ปัจจุบันเรานิยมใช้งานมือถือ Android กันมาก และใช้งานกันแทบจะตลอดเวลา โดยเปิดมือถือใช้งานทั้งวัน ทั้งเดือน ทั้งปี ไม่มีปิด หากแบตเตอรี่ไม่หมด ไม่มีการหยุดพักเลย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่แบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อม แต่หากยังไม่เสื่อมมากนัก ก็ต้องรีบหาวิธีชะลอให้เสื่อมช้าลง เพราะบางคนใช้งานแบบผิดๆ มาโดยตลอด ซึ่งก็มีหลายวิธีมาแนะนำ สำหรับบางรุ่นที่แบตเตอรี่แพงมาก

 

ตัวอย่างวิธียืดอายุแบตเตอรี่มือถือที่เริ่มเสื่อมแล้วแบบต่างๆ

เมื่อแบตเตอรี่มือถือเริ่มเสื่อมแล้ว การยืดอายุการใช้งานก็มีหลายวิธีให้เลือกใช้ เช่น

ปิดแอปหรือลบแอปที่ไม่ใช้งานออกไปจากเครื่อง

แอปบางตัวในมือถือ Android แม้จะไม่ได้เรียกใช้งาน แต่แอปเหล่านั้นก็จะทำงานเองในเบื้องหลังทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว ดังนั้น แอปใดบ้างที่ไม่ใช้งาน ก็จัดการปิดไปเลย เพราะแอปต่างๆ ในเครื่องนั้นมีเยอะมาก โดยเฉพาะคนชอบทดสอบ พยายามใช้งานเฉพาะแอปที่จำเป็นเท่านั้นก็พอ

 

ปิดระบบการสื่อสารของเครื่อง

ระบบการสื่อสารของเครื่องมีหลายแบบเช่น สัญญาณมือถือ เครือข่าย Wi-Fi Bluetooth ควรตรวจสอบและปิดการใช้งาน เมื่อไม่จำเป็น เพื่อประหยัดพลังงาน ลดการใช้แบตเตอรี่

จัดระเบียบชีวิตในการใช้แอปโซเชียล แอปแชตต่างๆ

จัดระเบียบเวลาชีวิตในการใช้งานแอปประเภทโซเชียล หรือแอปแชตอย่าง Line บางคนแชททั้งวัน แบตเตอรี่จะยังหมดเร็ว ดังนั้น ก็ต้องมาจัดระเบียบเล่นให้เป็นเวลา เช่น ใช้งานเฉพาะบางช่วงเวลาก่อนนอนเท่านั้น หรือเลือกช่วงเวลาที่อยู่บ้าน เพราะสามารถเสียบสายชาร์จได้ทันที หากแบตเตอรี่เหลือน้อย

 

บางคนจะหาเครื่องเล็กๆ เครื่องปุ่มกดที่แบตเตอรี่อีดทนมาไว้ใช้งาน ไว้รับสาย โทรออก เผื่อมีธุระเร่งด่วน หรือมีคนต้องการติดต่อแบบเร่งด่วน ก็จะไม่พลาดการติดต่อ

 

ชาร์จให้บ่อยขึ้น อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมด

พยายามชาร์จให้บ่อยขึ้น เมื่อแบตเตอรี่ลดเหลือ 50% 70% 80% หากสามารถชาร์จได้ ก็ให้ชาร์จทันที ห้ามปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือน้อย เช่น หมดเกลี้ยงหรือเหลือน้อยกว่า 30% ถ้าสามารถทำได้ เมื่อลดเหลือ 70% ขึ้นไป ก็เตรียมมองหาที่ชาร์จได้เลย การชาร์จบ่อย

 

หากไม่ได้เดินไปไหนมาไหน ก็ไม่จำเป็นจะต้องถอดสายชาร์จที่ตูดเครื่องออก เพื่อป้องกันตูดชาร์จพัง เพราะชาร์จบ่อย ปัญหานี้มักจะเกิดในมือถือราคาถูก แต่หากเป็นมือถือดีมีคุณภาพ ยี่ห้อยอดนิยมทั้งหลาย ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ อย่าง Asus fonepad รุ่นนี้่ส่วนใหญ่ชาร์จที่ 70-80% ขึ้นไป เพิ่งพังหลังจากใช้งานมาได้ 4 ปีครึ่ง แบตเสื่อม เก็บไฟไม่อยู่แล้ว

 

ใช้พาวเวอร์แบงก์ช่วยชาร์จกรณีใช้งานนอกสถานที่

มือถือที่มีราคาแบตเตอรี่ค่อนข้างแพง บางรุ่น 2000 กว่าบาท ซื้อไม่ไหว เพราะเพิ่มเงินอีกหน่อย ก็ซื้อเครื่องใหม่ได้แล้ว กรณีนี้ยังพอมีทางเลือกในการยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่โดยหาซื้อพาวเวอร์แบงก์มาไว้ใช้งาน โดยเน้นรุ่นที่มีความจุสูงไว้ก่อน แล้วเมื่อใช้งานมือถือ หากแบตเตอรี่เหลือน้อยเมื่อใด เช่น 50% ขึ้นไป ก็พยายามชาร์จให้บ่อย 70-80% ก็เริ่มชาร์จได้เลย ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานไปได้อีกหน่อย โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานนอกสถานที่ ไม่มีที่เสียบไฟหรือไม่สะดวก ก็ต้องใช้วิธีนี้

 

หลีกเลี่ยงการเก็บมือถือไว้ในที่มีอากาศร้อน

เมื่อแบตเตอรี่มือถือเริ่มเสื่อมแล้ว หรือยังไม่เสื่อมก็ตาม ต้องหลีกเลี่ยงการเก็บเครื่องไว้ในที่ที่มีอากาศร้อน เช่น ในรถที่จอดกลางแดด บ้านหรืออาคารที่มีความร้อน เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วยิ่งขึ้น

 

ใช้ Wall Paper สีดำ เป็นหลัก

เพื่อลดการใช้แสงบนหน้าจอให้เปลี่ยนไปใช้ภาพพื้นหลังหรือวอลเปเปอร์สีดำ ลดการใช้แสง ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้อีกเล็กน้อย

 

ไม่ใช้สกรีนล็อค

หากเครื่องที่ใช้นั้น ไม่มีข้อมูล ไฟล์ ภาพ วิดีโอ ที่เป็นความลับอะไร ก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้สกรีนล็อค เพื่อไม่ให้เสียเวลาเมื่อต้องการเปิดใช้งาน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้เครื่องบ่อยๆ

 

รีเซ็ตเครื่องใหม่ ติดตั้งเฉพาะแอปที่จำเป็น

การรีเซ็ตเครื่องใหม่ เพื่อลบข้อมูลทั้งหมด แล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยการติดตั้งเฉพาะแอปที่จำเป็นเท่านั้น เครื่องจะทำงานเร็ว ช่วยประหยัดพลังานได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน

 

เน้นธีมมาตรฐาน เรียบง่ายไว้ก่อน

การใช้ธีมบางธีมมีส่วนใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มากกว่าธีมมาตรฐานหรือธีมที่มีความเรียบง่าย จึงควรหลีกเลี่ยง นอกจากนี้ก็ต้องหาทางลดเอฟเฟ็คต์พิเศษในมือถือรุ่นนั้นๆ ลงด้วย เช่น การใช้ภาพแอนนิเมชั่น

 

บล็อกข้อความ หรือ SMS

เมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมมากแล้ว และยังไม่มีเงินซื้อของใหม่ อาจจะบล็อกข้อความ หรือ SMS ปิดสัญญาณวิทยุ การสื่อสารทั้งหมด หรือไม่ต่อเน็ตแบบตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องรับ SMS รับข้อความ ที่ส่งไปมาหากันระหว่างแอปโซเชียล แอปแชท ป้องกันแบตเตอรี่หมดเร็ว อาจเปิดเฉพาะสัญญาณมือถือไว้เท่านั้น ไว้รับสายอย่างเดียว

 

คุณภาพแบตเตอรี่มีผลต่ออายุการใช้งานมือถือในปัจจุบัน ซึ่งเรานิยมใช้งานกันมา และบางคนแทบจะตลอดเวลา ขับมอเตอร์ไซค์ ปั่นจักรยาน ทำกิจกรรมต่างๆ ก็ใช้กันมาก ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว โดยเฉพาะหากชาร์จไม่เป็น ดูแลแบตเตอรี่ไม่เป็น ก็จะยิ่งเสื่อมสภาพเร็วมาก และเมื่อเริ่มเสื่อมสภาพ เก็บไฟไม่อยู่แล้ว ก็ต้องหาวิธียืดอายุการใช้งาน ซึ่งมีหลายวิธีดังที่ได้กล่าวมา เพราะมือถือบางรุ่นนั้น แบตเตอรี่แพงมาก แทบจะครึ่งหนึ่งของราคาเครื่องเลยทีเดียว