนารี
โปรแกรมช่วยแปลภาษาจากไทยเป็นอังกฤษหรืออังกฤษเป็นไทย
โปรแกรมช่วยอ่านออกเสียง อ่านเนื้อหาภาษาอังกฤษให้เป็นเสียง

หมวดหมู่ ฝึกสนทนาภาษาอังกฤษด้วยตนเอง
learn-english-conversation-by-yourself
ทักษะการพูดและฟังภาษาอังกฤษ ถือว่าเป็นทักษณะที่สามารถฝึกได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะทักษะการพูด แต่ต้องรู้เคล็ดลับว่าต้องทำอย่างไร สมมุติสถานการณ์ว่า คุณมีเวลา 1 เดือนทีจะต้อง พูดและฟังภาษาอังกฤษ เพราะต้องเจอกับชาวต่างชาติซึ่งอาจจะมาใช้บริการหน่วยงานของคุณ หรือต้องทำงานร่วมกันก็ตาม คุณจะทำอย่างไรที่จะพูดและฟัง ได้ อย่างน้อยถึงจะงูๆ ปลาๆ แต่ก็พอจะคุยกันรู้เรื่อง

บทความในหมวดนี้
บทความที่ 1
เคล็ดลับฝึกพูดและฟังภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ
conversation-tips-and-tricks
เทคนิคในการฝึกที่จะช่วยให้สามารถพูดและฟังภาษาอังกฤษได้ในเวลาไม่นาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องติดต่อสื่อสารกับชาวต่างชาติ เป็นกรณีพิเศษ สามารถประยุกต์ใช้ได้ครับ แต่ต้องมีพื้น ฐานภาษาอังกฤษอยู่บ้าง สามารถอ่านได้

เคล็ดลับนี้เป็นวิธีของผมเอง เพราะสถานที่ที่ผมพักอยู่มีชาวต่างชาติ 2 คน แรกๆ ก็ต่างคนต่างอยู่ แต่เป็นคนต่างถิ่นเหมือนกัน ไปๆ มาๆ ก็รู้จักกันหมด แรกๆ ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง ผมเองก็ ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เพราะที่เรียนๆ มาจะเน้นไวยากรณ์เพื่อการสอบเรียนต่อมากกว่าการสนทนา จึงพูดไม่ได้ นึกไม่ออกว่าจะพูดอย่างไร

หลังจากเสาะหาหลายวิธีก็ได้ หนังสือมาหนึ่งเล่ม เป็นของสำนักพิมพ์ MIS มาพร้อมกับซีดีบทเรียน MP3 ให้อีกหนึ่งแผ่น ไว้ฟังควบคู่ไปกับการอ่าน หนังสือดังกล่าวความหนาประมาณ 400 หน้า เนื้อหารวมๆ จะสอนสำนวนพื้นฐานที่จำเป็นๆ สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่รอช้าครับ อ่านๆ ทั้งเล่ม แล้วฝึกพูดตาม ฝึกไม่ถึงเดือน ผมสามารถพูดได้คล่องพอสมควร แต่ ยังติดเรื่องการฟัง เพราะต้องฝึกมากกว่านั้น ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจ เพราะผมสามารถสื่อสารกับเพื่อนชาวต่างชาติทั้งสองคนได้ แม้จะในระดับพื้นฐานก็ตาม

และด้วยความที่สนิทกัน ผมก็รู้ว่าทั้งคู่ชอบอะไร ก็หาข้อมูล คำศัพท์ สำนวนการพูดมาฝึกอ่าน ฝึกพูด ฝึกฟัง ก็สามารถคุยกันได้ ทำความเข้าใจกันได้ คุณอาจจะนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิต ของคุณเองก็ได้ หากที่ทำงานมีชาวต่างชาติ การติดต่อ สิ่งที่ต้องคุยกัน มีเรื่องอะไรบ้าง ลองรวบรวมคำศัพท์ สำนวนมาศึกษา สักพัก คุณก็จะสามารถคุยกับชาวต่างชาติได้ และมันก็จะค่อยๆ พัฒนาไปเอง

กรณีเป็นร้านอาหาร รีสอร์ท ฯลฯ ก็เช่นกัน ลองรวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง เมนูอาหาร การอ่านตัวเลข ราคาสินค้า หรือแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง หาข้อมูลมาศึกษา รับรองว่า คุณจะ สามารถสนทนากับลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติได้อย่างแน่นอน

นี่แหละคือเคล็ดลับง่ายๆ แต่สิ่งสำคัญก็คือ ความขยันครับ การอ่านหนังสือและฝึกฟัง สิ่งสำคัญที่ควรจะมีเพื่อให้สามารถฝึกได้ตลอดเวลาก็คือ มือถือที่สามารถฟัง MP3 ได้ เพื่อจะได้พก พาบทเรียนติดตัว ไว้ศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตนเองได้ทุกที่

สำหรับการเลือกซื้อหนังสือแนวนี้ หากยังไม่เก่ง หรือไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ มาก่อน ให้เลือกซื้อเล่มที่เนื้อหา อธิบายทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เพราะถ้าเสียงบรรยายเป็นภาษา อังกฤษอย่างเดียว จะยาก เพราะต้องเปิดหนังสือดูประกอบกัน ไม่เช่นนั้นยากจะเข้าใจ

ในการฝึกนั้น ก่อนอื่น ให้หาน้ำหล่อลื่น ให้ลิ้นด้วยนะครับ เพราะคนไทยลิ้นแข็ง การได้น้ำหล่อลื่นสักขวดสองขวด รับรองว่าลิ้นลื่น พันกัน ฝึกพูดดัดเสียงได้ง่ายกว่า

บทความที่ 2
หาตัวช่วยอ่านออกเสียงประโยคภาษาอังกฤษ
how-to-read-and-record-english-language
กรณีที่ได้รวบรวม คำศัพท์ สำนวนภาษาอังกฤษ ไว้สำหรับฝึกเรียนด้วยตนเอง การอ่านออกเสียงคำศัพท์ หรือสำนวนเหล่านั้น ต้องหาตัวช่วย เพราะการจะไปจ้างฝรั่งมาพูดแล้วอัดเสียงไว้ ฟังนั้นดูจะเป็นเรื่องยากจริงๆ

กรณีมี Talking Dictionary หรือดิกชันนารีพูดได้แบบนี้ ก็สบายไป แต่ถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องห่วง เพราะคอมพิวเตอร์มีทุกสิ่งให้เราเลือกใช้ มีโปรแกรมอ่านออกเสียง จากนั้น เราก็ใช้โปรแกรมบัน ทีกเสียง ทำเป็นไฟล์ MP3 ไว้ฟังกับมือถือก็ได้ หรือจะใช้ Google แปลภาษาช่วยก็ได้ สามารถอ่านออกเสียงได้เช่นกัน

บทความที่ 3
หนังสือคู่มือที่ต้องมีเพื่อไว้เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง
english-hand-books
การศึกษาคือการลงทุน จะเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองก็ต้องลงทุนเหมือนกันครับ นอกจากจะต้องมีคอมพิวเตอร์หนึ่ง มือถือที่เล่นไฟล์เสียง MP3 ได้แล้ว คู่มือหนังสือที่จำเป็นๆ ต้องมีครับ เช่น

Dictionary ทั้งแบบ ไทย- อังกฤษ หรือ อังกฤษ-อังกฤษ สนนราคาไม่ธรรมดาครับ รวมๆ แล้วหลักพัน ทั้งสองแบบให้เลือกซื้อที่มีคำศัพท์และตัวอย่างการใช้คำศัพท์ เพื่อให้รู้ว่าคำๆ นั้น ใช้อย่างไร อย่าเลือกซื้อประเภทมีแต่คำศัพท์และคำแปลแค่นั้น สำหรับดิกชันนารีแบบอังกฤษ-อังกฤษ ก็เช่นกัน เลือกที่มีตัวอย่างการใช้คำศัพท์นั้นๆ ด้วย ก็จะช่วยให้เราสามารถใช้คำศัพท์ นั้นๆ ได้ถูกต้อง เพราะคำศัพท์หนึ่งคำ นั้นมีหลายความหมาย ไม่ต่างจากภาษาไทย ภาษาพลิกได้

หนังสือรวมคำศัพท์แบบแยกเป็นหมวด เป็นอีกเล่มที่ต้องมี เพราะจะช่วยให้การท่องคำศัพท์ทำได้ง่ายขึ้น เช่น แยกหมวดเป็นคำศัพท์เกี่ยวกับบ้าน กีฬา ท่องเที่ยว ฯลฯ จะช่วยให้การเรียนรู้ เป็นเรื่องง่ายมากขึ้น ไม่เสียเวลาไปรวบรวมคำศัพท์ด้วยตนเอง บางเล่มจะดีมาก เพราะมีภาพประกอบ แต่ถ้าจะให้ดีให้เลือกซื้อเล่มที่มีไฟล์เสียง MP3 ให้ด้วย เพื่อไว้เปิดฟังกับมือถือ ไว้เรียน ได้ทุกที่ที่ต้องการ