ความหมาย : สำนวนนี้ใช้พูดถึงการแข่งขัน ซึ่งผู้เข้าแข่งขันบางคนอาจจะมีความสามารถที่เหนือกว่่าคนอื่นมาก ไม่สามารถคาดเดาได้ และมาแบบ มาเหนือเมฆ มองไม่เห็นอยู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาและสามารถช่วงชิงชัยชนะไปได้ ในการแข่งขันก็ย่อมจะมีคู่แข่งลักษณะนี้อยู่เสมอ
ตัวอย่าง :
การแข่งขันทางการเมื่อง เพื่อแย่งชิงอำนาจ บางครั้งก็มีคู่แข่งที่ มาเหนือเมฆ กลยุทธลึกล้ำ เหนือกว่าผู้เข้าแข่งขันรายอื่น ยากจะคาดเดา ถึงวิธีการที่ใช้เพื่อเอาชนะคู่แข่ง
ในการแข่งขันที่มีชัยชนะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาฃีพ การทำงาน หรือเรื่องที่เกี่ยวพันกับความก้าวหน้าของชีวิต การงาน ก็มักจะมีคู่แข่งที่ มาเหนือเมฆ เอาชนะด้วยเส้นสาย การแข่งขันบางอย่าง มีการจัดแข่งขันเป็นพิธีเท่านั้น แต่วางต้วผู้ชนะไว้แล้ว ไม่ว่าใครจะชนะอย่างเป็นทางการ แต่ก็จะมีผู้ชนะที่มาเหนือความคาดหมายรอชิงความได้เปรียบอยู่แล้ว บางคนสอบแข่งขันได้อันดับหนึ่ง แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก เพราะมีเด็กเส้นรออยู่แล้ว
การแข่งขันกันในทางธุรกิจ หรือการแข่งขันที่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม คนเก่ง ประเภท มาเหนือเมฆ เก่งจริง จะมีโอกาสได้รับชัยชนะ โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องเด็กเส้น กลโกง การใช้กฏระเบียบบางอย่างบังคับหรือการใช้เส้นสายใดๆ อย่างการแข่งขันกีฬาที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว ทักษะเฉพาะตัว
บางประเทศมีการพัฒนาเทคโนโลยี่ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และพร้อมจะผลิตสินค้าที่่มีคุณภาพหรือคุณสมบัติที่ดี สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ไม่ยาก มาเหนือเมฆ ยากจะคาดเดา
การพัฒนาตนเองให้เป็นคนเก่ง แบบ มาเหนือเมฆ จนยากจะคาดเดา เมื่อมีการแข่งขันในเรื่องหนึ่งเรื่องใด เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ในการศึกษาหาความรู้และพัฒนาตนเอง อาจจะต้องใช้เวลาหลายปี หากจะต้องแข่งขันในเรื่องใดก็ตามให้พิจาณาถึงการนำความรู้ ความสามารถหรือทักษะที่ได้ ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นให้มากที่สุดด้วยเช่นกัน อย่าทุ่มเทในเรื่องที่ไม่มีทางต่อยอด หรือเป็นความรู้ที่ใช้ได้เฉพาะทางหรือบางเรื่องเท่านั้น
พ่อแม่บางคนพยายามสนับสนุนลูกหลานในบางเรื่อง เพราะเห็นว่ามีความชอบในเรื่องนั้น เสียเงินทองไปมากมาย แต่สุดท้ายเมื่อเวลาเปลี่ยนผ่านไป ความสนใจของคนเราก็เปลี่ยนตามไปด้วย ลูกหลานเลิกสนใจในเรื่องนั้น ทำให้เสียเวลา เสียเงินทองไปอย่างมาก