ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงคนเก่ง แต่ดูไม่ออก เหมือนคนธรรมดาทั่วไป แต่เป็นพวก เสือซ่อนเล็บ จะแสดงตนก็ต่อเมื่อ จำเป็น จึงจะรู้ว่ามีความสามารถ หรือเป็นบุคคลอันตราย มีความน่ากลัวมากกว่าที่คิด
ตัวอย่าง :
การมีความรู้ความสามารถ บางทีก็ต้องเก็บซ่อน อย่าให้ใครรู้ ทำตัวเป็นพวก เสือซ่อนเล็บ อาจจะสบายใจมากกว่า เพราะหากเด่นเกินไป ก็จะกลายเป็นที่อิจฉาของคนอื่น สร้างความยุ่งยากในการดำเนินชีวิต บางคนเก่ง แต่จะแสดงออกให้รู้เมือ่ถึง เวลาที่จำเป็นเท่านั้น
การเป็นคนเก่ง ก็ต้องมีคนอยากลองของเป็นธรรมดา บางคนจึงเลือกเก็บซ่อนตัว เป็น พวก เสือซ่อนเล็บ ไม่ทำตัวเด่น ให้คนอื่นรู้ เพราะบางคนชอบลองของ ลองภูมิ ทดสอบความรู้ ก็จะทำให้เสียเวลา หรืออาจจะมีปัญหาทะเลาะกันได้
คนเก่งบางคน แต่ขี้เกียจ กลัวจะได้รับมอบหมายภาระกิจให้ทำ ก็อาจจะทำตัวเป็นพวก เสือซ่อนเล็บ ไม่ให้ใครรู้ว่าตนเก่ง เพราะในบางหน่วยงานนั้น อย่างโรงเรียน สมัยก่อน ใครเก่งคอมพิวเตอร์ ก็มักจะได้รับมอบหมายให้ทำงานหลายอย่าง เกินหน้าที่ แต่ไม่มีรายได้เพิ่ม ทำให้ไม่มีเวลาไปทำงานอื่น เพราะใครๆ ก็จ้องจะโยนงานมาให้ทำ
คนเก่งบางคนนั้นดูยาก เป็นพวก เสือซ่อนเล็บ การคิดลองดีกับคนประเภทนี้ จึงอาจจะทำให้ตัวเองเดือดร้อน บางคนหากถูกพูดจาดูถูกหรือทำอะไรให้ไม่พอใจ ก็จะแสดงตัวตนที่อันตรายของตัวเองทันที การพูดจา หรือแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมจึงต้องระวัง โดยเฉพาะคนบางประเภทซึ่งไม่ได้มีความอดทนมากนัก จึงต้องระวังคำพูด