ความยากในการออมเงินมีหลายสาเหตุบางเรื่องเรารู้อยู่แล้ว บางเรื่องก็คาดไม่ถึง ไม่มีความรู้ หรือไม่เห็นความสำคัญ แต่เมื่อคิดจะออมเงิน ก็จำเป็นต้องศึกษาทุกด้าน เพื่อป้องกันความผิดพลาดทุกทางและประสบความสำเร็จในการออมเงิน
การออมเงินเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก โดยเฉพาะสำหรับบางคน เช่น คนโสดไม่มีภาระ คนที่มีรายได้มาก คนที่มีแหล่งพึ่งพา พึ่งพิง ยังไม่หมดกระดาน หลายคนจะไม่คิดถึงเงินออมแต่อย่างใด เพราะคิดว่า อย่างไรเสียก็มีเงินเข้ามาเรื่อยๆ ไม่มีหมดง่ายๆ
ตัวอย่างอุปสรรคต่างๆ ที่ทำให้การออมเงินไม่ได้ผล
แพ้กิเลส แพ้ความอยาก ความต้องการของตัวเอง
คนเราเกิดมาพร้อมกับความอยาก ความต้องการได้สิ่งนอกกาย ไม่ว่าจะเป็นคนสัตว์ สิ่งของ หรือมนุษย์ด้วยกันเอง มาสนองความต้องการของตน ความอยากได้จะต้องใช้เงินแลกมาก ดังนั้นหากควบคุมไม่ได้ การออมเงินก็จะเป็นเรื่องยากมาก ต้องเรียนรู้วิธีควบคุมความอยากของตัวเองให้ได้ เรียนรู้วิธีสร้างความสุขจากภายใน ใช้ธรรมชาติ ธรรมะ ไม่ใช่วัตถุนอกกาย
เบื่อปัญหาการหยิบยืมจากคนรอบข้าง
ใครมีเงินเก็บ มักเป็นที่หมายปองของคนรอบข้างที่จะเข้ามาหยิบยืมเงิน สร้างปัญหามากพอสมควร เพราะคนที่สามารถเอยปากขอยืมเงินคนอื่นได้ง่ายๆ นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ไม่มีวินัยการเงิน โอกาสได้เงินคืนเป็นเรื่องยากมาก หลายคนเลี่ยงออมเงินด้วยวิธีอื่น ซื้อสลากบ้าง หุ้นบ้าง แต่บางคนก็ไม่เก็บเงินเลย ไม่ออม ได้มาแค่ไหนก็ใช้ให้หมด ตัดปัญหาคนมาขอยืมเงินซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง
บางคนรู้ว่าพ่อแม่มีเงินออมหลักล้าน ก็ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ขอเงินพ่อแม่ใช้ไปวันๆ การมีเงินออมจึงต้องวางแผนในเรื่องการเก็บความลับเรื่องเงินให้ดีเช่นกัน
ไม่รู้ถึงประโยชน์ของเงินออม ผลดีของการมีเงินออม
ประโยชน์ของเงินออม มักจะตอบแทนผู้ออมเงิน ในอีกหลายปีข้างหน้า ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินออมแต่ละเดือน ส่วนใหญ่จะใช้เวลาเป็นสิบๆ ปี หรือไม่ก็ในช่วงเวลาที่ชีวิตย่ำแย่ มีปัญหาการงาน ปัญหาสุขภาพทำให้ทำงานไม่ได้ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก จึงทำให้ไม่เห็นความสำคัญของการออม และคิดว่า หากเกิดเหตุร้ายกับตัวเองจริงๆ ก็สามารถหยิบยืมคนรอบข้างได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องออมเงิน
ผลดีของการออมเงินนั้น จำเป็นต้องคบค้าสมาคมกับคนที่มีประสบการณ์ เน้นคนมีอายุซึ่งหลายคนอยู่ได้ด้วยเงินออม บางคนก็เกษียณตัวเองตั้งแต่ก่อนอายุ 40 ปี ก็มี เพราะมีเงินออมมากพอแล้ว ชาตินี้ไม่ต้องทำอะไร เงินก็ไม่มีวันหมด ดังนั้นต้องพยายามคบหาคนสูงวัยที่ประสบความสำเร็จในการออม เพื่อสร้างแรงจูงใจในการออม อย่าไปคบคนรุ่นเดียวกัน เพราะส่วนใหญ่จะคิดแต่เรื่องใช้จ่าย และแม้จะเริ่มออมเงิน แต่ก็ยังไม่เห็นผลสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการออม ทำให้แรงจูงใจอยากออมเงินลดลง
รายได้น้อยเกินไป คิดว่าไม่จำเป็น กลัวไม่พอใช้
นี่คือความคิดแบบผิดๆ เพราะมีรายได้น้อย จึงไม่ต้องไปคิดหรอกเรื่องการออมเงิน แต่ละเดือนก็จะไม่พอใช้อยู่แล้ว แทนที่จะคิดว่า แต่ละเดือนยังไม่พอใช้ แล้วถ้าไม่ยอมอด เพื่อเก็บเงิน ให้มีเงินออม หากอนาคตเกิดเหตุไม่คาดคิด เจ็บป่วย ตกงานจะทำอย่างไร จะเอาเงินที่ไหนมาใช้
การมีรายได้น้อย ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับเงินออมให้มากๆ โดยเฉพาะหากไม่มีใครให้สามารถพึ่งพาได้ ยอมอดมื้อกินมื้อ เพื่อให้มีเงินออมย่อมจะดีกว่าอย่างแน่นอน เพราะเวลาลำบาก ก็จะมีเงินออมเท่านั้นที่จะสามารถช่วยชีวิตได้ ประสบการณ์แบบนี้ ต้องเจอกับตัวเอง
ขาดการศึกษา การวางแผนเรื่องการออม
การมีรายได้เข้ามาทุกเดือน ยังมีแรงหาเงินได้ มีโอกาสหาเงินได้ ทำให้ไม่คิดจะศึกษาในเรื่องการออมเงิน ไม่มีการวางแผน เพราะคิดว่าไม่จำเป็น เมื่อมีรายได้เข้ามา เรื่องการออมเงินถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ
หลังลาภลอย เงินจากท้องฟ้า การเสี่ยงโชค
หลายคนไม่คิดวางแผนเรื่องการออมเงิน หวังการเสี่ยงโชคบ้าง ลาภลอยบ้าง มรดกพ่อแม่บ้าง ความจริงข้อหนึ่งที่จะต้องรู้ ก็คือ บางคนนั้น ใช้ทรัพย์สมบัติ เงินทองที่มีมาล่อให้คนรอบตัวทำอะไรตามใจตัวเอง เช่น ต้องดูแลฉันตอนแก่ชรา แล้วจะยกที่ดิน ยกมรดกให้ ปรากฏว่า พอถึงเวลาจริงๆ แล้ว ก็ไม่ได้อย่างที่หวัง ดังนั้นต้องระวังในเรื่องนี้ อย่าไปหวังในสมบัติของคนอื่น
ประมาท ไม่เจอเหตุที่ทำให้อยากออมอย่างแท้จริง
การออมเงินมีความสำคัญ แต่คนเราจะเห็นความสำคัญก็ต่อเมื่อมีเหตุร้ายแรงที่สร้างความทุกข์ยากลำบากให้ชีวิตอย่างเสนสาหัส จึงจะคิดได้ และเริ่มการออมเงินอย่างจริงจัง
บางคนเคยมีเงินทองมากมาย และก็ให้ความช่วยเหลือคนรอบข้าง คนในครอบครัว ด้วยหวังว่าเมื่อถึงเวลาที่ตนเองตกยากลำบาก ก็จะมีคนช่วยเหลือตนเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงที่หลายคนได้เจอ กลับตรงกันข้าม ส่วนใหญ่มักจะถูกขับไล่ไสส่งให้ไปไกลๆ มีแต่คนกลัวจะเป็นภาระ ไม่ให้เข้าใกล้
สุดท้ายก็มีแต่ตัวเองเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งพาได้ แม้จะเป็นเงินเพียงน้อยนิด ไม่กี่ร้อย ไม่กี่พันบาท แต่หากเงินนั้นได้ช่วยรักษาชีวิตตัวเองไว้ ก็จะเริ่มเห็นความสำคัญของการออม และรู้ว่า เงิน ของตัวเองเท่านั้น ที่จะเป็นเพื่อนยามยาก ช่วยเหลือตัวเองได้ จากนั้นก็จะเริ่มออมเงินอย่างจริงจัง
เรื่องแบบนี้มักจะเกิดในเวลาที่ชีวิตย่ำแย่ และสารพันปัญหาก็จะประดังเข้ามา มีปัญหาการเงิน บ้าน รถ ทรัพย์สินต้องขาย พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูงไม่คบ เจ็บป่วย ทำงานไม่ได้ ฯลฯ หากเจอปัญหาหนักๆ แบบนี้ ก็จะเริ่มคิดถึงการออมเงิน
อยู่ในสังคมที่ฟุ่มเฟือย แข่งวัตถุ แข่งใช้เงิน
การอยู่ในสังคมที่เน้นการใช้เงิน สังสรร บันเทิง ปาร์ตี้ แข่งกันเรื่องวัตถุ แข่งกันใช้เงิน ทำให้เรื่องการออมนั้นเป็นเรื่องยาก หากการเงินของตัวเองไม่ดีนัก ก็ควรแยกตัวออกไป เพราะอนาคนชีวิตมีปัญหาการเงินแน่นอน
บางคนแม้จะมีเงินเดือนน้อยกว่า แต่ด้วยการออม ก็มีให้รวยกว่าคนอื่นในอีกสิบปีข้างหน้า เพื่อนผู้เขียนยางคนทำงานบริษัท แต่เน้นออมเงิน โดยนำไปซื้อหุ้น หรือลงทุนเป็นส่วนใหญ่ และผลที่ได้ตอบแทนหลังสิบปีผ่านไป ก็คือเงินออมที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก ร่วยแซงหน้าเพื่อนทุกคน จนสามารถลาออกจากงาน เกษียณตัวเองได้ตั้งแต่อ่ายุยังไม่ถึง 40 ปี
ในช่วงระยะเวลาที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว จึงไม่ควรไปแข่งกับใครในเรื่องการใช้เงิน แข่งกันเรื่องวัตถุ เพราะไม่มีประโยชน์อะไรเลย เสียเงินเปล่า บางคนเลือกที่จะเก็บตัว นานๆ เจอเพื่อนสักที ผ่านไปสิบกว่าปี เริ่มตั้งตัวได้ จึงเริ่มกลับมาเข้ากลุ่มอีกครั้ง เพราะตัวเองมีการเงินที่ดีแล้ว
เริ่มต้นออมช้าเกินไป
การเริ่มต้นออมเงินที่ช้าเกินไป เงินออมก็จะเก็บได้ไม่มากนัก แต่ก็อย่าคิดว่า ช้าเกินไป ก็เลยไม่ทำ ช้าก็ช่างมัน หากคิดได้ ก็เร่งออมเงินให้มาก พยายามประหยัดให้มาก และเน้นนำเงินออมไปหาทางลงทุนสร้างรายได้ เพื่อให้มีเงินออมเพิ่มมากขึ้น เพราะจะหวังแต่เงินออมจากเงินเดือนคงจะไม่ทันแล้ว
ติดนิสัยใช้เงินฟุ่มเฟือย
การสร้างนิสัยใช้จ่ายเงินจนเกิดความเคยชิน มีเงินก็ต้องใช้ ติดนิสัยฟุ่มเฟือย ก็จะทำให้การออมเงินเป็นเรื่องยาก เพราะเมื่อมีเงิน ก็จะแพ้ใจตัวเอง นำเงินไปใช้จ่าย โดยไม่มีการออม
สิ่งสำคัญในการเริ่มต้นแก้ปัญหา ก่อนอื่นจะต้องรู้ตัวเองก่อน ว่ามีนิสัยไม่ดีในเรื่องนี้ และเริ่มพยายามหาทางแก้ไข เช่น ย้ายที่อยู่อาศัยไปอยู่ในที่ห่างไกลจากแหล่งที่ใช้เงินง่าย มีสิ่งยั่วยุให้ใช้เงิน การหากิจกรรมอื่นๆ ทำ การฝึกสมาธิ จะช่วยได้
โฆษณา สิ่งยั่วยุรอบตัว
เมื่อเงินเป็นเป้าหมายของคนส่วนใหญ่ การทำการตลาด การโฆษณา สิ่งยั่วยุต่างๆ ก็นับวันจะทวีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การออมเงินเป็นเรื่องยาก เพราะคนเรามีความอยาก มีความต้องการ ใช้เงินเพื่อสร้างความสุขให้ตัวเอง
สร้างรายจ่าย สร้างภาระมากเกินไป
การสร้างรายจ่าย สร้างภาระให้ตัวเองมากเกินไป ก็ทำให้เงินไม่มีเหลือเก็บ บางคนมีรถหลายคัน เมียหลายคน บ้านหลายหลัง มีสัตว์เลี้ยง และอื่นๆ อีกมาก สร้างภาระค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป ดังนั้นต้องพยายามลดในเรื่องนี้ แล้วเปลี่ยเป็นเงินออมแทนการนำเงินไปจ่ายกับภาระเหล่านั้น
หวังแต่พึ่งพาคนอื่น
คนเราส่วนใหญ่จะมีความคิดหวังพึ่งพา พึ่งพิงคนอื่น พ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ก็หวังพึ่งพาลูกหลาน คนมีคู่ก็หวังพึ่งพาคู่ตนเอง คนมีเพื่อนก็หวังพึ่งพาเพื่อนหรือคนรอบข้าง ทำให้ไม่คิดจะออม เพราะคิดว่า เมื่อมีปัญหา ก็จะหวังพึ่งพาคนใกล้ตัว
การเริ่มคิดถึงเงินออม เงินเก็บบางทีก็สายเกินไป เช่น เจ็บป่วยจนไม่สามารถทำงานได้ และไม่มีใครเหลียวแล จึงได้รู้ว่าเงินออมนั้นสำคัญเพียงใด หากความเจ็บป่วยเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ยังอายุไม่มาก ก็ยังมีโอกาสแก้ไขได้ แต่หากอายุมากแล้ว จะสร้างความทุกข์ใจ ทุกข์กายอย่างแสนสาหัสเลยทีเดียว
ขาดระเบียบวินัยทางการเงิน
เรื่องนี้สำคัญที่สุด คนที่ไม่มีระเบียบวินัยการเงิน ก็จะใช้เงินไม่เป็น ไม่มีความคิดในเรื่องการออม เงินเป็นสิ่งที่เกี่ยวพัน มีความสำคัญกับชีวิตคนเรามาก เป็นเรื่องสำคํญที่จะต้องศึกษาให้เข้าใจ เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำด้วยตัวเอง
ดังนั้นเมื่อมีรายได้ มีเงินเข้ามา แม้จะเป็นเงินไม่มาก ก็ต้องเรียนรู้วิธีบริหารเงินทันที ศึกษาเรื่องการใช้เงิน ออมเงิน บริหารเงิน เพื่อให้มีเหลือเก็บเหลือใช้ สามารถใช้จ่ายได้จนกว่าจะสิ้นลมไปจากโลกนี้ โดยที่ยังมีเงินเหลืออยู่บ้าง อย่าไปจากโลกนี้ ทั้งที่ยังทิ้งหนี้ให้คนข้างหลัง ต้องรับผิดชอบ
อุปสรรค หรือปัญหาในการออมเงินมีหลายเรื่องที่จะต้องรู้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาที่เกิดจากปัจจัยภายในตัวเราเอง ที่ทำให้ไม่สามารถออมเงินได้ เรื่องแบบนี้ ปฏิบัติได้ยากมาก
บางคนผ่านความยากลำบากเพราะมีปัญหาการเงินมาอย่างหนัก อย่างผู้เขียน แต่ก็ยังไม่สามารถออมเงินได้เลย บทความนี้เขียนจากประสบการณ์ตรง ผู้เขียนอาจจะทำไม่ได้ แต่ผู้อ่านอาจจะสามารถทำได้ ก็ถือว่าการแขร์ประสบการณ์ก็ยังเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น อยู่บ้าง ก็จะสู้ต่อไปครับ เมื่อก่อนเก็บเงินเก่งมาก แต่ปัจจุบันใช้เงานเก่งมาก รู้ตัวทุกอ่าง พยายามหาทุกวิธีเพื่อแก้ไข โดยเฉพาะการพยายามสร้างวินัยการเงิน เพราะนี่คือหัวใจสำคัญ ถ้ามีวินัย ก็จะสามารถออมเงินได้