หลัง 8 เมษายน 2014 ไมโครซอฟท์จะหยุดให้บริการความช่วยเหลือด้านเทคนิค การอัพเดท ตลอดจนความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยให้กับ Windows XP เพราะ ถูกใช้งานมานานเกิน 10 ปี แล้ว ปัจจุบันเทคโนโลยี่ก็พัฒนาไปมาก ได้เวลาหยุดพัฒนา เมื่อเป็นแบบนี้ คนที่ใช้คอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่ติดตั้ง Windows XP จะมี ทางออกอย่างไร?
ในบทความนี้จะแนะนำแนวทางสำหรับผู้ที่ยังจำเป็นต้องใช้ Windows XP ต่อไป เพราะคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานกันอยู่นั้น หากพิจารณาให้ดีแล้วจะเห็นว่าเราใช้งาน ระบบปฏิบัติการเป็นเพียงตัวขับเคลื่อนให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เท่านั้น เราจะใช้งานด้านอื่นมากกว่า เช่น ท่องอินเตอร์เน็ต เล่น Facebook Line ซึ่งไม่ได้ใช้ทรัพยากร ของระบบ Windows XP มากนัก เราจึงยังใช้งานต่อไปได้สบายๆ แต่ที่ต้องเตรียมรับมือให้ดีก็คือ ระบบรักษาความปลอดภัยจากไวรัส มัลแวร์ สปายแวร์ ตลอดจนการ เจาะระบบเพื่อล้วงข้อมูล
เหตุผลที่ควรจะควรหยุดใช้งาน Windows XP
1. ความช่วยเหลือด้านเทคนิคจะไม่มีอีกแล้ว หลัง 8 เมษายน 2557
2. การอัปเดตอัตโนมัติที่จะช่วยปกป้องคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรม Microsoft Security Essentials ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้ Windows XP จะหยุดให้บริการ
3. มีความเสี่ยงมากขึ้นต่อปัญหาด้านความปลอดภัยและไวรัส เพราะไม่มีการสนับสนุน แต่ก็ยังมีทางเลือกใช้งานโปรแกรมของบริษัทอื่นได้
4. แอปและอุปกรณ์จำนวนมากไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Windows XP ได้
5. ผู้ผลิตซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์หันมาปรับแต่งผลิตภัณฑ์ของตนสำหรับการใช้งานร่วมกับ Windows รุ่นใหม่ ซึ่งไม่รองรับ Windows XP
6. เทคโนโลยีในปัจจะบันพัฒนาไปไกล ควรจะลงทุนทรัพยากรของเราไปกับการสนับสนุนเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าได้แล้ว
7. เสี่ยงต่อการเข้าถึงระบบโดยไวรัสหรือมัลแวร์ตามรอยรั่วของการเข้าใช้อินเทอร์เน็ตและซอฟต์แวร์ต่างๆ หากไม่มีระบบความปลอดภัย ทันทีที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ของ
เราเข้ากับอินเตอร์เน็ต ไวรัส มัลแวร์ สปายแวร์จะพากันเข้าคอมพิวเตอร์ทันที
แนวทางการใช้งาน Windows XP แบบต่างๆ
สำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ขณะนี้ได้ติดตั้ง Windows XP เอาไว้ ก็ยังพอมีแนวทางให้ใช้งานต่อหลายทาง เช่น
ใช้งาน Windows XP ต่อไป
เชื่อว่าคอมพิวเตอร์ของหลายๆ คนยังสามารถใช้งานได้ดี และก็ไม่อยากจะเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมใหม่ เพราะโปรแกรมที่มีอยู่ก็สามารถทำงานได้ดี การเปลี่ยนไปใช้ Windows 7 หรือ 8 อาจจะต้องเปลี่ยนโปรแกรมในเครื่องไปด้วย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากตามมา กรณีนี้จะมีแนวทางให้เราใช้งาน Windows XP ต่อไปดังนี้
1. ควรซื้อโปรแกรมป้องกันไวรัสและรักษาความปลอดภัยให้เครื่อง แม้จะมีของฟรีหรือบางโปรแกรมจะมีตัวเลือกให้ใช้งานฟรี แต่ตัดคุณสมบัติหลายอย่างออกไป จะทำ ให้การปกป้องคอมพิวเตอร์ ทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ตัวอย่างโปรแกรมป้องกันไวรัสมีมากมายเช่น NOD, Antivir, Avast, ZoneAlarm, Bitdefender ฯลฯ
2. ติดตั้ง CCleaner เพื่อช่วยลบไฟล์ขยะ ไฟล์ชั่วคราวที่ถูกดาวน์โหลดขณะเล่นอินเตอร์เน็ต ทุกครั้งก่อนจะทำการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหรือหลังเล่นอินเตอร์เน็ต ควร ใช้โปรแกรมนี้ลบข้อมูลที่ถูกดาวน์โหลดมา เพราะอาจจะมีไฟล์ไวรัส มัลแวร์ สปายแวร์แฝงมาด้วย ลงแค่โปรแกรมในข้อที่ 1 และ 2 เพียงเท่านี้คอมพิวเตอร์ก็จะค่อนข้าง ปลอดภัยอยากมากแล้ว แต่ ยังไม่พอ
3. สำหรับคอมพิวเตอร์ที่เอาไว้ใช้งานจริงๆ จำเป็นต้องใช้ Windows XP เพราะมีโปรแกรมบางตัวต้องใช้กับ Windows รุ่นนี้ หรืองานที่ทำนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ โปรแกรมรุ่นใหม่ หากจะเก็บคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไว้ใช้งานต่อไป ก็พยายามอย่าเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต หากจะเชื่อมต่อก็ไว้อัพเดทโปรแกรมแอนตี้ไวรัสหรือโปรแกรมรักษา ระบบความปลอดภัยเท่านั้น หรือเข้าเว็บไซต์ที่ปลอดภัยจริงๆ หากจะเน้นใช้งานอินเตอร์เน็ต ก็ซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่จะดีกว่า
4. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ Windows XP เล่นเน็ต หลีกเลี่ยงการใช้งานเว็บไซต์ที่ไม่มั่นใจในความปลอดภัย จากประสบการณ์ในการใช้งานส่วนตัวจะแยกเครื่องกันอย่าง ชัดเจน จึงไม่มีปัญหาเรื่องไวรัสหรือสปายแวร์มากวนใจ คอมพิวเตอร์ไว้เล่นเน็ตจะเป็นเครื่องที่พร้อมฟอร์แมตและลงโปรแกรมใหม่ตลอดเวลา
5. หมั่นสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ ทั้งสำรองตัว Windows XP และข้อมูลส่วนตัวหรือที่ทำงาน
6. อย่าเก็บรหัสผ่านเป็นไฟล์ข้อความไว้ในเครื่อง
7. หลีกเลี่ยงการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน WiFi ที่ไม่ปลอดภัย เช่น การใช้งาน WiFi ตามร้านกาแฟ ประสบการณ์ตรงนี้เจอกับตัวเองเต็มๆ มีผู้ไม่หวังดี สามารถแอบดัก ข้อมูลบางส่วนได้ แต่โชคดีที่ยังเจาะเข้าอีเมล์ไม่สำเร็จ
8. ติดตั้งโปรแกรมที่ไว้ใช้ได้เท่านั้น ไม่ทดลองติดตั้งโปรแกรมแปลกๆ ในเครื่อง
9. ติดตั้งโปรแกรมที่จำเป็นเท่านั้น
10. สำหรับโปรแกรมท่องอินเตอร์เน็ตให้ใช้ตัวอื่นแทนซึ่งจะสามารถอัพเดทได้ เช่น Firefox, Chrome
ติดตั้ง Windows 7 แทนที่ Windows XP
สำหรับคอมพิวเตอร์ที่เสป็คค่อนข้างสูง สามารถใช้งาน Windows 7 ได้ การอัพเกรดจาก Windows XP ไปเป็น Windows 7 ก็เป็นทางเลือกที่ดี เมื่อไมโครซอฟท์หยุดให้ การสนับสนุนแล้ว เครื่องเสป็คต่ำๆ บางรุ่นก็ยังสามารถติดตั้ง Windows 7 รุ่น Starter ได้
อัปเกรดพีซีปัจจุบันของคุณ
หากคอมพิวเตอร์สามารถอัพเกรดได้ อาจจะเพิ่มแรม อัพเกรดซีพียูหรือการ์ดจอ หลังจากนั้นก็ติดตั้ง Windows 7 หรือ 8 แทนที่ Windows XP แต่การอัพเกรทหากมีค่า ใช้จ่ายค่อนข้างสูง การซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ทั้งนี้ก็มีคอมพิวเตอร์มือสองคุณภาพดีนำเข้าจากญี่ปุ่นเป็นอีกทางเลือก เน้นรุ่นที่สามารถ เพิ่มแรมได้เกิน 2 GB ก็สามารถใช้งาน Windows 7 หรือ 8 ได้สบาย ในงบประมาณไม่เกิน 5 พันบาท มีให้เลือกมากพอสมควร
ตัวอย่างคอมพิวเตอร์มือสองจากญี่ปุ่น เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป เล่นอินเตอร์เน็ต Facebook แช็ท พิมพ์งาน โปรแกรมสำนักงาน กราฟิคเบาๆ งบไม่เกิน 5000 บาท ก็ได้เครื่องดีๆ ดีกว่าเครื่องประกอบเอง เครื่องมือสองหากเลือกเป็น ก็ใช้งานได้ดี
ซื้อพีซีหรือโน้ตบุ๊คเครื่องใหม่
การลงทุนกับเทคโนโลยี่ใหม่ๆ ก็เป็นเรื่องดี เพราะปัจจุบันเทคโนโลยี่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และซอฟท์แวร์ได้ก้าวไปไกลมากแล้ว ควรจะลงทุนใหม่ ปรับเปลี่ยนใหม่ เพราะ Windows XP ก็ถูกใช้มานานมากแล้ว สิบกว่าปี หลายอย่างไม่สามารถพัฒนาต่อได้อีกแล้ว จำเป็นต้องหยุด ไปใช้ตัวใหม่ที่ทันสมัยกว่า ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโลกธุรกิจ
บทสรุป
สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว ยังเชื่อว่า Windows XP จะยังคงมีคนใช้งานต่อไปอีกนานพอสมควร ซึ่งขณะนี้คิดเป็น 30% ของคอมพิวเตอร์ทั่วโลก การที่คนหลักล้านคน ทั่วโลกจะเปลี่ยนไปใช้ Windows รุ่นอื่น ดูจะไม่ง่าย โดยเฉพาะการใช้งานส่วนตัว เพราะคอมพิวเตอร์แม้จะเก่า แต่หากใช้งานพื้นฐานทั่วไป เล่นเน็ต ใช้โปรแกรม Office ก็ ยังสามารถใช้งานได้อีกนาน
ส่วนเรื่องการถูกเจาะระบบนั้น ดูจะเป็นเรื่องปกติสำหรับระบบปฏิบัติการ Widnows เพราะ Windows 7 ที่ใช้อยู่เป็นประจำก็เคยโดนหลายครั้ง หากจัดการกับระบบ ความปลอดภัยให้ดี ก็เชื่อว่ายังสามารถใช้งาน Windows XP ได้อีกนาน จนกว่าเครื่องจะพังกันไปข้าง