แอนดรอยด์เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะอย่างมือถือและแท็บเล็ต มีหลายรุ่นหลายเวอร์ชัน สำหรับบทความนี้จะมา แนะนำรุ่น 4.4 ซึ่งจะมีชื่อเล่นว่าคิดแคท (Kitkat) ปัจจุบัน (สิงหาคม 2558) เป็นรุ่นที่นิยมใช้กันมากที่สุดทั่วโลก โดยเฉพาะในมือถือ เพราะ รุ่นนี้ได้พัฒนาให้ทำงานเร็วขึ้น รองรับอุปกรณ์เสป็คต่ำ มือถือหรือแท็บเล็ตที่มีแรมแค่ 512 ก็ใช้งานได้ไหลลื่น ส่งผลให้สามารถผลิตมือถือ ราคาประหยัดออกมาจำหน่ายกันเยอะมาก สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ราคาไม่ถึง 1000 บาท ก็สามารถหาซื้อมือถือ Android 4.4 มาใช้งานได้
ตัวอย่างมือถือสมาร์ทโฟน inovo i-401 Plus 3G 2Sim 4 GB 5 นิ้ว สามารถใช้งานแอนดรอยด์ Kitkat ได้ แต่หน่วยความจำแค่ 4 GB และแบตเตอรี่น้อยๆ รองรับการใช้งานพื้นฐานได้สบายๆ หากเครื่องไม่มีปัญหาพังเสียก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เครื่องราคาถูกกับคุณภาพมักจะเดิน สวนทางกัน แต่จอใหญ่แบบนี้กินไฟ แบตเตอรี่หมดเร็วอย่างแน่นอน
อุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.4
อุปกรณ์ที่นิยมใช้ระบบปฏิบัติการ Android จะเป็นมือถือและแท็บเล็ต การมีระบบปฏิบัติการในตัวจะทำให้อุปกรณ์เหล่านี้มีความสามารถ ใกล้เคียงคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก แม้จะเป็นมือถือหรือแท็บเล็ตราคาไม่แพงยี่ห้อโนเนมก็ตาม แต่ความสามารถในการใช้งานพื้นฐานทั่วไป ก็ไม่ ต่างจากมือถือราคาแพง จะต่างในเรื่องความทนทาน วัสดุอุปกรณ์ การประกอบ การรับประกัน หรือบริการหลังการขาย ที่ว่ามานี่มันก็ทั้งหมด เลยนี่นา แต่ในงบไม่ถึง 3000 ได้ใช้คุณสมบัติดีๆ ในอุปกรณ์เหล่านี้ก็ถือว่าคุ้มแล้ว
คุณสมบัติโดยรวมของ Android 4.4
สำหรับแอนดรอยด์รุ่นนี้จะมีความสามารถหรือคุณสมบัติต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น
1. สามารถใช้งานกับมือถือหรือแท็บเล็ต Android เสป็คต่ำๆ ได้ แช่น ความจุ 4 GB หน่วยความจำ 512 เป็นต้น เราจึงสามารถหาซื้อมือถือ แอนดรอยด์ได้ในราคาตั้งแต่ไม่ถึง 1000 บาท จนถึงหลักหมื่นบาท แต่เครื่องราคาถูก ประสิทธิภาพก็ต้องทำใจว่าอาจจะใช้ได้ไม่นาน ไม่กี่วัน ไม่ทน เพราะมือถือแอนดรอยด์ขึ้นชื่อในเรื่องปัญหาที่ตามมา เช่น โปรแกรมรวน ตูดชาร์จมีปัญหา หรือปัญหาอื่นๆ เหมือนถูกสร้างมาโดยมี การกำหนดวันหมดอายุไว้แล้ว ไม่ได้ทนทานเหมือนมือถือสมัยก่อน หลายปีก็ยังใช้ได้
2. การสื่อสารผ่านแอพ Hangouts สะดวกในการรับส่ง SMS หรือข้อความโดยไม่เสียเงินค่าส่ง SMS แต่จะเสียค่าต่อเน็ตแทน ซึ่งก็ถูกกว่ามาก
3. การค้นหาเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่มีในเครื่อง แต่ต้องเชื่อมต่อเน็ตเพื่อไปค้นหาในฐานข้อมูลของ Google
4. การสลับใช้งานแอพที่เร็วขึ้น กรณีเปิดใช้งานหลายแอพพร้อมกัน
5. การใช้เสียงพูดสั่งงาน หรือแปลงเสียงพูดเป็นข้อความแทนการพิมพ์ สะดวกสำหรับการแช็ทโดยไม่ต้องพิมพ์
6. ระบบ Cloud Storage ซึ่งจะเป็นพื้นที่ฟรีที่สามารถส่งข้อมูล ไฟล์ต่างๆ ไฟล์ภาพ วิดีโอ ไปเก็บไว้ในพื้นที่ฟรีในเน็ตได้ เหมือนมีแฟลชไดรว์ ส่วนตัว
7. การอ่าน eBook แบบไร้ขอบกระดาษ ผ่านหน้าจอมือถือ อ่านหนังสือได้ง่ายขึ้น
8. หน้าตาเรียบง่าย เน้นความเร็วในการใช้งานเป็นหลัก
9. ความสามารถในการปริ๊นต์เอกสารลงกระดาษ ภาพ ข้อมูล ผ่าน Google Cloud Print
ความสามารถด้านต่างๆ ยังมีอีกมาก โดยเฉพาะแอพต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถให้อุปกรณ์พกพาอย่างมือถือหรือแท็บเล็ตที่ใช้ระบบ Android สามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้อีกมากมาย แม้จะเป็นเครื่องราคาไม่กี่พันบาทก็ตาม
เราใช้มือถือระบบ Android 4.4 ทำอะไรได้บ้าง
ตัวอย่างความสามารถพื้นฐานของอุปกรณ์พกพาอย่างมือถือระบบ Android ที่เราสามารถนำไปใช้งานด้านต่างๆ ได้
1. โทรศัพท์ โทรออก รับสาย บล็อกสาย จัดเก็บข้อมูลเบอร์โทรศัพท์
2. รับส่งข้อความ SMS โดยเฉพาะผ่านแอพ Hangouts ซึ่งจะไม่เสียเงิน ส่งได้ทั้งภาพ ข้อความ วิดีโอ
3. ใช้งานปฏิทินนัดหมาย ดูวันเดือนปี
4. ดูวิดีโอใน Youtube อัพโหลดวิดีโอที่ถ่ายไว้ เข้า Youtube
5. ถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายภาพวิดีโอ
6. สำรองข้อมูลจากมือถือไปเก็บไว้ในพื้นที่ฟรีในเน็ต ส่งไปไว้ใน Google Drive ซึ่งผู้ใช้มือถือหรือแท็บเล็ตระบบ Android ทุกเครื่องจะได้รับ พื้นที่ฟรี 15 GB เพื่อเก็บข้อมูลฟรี
7. ท่องเน็ต ท่องเว็บไซต์ต่างๆ อ่านข่าว ค้นหาข้อมูลในเน็ต ค้นหาภาพ วิดีโอ
8. รับส่งอีเมล์ ผ่านมือถือ พร้อมแนบภาพ วิดีโอ ไฟล์ต่างๆ ไปกับมือถือ
9. ติดตั้งแอพต่างๆ เพิ่มเติม เพิ่มความสามารถ เล่นเกม ฯลฯ
10. ใช้งานแผนที่ นำทาง หาตำแหน่งสถานที่ เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจ
11. ใช้งานแอพโซเชียล Google+
12. ใช้งานเครื่องคิดเลข
13. ฟังเพลง MP3
14. แต่งภาพ จัดการภาพเบื้องต้น
15. เล่นเกมส์
16. จับภาพหน้าจอมือถือ เพื่อนำภาพไปใช้งาน
17. บันทึกเสียง
จากที่กล่าวมาข้างต้นเป็นความสามารถพื้นฐานที่มือถือหรือแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 สามารถทำได้ แต่เรายังสามารถ เพิ่มความสามารถให้เครื่องได้อีกมากมายด้วยการติดตั้งแอพต่างๆ เพิ่มลงไป เช่น Line, Facebook, Instagram ฯลฯ แอปต่างๆ เป็นแสนแอป แต่จะใช้งานได้มากน้อยแค่ไหน ก็อยู่ที่เสป็คเครื่องจะรองรับได้แค่ไหนและตัวผู้ใช้ เพราะส่วนใหญ่ก็จะใช้งานทั่วไป ไม่กี่แอพเท่านั้นเอง เช่น โทรศัพท์ ถ่ายภาพ เล่น Line เล่น Facebook เข้าเว็บไซต์ต่างๆ เพื่ออ่านข่าว อ่านบทความ ดูวิดีโอ Youtube ส่วนใหญ่ก็จะใช้งานกันอยู่ ประมาณนี้