ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ใหม่ หรือรถยนต์มือสองก็ตาม ข้อพิจารณาของผู้คนส่วนใหญ่ก็จะไม่มากไปกว่านี้ เช่น ภาพลักษณ์ของรถ ความคุ้มค่า ความนิยม ฯลฯ ซึ่งแต่ละแบบ ก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป เรื่องแบบนี้มีความสำคัญ เพราะการเลือกด้วยความคิดส่วนตัวแบบต่างๆ จะมีผลต่อค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นตามมา รวมทั้งปัญหาที่จะเกิดกับรถและตัวเองด้วยเช่นกัน
ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคัน แต่ละคนก็จะมีข้อคิดพิจารณาต่างกันไป ตามความชอบ ประสบการณ์ หน้าที่การงาน การเงิน ฯลฯ ของตนเอง ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ได้อย่าง เสียอย่าง ตัวอย่างเช่น
ภาพลักษณ์ของรถยนต์
การเลือกรถยนต์สักคัน บางคนจะให้ความสำคัญที่ภาพลักษณ์ของรถยนต์ ต้องเหมาะกับหน้าที่การงานของตนเอง เสริมหน้าตา คู่ควรกับบารมีของตนเอง ซึ่งรถยนต์ในลักษณะนี้ มักจะเป็นรถยนต์ที่มีราคาแพง มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสูง หรือ รายจ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการมีรถยนต์คันนั้นสูงกว่ารถยนต์ประเภทอื่น
ตัวอย่างรถยนต์ประเภทนี้ เช่น Benz, Volvo, BMW, Camry, Accord รถสปอร์ตต่างๆ
ข้อดี
รถเหล่านี้เป็นรถใหญ่ นั่งสบาย มีความปลอดภัยยามขับขี่ เสริมภาพลักษณ์ให้เจ้าของรถได้เป็นอย่างดี บางคนใช้รถในลักษณะนี้เพื่อต่อยอดความสำเร็จของตนเอง อย่างโค้ชต่างๆ โค้ชการเงิน หรือ ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการงาน บางคนก็เน้นใช้รถหรู เสริมภาพลักษณ์ความสำเร็จ เมื่อต้องขายสินค้าหรือบริการต่างๆ เมื่อผู้คนเห็นถึงความสำเร็จ และอยากจะเป็นแบบนั้นบ้าง ก็จะอุดหนุนสินค้าเหล่านั้น เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ช่วยสร้างรายได้ให้อีกทาง
ข้อเสีย
รถเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถ ค่อนข้างสูง เช่น รถราคาแพง ค่าน้ำมันแพง ค่าซ่อมบำรุงสูง ค่าประกันภัยต่อปีหลายหมื่นบาท ฯลฯ แต่ที่สำคัญที่สุด ราคารถที่ตกลง ลดลง เมื่อเวลาผ่านไป จะค่อนช้างสูง อย่างการซื้อรถยนต์ใหม่ ราคาหลายล้านบาท เมื่อเวลาผ่านไปสัก 4-5 ปี รถยนต์บางยี่ห้อ ราคาอาจจะลดหายไปหลายล้านบาทเช่นกัน เงินจะหายไปเยอะมาก
รถใช้งานเฉพาะทาง ความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายออกไป
การเลือกรถสำหรับบางคนจะเน้นรถยนต์เฉพาะทาง ที่ความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายออกไป โดยเน้นที่ประโยชน์ใช้สอยของรถคันนั้นๆ โดยมักจะเป็นการซื้อรถเพื่อใช้งานเฉพาะทาง เช่น ซื้อกระบะ ซื้อรถตู้ ไว้ขนของ ซื้อรถอเนกประสงค์เอาไว้เผื่อขนของบ้าง เบาะหลังพับได้ ขอนของชิ้นใหญ่ได้ เป็นต้น
ตัวอย่างรถยนต์ประเภทนี้ เช่น การเลือกรถกระบะเพื่อเน้นเอาไว้ขนของ การเลือกรถเก๋งเพื่อเน้นเอาไว้ขนคน รับส่งสมาชิกในบ้าน การซื้อรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อเน้นไว้ใช้ในป่า เส้นทางออฟโรด การซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อช่วยประหยัดเงินค่าน้ำมัน เป็นต้น
ข้อดี
การเลือกรถยนต์โดยคำนึงถึงความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปกับค่าตัวรถ เป็นเรื่องดี เพราะได้รถสำหรับใช้งานได้ตรงกับความต้องการ เช่น เน้นความประหยัด เพราะต้องเดินทางไกล เดินทางทุกวัน รถยนต์ไฟฟ้า การเลือกรถยนต์ไฟฟ้า จึงเป็นคำตอบที่ดี
ข้อเสีย
สำหรับข้อเสียของรถยนต์ในลักษณะนี้ อาจจะได้อย่างเสียอย่าง เช่น เน้นกระบะไว้ขนของ อาจจะนั่งไม่สบาย เพราะช่วงล่างไม่นิ่มเหมือนรถเก๋ง หรือ เน้นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ อาจจะกินน้ำมัน หรือ รถยนต์ไฟฟ้า ก็อาจจะลำบากในการชาร์จแบตเตอรี่ กรณีขับรถในช่วงเทศกาล คนใช้งานกันเยอะ เป็นต้น
เมื่อเลือกรถที่ใช้งานได้เฉพาะทาง ก็จำเป็นจะต้องซื้อรถยนต์เพิ่มอีกคัน เช่น รถขับเคลื่อนสี่ล้อไว้ใช้ในไร่ในสวนเข้าป่า รถเก๋งเอาไว้ใช้ในเมือง เดินทางทั่วไป เป็นต้น
การเลือกรถยนต์ รถครอบครัว ที่ไปไหนมาไหนกันได้หลายคน แต่เป็นรถยนต์ใหญ่ กินน้ำมัน
รถยนต์ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายโดยรวม
การเลือกรถยนต์ในลักษณะนี้เน้นที่ความประหยัด ทั้งค่าซ่อมบำรุง ค่าน้ำมัน ประกันภัย เงินก็จะเหลือมากขึ้น ใช้รถอย่างสบายใจ ไปไหนมาไหน ไม่กังวลกับค่าน้ำมัน
ตัวอย่างรถยนต์ประเภทนี้ จะเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก รถยนต์อีโคคาร์ รถเครื่องยนต์ไม่เกิน 1500 cc
ข้อดี
ข้อดีโดยรวมก็คือ ประหยัดเงิน ประหยัดค่าตัวรถที่มีราคาไม่แพง ประหยัดค่าน้ำมัน ประหยัดค่าบำรุงรักษา หากใช้รถทำมาหากิน ขับรถส่งของ ติดต่องาน ฯลฯ ก็ไม่กังวลกับค่าใช้จ่ายในแต่ละวันที่ต้องใช้ไปกับรถ
รถเล็กเหล่านี้ขายต่อง่าย ราคาไม่ตกมาก เช่น ซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดงมา 4 แสนบาท ผ่านไป 4-5 ปี อาจจะลดเหลือ 250,000-300,000 บาท เมื่อเทียบกับรถยนต์ราคาหลักหลายล้าน ราคาจะลดลงอย่างมาก เงินหายไปหลักล้านบาท
ข้อเสีย
รถเหล่านี้เป็นรถขนาดเล็ก การเดินทางไกล อาจจะนั่งไม่สบายเหมือนรถใหญ่ ความปลอดภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด อย่างรถท้ายสั้น หรือ รถ 5 ประตู การโดนชนท้าย อาจจะยุบถึงเบาะนั่งคนขับ ทำให้มีค่าซ่อมแพง ต้องตัดครึ่งตัวรถ
ภาพลักษณ์อาจจะดูไม่ดี สำหรับผู้บางคนที่แวดล้อมไปด้วยผู้คน ที่ทำงาน สถานที่อยู่อาศัย หรือญาติมิตรที่เน้นในเรื่องวัตถุนิยม ความมีหน้ามีตา
ความนิยม การขายต่อ
บางคนให้ความสำคัญกับความนิยม ยี่ห้อหรือรุ่นยอดนิยม ใช้งานสบายใจ มีศูนย์บริการรองรับมากมาย ไปไหนมาไหน หาที่ซ่อมบำรุงได้ไม่ยาก ช่างทั่วไป สามารถซ่อมได้
ตัวอย่างรถยนต์ประเภทนี้ ก็จะเป็นยี่ห้อยอดนิยม เช่น Toyota, Honda โดยรุ่นย่อย ก็จะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ประหยัดน้ำมัน
ข้อดี
รถยอดนิยมก็จะมียอดขายมาก อะไหล่ ก็จะมีมากกว่า การซ่อมบำรุง มีศูนย์บริการรองรับ การขายต่อง่าย ได้ราคา เพราะรถยนต์ทุกคัน เมื่อถึงเวลา ก็ต้องขายออกไป เพื่อเปลี่ยนเป็นรถยนต์คันใหม่ รถยอดนิยมจะขายต่อง่าย ราคาไม่ตก
ข้อเสีย
การใช้รถยนต์ยอดนิยม อาจจะไม่ได้รถในแบบที่ชอบ ซึ่งบางรุ่นก็เป็นรถที่ใช้ดีในช่วงแรกๆ แต่เมื่อใช้งานไปนานๆ ด้วยความที่มีระบบต่างๆ ในตัวรถค่อนข้างมาก เมื่อรถมีปัญหา ก็จะมีค่าใช้จ่ายตามมามาก หรือ จุกจิกซ่อมไม่จบ
คุณสมบัติ อุปกรณ์เสริม ครบครัน
บางคนเน้นรถยนต์ที่มีคุณสมบัติ มีอุปกรณ์เสริม อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น ระบบช่วยขับ เซนเซอร์ตรวจสอบต่างๆ กล้องรอบคัน ฯลฯ
ตัวอย่างรถยนต์ประเภทนี้ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า รถรุ่นราคาสูง รถยุโรป
ข้อดี
รถยนต์เหล่านี้มีความสะดวกสบายในการใช้งาน การขับขี่ อย่างมีระบบช่วยขับ ก็ไม่ต้องกดคันเร่งเอง ไม่ต้องจับพวงมาลัย มีเซนเซอร์ตรวจจับ อย่างรถยนต์ไฟฟ้า มีระบบตรวจจับ หากมีรถ หรือ สิ่งของต่างๆ มาอยู่ใกล้ตัวรถมาก จนอาจจะเกิดอุบัติเหตุ ระบบเบรคจะทำงานทันที เป็นประโยชน์อย่างมาก ลดโอกาสเกิดการเฉี่ยวชน
ข้อเสีย
การมีระบบต่างๆ อุปกรณ์เสริม หรืออำนวยความสะดวก เป็นเรื่องดีในช่วงแรกๆ แต่เมื่อเริ่มเก่า เรื่มเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งาน ก็จะมีค่าซ่อมบำรุงตามมามากเช่นกัน
ปัญหาของรถยนต์ในอนาคต
บางคนให้ความสำคัญกับปัญหาจุกจิกที่มักจะตามมาในอนาคต หรือมีค่าซ่อม อะไหล่ ชิ้นส่วนที่มีราคาสูง รถที่อยู่ในกลุ่มนี้จะไม่เลือกอย่างเด็ดขาด แม้จะเป็นรถดีแค่ไหนก็ตาม
ตัวอย่างรถยนต์ประเภทนี้ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า รถยุโรปที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ
ข้อดี
รถเหล่านี้ มักจะเป็นรถยนต์ที่มีเทคโนโลยี่ใหม่ๆ ให้ความสะดวกสบายกับผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร เป็นรถที่มีความหรูหรา ให้ภาพลักษณ์ที่ดี
ข้อเสีย
รถยนต์ที่มีเทคโนโลยี่มีความสะดวกสบายมาก ระบบเหล่านั้นอาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก เมื่อหมดอายุการใช้งาน อย่างอุปกรณ์บางชิ้นของรถบางรุ่นมีราคาเหมือนหนึ่งแสนบาท ระบบเกียร์ของรถบางรุ่น มีราคาแพงมากหลักแสนบาท หรือแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าราคาหลักแสนบาท เป็นต้น
รถยนต์บางยี่ห้อ บางรุ่นเป็นรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ จำเป็นต้องเข้าศูนย์บริการเฉพาะเท่านั้น ไม่สามารถเข้าอู่ทั่วไปได้ ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
รถยนต์เป็นของสะสม มีมูลค่าในอนาคต
รถยนต์บางรุ่นเป็นรถยนต์ที่มีมูลค่าโดยไม่เกี่ยวกับกาลเวลา ราคาซื้อขายยังอยู่ที่เดิม หรือมีราคาสูงมากขึ้น บางคนเน้นใช้รถเหล่านี้เสริมภาพลักษณ์ความสำเร็จให้ตัวเอง ช่วยโฆษณาต่อยอดธุรกิจ
ตัวอย่างรถยนต์ประเภทนี้ เช่น เช่น รถขับเคลื่อนสี่ล้อบางรุ่น รถสปอร์ต Nissan 200SX, Mazda RX7, Toyota Supra รถตูเล็ก Daihatsu, Suzuki รถยนต์คลาสสิก รถเก่า เป็นต้น
ข้อดี
รถยนต์เหล่านี้ราคาจะไม่ลดมากนัก อย่าง Nissan 200SX ราคาก็ยังอยู่ที่เกิน 500,000 บาท แม้เวลาจะผ่านมาเกิน 30 ปีแล้ว หรือรถยนต์เล็กบางรุ่นราคาก็ยังทรงตัว ไม่ลดลง ทำให้เงินไม่หายไปไหน เมื่อต้องการขายต่อ
ข้อเสีย
รถเหล่านี้ มีเป็นส่วนน้อย ที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ ประหยัดน้ำมัน ประหยัดค่าใช้จ่าย อย่าง Daihatsu Atrai 7 แต่บรรดารถสปอร์ตทั้งหลาย จะค่อนข้างกินน้ำมัน อาจจะไม่เหมาะในการขับเป็นประจำทุกวัน และมีค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสูง อีกทั้งก็เสี่ยงกับการโดนรถกระบะบ้าพลังชนท้าย ทำให้เสียเวลาซ่อม และดำเนินคดี