สำหรับหลายท่านที่กำลังลังเลใจระหว่าง Android 4.0 กับ iPhone จะเลือกมือถือแบบไหนดี ลองอ่านบทความนี้เผื่อจะหาทางออกให้ท่านได้ แต่ในการเปรียบเทียบนี้ขอเปรียบเทียบกับ Android แท็บเฉพาะรุ่นท็อปสุดของทั้งสองค่ายเท่านั้นนะครับ เฉพาะระดับแม่ทัพเหมือนกัน อย่าง Galaxy Note ส่วนระดับพลทหาร เครื่องราคาหลักพัน ห้ามเอามาเปรียบเทียบ ต้องเน้นเครื่องราคาแพง ท็อปสุดของแต่ละยี่ห้อเท่านั้น ต่ำกว่านั้น ดูจะไม่ยุติธรรม เพราะ iPhone มีเพียงรุ่นเดียวและราคาสูงมาก

ส่งเสริมภาพลักษณ์
ต้องยอมรับว่า iPhone เสริมภาพลักษณ์ที่ดี ผู้คนให้ความสนใจมากกว่า เรื่องนี้มันกลายเป็นค่านิยมไปแล้ว คนส่วนใหญ่ถูกทำให้คล้อยตาม หากงานที่ต้องทำ เป็นงานที่ต้องติดต่อผู้คน ผลิตภัณฑ์ของ Apple จะเสริมภาพลักษณ์ที่ดูดีกว่า

การจัดการกับข้อมูลในเครื่อง
มือถือ Android ค่อนข้างมีอิสระในการจัดการกับข้อมูลในเครื่อง สามารถนำไปเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ ก็จะใช้งานได้เหมือนใช้งานแฟลฃไดรว์ สามารถก็อปปี้ข้อมูล รูปภาพ เพลง วิดีโอ อีบุ๊ค ฯลฯ ลงเก็บในเครื่องได้ค่อนข้างอิสระ แถมบางรุ่นยังรองรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดรว์ กล้องดิจิตอล ฮาร์ดดิสก์ภายนอก เมาส์ คีย์บอร์ด ฯลฯ

ในขณะที่ iPhone ค่อนข้างลำบาก ต้องมีคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องเป็นคู่บัดดี้กัน ห้ามตายจากกันเด็ดขาด การถ่ายโอนข้อมูล จัดการกับข้อมูลใน iPhone เครื่องนั้นจะต้องทำผ่านคอมพิวเตอร์คู่หูกันเท่านั้น จะเอา iPhone ไปเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นไม่ได้ หรือเขื่อมต่อได้ แต่ก็จะถ่ายโอนข้อมูลได้เฉพาะภาพหรือวิดีโอที่ถ่ายไว้ด้วยกล้องในเครื่องหรือจับภาพจากหน้าจอเท่านั้น ข้อมูลประเภทอื่นไม่สามารถถ่ายโอนได้

ตัวอย่างข้อมูลในมือถือ Android จะถูกแยกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ต่างๆ ก็อปปี้ ลบ ย้าย เปลี่ยนชื่อ ฯลฯ จัดการได้ง่ายมาก

หากเน้นความมีอิสระในการพกพาข้อมูล การถ่ายโอนข้อมูลเข้าออกตัวเครื่องอย่างอิสระ iPhone จะไม่เหมาะที่จะซื้อไว้ใช้งาน นอกเสียจากจะเจลเบรค ก็จะสามารถทำอะไรได้เหมือนกัน จัดการได้อย่างอิสระมากขึ้น

หน้าจอสวยสดงดงาม ความทนทาน
เรื่องนี้ต้องยกให้ iPhone ถ้าได้เห็นคลิปวิดีโอที่ทดสอบโดยชาวต่างชาติ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ปล่อยให้หลุดมือระดับเหนือกว่าศรีษะ ยังไม่เป็นไร หากทำหล่นในระดับปกติ หลุ่นจากโต๊ะ หลุดมือ ก็สบายใจได้ว่าไม่มีปัญหาแน่นอน หน้าจอความละเอียดสูง ความหนาแน่นพิกเซ่ลค่อนข้างมาก จึงแสดงภาพได้สวยสดงดงาม

ความง่ายในการใช้งาน ความเสถียรของระบบ
iPhone เป็นมือถือที่มีความง่ายในการใช้งานมากกว่า การใช้งานไม่ซับซ้อน มีความเสถียรไม่รวนง่ายๆ แม้จะใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน

หากเน้นความง่ายในการใช้งาน ไม่เน้นเอาข้อมูลเข้าออกบ่อยนัก ไว้ใช้งานสำหรับการเสพข้อมูลเป็นหลัก ท่องอินเตอร์เน็ต เช็คเมล์ เล่นเกมบ้าง ใช้ Facebook ฯลฯ iPhone จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

การใช้งานระยะยาว ไม่ตกรุ่น
หากเน้นซื้อเครื่องไว้ใช้งานในระยะยาว โดยไม่ต้องห่วงเรื่องตกรุ่น และยังรองรับการใช้งานได้นานๆ iPhone หรือ มือถือ Android รุ่นท็อป ทำได้ไม่ต่างกัน แต่ iPhone การขายต่อจะง่ายกว่า เพราะมียี่ห้อเดียว เจ้าเดียว

อุปกรณ์เสริม
ทั้ง มือถือ Androidและ iPhone จะมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกใช้เช่นกัน แต่ฝั่ง iPhone จะมีราคาสูงกว่า ในขณะที่ มือถือ Android ต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนว่า รุ่นนั้นๆ มีอุปกรณ์เสริมอะไรบ้าง เพราะบางรุ่นเป็นระบบปิดเหมือนกัน ไม่มีอุปกรณ์เสริมรองรับที่จำเป็นๆ อย่างสาย OTG ที่จะรองรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดรว์ ฮาร์ดดิสก์ภายนอก คีย์บอร์ด หรือเมาส์

ประโยชน์ในการใช้งาน
มือถือทั้งสองค่ายสามารถใช้ประโยชน์ได้ไม่ต่างกัน แต่ มือถือ Android จะให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า เพราะเราสามารถจัดการกับข้อมูลในเครื่องได้อิสระมากกว่า

สรุปจะเลือกแบบไหนดี
บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ จากการใช้งานจริงทั้ง iPhone และ มือถือ Android ซึ่งการใช้งานของแต่ละคนนั้นจะไม่เหมือนกันแน่นอน แต่สิ่งที่เราต้องทำกับเจ้ามือถือนั้น ไม่น่าจะมีอะไรต่างกัน เช่น
-หากเน้นจัดการไฟล์ได้ค่อนข้างอิสระก็ต้อง มือถือ Android ลบ ก็อปปี้ ไฟล์ทุกอย่างได้เหมือนกับการใช้งานแฟลชไดรว์ เอาไปเสียบกับคอมพิวเตอร์เครื่องไหนก็ได้ แต่ iPhone ทำไม่ได้ ต้องพกพาคอมพิวเตอร์ติดตัว หากต้องการถ่ายข้อมูลเข้าออกเครื่อง
-หากเน้นความง่ายในการใช้งาน ความทนทาน ความเสถียรของระบบ ขายต่อง่าย ราคาไม่ตกมาก ไม่เน้นก็อปปี้ข้อมูลเข้าออก หรือจัดการข้อมูลอะไรกับเครื่องมากนัก ก็ต้อง iPhone
-หากเป็นคนมีหน้ามีตา ก็ต้อง iPhone เพราะคนให้การยอมรับมากกว่า แค่ถือไว้ก็เท่ห์แล้ว แม้จะใช้เป็นแค่โทรออกรับสายก็ตาม ฮา

การใช้มือถือไม่ว่าจะแอนดรอยด์หรือ iPhone หลายคนนั้นซื้อมาใช้เพื่อแช็ทหรือใช้ Facebook หรือใช้บริการในอินเตอร์เน็ตมากกว่า เพราะเราสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ จึงช่วยประหยัดรายจ่ายได้ เช่น ใช้การแช็ทแทนการโทรศัพท์ หรือโทรศัพท์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

สิ่งสำคัญที่สุดทต้องใส่ใจก็คือ มือถือประเภทนี้ราคาตกเร็วมาก เพราะมีรุ่นใหม่ออกมาตลอดเวลา หลายคนมีความสามารถหาเงินได้มาก จึงไม่มีปัญหา และจะเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ตลอดเวลา หากงบน้อย หรือมีเงินซื้อได้เพียงบางรุ่นเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนโทรศัพท์ได้บ่อยนัก จะซื้อรุ่นไหน ก็ต้องศึกษาให้ดี ว่ารองรับการใช้งานได้ยาวๆ และหากเน้นขายต่อ ยังได้ราคา ก็คงต้องยกให้ iPhone