ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงสภานการณ์การเงิน ที่ย่ำแย่ ยากจนอย่างมาก สิ้นไร้ไม้ตอก ไม่มี อะไรเลย ชีวิตมีแต่ความลำบาก เพราะไม่มีเงิน ไม่มีรายได้ ที่จะซื้อหาสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีพ ยากจนข้นแค้นอย่างมาก
ตัวอย่าง :
ในประเทศที่เกิดสงครามบ้านเมืองไม่สงบ มีการต่อสู้รบกัน ก็จะมีคนยากจนมาก ถึงขนาด สิ้นไร้ไม้ตอก ไม่มีเงิน ไม่มีที่อยู่ อาศัย มีชีวิตอย่างลำบาก
จากคนเคยรวย ประสบความสำเร็จ ก็อาจจะกลายเป็นคน สิ้นไร้ไม้ตอก ยากจนข้นแค้น ไม่มีอะไรเหลือเลย ชีวิตคนเรานั้น ไม่แน่นอน เมื่อมีรายได้ มีเงินมาก ก็ต้องรีบหาวิธีใช้เงินช่วยทำงานแทนเรา หลายๆ แบบ เช่น
- ฝากธนาคารกินดอกเบี้ย เงิน 1,000,000 บาทจะได้ดอกเบี้ยประมาณ 1,250 บาทต่อเดือน
- เล่นหุ้นปันผล เงิน 1,000,000 บาท อาจจะได้เงินปันผล ประมาณ 30,000 - 60,000 บาทต่อปี
- ทำบ้านให้เช่า เงิน 1,000,000 บาท ปลูกบ้านหรือห้องแถว อาจจะมีรายได้จากค่าเช่ามากกว่านั้น
- ซื้อทรัพย์สิน บ้าน ที่ดิน ปล่อยเช่า และไว้ขายเก็งกำไรในอนาคต
ในช่วงเวลาที่ชีวิตกำลังประสบความสำเร็จ ทุกอย่างเหมือนเป็นไปด้วยดี อะไรๆ รอบตัวก็ดูดี ไปได้ดีไปหมด เรื่องแบบนี้ ก็ อย่าได้ประมาท เพราะเวลาที่ประสบความสำเร็จมากๆ ความล้มเหลวผิดพลาด ก็อาจจะเกิดขึ้นตามมามากเช่นกัน อาจจะไม่ เหลืออะไรเลย กลายเป็นคน สิ้นไร้ไม้ตอก จากเคยร่ำรวย อาจจะไม่เหลืออะไร อย่างบางคน ทำธุรกิจไปได้ดี แต่ไม่เคยเสียภาษี การถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังหลายล้านก็อาจจะทำให้หมดตัวได้
บางคนเผลอไปทำเรื่องผิดกฏหมาย ผิดศีลธรรม ก็อาจจะทำ ให้ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ทันที อย่าได้ประมาท เมื่อชีวิตขึ้นถึงจุดสูงสุด จงบอกตัวเองว่า ต่อไปจะเป็นขาลงแล้ว อย่าได้ประมาท ค้นหาจุดอ่อนให้เจอว่ามีอะไรที่จะทำให้ชีวิตพลิกผัน หรือเกิดปัญหาการเงิน บางคนติดการพนัน ติดเที่ยวกลาง คืน หรือมีภาระต้องรับผิดชอบเยอะมาก
จากคนที่ยากจนมาก สิ้นไร้ไม้ตอก ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรเลย ก็สามารถตั้งตัวให้ร่ำรวยได้ เพราะทุกวันนี้มีอาชีพหลาก หลายมากที่แม้จะมีเงินทุนเพียงน้อยนิด ก็สามารถเริ่มธุรกิจได้ บางคนมีมอเตอร์ไซค์แม่บ้านคันเดียว ก็ขับรถเที่ยวไปทั่ว ประเทศ ถ่ายทำวิดีโอ อัพโหลดเข้า Youtube ก็สามารถสร้างรายได้ สร้างเนื้อสร้างตัว หาเงินแสนได้