ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึง สถานการณ์หรือสภาพการณ์ที่เกิดขึ้น ในสถานที่ใดๆ ที่ไม่มีความ ปลอดภัย เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ไม่มีกฎระเบียบวินัย ผู้คนไม่ เคารพกฎหมายเป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่ เพราะไม่มีความปลอดภัยต่อ ชีวิตและทรัพย์สิน
ตัวอย่าง :
ในยุคสงครามอาจจะเกิดเหตุการณ์ บ้านป่าเมืองเถื่อน ไม่มี ความปลอดภัยเพราะมีการรบราฆ่าฟันกันอยู่ตลอดเวลา ส่วนบ้าน เมืองในยามปกติ หากมีการประท้วง จนรัฐบาลควบคุม สถานการณ์ไม่ได้ ก็มีโอกาสกลายเป็นเมืองที่ไม่ปลอดภัยเช่น กัน
แม้ในประเทศส่วนใหญ่ จะมีกฎหมาย มีกฎระเบียบ ให้ผู้คน ในสังคมปฏิบัติตาม เพื่อความสงบสุขของสังคม แต่ก็อาจจะมีบาง หมู่บ้านหรือสถานที่ที่ห่างไกล ไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปถึง อาจกลายเป็นอาจยังคงสภาพเป็น บ้านป่าเมืองเถื่อน ไม่มีความ ปลอดภัย เพราะคนไม่เคารพกฎระเบียบ
ในสังคมต่างจังหวัดบางแห่งที่มีผู้อิทธิพลหรือผู้คนในสังคมนั้น ไม่รับคนนอกที่มาจาที่อื่น หากมีปัญหากัน ก็มักจะไม่ปลอดภัย สำหรับคนต่างถิ่น บางคนไปซื้อบ้านซื้อที่ดินอยู่ในต่างจังหวัด แล้ว มีปัญหากับเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นชาวบ้านพวกกันหมด เครือญาติกัน บ้าง ก็อาจจะยกพวกมารุมทำร้าย เป็นเหมือน บ้านป่าเมืองเถื่อน ไม่มีกฎหมาย ไม่มีความปลอดภัยเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ที่เราอาจจะเจอ สำหรับการไปอยู่ต่างถิ่น
ดังนั้น การไปอยู่ในต่างจังหวัดไปอยู่ กับชาวบ้าน ต้องระวัง ในเรื่องการวางตัว การคบคน เมื่อมีปัญหา กัน อาจทำให้เกิดความเดือดร้อน
การแย่งชิงอำนาจของคนบางกลุ่มในบางประเทศ ก็ทำให้เกิด วิกฤต บ้านเมือง มีแต่ความวุ่นวาย กลายเป็น บ้านป่าเมืองเถื่อน ไม่มีความปลอดภัย จนประชาชนต้องอพยพไปอยู่ประเทศอื่น
ที่ใดมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง สถานที่แห่งนั้นก็อาจจะ เปลี่ยนเป็น บ้านป่าเมืองเถื่อน ไม่มีความปลอดภัย ไร้กฎระเบียบ ซึ่ง เป็นสาเหตุจากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่แย่งชิงอำนาจกัน บางที่มี การทำร้ายกันถึงขั้นเสียชีวิต จนเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติ