ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้เรียกคนที่ไม่ฉลาด หรือคนโง่ว่าเป็น ลาโง่ เพราะนิสัยบางอยางของสัตว์ชนิดนี้ ค่อนข้างโง่ในสายตาของคนทั่วไป อย่างการใช้ลาขนสิ่งของขึ้นเขาลงเขา ก็จะนำอาหารไปวางไว้บนเขาและตีนเขา จากนั้นก็จะนำสิ่งของไปบรรทุกบนหลังลา ลาก็จะเดินขึ้นเขา เพื่อไปกินอาหารที่วางไว้ แล้วก็เดินลงมา เพื่อกินอาหารที่วางไว้เช่นกัน

ตัวอย่าง :

เขามักจะถูกด่าว่า โง่ เหมือน ลาโง่ เพราะมักจะทำอะไรที่ดูแล้ว ไม่ฉลาด ไม่เช้าท่า หรือสร้างแต่ปัญหาให้ตัวเองหรือคนอื่นเดือดร้อนอยู่ตลอดเวลา

คนเรียนเก่ง มักจะถูกเพื่อนๆ ด่าว่า โง่ หรือเป็นพวก ลาโง่ เรียนไม่เก่ง ทำอะไรก็ไม่ค่อยเป็นเหมือนคนอื่น แต่คนแบบนี้บางคนก็สามารถประสบความสำเร็จได้ หากมีคนวางแผนและเดินตามแผน บางคนเรียนไม่เก่ง แต่ก็เลือกที่จะไม่เรียนต่อ พ่อแม่ก็วางแผนให้ทำไร่ ทำสวน ก็ทำไปตามที่พ่อแม่วางแผนไว้ ก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิต ในหน้าที่การงานได้เช่นกัน ในขณะที่คนเก่งบางคน ทนงตนว่าฉลาด แต่บางคนก็ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต

คนที่ชอบทำอะไรโง่ๆ มักจะถูกตำหนิ หรือด่าว่าเป็น ลาโง่ แต่บางคนไม่ได้โง่ แต่ขี้เกียจหรือมักง่าย อย่างการตัดพังน้ำมันรถยนต์ แทนที่จะรอให้น้ำมันในถังแห้งสนิท แต่ขี้เกียจรอก็เลยใช้แก๊สตัดทันที ผลที่เกิดขึ้นก็คือเกิดการระเบีด บางคนเติมลมยางรถยนต์ ก็เน้นใช้ความรู้สึก ไม่ยอมใช้เครื่องวัด ก็ทำให้ยางระเบิด ตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บแขนขาหนัก ทำอะไรโง่ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้โง่ เพียงแต่มักง่ายก็เท่านั้นเอง

ถ้าไม่ชอบให้ใครด่าว่าป็น ลาโง่ ชอบทำอะไรโง่ๆ ก็สามารถ พัฒนาตัวเองให้ฉลาดขึ้นได้ไม่ยาก โดยการศึกษา อ่านให้มาก หรือทุกครั้งที่จะทำอะไรก็ตาม ให้วางแผนเสียก่อน ฝึกให้เคยชิน เช่น จะจอดรถก็ต้องวางแผนก่อนว่าจะจอดอย่างไร จะขยับหัวรถ ท้ายรถไปทางไหน

บางคนแม้จะมีรถจอดขวางไว้หลายคันดูแล้ว ไม่น่าจะสามารถขับรถออกไปจากที่จอดรถได้ง่ายๆ แต่อาศัยการวางแผน อย่างระหว่างที่เดินไปที่รถ หรือขณะนั่งอยู่ อาจจะกินอาหาร หรือนั่งคุยกับผู้อื่น หรือยืนคิดก่อน ว่าจะขยับรถอย่างไร แทนที่จะเข้าไปนั่งในรถแล้วหาทางออก ซึ่งหากทำแบบนั้น ก็จะเป็นการกระทำที่เหมือน ลาโง่ จริง เพราะจะมองไม่ออกว่าจะต้องขยับรถอย่างไร

ในชีวิตคนเราก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ หากวางแผนก่อน ศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่จะทำก่อน ฝึกคิดบ่อยๆ จากที่เคยโดนด่าว่าเป็น ลาโง่ ก็อาจจะได้รับฉายาใหม่ เป็น จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ฉลาดหลักแหลม แถมแกมโกงอีกต่างหาก เรื่องแบบนี้ฝึกกันได้ พัฒนากันได้ เพียงอาศัยการสังเกตุและหมั่นศึกษาหาความรู้ก่อนลงมือทำเสมอ