ความหมาย : สำนวนนี้มักจะหมายถึงหรือพูดถึงคนที่ไม่ได้เรื่อง เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำอะไรไม่เป็น ไม่มีความรู้ความสามารถ แม้จะเป็นเรื่องง่ายๆ ก็ทำไม่ได้ ทำไม่สำเร็จ ทำอะไรก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน คนแบบนี้ใครก็ไม่อยากมอบหมายงานใดให้ทำเพราะมี แต่ทำให้เสียเวลา ต้องตามแก้ไข กลายเป็นภาระ หากมีลูกหลานแบบนี้ก็เป็นภาระเช่นกัน
ตัวอย่าง :
บางคนเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจ ไม่บังคับ อยากทำอะไรก็ปล่อยให้ทำไป จึงทำอะไรไม่เป็น เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำอะไรง่ายๆ ก็ไม่ประสบความสำเร็จ แต่คนเรานั้นชีวิตก็ไม่แน่นอน หากหมดวาสนา เงินทองหมดสิ้นแล้ว อาจกลายเป็นคนจนเมื่อไหร่ เมื่อนั้นชีวิตก็จะลำบากอย่างแน่นอน แม้จะสามารถปรับตัวได้เองแต่ก็ต้องใช้เวลา และจากคนที่ทำ อะไรไม่เป็น ยามลำบาก คนส่วนใหญ่จะปรับตัวได้เอง อาจกลายเป็นคนที่ทำงานขยันขันแข็ง เรื่องแบบนี้ เป็นธรรมชาติของ มนุษย์ คนที่มีชีวิตสุขสบายย่อมจะทำอะไรไม่เป็น แต่เมื่อลำบาก เพื่อที่จะเอาตัวรอด ก็จะเกิดการเรียนรู้ ปรับตัวได้เอง การมีลูก หลานที่ไม่เก่ง ก็ไม่ต้องกลัว ถึงเวลาก็จะปรับตัวได้เอง
บางคนแม้จะเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจ ไม่ได้สบายเป็นคุณหนู ไม่ต้องทำอะไรอย่างที่คิด บางคนถูกส่งไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็ก ต้องดูแลตัวเอง ช่วยเหลือตัวเอง ไม่ใช่คุณหนูประเภท เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำอะไรก็ไม่เป็น เพราะมีแต่คนเอาอกเอาใจ คนเหล่านี้มักจะประสบความสำเร็จ เก่งด้วยตัวเอง ไม่เกี่ยวว่าพ่อแม่รวยก็เลยประสบความสำเร็จ อย่างที่บางคนเข้าใจผิด ซึ่งหลายคนคิดเช่นนั้น เมื่อเห็นลูกหลานคนรวยประสบความสำเร็จ ก็จะเกิดความอิจฉาไปต่างๆ นานา ว่าที่สามารถทำเช่นนั้นได้เพราะเกิดมาร่ำรวยจึงประสบความสำเร็จ
แท้จริงแล้ว หลายคนนั้น ก็สร้างความสำเร็จด้วยมือของตัวเองไม่ได้เกี่ยวกับพ่อแม่หรือความร่ำรวยของพ่อแม่แต่อย่างไรเพราะ สิ่งที่คนรวยมักจะสอนลูกหลานของตนเองก็คือ วิธีคิดที่ดี ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ ทำอย่างไรจึงจะร่ำรวย ทำอย่างไร จึงจะรู้วิธีสร้างรายได้ สร้างความมั่นคงทางการเงิน และประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งต่างจากคนจนที่พ่อแม่น้อยคนจะสอนเรื่อง เหล่านี้ให้ลูกหลานตนเอง มีแต่สนให้ใช้เงิน สอนการที่จะขอเงินจากคนอื่น อาจไม่ได้สอนให้ลูกหลานรู้จักทำมาหากิน ดังนั้นลูก หลานของคนจนจึงย่อมมีวิธีคิดที่ต่างไปจากลูกหลานคนรวย
บางคนเลี้ยงลูกหลานเหมือนไข่ในหินดูแลอย่างดีไม่ให้ทำอะไร เด็กก็ทำอะไรไม่เป็น เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี เพราะอาจมีเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดกับตัวเอง อาจจะเจ็บป่วยหรือพิการ เมื่อมีลูกหลาน มีคนรอบตัวไม่ได้อยู่คนเดียว จึงควรสอน ลูกหลานในทุกๆ เรื่อง โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม อย่างความรู้ในเรื่องการเอาตัวรอด อย่างน้อยก็เพื่อให้ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในยามลำบาก อย่าสอนให้ลูกหลานเป็นคนประเภท เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง ไม่ ประสบความสำเร็จเพราะหากเสาหลักของครอบครัวมีปัญหา พ่อแม่มีปัญหาการงานการเงินหรือสุขภาพ ก็จะสร้างปัญหาเกิด ความเดือดร้อนไปทั้งครอบครัว เนื่องจากแต่ละคนลูกหลานแต่ละคนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย