ทุกวันนี้เราใช้แอปธนาคาร หรือ บริการธนาคารออนไลน์มากขึ้น เพราะมีความสะดวก ช่วยให้ปลอดภัยจากโควิด แต่คนที่ไม่มีความรู้ก็ยังกลัว ว่าเงินในบัญชีจะถูกแอปถอน ซึ่งในเรื่องนี้หากศึกษาให้ดี และเข้าใจดีแล้ว จะรู้ว่าไม่ง่ายอย่างที่คิด กับการถูกถอนเงินออกจากบัญชี

  

รูปแบบการใช้บริการธนาคารแบบต่างๆ

ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักรูปแบบการใช้บริการธนาคารกันก่อนว่ามีการพัฒนา ปรับเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน

1. การให้บริการผ่านเคาต์เตอร์ธนาคาร

การใช้งานแบบนี้ลดน้อยลง เพราะมีแอปในมือถือให้ใช้งาน จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องไปโอนเงิน ถอนเงิน ส่วนการฝากเงินสามารถทำผ่านตู้ได้ เพียงแต่จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น อีกทั้งการเดินทางไปยังธนาคารก็จะมีค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่าน้ำมันรถ และเสียเวลาทำมาหากิน

ข้อดี

การใช้งานแบบนี้ เราจะมีความมั่นใจ ปลอดภัย เพราะได้ไปติดต่อกับทางธนาคารโดยตรง มีคำถามอะไร ก็ถามได้ทันที

ข้อเสีย

ค่าใช้จ่ายสูง ค่าเดินทาง ค่าน้ำมันรถ เสียเวลา และหากเป็นการใช้บริการธนาคารต่างสาขาอยู่คนละจังหวัด คนละเขต ก็จะต้องเสียค่า ธรรมเนียม ธนาคารหลายแห่ง พนักงานจะพยายามแนะนำให้ไปใช้บริการที่ตู้ฝากเงิน ซึ่งจะมีค่าบริการ 50 บาท แต่ฝากเงินที่เคาต์เตอร์จะไม่มี ค่าบริการ เว้นแต่จะเป็นบัญชีธนาคารต่างสาขา ต่างผู้เขียนใช้บัญชีที่กรุงเทพมหานคร การใช้บริการธนาคารในต่างจังหวัด จะเสียค่าบริการ 30- 35 บาท

 

2. การใช้บริการผ่านการโทรศัพท์

การใช้บริการธนาคารทางโทรศัพท์ น้อยคนน่าจะเคยใช้ แต่ผู้เขียนชอบ เพราะลึกลับดี สามารถใช้โทรศัพท์ตู้สาธารณะ โทรศัพท์เพื่อน มือถือ ธรรมดา โทรศัพท์บ้าน โทรเข้าไปยังเบอร์ของธนาคาร อย่างธนาคารกรุงเทพจะใช้ 1333 จากนั้นก็ทำตามที่ระบบแนะนำ เหมาะสำหรับเอาไว้ใช้ โอนเงินเข้าบัญชีพิเศษเช่น โอนเงินระหว่างบัญชีตัวเอง ลูกค้า ลูกหลาน การใช้งานแบบนี้มีความปลอดภัย

 

ข้อดี

การใช้งานแบบนี้ มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ต้องใช้มือถือสมาร์ทโฟน ใช้โทรศัพท์ทั่วไปได้ ไม่ต้องสมัครชั่วโมงเน็ต อยู่ที่ไหนก็ทำรายการได้ ขอให้ มีสัญญาณมือถือ

 

ข้อเสีย

ส่วนข้อเสียก็คือ จะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าโทรศัพท์ที่จะต้องโทรศัพท์เข้าไปทำรายการการเงิน และจะต้องจำหมายเลขบัญชีธนาคาร หรือ หมาย เลขบนบัตร ATM ให้ได้ รวมทั้งรหัส ATM ด้วย จึงจะใช้งานได้ อีกทั้งกรณีจะโอนเงิน ก็จะต้องลงเบียนหมายเลขบัญชีผู้รับเสียก่อน โดยจะต้องเดิน ทางไปธนาคาร ต้องไปทำกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเท่านั้น ทำที่ตู้ ATM ไม่ได้

 

3. การใช้แอปธนาคาร

การใช้แอปธนาคารเป็นที่นิยมกันมาก สะดวก หลังติดตั้งแอปแล้ว การเข้าใช้งาน ก็แตะเปิดแอป ก็จะเข้าสู่หน้าจอแอป ให้แตะเลือกรายการ โอนเงิน เติมเงิน ฯลฯ ได้ทันที จากนั้นก็ป้อนรหัส ATM 6 หลัก เพื่อใช้งาน ซึ่งจะสามารถโอนเงินได้ทันที

 

การใช้แอปธนาคารนั้น ถ้าสามารถเข้าระบบได้แล้ว ก็จะสามารถโอนเงินไปยังบัญชีของผู้อื่นได้ทันที จุดนี้เป็นข้อเสีย หากทำมือถือหาย แล้ว ใช้รหัสผ่านที่ง่ายเกินไป ผู้อื่นก็จะสามารถเข้าระบบได้ เงินก็อาจจะไม่เหลือ แต่ก็มีวิธีป้องกันซึ่งหลายๆ คนก็ใช้กันอยู่แล้ว เช่น ใช้รหัสผ่านเปิด ปิดมือถือ หรือ ล็อกหน้าจอ และรหัสผ่านเข้าแอปอีกที รวมเป็นการตั้งรหัสผ่านถึง 2 ชั้น คนที่จะเข้าได้ ก็จะต้องเป็นคนใกล้ตัวเท่านั้น คนอื่น คน ไกลไม่มีทางเข้าระบบได้ง่ายๆ

 

ข้อดี

การใช้แอปธนาคาร สะดวกมาก สามารถโอนเงินได้ทันที เหมือนอยู่หน้าตู้ ATM ตรวจสอบยอดเงินได้ทันทีเช่นกัน โดยเฉพาะหากสมัคร บริการแจ้งเตือนเงินเข้าออกแล้ว หากมีการโอนเงินเข้าบัญชี หรือ มีคนแอบถอนเงินในบัญชี ก็จะรู้ได้ทันที เพราะจะมี SMS แจ้งเข้ามา

 

ข้อเสีย

การใช้งานแอปเหล่านี้จะใช้งานผ่านมือถือแบบสมาร์ทโฟน จะเป็นแอนดรอยด์ หรือ iPhone ก็ได้ และจะต้องล็อกหน้าจอเอาไว้ด้วย รหัสผ่าน จะต้องใช้ 2 ชั้น ล็อกหน้าจอ และ เปิดแอปธนาคาร ในกรณีที่ทำเครื่องหาย หากผู้อื่นสามารถเดารหัสผ่านได้ ก็จะเข้าแอปธนาคาร และ ทำการ โอนเงินออกไปได้ทันที

 

4. การใช้เว็บไซต์ออนไลน์ของธนาคาร

การใช้งานแบบนี้ จะต้องไปสมัครใช้งานกับทางธนาคาร ก็จะได้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเอาไว้ใช้งาน เวลาจะเข้าไปทำรายการการเงิน ดูเงินเข้า โอนเงิน ก็เข้าไปยังเว็บไซต์ธนาคารก่อน จากนั้นก็เข้าระบบเพื่อใช้งานต่อไป ตัวอย่างการใช้เว็บไซต์ของธนาคาร กรุงเทพ
1. ในมือถือ ให้เข้าแอป Chrome จะใช้มือถือของใครก็ได้ หรือ ใช้โปรแกรม Chrome ในคอมพิวเตอร์ก็ได้ ตามสะดวก ไม่จำเป็นจะต้องมีมือถือ เป็นของตัวเอง ขอแค่จำรหัสผ่าน ให้ได้ ไปใช้บริการในร้านเน็ตก็ได้
2. เข้าเว็บไซต์ธนาคาร แล้วเข้าระบบ
3. ใส่ชื่อ รหัสผ่าน เพื่อเข้าระบบ


4. ตัวอย่างเมื่อเข้าระบบแล้ว ก็จะเห็นข้อมูลการเงินของเรา และสามารถทำการโอนเงิน หรือทำอย่างอื่นได้


5. แต่ในเรื่องการโอนเงินนั้น จะต้องเพิ่มบัญชีผู้รับเงินเอาไว้ก่อน ในขั้นตอนการเพิ่มบัญชี จะต้องมีการส่งหมายเลข OTP ไม่เช่นนั้นจะเพิ่มผู้รับเงิน ไม่ได้ ก็เป็นความปลอดภัยในระดับหนึ่ง

 

ข้อดี

การใช้เว็บไซต์ธนาคารออนไลน์ มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน เพราะสามารถใช้มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์ของใครก็ได้ เพื่อเข้าระบบไปทำการ โอนเงิน ดูยอดเงิน และข้อมูลบัญชีก็จะเป็นความลับ เพราะไม่ได้มีการติดตั้งเป็นแอปไว้ในมือถือ จึงไม่รู้ว่า มีบัญชีธนาคาร

 

ข้อเสีย

การใช้งานอาจจะไม่ค่อยสะดวก จึงอาจจะไม่เหมาะสำหรับการโอนเงินแบบเร่งด่วน เพราะจะต้องเพิ่มบัญชีผู้รับเอาไว้ก่อน จึงเหมาะสำหรับ การโอนเงินเฉพาะกิจที่ไม่รีบแร่ง เช่น โอนเข้าบัญชีตัวเอง เป็นรายจ่ายรายเดือน เป็นต้น

 

5. การบริการโอนเงินผ่านแอปต่างๆ

รูปแบบการโอนเงิน รับเงินยังมีอีกหลายแบบ เช่น ใช้แอปเป๋าตัง ทรูมันนี่ วอลเล็ท ถุงเงิน ฯลฯ ซึ่งจะมีความปลอดภัย เพราะเราจะใช้วิธีการ โอนเงินจากบัญชีธนาคารของเราไปเข้าแอปเหล่านั้น เอาไว้สแกนจ่ายเงินอีกที 

 

ข้อดี

การใช้แอปประเภทนี้ จะไม่มีการไปยุ่งกับบัญชีธนาคารของเรา แต่ละเดือนจะใช้เงินมากน้อยเพียงใด ก็โอนเงินจากบัญชีธนาคารของเราไปไว้แค่ นั้นก็พอ ถึงแม้ว่าจะทำมือถือหาย หรือมีคนสามารถเข้าระบบของเราได้ ก็จะเข้าถึงเงินในบัญชีในแอป เท่าที่เราได้โอนเข้าไปเท่านั้น

ข้อเสีย

การใช้แอปแบบนี้ บางแอปจะคิดค่าธรรมเนียม เมื่อมีการเติมเงิน หรือโอนเงิน ทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ต่างจากแอปธนาคาร จะไม่เสียค่า ธรรมเนียมใดๆ อีกทั้งการใช้งานก็ต้องสมัครโปรเน็ต ไม่มีอินเตอร์เน็ต ก็จะใช้การโอนเงินไม่ได้

 

แนวทางสร้างความปลอดภัยเมื่อใช้แอปธนาคาร

จากที่ได้กล่าวมานั้น ก็คิดว่าผู้อ่านน่าจะพอมองออกแล้วว่า เงินในบัญชีธนาคารของเรานั้น จะมีโอกาสถูกแอบถอนออกไปทางใดได้บ้าง ดังนั้น ก็จะขอแนะนำแนวทางป้องกัน ที่จะช่วยให้เงินของเราปลอดภัย สำหรับคนที่มีเงินเก็บมาก หรือจะต้องทำมาหากิน มีรายการใช้จ่าย เงินหมุน เวียนในแต่ละวัน จำนวนมาก ตัวอย่างเช่น

 

1. เปิดบัญชีธนาคารอย่างน้อย 2 บัญชี

แนะนำให้เปิดบัญชีต่างธนาคาร บัญชีแรก สมมุติว่าเป็นของ ธนาคารกสิกรไทย เอาไว้เก็บเงิน เงินออม ก็ไม่จำเป็นจะต้องติดตั้งแอปของธนาคาร แต่ให้สมัครธนาคารออนไลน์เอาไว้ เพื่อเอาไว้เข้าระบบไปโอนเงินเข้าไปในอีกหนึ่งบัญชี ผ่านเว็บไซต์ หรือทางโทรศัพท์ กรณีนี้ ก็ยากจะมีคนรู้ว่า เรามีบัญชีของธนาคารนี้ เพราะ จะใช้งานผ่านแอป Chrome หรือการโทรศัพท์ จะไร้ร่องรอย ตามยาก แอปซ่อนเงิน ไม่ให้เมียรู้ได้

 

บัญชีที่ 2 เอาไว้ใช้จ่ายทั่วไป ก็จะรับเงินที่โอนมาจากบัญชีแรก มาเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน แต่ละอาทิตย์ เป็นต้น บัญชีนี้จะติดตั้งแอ ปธนาคาร เอาไว้ก็ได้ เพื่อความสะดวกในการจ่ายเงิน รับเงิน หากทำมือถือหาย มีคนเข้าแอปธนาคารได้ ก็ไม่ต้องกลัวว่า เงินจะถูกถอนออกไป ได้ทั้งหมด หากทำธุรกิจ บัญชีนี้ก็เอาไว้รับเงินจากลูกค้าด้วยเช่นกัน เป็นบัญชีธุรกิจโดยเฉพาะไม่เกี่ยวข้องกัน

 

2. มือถือที่ใช้แอปธนาคาร อย่าติดตั้งแอปมากเกินไป

การใช้มือถือทั้งแอนดรอยด์ หรือ iPhone หากมีการติดตั้งแอปธนาคาร และมีเงินเข้าออกมากๆ ห้ามติดตั้งแอปต่างๆ มากเกินไป และไม่ ปลอดภัย ถ้าจะให้ดีที่สุด ก็ใช้เท่าที่ระบบมีมาให้ หรือแอปที่ไว้ใจได้จริงๆ ถ้าต้องการเล่นเกม ใช้แอปที่ไม่ปลอดภัย ก็ควรซื้อมือถือเพิ่มอีกเครื่อง การใช้มือถือเพื่อติดตั้งแอป เอาไว้โอนเงิน จะใช้มือถือมือสอง เสป็คไม่แรง ก็ได้ หาได้ในราคาไม่ถึง 1,000 บาท

 

3. สมัครบริการแจ้งเตือนทาง SMS อีเมล์

หากมีเงินเก็บในบัญชีธนาคาร หรือ มีเงินเข้าออกค่อนข้างมาก ก็จำเป็นจะต้องสมัครบริการแจ้งเตือนเงินเข้า เงินออก จากบัญชี ผ่านทาง SMS หากมีคนแอบถอนเงิน ก็จะรู้ได้ทันที บริการแจ้งเตือนจะมีค่าใช้จ่ายต่อเดือน หรือไม่ก็เปิดการแจ้งเตือนผ่านทางอีเมล์ อย่างผู้เขียนใช้ธนาคาร กรุงเทพ ก็จะมีอีเมล์แจ้งเตือนเมื่อมีการเข้าใช้บัญชีธนาคารของเรา การแจ้งเตือนผ่านทางอีเมล์ จะไม่มีค่าใช้จ่าย

 

ไม่ว่าจะใช้มือถือระบบแอนดรอยด์ หรือ iPhone ก็จะต้องมีอีเมล์ประจำเครื่อง ตัวอย่างของผู้เขียนจะใช้ ma#####@gmail.com ไปติดต่อกับ ทางธนาคาร ให้ทำการเพิ่มอีเมล์นี้ ลงในบัญชีธนาคารของเราด้วย จากนั้นก็นำอีเมล์นี้ไปตั้งค่าไว้ในมือถือทุกเครื่องที่เราใช้งาน หากมีการถอนเงิน โอนเงิน เข้าใช้งานบัญชีของเรา ระบบก็จะส่งอีเมล์มาแจ้งทางอีเมล์ สำหรับใครที่มีเงินฝากในธนาคาร จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำข้อมูลอีเมล์ไป ลงทะเบียนกับทางธนาคาร

 

4. ข้อมูลสายด่วนของธนาคาร

เมื่อมีการแจ้งเตือนผ่านทางอีเมล์ หรือ SMS หากมีข้อมูลสายด่วนเอาไว้โทรศัพท์ติดต่อธนาคารก็จะเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะจะสามารถอายัดบัญชี เอาไว้ได้ทัน บางคนบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว ก็เสี่ยงต่อการถูกแอบถอนเงินจากบัญชี

 

5. ใช้การรับเงิน จ่ายเงินผ่านแอปอื่น

สำหรับใครที่ไม่อยากเปิดบัญชีธนาคารไว้หลายบัญชี เพราะมีค่าใช้จ่าย ทั้งบัตร ATM และค่ารักษาบัญชีต่อปี หากเปิดไว้บัญชีเดียว ก็สามารถ ใช้แอปบางตัวได้ อย่าง G-Wallet เอาไว้สแกนจ่ายเงิน หรือ รับเงินได้เช่นกัน 

 

การใช้เงินสดซื้อขายแลกเปลี่ยน

ในช่วงนี้โควิดระบาด การใช้เงินสดจึงไม่ปลอดภัย และจะต้องระวังเรื่องการสัมผัส ทำการฆ่าเชื้อโรคที่อาจจะติดมากับเงินที่ใช้จ่าย แต่วิธีนี้ ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องติดตั้งแอป ไม่ต้องเสียค่าชั่วโมงเน็ต ไม่ต้องซื้อมือถือสมาร์ทโฟน แต่หากทำธุรกิจ ก็จะเสียโอกาส บางคนเน้นรับเงินสด แต่ลูกค้าไม่พกเงินสด จะโอนผ่านบัญชี ก็สร้างปัญหาทันที เพราะไม่สามารถรับเงินได้

 

สรุป

สังคมไร้เงินสด เป็นเรื่องง่ายสำหรับหลายคน แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับคนบางกลุ่ม กลัวโดนแอบถอนเงิน ซึ่งบางคนมีเงินในบัญชีไม่กี่ พันบาทด้วยซ้ำไป ความกลัวก็เกิดจากความไม่รู้ แต่ถ้าศึกษาให้รู้จริง ก็จะรู้ว่า โอกาสถูกแอบถอนเงินนั้น ทำได้ไม่ง่ายเลย แต่อาจจะมีคนอยู่ 2 กลุ่มเท่านั้นที่จะทำได้ ก็คือ คนใกล้ตัวที่รู้ข้อมูลรหัส ATM รหัสล็อกมือถือ สามารถเข้าแอปธนาคารได้ และ เจ้าหน้าที่ธนาคาร ซึ่งสามารถเข้าถึง ข้อมูลการเงินของเราได้โดยตรง

แต่ทั้ง 2 กรณีนั้น เราสามารถรู้ได้ไม่ยากถ้าแอบเข้าไปยุ่งกับบัญชีธนาคารของเรา ด้วยการลงทะเบียนอีเมล์ หรือสมัคร SMS แจ้งเตือนกับทางธนาคาร เพื่อรับการแจ้งเตือนการถอนเงิน โอนเงิน ฝากเงิน