หัวชาร์จเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ชาร์จไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่ในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะมีคุณสมบัติบางอย่างไม่เหมือนกัน จำเป็นจะ ต้องศึกษาและทำความเข้าใจ เพื่อจะได้เลือกใช้ให้ถูกต้องกับมือถือของตน ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้แบตเตอรี่เสียหายได้ ต้องเสียเงิน เปลี่ยนใหม่
หัวชาร์จจ่ายไฟออกเท่าไร เรื่องสำคัญจะต้องรู้
ที่ตัวหัวชาร์จมือถือ หรือ แท็บเล็ต จะมีข้อความระบุไว้ว่า ไฟเข้า ไฟออก เท่าไร มือถือแต่ละรุ่นจะไม่เหมือนกัน ตัวอย่างหัวชาร์จ ของแท็บเล็ต Teclast แบตเตอรี่ 6000 mAh จึงต้องใช้หัวชาร์จที่ชาร์จไฟฟ้าได้มาก ไม่เช่นนั้นจะใช้เวลานานมากกว่าแบตเตอรี่จะเต็ม
ในมือถือที่ใช้แบตเตอรี่ความจุประมาณ 3000 mAh หัวชาร์จก็จะจ่ายไฟออกประมาณ 2.0A หรือ 2A และน้อยลงกว่านี้หากใช้ แบตเตอรี่ความจุน้อยลง ดังนั้นหากนำหัวชาร์จที่จ่ายไฟได้สูง อย่าง 2.5A ก็อาจจะทำให้แบตเตอรี่เสียหายได้ พังได้
หัวชาร์จแต่ละตัวเขียนชื่อเอาไว้
ผู้เขียนใช้มือถือหลายเครื่อง หัวชาร์จจะไม่เหมือนกัน ก็จะเขียนเอาไว้ว่าหัวชาร์จนั้นเป็นของเครื่องใด เพื่อจะได้ใช้งานให้ถูกต้อง ลดความเสี่ยงทำให้แบตเตอรี่เสียหาย เพราะจ่ายไฟแรง 2.5A
ข้อความที่หัวชาร์จเล็กมาก จะอ่านได้อย่างไร
ข้อความบอกรายละเอียดที่หัวชาร์จเป็นข้อความที่มีขนาดเล็กมาก ซึ่งก็มีวิธีง่ายๆ ในการอ่านก็คือ ใช้มือถือของเรานั่นเอง ถ่ายรูป แล้วซูมดูว่าจ่ายไฟที่เท่าไร หรือไม่ต้องถ่ายก็ได้ เปิดแอปกล้อง แล้วก็ซูมเพื่ออ่านก็พอไม่ต้องถ่ายรูป ให้เปลืองพื้นที่เก็บข้อมูล
พอร์ตมี 2 แบบ ใช้ให้ถูกต้อง
พอร์ตหรือหัวที่จะนำไปเสียบกับตูดชาร์จของมือถือ จะมี 2 แบบคือ USB Type-C และ Micro USB จะต้องใช้ให้ถูกต้องและถูก ด้าน เวลาเสียบให้เสียบตรงๆ อย่าโยกซ้าย ขวา บน ล่าง จะทำให้ตูดชาร์จหลวม และอาจจะชาร์จไฟไม่เข้า ต้องเสียเงินซ่อม
นำหัวชาร์จไปใช้กับอุปกรณ์อื่น
การนำหัวชาร์จไปใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ นั้น อาจจะเป็นการนำไปใช้กับลำโพง Bluetooth หรือ ลำโพง USB 1. การนำไปใช้กับลำโพง Bluetooth จะต้องศึกษาเกี่ยวกับแบตเตอรี่ของลำโพงว่า ต้องชาร์จไฟเข้าเท่าไร ปัญหาจะเกิดเมื่อแบตเตอรี่ เสื่อม การนำหัวชาร์จไปทำหน้าที่จ่ายไฟ หากไฟไม่พอ เสียงลำโพงจะไม่ดัง เวลาเร่งเสียงก็จะดับ ก็ต้องใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟได้มากขึ้น 2. การนำหัวชาร์จไปใช้งานกับลำโพง USB ซึ่งปกติก็จะต่อกับพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์ ก็จะต้องเลือกหัวชาร์จให้เหมาะสม อย่างลำโพงตัวนี้ ต้องหัวชาร์จจ่ายไฟได้ 2.0A ขึ้นไป จึงจะได้เสียงที่ดังมากขึ้น
เลือกพาวเวอร์แบงก์ให้เข้ากับมือถือ
เมื่อเรารู้แล้วว่า มือถือของเรานั้น จ่ายไฟออกเท่าไร การเลือกซื้อพาวเวอร์แบงก์เพื่อเอาไว้ใช้งานกับมือถือของเรา ก็ต้องเลือกรุ่นที่จ่ายไฟเท่ากัน เพราะหากจ่ายไฟได้น้อยกว่า ก็จะใช้เวลานานมากกว่าจะเต็ม ซึ่งจะมีรายละเอียดที่ตัวอุปกรณ์ บางรุ่นจะมีช่องจ่ายไฟ 2 ช่อง จ่ายไฟต่ำ และ จ่ายไฟแรง