Sponsored Ads

การเรียนรู้ความผิดพลาดทางการเงินกับรถ ซื้อรถ ใช้รถซ่อมรถ จะช่วยลดค่าใช้จ่าย ช่วยประหยัดเงินได้หลักแสนหลักล้านบาท สำหรับใครที่กำลังจะซื้อรถ จึงต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีเสียก่อนตัดสินใจซื้อรถสักคัน เพราะรถยนต์ รถจักรยานยนต์มีราคาสูง และมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องตลอดอายุการใช้งาน หรือตลอดการครอบครอง

 การใช้เงินผิดพลาด จนทำให้เสียเงิน เป็นเรื่องปกติของคนเรา โดยเฉพาะคนที่มีเงินมาก หรือบางทีอาจจะได้รับเงินก้อนใหญ่ ก็ยิ่งมีโอกาสผิดพลาดมาก อย่างเรื่องรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ความผิดพลาดในเรื่องนี้ มักจะต้องเสียเงินหลักแสนถึงหลักล้านบาท หากไม่ศึกษาให้ดี ตัวอย่าง เช่น

 

1. ไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับรถแบบไหน

รถเก๋ง รถกระบะ รถเล็ก รถใหญ่ รถตู้ ฯลฯ มีหลายแบบ การเลือกใช้รถยนต์สักคันนั้น กว่าจะได้รถที่ตรงกับความต้องการ เหมาะกับสไลต์การใช้ชีวิตของเรา กว่าจะเข้าใจรถ เข้าใจตัวเอง ก็มักจะหมดเงินไปหลักแสนหลักล้านบาทแล้ว เรื่องนี้ไม่ง่าย สำหรับคนที่ไม่มีรถให้ลองใช้ จึงต้องการศึกษาจากประสบการณ์คนอื่น ให้มากๆ และคิดวิเคราะห์ให้รอบคอบ รอบด้าน

 

2 เน้นใช้รถใหม่ รุ่นใหม่ล่าสุดเท่านั้นและต้องเปลี่ยนรถทุก 5 ปี

เพราะคิดว่า รถอายุเกินไปกว่านั้น รถอาจจะมีปัญหา หรือต้องซ่อมบำรุงแล้ว ได้เวลาเปลี่ยนรถ แต่ก็ไม่เคยลองใช้รถแบบยาวๆ ให้พังกันไปข้าง จึงไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่า การซ่อมบำรุงนั้นก็ไม่ได้ใช้เงินมากนัก โดยเฉพาะการซ่อมบำรุงตามระยะทาง เปลี่ยนอะไหล่ของแท้ รถก็จะกลับมากระชุ่มกระชวย มีสภาพสมบูรณ์ไม่ต่างจากรถใหม่ แต่ประหยัดเงินหลักแสนบาท



ลองนึกภาพว่า ถ้าเปลี่ยนรถทุก 5 ปี ใช้รถ 4 คัน จะต้องจ่ายเงินมากเท่าไร สมมุติว่า ซื้อคันแรก 1,000,000 บาท ใช้ไป 5 ปี ราคาขายต่อได้ 600,000 บาท เงินหายไปแล้ว 400,000 บาท เอาเงินไปซื้อรถใหม่อีก 1,000,000 บาท แล้วก็ทำแบบเดิม 5 ปีเปลี่ยนรถใหม่ เงินก็จะหายไปเยอะมาก ในขณะที่หากซ่อมบำรุงอย่างดี ก็ไม่เกิน 400,000 บาท ตลอดอายุการใช้งาน

3. ซื้อรถยนต์เก่า รถคลาสสิกมาทำใหม่

เรื่องนี้ต้องระวัง จะทำให้เสียเงินมาก รถยนต์ที่ก่ามากเกินไป ระวังการซ่อมจะไม่จบ อย่างคันนี้ ซื้อมา 35,000 บาท ทำหมดไปรวมๆ เกิน 200,000 บาท แต่ไม่จบ ขอบกระจกบังลมหน้าหลังผุบ่อย ขึ้นสนิม ต้องทำสี ปะผุ ทุก 3-4 เดือน เครื่องยนต์นั้นเดิม ก็เป็นเครื่องขนาดเล็ก ประหยัดน้ำมัน แต่ดันไปเปลี่ยนเป็นเครื่องใหญ่ กินน้ำมัน ก็ไม่สามารถใช้งานได้


ส่วนคันนี้ซื้อมา 72,000 ทำหมดไปเกิน 70,000 บาท หลังคาไฟเบอร์กลาสหมดสภาพ เปื่อย หลังคารั่ว น้ำเข้าหลังคาได้ ซ่อมไม่จบ เว้นแต่จะเปลี่ยนใหม่

 

4. ซื้อรถมือสอง แต่ไม่รู้วิธีช่วยประหยัดค่าซ่อม การเลือกอู่

ซึ่งทำได้ง่ายๆ ด้วยการซื้ออะไหล่เอง และใช้บริการอู่เล็กๆ เหมา คิดเฉพาะค่าแรง จะช่วยประหยัดค่าซ่อมได้อย่างมาก

วิธีซ่อมรถอย่างไรให้จบ ต้องศึกษา ด้วยการซ่อมเป็นระบบ เป็นส่วนๆ ก็จะไม่เสียซ้ำซาก ทำให้เสียเงิน รวมทั้งไม่ดัดแปลงรถ จะทำให้เสียเงินมากเช่นกัน

โดนอู่ซ่อมรถคิดราคาแพงมาก ตัวอย่างผู้เขียนนำรถไปเติมน้ำยาแอร์ สอบถามราคาอยู่ 2 ร้าน ห่างกันไม่มาก ร้านแรกเจ้าของทำเอง ไม่มีลูกจ้าง คิด 700 ร้านที่ 2 ร้านใหญ่ เจ้าของนั่งห้องแอร์ มีลูกจ้าง คิด 2,000 บาท ที่แพงเพราะต้องเอาเงินจ่ายค่าจ้างให้ลูกน้อง แต่เงินนั้นเป็นของเรา

 

5. บางคนต้องใช้รถที่ชอบเท่านั้น

การเลือกรถอย่างมีเหตุมีผล จะช่วยลดความผิดพลาดทางการเงิน อย่างรถที่ไม่ชอบ แต่ใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหา เช่น รถไม่แพง ค่าซ่อมบำรุงก็ไม่แพง ประหยัดน้ำมัน ใช้ช่วยทำมาหากินได้ ทนทาน ขายต่อง่าย ไม่มีปัญหาจุกจิกมาก เป็นต้น รถอาจจะไม่สวย ไม่ถูกใจ แต่เมื่อรถไม่สร้างปัญหา เงินก็ไม่เสีย

 

6. การใช้รถยนต์ยี่ห้อไม่นิยม

รถยนต์ใหม่ป้ายแดง ที่มีราคาแพง รถเหล่านี้ ราคาตกมาก ซื้อมา 2 ล้านบาท ผ่านไป 5 ปี อาจจะเหลือ ไม่ถึงล้านบาท เงินหายไปเยอะมาก

 

7. การใช้รถที่ไม่เหมาะสมกับฐานะการเงินตัวเอง

ก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันที่แพงกว่า ค่าซ่อมบำรุงที่สูงกว่า และรถเหล่านี้มักจะเป็นรถใหญ่ รถหรู เป็นรถที่มีราคาสูง แต่ราคาตกมาก ทำให้สูญเสียเงินไปอย่างมาก

 

8. การมีรถหลายคัน

ก็จะมีรายจ่ายมากขึ้นตามจำนวนรถที่มี เช่น ภาษีประจำปี พรบ. ประกันภัย การโอนกรรมสิทธิ์ การซ่อมบำรุง ก็จะมากขึ้นตามจำนวนรถยนต์ที่มีอยู่ เว้นแต่รถบางรุ่นที่ราคาไม่ตก และราคามีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี อย่างพวกรถสปอร์ต

9. การซื้อรถยนต์เพื่อให้มีเหมือนคนอื่นเขา

แต่ตัวเองไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ซื้อมาเน้นจอดเป็นหลัก หากเน้นใช้งานรถในลักษณะนี้ ต้องเน้นรถเล็ก ประหยัดน้ำมัน รถเหล่านี้ราคาจะไม่ตกมาก หากจะต้องขายต่อ เงินจะไม่หายไปมากนัก

 

10. เน้นรถใหม่ป้ายแดงเท่านั้น

การซื้อรถใหม่ป้ายแดง ได้รถใหม่ แต่ก็ต้องเสียเงินมากกว่ารถมือสอง บางคนผ่อนแต่รถใหม่ จนเงินแทบไม่เหลือเก็บ เป็นประสบการณ์ตรงของเพื่อนผู้เขียน เปิดร้านทำงานส่วนตัว ผ่อนรถใหม่ ไปแล้ว 3 คัน เงินแทบไม่เหลือ หมดไปกับรถยนต์อย่างมาก เพิ่งจะเริ่มมีเงินเก็บหลังจากผ่อนคันที่ 3 เสร็จแล้ว หากศึกษาให้มีความรู้ รถยนต์มือสอง ก็ใช้งานได้ ที่สำคัญช่วยประหยัดเงินอย่างมาก

 

11. การซื้อรถที่มีรายจ่ายสูงตามมา

สิ่งที่ทำให้รถยนต์มีค่าใช้จ่ายตามมามากที่สุด ก็คือค่าน้ำมัน ซึ่งรถยนต์เครื่องยนต์เบนซินเกิน 1600 cc ขึ้นไป จะค่อนข้างกินน้ำมัน แต่รถเหล่านี้ เมื่อเป็นรถมือสอง ราคาถูกมาก หลายคนจึงติดกับดัก เป็นว่าไม่แพง ก็ซื้อเอามาใช้ เมื่อได้รถมาแล้ว ความผิดพลาดทางการเงินจึงเกิดขึ้น ขายต่อยาก ใช้ต่อก็ไม่ไหว กินน้ำมันมาก ค่าบำรุงรักษา ค่าซ่อมแพง

 

12. การขายรถ จำนำรถ

มูลค่ารถยนต์ลดลงทุกเดือน การขายรถจึงขาดทุนอย่างมาก โดยเฉพาะการขายให้เตนท์ ราคาจะต่ำกว่าขายให้บุคคลทั่วไป หากมีปัญหาการเงิน ก็สามารถนำรถไปจำนำได้ แต่ต้องศึกษาให้ดี หากการเงินมีปัญหา การตัดใจขายรถเป็นเรื่องที่ดีกว่า ประหยัดเงินไม่เสียดอกเบี้ยและค่าจอดทุกเดือน เว้นแต่จะเป็นการใช้รถหมุนเงินระยะสั้น 1-2 เดือนเท่านั้น 

 

13. ซื้อรถยนต์ขณะที่การเงินยังไม่พร้อม

การซื้อรถยนต์ในขณะที่รายได้ยังไม่มากพอ มักจะส่งผลทำให้เงินไม่หลือ เช่น ปลายปีได้โบนัสก้อนใหญ่ ก็นำเงินไปดาวน์รถใหม่ ปรากฏว่าผ่อนไม่รอด เพราะมีรายจ่ายมากกว่าที่คิดไว้มาก เมื่อผ่อนไม่ไหว ก็อาจจะต้องขายหรือปล่อยรถให้ไฟแนนซ์ยึด กรณีดาวน์น้อยมาก ก็มักจะไม่เหลือเงินเลย บางคนถึงกับยกให้คนอื่นไปฟรีๆ ให้ไปผ่อนเอาเอง เพราะมูลค่ารถ ไม่เหลือแล้วนั่นเอง

 

กรณีของรถยนต์ให้พยายามวางเงินดาวน์ให้มากที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาการเงินในอนาคต ส่วนกรณีผ่อนรถจักรยานยนต์อย่าผ่อนแบบฟรีดาวน์เพราะจะต้องจ่ายเงินเยอะมาก บางคนผ่อนแบบนี้จากรถราคาประมาณ 50,000 กลับต้องจ่ายเพิ่มอีกเท่าตัวประมาณ 100,000 บาทเลยทีเดียว

 

สรุป

ความผิดพลาดทางการเงินเรื่องรถยนต์ ก็มีมากพออยู่แล้ว แต่หากเจ้าของรถ หรือ ผู้ที่มีรถในครอบครอง เป็นคนโสด สายบันเทิง ชอบกิน ดื่ม เที่ยว การมีรถยนต์จะยิ่งทำให้เสียเงินมากยิ่งขึ้น เที่ยวมากจนเสียการเสียงาน โดยเฉพาะคนทำงานส่วนตัว อาชีพอิสระ