ความหมาย : สำนวนนี้ใช้สอนให้ระวัง อย่าไว้ใจใคร เพราะคนเรานั้นจิตใจยากจะรู้ว่าคิดอะไร น้ำลึกหยั่งได้ น้ำใจหยั่งยาก เพราะไม่มีอะไรจะสามารถวัดได้ หรือรู้ว่าคิดอะไร คิดดีหรือไม่มีอะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่

ตัวอย่าง :

ในสังคมเมืองใหญ่ ผู้คนเข้าใจได้ยากกว่าคนในชนบทที่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย จริงใจ ตรงไป ตรงมา ยากจะรู้ว่าคิดอะไร จิตใจยากจะคาดเดา น้ำลึกหยั่งได้ น้ำใจหยั่งยาก จึงไม่ควรไว้ใจใครง่ายเกินไปนัก

ในสังคมที่ผู้คนมีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก ผู้คนก็มักจะไม่เป็นมิตร ยากจะไว้ใจใครได้ น้ำลึกหยั่งได้ น้ำใจหยั่งยาก ต่างจากสังคมที่ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดี ก็จะมีจิตใจดีด้วยเช่นกัน

การฝึกอ่านคน อาจช่วยให้ดูได้ว่า คนคนนั้นเป็นอย่างไร คนจิตใจไม่ดี คิดไม่ดี มักจะมีบางอย่างให้สามารถสังเกตุได้ โดยเฉพาะจากคำพูด บางคนเรียกพี่ทุกคำ แต่ก็มีเผลอเรียกแบบไม่สุภาพ แม้จะแค่ครั้งเดียว ก็พอจะวัดใจได้ว่า เป็นคนอย่างไร น้ำลึกหยั่งได้ น้ำใจหยั่งยาก แต่คนไม่ใช่น้ำ ยากจะควบคุมตัวเองได้ตลอดเวลา

คนไม่ดีย่อมต้องมีเผลอตัว ทำสิ่งไม่ดีให้เห็นบ้าง อาจจะเป็นการกระทำ คำพูด วิธีคิด หรือสิ่งอื่น ฝึกบ่อยๆ แค่เห็นหน้าก็รู้ได้ทันทีว่าน่าจะเป็นคนอย่างไร ส่วนอีกวิธีก็ต้องใช้การฝึกจิตเหมือนพระธุดงค์ พระเก่งๆ จะสามารถอ่านใจคนได้ รู้ความรู้สึก ระลึกชาติได้เลยทีเดียว เพียงแต่จะมีประโยชน์อะไร รู้ความคิดคนมีแต่จะสร้างความทุกข์ เพราะคนไม่น้อยคิดแต่เรื่องไม่ดี รู้มากก็ทุกข์มาก