บทความแนะนำเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแปรงสีฟัน อุปกรณ์ทำความสะอาดฟันที่เราต้องใช้กันทุกวัน ซึ่งเชื่อว่ามีหลายเรื่องที่เรายังไม่รู้ และยังใช้ ดูแลแปรงสีฟันไม่ถูกต้อง แปรงฟันแต่ฟันไม่ได้สะอาดอย่างที่คิด แถมอาจจะทำให้ฟันมีปัญหาตามมา ฟันกุด ฟันคุด ฟันห่าง

เมื่อการแปรงฟันเป็นเรื่องสำคัญเพราะช่วยรักษาสุขภาพในช่องปาก เราจึงควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับแปรงสีฟันให้ละเอียด เลือกซื้อและใช้งาน ให้ถูกต้อง เพื่อสุขภาพของช่องปาก เหงือกและฟัน

 

รวมเรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับแปรงสีฟัน

อย่าแปรงฟันอย่างเดียว แปรงลิ้น กระพุ้งแก้ม เพดานปากด้วย

การแปรงฟันอย่างเดียว ฟันก็จะสะอาด แต่คราบสกปรกที่ลิ้นก็ต้องการการทำความสะอาดเช่นกัน ลองดูคราบสีขาวที่ลิ้นของเรา นั่นบ่งบอกถึงความสกปรก ตามมาด้วยกลิ่นปาก การแปรงลิ้นด้วย ก็จะทำให้รู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงเช้าของคืนที่ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ การแปรงลิ้น แปรงกระพุ้งแก้ม พาดานปาก แปรงทุกจุด จะช่วยได้มาก แต่ทั้งนี้ก็ต้องเลือกยาสีฟ้นที่ให้ความสดชื่นเช่นกัน

การแปรงฟันไม่ได้ช่วยลดการก่อตัวของคราบอาหาร หรือหินปูน

การแปรงฟันแบบธรรมดา ใส่ยาสีฟันบนแปรง เอาแปรงไปขัดๆ ถูๆ เสร็จแล้วบ้วนปาก ไม่ได้ช่วยให้เศษอาหารที่อยู่ตามคอฟันหรือส่วนที่อยู่ใต้เหงือกหลุดออกแต่อย่างใด แปรงแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับอาบน้ำแต่ไม่ขัดขี้ไคลนั่นเอง จำเป็นต้องทำความสะอาดฟันเพิ่มเติม ทำความสะอาดซอกฟัน ด้วยไหมขัดฟันหรือเหล็กเกรารากฟัน ซึ่งจะช่วยขูดขี้ฟัน คราบอาหาร หินปูนที่เพิ่งก่อตัวออกได้ การแปรงฟันจะไม่สามารถขัดคราบหรือหินปูนพวกนี้ออกได้ เพราะค่อนข้างเหนียวใช้เหล็กเกรารากฟัน ขูดยังออกยากเลย นับประสาอะไรกับแปรงสีฟันขนนิ่มๆ หรือแม้แต่แปรงสีฟันขนแข็งๆ ก็ตาม

แปรงสีฟันที่มีขนแข็ง ทำให้ฟันสึกเร็ว

แปรงสีฟันมีหลายแบบ ทั้งแปรงแบบขนนุ่ม ขนแข็ง แปรงสีฟันที่ขนค่อนข้างแข็ง จะทำให้ฟันสึกเร็วและอาจจะทำให้เหงือกเป็นแผลได้ง่าย แต่การใช้ แปรงขนนุ่มๆ ก็ใช่จะปลอดภัย เพราะยาสีฟันก็มีส่วนทำให้ฟันสึกเช่นกัน ซึ่งบางยี่ห้อจะมีเม็ดเล็กๆ เหมือนเม็ดทราย ซึ่งจะทำหน้าที่ขัดฟัน แปรงไปนานๆ ทำให้คอฟันสึกได้เช่นกัน ส่วนของฟันที่จะสึกก็คือ คอฟัน ใกล้กับเหงือกนั่นเอง เมื่อสึกมากๆ ก็ต้องไปอุดฟัน กลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมาอีก

แปรงสีฟันเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรีย ต้องทำความสะอาดบ้างนะ

อุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดมักจะกลายเป็นที่เก็บความสกปรกเสียเอง อย่างแปรงสีฟัน ก็เช่นกัน ดังนั้นควรนำไปต้มทำความสะอาดบ้าง เพื่อฆ่าเชื้อ โรค หรือขจัดเศษอาหารที่อยู่ตามซอกขนของแปรงสีฟัน

ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3 เดือน

เมื่อใช้แปรงสีฟันไปนานๆ ขนแปรงอาจจะเริ่มบานออก ขนแปรงหลุดขาดบ้าง ทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดลดลง ประมาณ 3-4 เดือนก็ควรเปลี่ยนได้แล้ว

การเก็บแปรงสีฟัน

การเก็บแปรงสีฟันในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก จะช่วยให้คราบสกปรก เชื้อแบคทีเรียที่สะสมในแปรงสีฟันไม่สามารถเจริญเติบโตได้ จึงไม่ควรเก็บแปรงในกล่องที่จัดเก็บอย่างดี เพราะความชื้น เชื้อโรคจะก่อตัวได้ง่ายกว่า อย่าวางแปรงโดยตั้งขนขึ้นด้านบนให้คว่ำเพื่อให้น้ำไหลออก ช่วยให้ขนแปรงแห้ง

แปรงฟันอย่างเดียวไม่พอต้องขูดหินปูนทุก 6 เดือน

การใช้แปรงสีฟันจะช่วยทำความสะอาดฟันและเหงือกได้ แต่แค่นั้นยังไม่พอ เพราะหัวใจสำคัญที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องเหงือกและฟันตามมาก็คือ การดูแลสุขภาพฟัน โดยเฉพาะการขูดหินปูนที่จะต้องทำเป็นประจำ เพราะหากมีหินปูน ปัญหาก็ไม่จบ แปรงสีฟันเทพๆ ขนาดไหนก็ช่วยอะไรไม่ได้

 

แปรงสีฟันเป็นเครื่องมือทำความสะอาดฟัน แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ฟันสะอาด 100% จำเป็นจะต้องใช้เครื่องมืออื่น หรือพบทัณตแพทย์ทุกปี เพื่อดูแลสุขภาพฟัน เหงือกให้แข็งแรง อย่างแท้จริง