ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ อย่างที่นำเสนอหรือเห็นในตอน แรก เป็นเรื่อง โอละพ่อ ข่าวที่ออกมานั้น เป็นอย่างหนึ่งแต่ความจริงเป็นอีกอย่างหนึ่งบางคนเช่นบางคนอาจบอกว่าตัวเองถูกทำ ร้ายแต่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่คิดตัวเองต่างหากที่เป็นคนทำร้ายคนอื่นแต่ออกข่าวลวงให้สับสน เรื่องแบบนี้ ก็มีทั้งการเข้าใจ ผิดหรือจงใจกุเรื่องขึ้นมา

ตัวอย่าง :

เมื่อมีข่าวที่เป็นคดีความในหน้าหนังสือพิมพ์หรือในโลกโซเชียล ในอินเตอร์เน็ตบางครั้งคนร้ายก็กุข่าวหลวง ว่าตัวเองเป็นผู้ เสียหาย แต่สุดท้ายก็อาจเป็นเรื่อง โอละพ่อ เมื่อผู้ถูกกล่าวหากับกลายเป็นฝ่ายถูก กลายเป็นผู้ถูกกระทำให้เกิดความเสียหาย แต่บางทีสังคม โดยเฉพาะในโลกโซเชียลที่มักจะขาดการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบ มักจะพากันลงโทษไปแล้ว ด้วยคำวิจารณ์ หรือการด่าทอสารพัด ทำให้เกิดความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ไปไหนใครรู้จัก ก็พากันประนามว่าเป็นคนไม่ดี ซึ่งกลายเป็น เรื่องที่ยากจะแก้ไข บางคนไม่ผิดแต่ถูกสังคมชาวเน็ตตัดสินไปแล้วว่าเป็นคนผิด ไปไหนมาไหนก็เป็นที่อับอายเพราะมีแต่คนด่า ทอหรือมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นคนไม่ดี

ในปัจจุบันนี้มีกล้องวงจรปิดอยู่เต็มไปหมด ดังนั้นก่อนจะทำเรื่องไม่ดีจึงต้องระวัง ต้องมีสติคิดให้รอบคอบเพราะหากปรากฏ เป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หรือในโลกโซเชียล ก็จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงซึ่งมักจะเป็นเรื่องยากในการแก้ข่าวของตัวเอง การ พยายามพิสูจน์ตัวเองก็เป็นเรื่องยากเช่นกัน หากคนเป็นล้านเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง การจะไปอธิบายให้คน จำนวนมากขนาดนั้นเข้าใจกันทุกคนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นควรจะทำอะไรที่ไม่ดีจึงต้องมีสติคิดให้รอบคอบคิดถึงผล เสียหายที่ตามมาว่าคุ้มหรือไม่

คนไทยจำนวนไม่น้อยชอบด่าชอบวิจารณ์หรือคอมเมนต์ในทางไม่ดีเมื่อมีข่าวต่างๆ เกิดขึ้นในโลกโซเชียลโดยไม่ศึกษา ข้อมูลให้ดีเสียก่อนซึ่งบางครั้ง เรื่องที่ปรากฏออกมานั้นก็เป็นเรื่อง โอละพ่อ ทั้งสองฝ่ายที่มีปัญหากันนั้น อาจปล่อยข่าวลวงออก มาไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด

ปัจจุบัน เรานิยมใช้มือถือเพื่อเสพข้อมูลในโลกโซเชียล Facebook อินเทอร์เน็ต Line กันค่อนข้างมาก เมื่อได้อ่านข่าวใดๆ ก็จำเป็นจะต้องใช้วิจารณญาณศึกษาหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน อย่าเพิ่งหลงเชื่อ เพราะมีมิจฉาชีพหลากหลายรูปแบบ บางคนกุข่าว สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่าง บางทีก็มีคนบริจาคเงินช่วยเหลือเยอะแยะมากมายเป็นการหลอกเอาเงินจากผู้ที่ ตกเป็นเหยื่อ

ทรัพย์สินใดๆ ที่มีไว้ในครอบครอบ หากเกิดการสูญหาย ก่อนจะแจ้งความ ทำเรื่องให้เป็นข่าวใหญ่โต ก็ควรตรวจสอบให้ดี เสียก่อน บางคนจอดรถไว้หน้าบ้าน แล้วรถยนต์หายไป ก็รีบไปแจ้งความ สุดท้ายเป็นเรื่อง โอละพ่อ ลูกชายแอบนำรถยนต์ไปขับ เที่ยว แต่ไม่บอกให้รู้ รถยนต์ไม่ได้หายหรือถูกขโมยแต่อย่างใด