บทความแสดงรูปแบบการใช้คำกริยา 3 ช่อง preset preset preset ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน กับประโยคในภาษาอังกฤษหรือ Tense ทั้ง 12 แบบ เช่น Present Tense, Past Tense และ Future Tense โดยแต่ละแบบยังมีเท้นส์ย่อยอีก 4 แบบ รวมเป็น 12 แบบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจการใช้คำกริยา 3 ช่องนี้ มากยิ่งขึ้น
กริยาช่องที่ 1 / กริยาช่องที่ 2 / กริยาช่องที่ 3/ คำแปล
preset พรีเซ็ต / preset พรีเซ็ต / preset พรีเซ็ต / ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน
ตัวอย่างการใช้คำกริยานี้
ประโยค He presets an alarm clock.
คำอ่าน ฮี พรีเซ้ตสึ แอน อะลาม คล็อก
คำแปล เขาตั้งเวลาเตือนล่วงหน้าให้กับนาฬิกาปลุก/He presets an alarm clock หรือเขาตั้งการทำงานล่วงหน้านาฬิกาปลุก
ตัวอย่างการใช้คำกริยานี้กับประโยคหรือ Tense 12 แบบ ในภาษาอังกฤษ
การนำคำกริยา 3 ช่อง ไปใช้สร้างประโยค เพื่อสื่อสาร สนทนา หรือการเขียน แต่ละคำอาจจะใช้ในบางสถานการณ์เท่านั้น ไม่ได้ใช้ครบทุก Tense ไม่นิยมพูดกัน หรือ นำไปแต่งประโยคภาษาอังกฤษ ตัวอย่างต่อไปนี้จึงเป็นเพียงรูปแบบการใช้คำกริยา 3 ช่อง กับ เท้นส์ ต่างๆ เท่านั้น
Tense 1 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Simple
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 โดยจะกล่าวถึง เรื่องที่เป็นข้อเท็จจริง เรื่องจริงในขีวิตประจำวัน หรือเรื่องราวที่เกิดวันนี้
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันนี้ ฉัน กินข้าวผัด * บอกเรื่องราวที่เกิดในวันนี้
- ฉันมีพี่ชาย 2 คน * บอกความจริง
- เธอร้องเพลงเก่งมาก
- ดวงอาทิตย์ ขึ้นทาง ทิศตะวันออก * ความจริง ข้อเท็จจริง
- สุนัขตัวผู้ คลอดลูกไม่ได้ * ความจริง ข้อเท็จจริง
- ทุเรียนมีกลิ่นเหม็นสำหรับบางคน หรือ ทุเรียนมีหนาม * เป็นเรื่องจริง ความจริง
- ฉันแปรงฟันทุกวัน
- ไปอาบน้ำได้แล้ว * ประโยคคำสั่ง หรือ ประโยคขอร้อง
- พวกเขาเล่นฟุตบอล
- ฉันทำการบ้าน
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 1 + เติม s ออกเสียง สึ ท้ายคำด้วย ตัวอย่าง preset เป็น He presets. / เขา ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน
1. He presets. (He เขาคนเดียว)
2. She presets. (She เธอคนเดียว)
3. It presets. (It มันตัวเดียว)
4. The boy presets. (The boy จะหมายถึง เด็กชายหนึ่งคน หรือ คนเดียว)
5. A boy presets. (A boy จะหมายถึง เด็กชายคนเดียว หรือ หนึ่งคน)
6. This boy presets. (This boy จะหมายถึง เด็กชายคนนี้คนเดียว)
7. That dog presets. (That dog จะหมายถึง สุนัขตัวนั้นตัวเดียว มีแค่ 1 ตัว)
8. Somchai presets. (Somchai สมชายเพียงคนเดียว เท่านั้น)
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 1 + ไม่เติม s ตัวอย่างเช่น preset เป็น We preset. / พวกเรา ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน
1. You preset. (You คุณ หรือพวกคุณ มีหลายคน)
2. We preset. (We พวกเรา มีหลายคน)
3. They preset. (They พวกเขามีหลายคน)
4. These boys preset. (These boys คำว่า boy เติม s จะหมายถึง เด็กชายเหล่านี้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป)
5. Those boys preset. (Those boys คำว่า boy เติม s จะหมายถึง เด็กชายเหล่านั้นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป)
6. The boys preset. (The boys คำว่า boy เติม s จะหมายถึง เด็กชายตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป)
7. Somchai and Somsak preset. (Somchai and Somsak สมชายและสมศักดิ์รวมกันเป็น 2 คน)
8. I preset. ** I เป็นข้อยกเว้น กริยาไม่ต้องเติม s แม้ว่า I จะเป็นเอกพจน์
Tense 2 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Continuous
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ ขณะนี้ ของวันนี้ กำลังทำอะไรอยู่ในขณะนี้ จะมีคำว่า กำลัง ในประโยคด้วย
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ขณะนี้พวกเรากำลังเล่นฟุตบอล
- ตอนนี้ฉันกำลังทำการบ้าน
- วันนี้ ตอนที่คุณโทรศัพท์มา ฉันกำลังอาบน้ำอยู่
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + is + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น preset เป็น He is presetting. / เขากำลัง ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน อยู่ในตอนนี้ ขณะนี้
1. He is presetting.
2. She is presetting.
3. It is presetting.
4. The boy is presetting.
5. A boy is presetting.
6. This boy is presetting.
7. That dog is presetting.
8. Somchai is presetting.
9. I am presetting. * ยกเว้น I จะใช้ I am
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + are + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น preset เป็น We are presetting. / พวกเรากำลัง ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน อยู่ในตอนนี้ ขณะนี้
1. you are presetting.
2. We are presetting.
3. They are presetting.
4. The boys are presetting.
5. These boys are presetting.
6. Those boys are presetting.
7. Somchai and Somsak are presetting.
Tense 3 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Perfect Simple
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 3 โดยจะล่าวถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในวันนั้นหรือขณะที่ได้พูดถึง เหตุการณ์นั้นได้จบลงแล้ว เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำสิ่งนั้น ทำสิ่งนี้เสร็จแล้ว ประโยคเหล่านี้จะมีคำว่า ได้ทำแล้ว หรือ เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว แล้ว
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันนี้ ตอนที่คุณโทรศัพท์มา ฉันได้อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว
- วันนี้ ฉันได้ทำการบ้านเสร็จแล้ว
- เวลานี้ พวกเขาได้หยุดเล่นฟุตบอลแล้ว
- พวกเขาได้ประชุมเสร็จแล้ว
- ฉันทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + has + กริยาช่องที่ 3 เช่น preset เป็น He has preset. / เขาได้ ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน แล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว หรือ เสร็จแล้ว
1. He has preset.
2. She has preset.
3. It has preset.
4. The boy has preset.
5. A boy has preset.
6. This boy has preset.
7. That boy has preset.
8. Somchai has preset.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + have + กริยาช่องที่ 3 เช่น preset เป็น We have preset. / พวกเราได้ ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน แล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว หรือ เสร็จแล้ว
1. You have preset.
2. We have preset.
3. They have preset.
4. These boys have preset.
5. Those boys have preset.
6. The boys have preset.
7. Somchai and Somsak have preset.
8. I have preset. ** I เป็นข้อยกเว้น ใช้กับ have แม้ว่า I จะเป็นเอกพจน์
Tense 4 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Perfect Continuous
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยไม่ได้หยุดพักเลย ในช่วงเวลาหนึ่งของวันนั้น วันนี้ ตัวอย่างเช่น
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันนี้ ตั้งแต่เวลา 8:00 จนถึงขณะนี้ ฉันได้ประชุมมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พูดถึง ก็ยังไม่เลิกประชุม หรือ เขาได้เข้าประชุมมาตั้งแต่ 8 โมงเช้าแล้ว (ขณะนี้ก็ยังประชุมอยู่)
- เขาได้ทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว ยังไม่หยุดเลย ขณะที่พูดถึงนี้ เขาก็ยังไม่หยุด
- พวกเขาขับรถมา 6 ชั่วโมงกว่าแล้ว (ขณะที่พูดถึงนี้ พวกเขาก็ยังขับรถอยู่ ยังไม่หยุดพักรถ พักคน)
- เขานั่งทำการบ้านมาตั้งแต่เช้า (ขณะที่พูดถึงเขา เขาก็ยังทำอยู่ ยังทำไม่เสร็จ )
- พวกเขาเล่นฟุตบอลมา 2 ชั่วโมงแล้ว (ขณะที่พูดถึง พวกเขาก็ยังเล่นอยู่ ยังไม่เลิกเล่น)
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + has + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น preset เป็น He has been presetting. / เขาได้ ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน มาตั้งแต่เวลา (เช้า, 8 โมงเช้า, เที่ยง) แล้ว ขณะนี้ก็ยังทำอยู่
1. He has been presetting.
2. She has been presetting.
3. It has been presetting.
4. The boy has been presetting.
5. A boy has been presetting.
6. This boy has been presetting.
7. That boy has been presetting.
8. Somchai has been presetting.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + have + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น preset เป็น We have been presetting. / พวกเราได้ ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน มาตั้งแต่เวลา (เช้า, 8 โมงเช้า, เที่ยง) แล้ว ขณะนี้ก็ยังทำอยู่
1. You have been presetting.
2. We have been presetting.
3. They have been presetting.
4. These boys have been presetting.
5. Those boys have been presetting.
6. The boys have been presetting.
7. Somchai and Somsak have been presetting.
8. I have been presetting. ** I เป็นข้อยกเว้น ต้องใช้กับ have แม้ว่า I จะเป็นเอกพจน์
Tense 5 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Simple
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 2 โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว อาจจะมีคำที่สื่อความหมายให้รู้ อย่างคำว่า เมื่อวานนี้ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เมื่อวานนี้ ฉัน กินข้าวผัด
- เมื่อวาน เขาอาบน้ำครั้งเดียว
- พวกเขาเล่นฟุตบอล สัปดาห์ที่แล้ว
- เมื่อวานนี้ฉันทำการบ้าน
- เมื่อวานนี้พวกเรามีประชุม หรือได้เข้าร่วมประชุม
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 2 เช่น preset เป็น He preset. / เขา ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน แล้ว เมื่อวานนี้
1. He preset.
2. She preset.
3. It preset.
4. The boy preset.
5. A boy preset.
6. This boy preset.
7. That boy preset.
8. Somchai preset.
9. I preset.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 2 เช่น preset เป็น We preset. / พวกเรา ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน แล้ว เมื่อวานนี้
1. You preset.
2. We preset.
3. They preset.
4. These boys preset.
5. Those boys preset.
6. The boys preset.
7. Somchai and Somsak preset.
Tense 6 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Continuous
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกลาวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต โดยมีลักษณะเป็นการกระทำที่มีความต่อเนื่อง
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เมื่อวานนี้ ตอนที่เธอโทรศัพท์มา ฉันกำลังทำการบ้านอยู่
- เมื่อวานเวลานี้ พวกเรากำลังเล่นฟุตบอล
- อาทิตย์ที่แล้ว วันนี้ ฉันกำลังทำการบ้าน
- เมื่อวานนี้เวลา 8 โมงเช้า ฉันกำลังกินข้าวผัดอยู่
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + was + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น preset เป็น He was presetting. / เขากำลัง ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน เมื่อวานนี้ หรือสัปดาห์ที่แล้ว ปีที่แล้ว ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว
1. He was presetting.
2. She was presetting.
3. It was presetting.
4. The boy was presetting.
5. A boy was presetting.
6. This boy was presetting.
7. That boy was presetting.
8. Somchai was presetting.
9. I was presetting.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + were + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น preset เป็น We were presetting. / พวกเรากำลัง ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน เมื่อวานนี้ หรือสัปดาห์ที่แล้ว ปีที่แล้ว ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว
1. You were presetting.
2. We were presetting.
3. They were presetting.
4. The boys were presetting.
5. These boys were presetting.
6. Those boys were presetting.
7. Somchai and Somsak were presetting.
Tense 7 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Perfect Simple
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 3 โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่ได้จบลงไปแล้ว มักจะใช้พูดถึง 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำใดๆ โดยมักจะมีคำว่า เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว หรือ แล้ว ในประโยคนั้นๆ ที่บอกให้รู้ว่าเป็น Past Perfect Simple
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ตอนที่คุณโทรศัพท์มา ฉันได้อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว (การกระทำ อาบน้ำ ได้เกิดขึ้นก่อน คุณจะโทรศัพท์เข้ามา และฉัน ก็ได้อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว )
- เมื่อวานนี้ตอนที่พ่อแม่มาถึงบ้าน ฉันก็ได้กินอาหารเที่ยงเรียบร้อยแล้ว (ฉันได้กินอาหารเที่ยง เกิดขึ้นก่อน พ่อแม่จะมาถึง และก็จบลงแล้ว กินข้าวเสร็จแล้ว )
- ก่อนฝนจะตกเมื่อวานนี้ พวกเขาก็ได้หยุดเล่นฟุตบอลแล้ว เลิกเล่นก่อนฝนจะตกลงมา
- เมื่อคืนนี้ ตอนที่คุณมาถึง ฉันก็ได้ทานอาหารค่ำเรียบร้อยแล้ว
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3 เช่น preset เป็น He had preset. / เขาได้ ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน แล้ว หรือ เสร็จแล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว
1. He had preset.
2. She had preset.
3. It had preset.
4. The had preset.
5. A boy had preset.
6. This boy had preset.
7. That boy had preset.
8. Somchai had preset.
9. I had preset.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3 เช่น preset เป็น We had preset. / พวกเราได้ ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน แล้ว หรือ เสร็จแล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว
1. You had preset.
2. We had preset.
3. They had preset.
4. These boys had preset.
5. Those boys had preset.
6. The boys had preset.
7. Somchai and Somsak had preset.
Tense 8 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Perfect Continuous
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์นั้นมีลักษณะต่อเนื่อง มักจะใช้พูดถึงเหตุการณ์ หรือสิ่งที่เกิดขึ้น 2 เหตุการณ์ ในเวลาเดียวกัน
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เมื่อวานนี้ ตอนที่ลูกค้ามาถึงบริษัท พวกเขาก็ได้ประชุมกันมาตั้งแต่เวลา 8:00 เช้าแล้ว (การประชุมมีความต่อเนื่อง และขณะที่ลูกค้ามาถึง ก็ยังประชุมอยู่)
- เขาได้ทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว ก่อนที่คุณจะมาถึง (การทำงานมีความต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะมาถึงแล้ว แต่เขาก็ยังทำงานต่อ ยังไม่หยุด)
- เมื่อวาน พวกเขาได้ขับรถมา 6 ชั่วโมงกว่าแล้ว ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ (การขับรถเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องในอดีต)
- เขาได้นั่งทำการบ้านมาตั้งแต่เช้าแล้ว ก่อนพ่อแม่มาถึง (ทำการบ้าน เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง)
- พวกเขาได้เล่นฟุตบอลมา 2 ชั่วโมงแล้ว ก่อนฝนตก (เล่นฟุตบอลเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง)
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + been + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น preset เป็น He had been presetting. / เขาก็ได้ ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน มาแล้วตั้งแต่เวลา
1. He had been presetting.
2. She had been presetting.
3. It had been presetting.
4. The boy had been presetting.
5. A boy had been presetting.
6. This boy had been presetting.
7. That boy had been presetting.
8. Somchai had been presetting.
9. I had been presetting.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + been + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น preset เป็น We had been presetting. / พวกเราก็ได้ ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน มาแล้วตั้งแต่เวลา
1. You had been presetting.
2. We had been presetting.
3. They had been presetting.
4. These boys had been presetting.
5. Those boys had been presetting.
6. The boys had been presetting.
7. Somchai and Somsak had been presetting.
Tense 9 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Simple
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่จะเกิดในอนาคต พรุ่งนี้ หรือ อีกหลายวันข้างหน้า หรือในอนาคต มีคำว่า จะ (ทำอะไร) ในประโยค
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันพรุ่งนี้ ฉันจะกินข้าวผัด
- พร่งนี้ฉันจะไปอาบน้ำอุ่น
- พวกเขาจะเล่นฟุตบอลพรุ่งนี้
- ฉันจะทำการบ้านพรุ่งนี้
- พวกเขาจะประชุมวันศุกร์นี้
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1 เช่น preset เป็น He will preset. / เขาจะ ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน
1. He will preset.
2. She will preset.
3. It will preset.
4. The boy will preset.
5. A boy will preset.
6. This boy will preset.
7. That boy will preset.
8. Somchai will preset.
9. I will preset.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1 เช่น preset เป็น We will preset. / พวกเราจะ ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน
1. You will preset.
2. We will preset.
3. They will preset.
4. These boys will preset.
5. Those boys will preset.
6. The boys will preset.
7. Somchai and Somsak will preset.
Tense 10 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Continuous
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีความหมายว่า กำลังอยู่ระหว่างทำเหตุการณ์นั้นในอนาคต
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เวลา 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ ฉัน จะกำลัง อาบน้ำ
- พรุ่งนี้แปดโมงเช้า ฉัน จะกำลัง ประชุมอยู่
- พรุ่งนี้เที่ยงตรง เรา จะกำลังกินข้าว เที่ยงกันอยู่ที่โรงแรม
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + be + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น preset เป็น He will be presetting. / เขาจะกำลัง ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน
1. He will be presetting.
2. She will be presetting.
3. It has will be presetting.
4. The boy will be presetting.
5. A boy will be presetting.
6. This boy will be presetting.
7. That bog will be presetting.
8. Somchai will be presetting.
9. I will be presetting.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + be + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น preset เป็น We will be presetting. / พวกเราจะกำลัง ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน
1. You will be presetting.
2. We will be presetting.
3. They will be presetting.
4. These boys will be presetting.
5. Those boys will be presetting.
6. The boys will be presetting.
7. Somchai and Somsak will be presetting.
Tense 11 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Perfect Simple
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 3 โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่จะจบลงในเวลาที่กำหนด มักจะมีคำว่า แล้ว เรียบร้อยแล้ว เสร็จแล้ว ในประโยค
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เวลา 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ ฉันจะได้ประชุมสร็จแล้ว
- เวลาบ่ายโมงพรุ่งนี้ พวกเราจะหยุดเล่นฟุตบอลแล้ว
- พรุ่งนี้ 5 โมงเย็น ฉันจะเรียนดนตรีเสร็จแล้ว
- เมื่อคุณมาถึงโรงแรม พวกเราจะกินข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + กริยาช่องที่ 3 เช่น preset เป็น He will have preset. / เขาจะได้ ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว
1. He will have preset.
2. She will have preset.
3. It will have preset.
4. The boy will have preset.
5. A boy will have preset.
6. This boy will have preset.
7. That boy will have preset.
8. Somchai will have preset.
9. I will have preset.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + กริยาช่องที่ 3 เช่น preset เป็น We will have preset. / พวกเราจะได้ ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว
1. You will have preset.
2. We will have preset.
3. They will have preset.
4. These boys will have preset.
5. Those boys will have preset.
6. The boys will have preset.
7. Somchai and Somsak will have preset.
Tense 12 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Perfect Continuous
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่มีลักษณะเป็นการกระทำอย่างต่อเนื่อง จะได้กำลังทำอะไรบางอย่าง ในช่วงเวลาที่กำหนด ประโยคในลักษณะนี้ไม่ค่อยได้ใช้กันบ่อยนัก ใช้น้อยมากในการแต่งประโยค หรือสนทนา พูดจากัน
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ก่อนที่ผมจะไปถึงที่บ้านพรุ่งนี้เวลา 10 โมงเช้า คุณจะได้กำลังเตรียมตัวสัก 2 ชั่วโมง (กำลังเตรียมตัวเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง ต้องทำนู่น นี่ จัดของ ฯลฯ )
- พรุ่งนี้เวลา 8:00-10:00 น. พวกเราจะได้กำลังประชุมกันอยู่ (กำลังประชุม เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง)
- พรุ่งนี้ 10 โมงเช้า คุณจะได้กำลังใช้อินเตอร์เน็ตประมาณ 2 ชั่วโมง
- ฉันจะได้กำลังเรียนกีตาร์ 3 เดือน ในปีหน้า
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น preset เป็น He will have been presetting. / เขา จะได้กำลัง ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน
1. He will have been presetting.
2. She will have been presetting.
3. It will have been presetting.
4. The boy will have been presetting.
5. A boy will have been presetting.
6. This boy will have been presetting.
7. That boy will have been presetting.
8. Somchai will have been presetting.
9. I will have been presetting.
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น preset เป็น We will have been presetting. / พวกเรา จะได้กำลัง ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน
1. You will have been presetting.
2. We will have been presetting.
3. They will have been presetting.
4. These boys will have been presetting.
5. Those boys will have been presetting.
6. The boys will have been presetting.
7. Somchai and Somsak will have been presetting.
การใช้คำกริยานี้กับ Going to
'
ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีความหมายว่า กำลังจะ ไปทำ ..อะไร..บางอย่าง ความหมายจะคล้ายกับเท้นส์ Present Continuous Tense ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ฉัน กำลังจะ ไปกิน ผลไม้
- ฉัน กำลังจะ ไปประชุม
- ฉัน กำลังจะไป ทำการบ้าน
การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์
ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + is + going to + กริยาช่องที่ 1 เช่น preset เป็น He is going to preset. / เขา กำลังจะไป ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน
1. He is going to preset.
2. She is going to preset.
3. It is going to preset.
4. The boy is going to preset.
5. A boy is going to preset.
6. This boy is going to preset.
7. That boy is going to preset.
8. Somchai is going to preset.
9. I am going to preset. ** I จะใช้ am
การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์
ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + are + going to + กริยาช่องที่ 1 เช่น preset เป็น We are going to preset. / พวกเรา กำลังจะไป ตั้งล่วงหน้า ตั้งไว้ก่อน
1. You are going to preset.
2. We are going to preset.
3. They are going to preset.
4. These boys are going to preset.
5. Those boys are going to preset.
6. The boys are going to preset.
7. Somchai and Somsak are going to preset.
สรุป
คำกริยา 3 ช่อง แต่ละคำจะมีรูปแบบการใช้กับเท้นส์ (Tense) ทั้ง 12 แบบ เป็นรูปแบบมาตรฐาน แต่โอกาสจะได้ใช้หรือนำไปแต่งประโยค เพื่อใช้สื่อสารในชีวิตจริงมากน้อยต่างกันไป กริยาบางคำอาจจะใช้กับเท้นส์เพียงไม่กี่เท้นส์เท่านั้น และในเท้นส์นั้นๆ ก็อาจจะใช้บางประธานของประโยคเท่านั้น ส่วนผู้ที่จะได้ใช้ทั้งหมดทุกเทนส์ก็จะมีเพียงผู้ที่ศึกษาภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำรายงานส่งอาจารย์