ซิมร่ายปี ซิมเทพ จ่ายครั้งเดียว ใช้ได้ทั้งปี หรือ 12 เดือน ประหยัดมาก แต่ในปี 2022 ที่จะมาถึง การเลือกมาใช้งาน จำ เป็นต้องศึกษาหลายด้าน เพื่อให้ได้โปรเน็ตที่มีความเร็ว หรือ ปริมาณเน็ตได้ตามต้องการ แพ็คเกจความเร็วอินเตอร์เน็ตที่ได้ ไม่ แผ่วปลาย ความเร็วตก จนแทบจะใช้งานไม่ได้ ช่วงแรกเร็ว แต่ปลายปีช้าลงมาก เป็นต้น
ผู้เขียนได้ใช้ซิมเทพ หรือซิมรายปี มา 3 ปีแล้ว และปีหน้าก็จะเข้าปีที่ 4 ช่วงปีแรกๆ เชื่อมต่อเน็ตได้เร็ว อาจจะเป็นเพราะคน ไม่ค่อยใช้กัน เพราะจะต้องซื้อจากเน็ตเท่านั้น ในร้านมือถือทั่วไป จะไม่นำมาขาย และคนส่วนใหญ่ในยุคนั้นก็ไม่ซื้อ ด้วยราคาที่ แพงเกินไป ประมาณ 2000 บาท ไม่กล้าจ่ายแพงๆ เน้นเติมเงินทุกเดือน ซึ่งรวมๆ แล้วแพงกว่ามาก
แต่ปัจจุบันผู้คนใช้เน็ตกันมากกว่าเดิม เพราะจะต้องใช้แอปสแกนโอนเงิน แอปธนาคาร และช่วงเกิดโรคระบาด โควิด ทำให้ผู้ คนออกไปไหนไม่ได้ มือถือจึงเป็นอุปกรณ์ให้ความบันเทิง ช่วยคลายความเหงา ความเครียดได้ เพราะมีสื่อให้ความบันเทิงหลายอย่าง ทำให้การใช้เน็ตเปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยใช้เน็ตความเร็วแค่ 4 MB ก็เหลือเฟือ แต่ทุกวันนี้ และในปี 2022 น่าจะเอาไม่อยู่
การเลือกซื้อแพ็คเก็จอินเตอร์เน็ตมาใช้ จึงต้องศึกษาหลายๆ ด้าน ตัวอย่างเช่น
ต้องรู้ความต้องการของตัวเองก่อน
สิ่งแรกก็คือ ต้องรู้ถึงความต้องการของตัวเองก่อน ใช้แบบใด แอปอะไร หรือบริการในเน็ตอะไรบ้าง เช่น อยู่บ้านไม่ได้ทำงาน แล้ว หรือทำงานแต่มีเวลาว่างมาก อย่างการขายของ ระหว่างรอลูกค้า ช่วงไม่มีคน ก็ดูวิดีโอยูทูป ใช้เฟสบุ๊ค ทั้งวัน บางคนชอบวิดี โอคอลบ่อยๆ กรณีนี้ ก็จะต้องเลือก แพ็คเก็จเน็ตแบบไม่อั้นเท่านั้น เลือกความเร็วอย่างน้อย 10 Mbps ขึ้นไป เผื่อท้ายปีอาจจะ แผ่วปลาย ความเร็วอินเตอรเน็ตลดลง
อย่างไรก็ยังเชื่อมต่อที่ความเร็วที่ใช้งานได้อย่างแน่นอน ซึ่งทุกค่ายมือถือ ทั้ง Dtac, True และ AIS ต่างมีแพ็คเกจแบบนี้ ราคาถูกแพง ต่างกันไป ชอบค่ายไหนก็เลือกตามใจชอบ
ผู้เขียนใช้ซิมทรูเป็นหลัก การใช้แพ็คเก็จความเร็ว 4 Mbps เริ่มจะไม่ไหว ช่วงหลังๆ เชื่อมต่อได้ช้าใน บางวัน ช้ามาก ตอนนี้ จำเป็นต้องเลือกความเร็ว 10 Mbps ขึ้นไปเท่านั้น
พื้นที่อยู่อาศัย สัญญาณมือถือค่ายใดแรกที่สุด
เรื่องนี้สำคัญ แม้ผู้ให้บริการจะพยายามโฆษณาว่า คลื่นแรง สัญญาณดี แต่ไม่ใช่ทุกที่ อย่างบ้านเพื่อนผู้เขียน จะรับสัญญาณ เน็ต AIS ได้แรง เพราะอยู่ใกล้เสามือถือ แต่บ้านเพื่อนอีกคน กลับรับสัญญาณเน็ตของ True ได้ดีกว่า ก็จะต้องพิจารณาตรงนี้ได้ ไม่ใช่เห็นว่า เน็ตถูกกว่าก็เอาไว้ก่อน อย่างซิมเทพของ Dtac จะมีราคาถูกกว่าค่ายอื่น
ปริมาณใช้อินเตอร์เน็ตแต่ละเดือนอยู่ที่กี่ GB
ซิมเทพจะมีซิมแบบคิดตามปริมาณการรับส่งข้อมูล เช่น 70 GB, 100 GB โดยจะให้การเชื่อมต่อเน็ตเร็ว เช่น
1. ซิมเทพ Dtac ปริมาณรับส่งข้อมูล 100 GB/เดือน ราคา 1,850 บาทต่อปี เชื่อมต่อได้ที่ความเร็วสูงสุด 100 Mbps เร็ว มาก
2. ซิมเทพ True ปริมาณรับส่งข้อมูล 70 GB/เดือน ราคา 1,390 บาทต่อปี เชื่อมต่อได้ที่ความเร็วสูงสุด 300 Mbps เร็วมากๆ
3. ซิมเทพ AIS ปริมาณรับส่งข้อมูล 100 GB/เดือน ราคา 1,590 บาทต่อปี เชื่อมต่อได้ที่ความเร็วสูงสุด 100 Mbps
สำหรับคนธรรมดาทั่วไป ที่จะต้องทำงาน ที่ไม่เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต ไม่ใช่งานออนไลน์ ไม่ได้มานั่งดูยูทูป ดูวิดีโอ ในเน็ตทั้งวัน ปริมาณใช้งานต่อเดือนสำหรับการใช้งานเพียงคนเดียว จะไม่เกิน 60 GB เกินกว่านี้ ก็ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนกันแล้ว แต่ถ้าจะหมดเร็ว ก็จะเกิดจากการดูวิดีโอความละเอียดสูงมากที่สุด
ซิมเทพแบบนี้จะเชื่อมต่อเน็ตได้ค่อนข้างเร็ว จึงเหมาะเชื่อมต่อเพื่อทำงานที่ไม่เน้นการรับส่งข้อมูลในเน็ตมากๆ อย่างดูวิดีโอ อัปโหลดวิดีโอ ดาวน์โหลดวิดีโอ อัปโหลดภาพบ่อยๆ วิดีโอคอล แต่เหมาะเอาไว้ สแกนจ่ายเงิน ทำแอปธนาคาร เพราะเชื่อมต่อ ได้รวดเร็ว ไม่เสียเวลา
การใช้ซิมเทพแบบนี้เวลาใช้งานจะต้องรู้ในเรื่องปริมาณรับส่งข้อมูล ว่าแบบใดใช้มาก ใช้น้อย เช่น ดูวิดีโอความละเอียดสูง จะ ใช้ปริมาณเน็ตมาก วิดีโอคอลบ่อยๆ จะใช้ปริมาณเน็ตมาก กรณีดูวิดีโออย่างในยูทูป ก็จำเป็นจะต้องลดคุณภาพวิดีโอเพื่อให้ ปริมาณรับส่งข้อมูลไม่มากเกินไป ไม่เช่นนั้นปริมาณรับส่งข้อมูล แม้จะมากถึง 100 GB ก็อาจจะไม่พอไม่ถึงเดือน ก็หมดแล้ว คราวนี้ก็จะเปลี่ยนไปเชื่อมต่อเน็ตที่ความเร็วต่ำ รอรอบใหม่ในเดือนถัดไป ซึ่งช่วงที่รอรอบนี่แหละที่จะไม่ไหว
อย่างผู้เขียนได้ทดลองใช้แบบ 20 GB ต่อเดือน เพราะคิดว่าพอ แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่พอ บางทีประมาณ 10 วันก็หมดแล้ว จากนั้นความเร็วเน็ตจะลดเหลือ 0.128 Mbps หรือ 128 Kbps ซึ่งแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย ดูวิดีโอ ก็หมุนติ้วอยู่อย่างนั้น สุด ท้ายทนไม่ไหวก็ต้องไปเติมเงินสมัครเน็ตเพิ่มทุกเดือน
กรณีมีมือถือหลายเครื่อง ก็ไม่เหมาะที่จะใช้เน็ตแบบนี้ เพราะในแต่ละเดือน แอปต่างๆ จะมีการอัปเดท และจะต้องใช้ปริมาณ รับส่งข้อมูลหลาย GB ซิมเทพแบบนี้ จึงเหมาะสำหรับคนใช้มือถือเครื่องสองเครื่อง ไม่เน้นใช้งานวิดีโอมากนัก ดูยูทูปบ้าง วันละ ไม่กี่ชั่วโมง ไม่ใช้วิดีโอคอล ก็เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน และสามารถเชื่อมต่อเน็ตได้ที่ความเร็วสูงมาก
วิธีดูปริมาณรับส่งข้อมูลในมือถือแอนดรอยด์
1. แตะเปิดแอป การตั้งค่า
2. แตะ Sim คู่และเซลลูล่าร์
3. เลื่อนดูข้อมูล เช่น เครื่องนี้ใช้ไป 9.10 GB
วิธีดูปริมาณรับส่งข้อมูลในมือถือ iPhone
1. แตะเปิดแอป การตั้งค่า
2. แตะ เซลลูลาร์
3. เลื่อนดูข้อมูล เช่น ปริมาณข้อมูลใช้ไป 4.3 GB หากยังไม่ครบเดือนก็คำนวณคร่าวๆ ด้วยการนำปริมาณรับส่งข้อมูลหารด้วย จำนวนวัน
ซิมเทพแบบ 6 เดือน
ซิมเทพยังมีแบบ 6 เดือน เป็นรุ่นที่ผู้เขียนได้ทดลองใช้แล้วปรากฏว่า ไม่พอต่อการใช้งาน ซิมเทพแบบนี้ เหมาะสำหรับร้านค้า เอาไว้สแกนรับเงิน โอนเงิน ใช้แอปธนาคาร หรือเชื่อมต่อเน็ตทั้งวัน อ่านข่าว ใช้ LINE ใช้เฟสบุ๊ค ดูข้อมูล แต่ไม่ดูวิดีโอ ไม่ใช้วิดี โอคอล ถ้าผิดไปจากนี้ ก็ไม่ควรใช้ ข้อดีก็คือ ราคาถูก เช่น ของทรู 399 บาทต่อ 6 เดือน หรือประมาณ 798 บาทต่อปีเท่านั้นเอง เอาไว้สแกนรับเงิน จ่ายเงิน ถือว่าคุ้มมาก บางร้านมีลูกน้องหลายคน ก็เอาซิมแบบนี้มาแชร์เน็ตให้เครื่องอื่น เอาไว้สแกนรับเงิน โอนเงิน ก็เอาอยู่ แต่ห้ามดูวิดีโออย่างเด็ดขาด ก็ถือว่าประหยัดเงินอย่างมาก
การโทรศัพท์สนทนากัน
สำหรับใครที่ยังเน้นโทรศัพท์สนทนากัน แบบคนโบราณอยู่ ไม่ใช้การโทรผ่าน Line ผ่านเน็ต ก็จำเป็นจะต้องเลือกซิมเทพที่ สามารถโทรนอกเครือข่ายฟรี ซึ่งจะมีราคาที่สูงมากขึ้น เช่น ซิมเทพ Dtac ราคา 1,890 บาท/2,010 บาท / 1,850 บาท
จำนวนสมาชิกที่ใช้งานด้วยกัน
บางครอบครัวมีสมาชิกหลายคน และเน้นการใช้ซิมเทพแทนเน็ตบ้าน โดยใช้ร่วมกับเราเตอร์ไวไฟแบบใส่ซิมได้ เพื่อกระจาย สัญญาณเน็ต ก็ต้องเลือกซิมเทพความเร็วอย่างต่ำ 10 Mbps และต้องดูด้วยว่าพื้นที่ที่อยู่อาศัยนั้น รับสัญญาณมือถือค่ายใดได้ดี ที่สุด อย่างเพื่อนผู้เขียนได้ซื้อซิมเทพความเร็ว 8 Mbps มาใช้ แต่ปรากฏว่าที่บ้านเชื่อมต่อได้ที่ความเร็วต่ำมาก แม้จะเป็นซิ มเทพความเร็ว 8 Mbps ก็ตาม แต่เชื่อมต่อได้เพียง 1 Mbps เท่านั้น
สรุป
ซิมเทพ ซิมรายปี ประหยัด แต่ก็ต้องรู้ข้อมูล ข้อเสีย และที่สำคัญ ก็คือแนวโน้มความเร็วการเชื่อมต่อเน็ตในอนาคต ซึ่งผู้ เขียนแนะนำว่า ควรเลือกไม่ต่ำกว่า 10 Mbps ขึ้นไป และเน้นแบบไม่อั้น น่าจะเอาอยู่อย่างแน่นอน