บทความนี้จะมาแนะนำเรื่องควรรู้เกี่ยวกับไมค์ไร้สายราคาประหยัดสบายกระเป๋า แต่ก็มีหลายเรื่องที่จำเป็นจะต้องรู้ ไม่เช่นนั้น อาจจะเสียเงินซื้อบ่อยๆ ก็ยังไม่ตรงกับความต้องการเสียที กลายเป็นว่าเสียเงินมากกว่าเดิม เพราะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องรู้เขา รู้จักมือถือของเราก่อน เป็นแบบใด และควรเลือกไมค์แบบใดมาใช้
ไมค์ไร้สาย หรือ Wireless Microphone ให้ความสะดวกในการใช้งาน สำหรับคนทำคลิปวิดีโอ ใช้มือถือถ่ายคลิป ไม่มีสายเกะกะ และยังใช้งานในระยะไกลได้ด้วยบางรุ่นเกิน 10 เมตร ก็ยังได้
เรื่องควรรู้เกี่ยวกับไมค์ไร้สาย
ก่อนอื่นเราก็ต้องทำความรู้จักกับไมค์ไร้สายในแง่มุมต่างๆ กันก่อน เพื่อจะได้เลือกให้เหมาะกับมือถือของเรา
ทำความรู้จักมือถือของเราก่อน
สิ่งแรกที่สำคัญมากที่สุดก็คือ จะต้องทำความรู้จักมือถือของเราก่อน ว่าเป็นเป็นแบบใด โดยเฉพาะพอร์ต หรือ ช่องทางการเชื่อมต่อ ซึ่งจะแยกได้ 3 ประเภทด้วยกันคือ
1. ช่องไมค์/หูฟัง ในมือถือหรือแท็บเล็ตรุ่นเก่า ใช้พอร์ต Micro USB เป็นแบบโบราณแล้ว ไมค์ที่จะใช้ก็ต้องเป็นไมค์แบบแจ็ค 3.5 มม. เช่น รุ่น K35
2. มือถือรุ่นใหม่ใช้พอร์ต Type C จะมีไมค์ที่รองรับ เช่น รุ่นนี้
3. มือถือ iPhone ต่ำกว่า iPhone 15 ใช้พอร์ต Lightning ต้องใช้ไมค์ที่รองรับเฉพาะพอร์ตแบบนี้
ไมค์ไร้สายแบบแจ็ค 3.5 จุดเด่น จุดด้อย
เราไปดูแบบแรกกันก่อน ไมค์แบบนี้จะใช้การเชื่อมต่อกับช่องเสียบไมค์แบบ 3.5 มม. ซึ่งมือถือรุ่นเก่าที่ใช้พอร์ต Micro USB จะรองรับการเชื่อมต่อแบบนี้
จุดเด่นก็คือ เหมาะสำหรับคนที่มีต้องการใช้งานกับเครื่องเสียงด้วย ใช้กับมิกเซอร์ ลำโพง เป็นเป็นไมค์ลอยไว้พูด ร้องเพลง และ เผื่อใช้กับมือถือรุ่นเก่าด้วย เผื่อถ่ายคลิปวิดีโอ
หากเน้นใช้งานกับมือถือเป็นหลัก และมือถือเป็นแบบรุ่นใหม่ ใช้พอร์ต Type C ให้ข้ามไปซื้อแบบ Type C อย่าซื้อแบบใช้แจ็ค 3.5 เพราะอนาคตจะต้องเปลี่ยนมือถือเป็นเครื่องรุ่นใหม่อยู่แล้ว เผื่อรองรับการใช้งานได้เลย
จุดด้อย แบตเตอรี่อาจจะหมดเร็วกว่าที่คิด และเมื่อแบตเตอรี่หมดหรือเริ่มอ่อน เสียงก็จะขาดๆ หายๆ สำหรับใครที่เน้นใช้งานแบบจริงๆ จังๆ แนะนำให้ซื้อ 2 ชุด สลับกันใช้ และสลับการชาร์จ หากทำงานนอกสถานที่ มีปัญหาแน่นอน แบตเตอรี่หมดเสียก่อน
ไมค์ไร้สายแบบ Type C จุดเด่น จุดด้อย
ไมค์ไร้สายแบบนี้ น่าจะเป็นที่นิยมกันมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่จะใช้มือถือรุ่นใหม่แบบ Type C
จุดเด่นของไมค์แบบนี้ ก็คือมีช่องเชื่อมต่อผ่อนพอร์ต Type C ซึ่งจะจ่ายไฟขณะใช้งานไปด้วย จึงไม่ต้องชาร์จ การซื้อแบบไมค์ 2 ตัว ก็จะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะจะได้สลับกันใช้งาน ก็น่าจะเพียงพอ หากมีแค่อันเดียว แบตเตอรี่อาจจะหมดเสียก่อน
ไมค์ไร้สายแบบ Lightning จุดเด่น จุดด้อย
ไมค์ไร้สายราคาประหยัดสำหรับ iPhone ก็จะมีแบบใช้พอร์ต Lightning ก็ให้เลือกแบบนี้ จะไม่เสียเงินซื้อตัวแปลงให้เสียเงินอีก หากเลือกแบบอื่น ยกเว้น iPhone 15 รุ่นใหม่สุด จะใช้พอร์ต Type C ก็ต้องหาไมค์สำหรับพอร์ตแบบใหม่โดยเฉพาะ
ข้อดี ข้อเสียการใช้ไมค์ไร้สายทุกแบบ
ข้อดีของไมค์ไร้สายก็คือความสะดวกเวลาใช้งาน ไม่มีสายเกะกะ จะทำอะไรก็สะดวก และไมค์รุ่นใหม่ ก็รองรับการใช้งานได้ไกล
ข้อเสียของไมค์ไร้สาย โดยเฉพาะรุ่นราคาถูก ก็คือ แบตเตอรี่ที่อาจจะหมดเร็ว จึงจำเป็นจะต้องมีไว้หลายชุด และต้องมีพาวเวอร์แบงก์ติดตัวด้วย หากเป็นการทำงานนอกสถานที่ และก็ควรจะต้องมีไมค์สายไว้รองรับเช่นกัน เผื่อชาร์จแบตเตอรี่ไม่ทัน