การฟังเป็นทักษะที่ต้องอาศัยการฝึกบ่อยๆ และต้องฝึกอย่างต่อเนื่อง จึงจะสามารถฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง บทความนี้จะแนะนำวิธีฝึกทักษะการฟังแบบง่ายๆ แต่สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อ พัฒนาความสามารถทางภาษาอังกฤษให้คุณได้อย่างมาก
เตรียมอุปกรณ์สำหรับฝึกฟังภาษาอังกฤษ
ก่อนอื่นต้องเตรียมอุปกรณ์กันก่อนซึ่งก็ควรจะมีอุปกรณ์ต่างๆ เช่น
1. หูฟังดีๆ ให้เสียงชัดๆ ควรเป็นแบบครอบหู การใช้หูฟังเราสามารถปรับระดังความดังของเสียงได้ โดยไม่รบกวนกคนรอบข้าง และทำให้เราได้ยินเสียง สำเนียง การออกเสียงที่ค่อนข้าง ชัดเจน
2. เครื่องเล่น MP3 หรือเล่นวิดีโอ มือถือส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้สบายๆ เราสามารถก็อปปี้เสียงบรรยายภาษาอังกฤษที่เป็น MP3 หรือวิดีโอ ไว้ดูไว้ฟังได้สบายๆ อยู่แล้ว เครื่องพันกว่า บาทก็สามารถทำได้
3. สื่อการเรียน อาจจะเป็นวิดีโอซีดี หรือเสียงบรรยายแบบ MP3 หรือไฟล์วิดีโอ แต่เน้นที่สำเนียงต้องชัด และเลือกให้ตรงตามต้องการว่าต้องการศึกษาภาษาอังกฤษสำเนียง อเมริกันหรือ อังกฤษการเลือกสื่อที่ดี ผู้บรรยายหรือผู้สอนที่ออกเสียงเหมือนต้นตำหรับ จะช่วยให้ได้ฟังเสียงที่เหมือนจริง
ฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องก็ต้องฝืนใจฟัง
สิ่งที่น่าเบื่อที่สุดในในฝึกฟังก็คือ การฟังครั้งแรกๆ ซึ่งจะใช้เวลานานพอสมควร กว่าสมองของเราจะเกิดการเรียนรู้หรือความเคยชิน และพัฒนาความสามารถในการฟัง จนสามารถจับสำเนียง ได้นึกภาพเราฟังเสียงโซโล่กีตาร์ หลายคนเล่นกีตาร์ไม่เป็น แต่สามารถทำเสียงเลียนเสียงโซโลกีตาร์เพลงโปรดได้ นั่นคือผลจากการทำงานของสมองของเรานั่นเอง เมื่อฟังมากๆ สมองก็จะเกิด การพัฒนาสามารพแยกแยะเสียงพูดในภาษาได้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการฝึกฟังบ่อยๆ นั่นเอง ซึ่งคนส่วนใหญ่จะท้อและถอยเสียก่อน ที่สมองจะเกิดการพัฒนาจนสามารถแยกแยะเสียง แยกแยะ สำเนียงในสำนวนหรือคำศัพท์ได้ เหมือนกับนักดนตรีที่สามารถแกะท่อนโซโล่ได้นั่นเอง ทุกอย่างต้องฝึกฝนๆๆ และฝึกฝนให้หูสามารถฟังเสียงได้
การฝึกฟังในระยะเวลาสั้นๆ
สำหรับผู้ที่อาจจะต้องการศึกษาภาษาอังกฤษในระยะเวลาสั้นๆ แต่ต้องการให้ประสบผลสำเร็จเร็วๆ เพราะอาจจะต้องไปทำงาน ติดต่อเพื่อนชาวต่างชาติ ก็พอจะมีทางลัดให้สามารถทำได้ แต่ จะทำได้ดีแค่ไหนก็อยู่ที่พื้นฐานด้านภาษาของแต่ละคน
1. เลือกหนังสือที่มีซีดีสอนแถมให้ด้วย อาจจะเป็น MP3 หรือวิดีโอ เน้นเลือกสำนวน สำเนียงของผู้สอนที่ใกล้เคียงกับชาวต่างชาติที่เราต้องการติดต่อ จะช่วยให้เราสามารถฟังเสียงได้ดียิ่งขึ้น เมื่อสนทนาจริง
2. พร้อมแล้ว ก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านๆ ศึกษาเนื้อหาในเล่ม อย่างจริงๆ จังๆ อ่าน ทำความเข้าใจกับบทสนทนาต่างๆ
3. เริ่มเลย ฟัง แล้วดูตามเนื้อหาตามในช่วงแรกๆ
4. ฟังอย่างเดียวไม่ดูเนื้อหา รู้เรื่องหรือไม่ก็ไม่เป็นไร เน้นฟังสำเนียง การออกเสียง หนักเบา ฟังให้บ่อยๆ จนสามารถจับสำเนียงได้
* วิธีนี้ก็ไม่น่าจะต่างอะไรกับการฟังเพลงภาษาสากล อาจจะมีบางเพลงที่เราอยากจะร้องให้ได้ เราก็จะฟังจนสามารถร้องตามได้ รู้ว่าคำนี้ออกเสียงอย่างไร หลักการนี้ก็ปฏิบัติคล้ายๆ กัน เพียงแต่การฟังเสียงการพูด ประโยค หรือคำศัทพ์ต่างๆ การออกเสียงจะเหมือนกัน ไม่มีเสียงสูงต่ำเหมือนทำนองดนตรี หากฟังได้ดีแล้ว ก็จะเกิดการพัฒนาทักษะการฟังได้เป็นอย่างดี **
การฝึกฟังประโยคสนทนา
การฝึกฟังประโยคสนทนาต่างๆ ซึ่งมีเยอะมาก แม้จะไม่มีโอกาสได้คุยกับชาวต่างชาติจริงๆ แต่หากเราฝึกฟังบ่อยๆ เมื่อต้องเจอสถานการณ์จริงๆ ก็จะช่วยให้เราสามารถฟังรู้เรื่อง จับใจความ และโต้ตอบได้ หลักการฝึกก็ไม่ต่างกัน หาหนังสือดีๆ สำนวนชัดๆ และเป็นภาษาอังกฤษในสไตล์ที่เราต้องการ จากนั้นก็อ่านทำความเข้าใจ ฝึกฟังและพูดตาม
ตัวอย่างหนังสือ พูดอังกฤษ 2,000 ประโยค ที่มาพร้อมกับ MP3 อธิบายภาษาไทย แต่ออกเสียงโดยเจ้าของภาษา
การฝึกฟังคำศัพท์ต่างๆ
คำศัพท์ที่เราต้องใช้ในการสนทนา หรือในชีวิตจริงๆ สำหรับคนทั่วๆ ไปนั้น จะใช้ไม่มากนัก คำศัพท์มีอยู่หลักแสนคำ แต่ที่เราต้องใช้บ่อยๆ ก็แค่หลักพันหรือไม่เกินพันคำเท่านั้นเอง เพราะ ชีวิตจริงๆ โดยเฉพาะคนไทยด้วยแล้ว เราแทบไม่มีโอกาสได้คุยกับชาวต่างชาติเลย
การค้นหาคำศัพท์ แนะนำให้ซื้อหนังสือรวบคำศัพท์พร้อม ซีดี MP3 ตัวอย่างหนังสือแนวนี้ ซึ่งได้รวบรวมคำศัพท์ที่เราใช้บ่อยๆ มาไว้รอแล้ว ไม่ต้องไปค้นหาในอินเตอร์เน็ตให้เสียเวลา เลือกที่มีทั้งคำศัพท์คำแปล จะได้ไม่ต้องเสียเวลา พกหนังสือติดตัวไปด้วย
คู่มือสำหรับฝึกการฟังภาษาอังกฤษ
ฝึกการฟังอย่างเป็นระบบผ่่านเว็บไซต์
การเรียนภาษาอังกฤษค่อนข้างโชคดีกว่าภาษาอื่นๆ ตรงที่มีผู้ทำสื่อดีๆ มากมายให้เราสามารถเรียนรู้ผ่านเว็บไซต์ได้ การฝึกทักษะการฟังก็เช่นกัน มีเว็บไซต์ที่รวบรวมและจัดทำแบบฝึกหัดให้ เราได้ฝึกทักษะการฟัง แต่เว็บไซต์เหล่านี้ต้องมีพื้นฐานด้านภาษาพอสมควร สามารถอ่านได้ แปลได้
1. ไปที่เว็บไซต์ http://www.eslfast.com/
2. ในเว็บไซต์แห่งนี้ก็จะมีแบบฝึกหัดสำหรับฝึกภาษาอังกฤษหลายแบบเช่น
- Easy conversations บทสนทนาง่ายๆ
- Super Easy Reading / Easy Reading ฝึกการอ่าน
- 1,500 Conversations ฝึกบทสนทนา
- Sentence Structure Writing Practice ฝึกการเขียน
3. สำหรับการฝึกฝังจะมีตัวอย่าง 365 ตัวอย่างให้ฝึกฟังเป็นเรื่องสั้นๆ
4. คลิกเรื่องที่ต้องการได้เลย เช่น A Haircut เรื่องตัดผม
5. คราวนี้ก็คลิกปุ่ม Play ฝึกฟังได้เลย ควรจะฟังผ่านหูฟังจะได้เลือกระดับเสียงได้ สามารถฟังเสียงแบบชัดๆ ได้มากกว่าการฟังผ่านลำโพง จะช่วยฝึกประสาทหูได้ดีกว่า
6. แต่ทั้งนี้ก็ควรติดตั้งโปรแกรม IDM ไว้ ซึ่งจะสามารถดาวน์โหลดเสียงมาไว้อ่านในเครื่องของเราได้
7. ส่วนเนื้อหาก็ใช้โปรแกรมจับภาพหน้าจอ จับภาพไว้ดูในเครื่อง หรือจะ Save เป็นไฟล์ข้อความก็ได้
8. ตัวอย่างภาพหน้าจอที่ได้จับเป็นไฟล์ภาพเก็บไว้ในเครื่อง
9. ตัวอย่างไฟล์ MP3 ที่ได้ดาวน์โหลดมาด้วย IDM
10. คราวนี้การฝึกฟังก็เป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น
การฝึกทักษะฟัง ต้องฝึกบ่อยๆ และต่อเนื่อง
การฝึกทักษะการฟังต้องวางแผนการฝึกพอสมควร และต้องฟังจนกว่าจะรู้เรื่อง และทันทุกคำ ก็ยิ่งทำให้เกิดพัฒนาการในการฝึกฟังมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น บางเรื่องก็ต้องฟังหลายรอบ อาจจะ เป็นสิบรอบ หรือมากกว่านั้น จนกว่าจะฟังทันทุกคำ ทุกการออกเสียง ความน่าเบื่ออยู่ตรงนี้แหละ แต่ก็ต้องให้ผ่านไปให้ได้ เพื่อฝึกสมองและหูให้สามารถแยะแยะเสียงได้
สรุป
ทักษะการฟังภาษาอังกฤษ เป็นทักษะที่ต้องฝึกค่อนข้างหนัก และต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่เบื้องต้น ไปจนถึงขั้นสูงจึงจะเก่งสามารถฟังจับใจความได้ จับสำเนียงการออกเสียงได้ พยายามใช้สื่อที่เป็น เจ้าของภาษาจริงๆ เพื่อที่จะได้ฟังสำนวนของจริงของเท้ โดยเจ้าของภาษา