เคยใช้แต่มือถือแอนดรอยด์ อยากจะเปลี่ยนไปลองใช้ iPhone ควรรู้อะไรบ้าง? เพื่อป้องกันความผิดพลาด หรือ ปัญหาที่ทำให้ใช้ เครื่องแล้วไม่มีความสุข เพราะไม่เหมาะกับตัวเอง ทำให้ต้องเสียเงินไปมากมาย ขายต่อราคาก็หายไปเยอะ
iPhone เป็นมือถือที่น่าใช้ เพียงแต่ก็มีหลายเรื่องที่ควรรู้ โดยเฉพาะมือใหม่ ตัวอย่างเช่น
ราคาเครื่องใหม่หายไปมาก
หากคิดจะซื้อเครื่องใหม่ เรื่องต้องรู้ก็คือ ราคาจะหายไปเยอะมาก ตัวอย่าง iPhone 7 32 GB ราคาเปิดตัว 17,500 บาท อย่าง เครื่องนี้ ผ่านไป 4 ปี ราคาเหลืออยู่ประมาณ 5,000 บาท เงินหายไป 12,500 บาท เปรียบเทียบกับมือถือแอนดรอยด์ ASUS Zenfone Live L1 ราคาเปิดตัว 3000 กว่าบาท ปัจจุบันเหลือยู่ประมาณ 700-1000 บาท ดังนั้นหากตัวเองไม่เหมาะกับมือถือระบบนี้ การซื้อ เครื่องใหม่ต้องคิดให้รอบคอบ
ลองใช้เครื่องมือสอง เครื่องรุ่นเก่า
iPhone มือสอง หรือ เครื่องรุ่นเก่า แต่ก็ยังได้ใช้ระบบปฏิบัติการ หรือ iOS รุ่นเดียวกัน เช่น iPhone 6s, 6s Plus, 7, ... ถึงรุ่นล่าสุด ก็ยังได้ใช้ iOS 15 เหมือนกัน มือใหม่อยากลองใช้ iPhone อาจจะเริ่มต้นจากมือถือเหล่านี้ หากใช้แล้วไม่ถูกใจ การขายต่อจะไม่ขาดทุน มาก อย่างผู้เขียนเลือกรุ่น iPhone 7 มาใช้ ซื้อมาราคา 4,835 บาท ถ้าขายต่อราคาก็ได้เกิน 4,000 บาทแน่นอน ขาดทุนไม่มาก
ความทนทาน
iPhone ถ้าเป็นเครื่องแท้ มีความทนทาน รองรับการใช้งานได้อีกนาน เกิน 6 ปี ขึ้นไป ถ้าไม่ร่วง ไม่ตกน้ำ ในขณะที่มือถือแอ นดรอยด์หลายรุ่นที่ผู้เขียนได้ใช้งานมา อย่าง ASUS จะพังเมื่อถึงเวลาประมาณ 4 ปี อาจจะเกินนี้ก็นิดหน่อย เหมือนถูกกำหนดวันหมด อายุเอาไว้ ปัญหาที่มักจะพบ ก็คือปุ่ม เปิดปิด มีปัญหา ยางเสื่อม แต่สวิทซ์ไม่เสีย จากนั้นจะตามด้วยจอ เครื่องในรูปนี้ก็เริ่มจะมีอาการ แล้ว แต่ iPhone ของเพื่อน เป็นรุ่น 6s ใช้มาเกิน 6 ปีแล้ว ยังใช้งานได้ แค่แบตเตอรี่เริ่มเสื่อม ได้เวลาต้องเปลี่ยน
ความง่ายในการใช้งาน
iPhone ใช้งานง่าย แต่ในความง่ายก็ต้องรู้ว่า มีอะไรบ้าง เช่น 1. ใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง เล่น Line Facebook โซลเชียลต่างๆ ท่องเว็บ ใช้งานได้ปกติ แต่ต้องเป็นเรื่องที่รองรับแอปเวอร์ชันนั้นๆ ถ้าเครื่องเก่าแล้ว ซีพียูช้า ก็มีปัญหาได้เช่นกัน 2. ใช้งานเครื่อง ใช้แอปต่างๆ เท่าที่มีมาให้ในเครื่อง ปัญหาจะน้อยเช่นกัน 3. ซื้อแอป ซื้อเพลง ซื้อทุกอย่างมาใช้งาน แต่หากไม่ซื้อ การใช้งานจะเริ่มยากทันทีสำหรับมือใหม่ เช่น อยากจะเอาเพลง MP3 ไปฟังใน iPhone ถ้าไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีความรู้ ก็จะกลายเป็นเรื่องยากทันที เมื่อเทียบกับแอนดรอยด์ เอา SD Card ที่มีเพลงเสียบเข้าเครื่อง ก็ฟังได้แล้ว ไม่ยุ่งยาก
ความยากในการใช้งาน
สำหรับมือใหม่ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับมือถือ และไม่ชอบศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังไม่มีคนรอบข้างใช้มือถือระบบเดียวกัน ก็ ไม่ควรใช้ iPhone หากมีปัญหา หรือ ต้องการใช้งานในระดับสูงขึ้น จะสร้างปัญหาให้ตัวเอง และคนรอบข้างทันที เช่น 1. อยากจะเอาวิดีโอ ออกจากเครื่อง หรือเอาจากที่อื่นเข้าไปในเครื่อง 2. อยากจะเอาเพลง MP3 ไปทำริงโทน อยากจะเอาเพลง MP3 มาฟังในเครื่อง 3. อยากจะก็อปปี้ไฟล์ ข้อมูล เข้าออกเครื่อง
การจะเอา iPhone มาใช้งานขั้นสูงขึ้น ใช้ทำงาน ทดสอบใช้แอปต่างๆ ให้คุ้มค่าที่สุด ดูจะไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ ที่ช่วยเหลือตัวเอง ไม่ได้ ไม่รู้วิธีค้นหาข้อมูล กรณีมีปัญหาในการใช้งาน แต่หากชอบศึกษาหาข้อมูล ก็จะไม่เป็นปัญหา เพราะมีบทความ มีวิดีโอสอนใช้ iPhone มากมาย
ตั้งวัตถุประสงค์ในการนำเครื่องมาใช้งาน
หากเน้นใช้งานทั่วไป ใช้แอปเท่าที่มีมาให้ หรือติดตั้งแอปมาตรฐาน แอปธนาคาร iPhone แอปการเงิน จะไม่มีปัญหาเหมือนแอนดร อยด์ มีความปลอดภัยในการใช้งาน เพราะการจะติดตั้งแอปใดๆ จะต้องลงชื่อเข้าใช้เพื่อติดตั้งแอป ทำให้การติดตั้งแอปต่างๆ ทำได้ไม่ ง่าย แต่ในมือถือแอนดรอยด์จะติดตั้งได้ง่าย มือใหม่ไม่มีความรู้
บางคนก็ติดตั้งมั่วไปหมด แอปประเภทเดียวกัน เช่น ล้างขยะในเครื่อง เคลียร์หน่วยความจำ ก็ติดตั้งเป็น 10 แอป ซึ่งทำไปโดยไม่รู้ ว่า ตัวเองทำอะไร เพราะเวลาใช้แอปใดๆ เมื่อมีโฆษณาปรากฏขึ้นมา ก็จะแตะ เพื่อติดตั้งทันที สุดท้ายก็ทำให้เครื่องทำงานช้า หรือ มี โฆษณาโผล่ขึ้นมาตลอดเวลา สร้างความรำคาญ
ดังนั้นการตั้งวัตถุประสงค์ในการใช้งาน iPhone จึงเป็นเรื่องสำคัญ บางคนเน้นเครื่องรุ่นเก่า 6s ขึ้นไป ซื้อมาเพื่อติดตั้งแอปธนาคาร ไว้แสกนรับเงินโอนเงิน และใช้งานอื่นๆ ด้วย ก็วางใจได้ในเรื่องความปลอดภัย ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีแอปใดมาแอปล้วงความลับ เหมือนแอนดรอยด์
รุ่นและความจุเครื่อง
รุ่นและความจุเครื่อง หากใครจะซื้อมาเพื่อใช้งานทั่วไป ไม่เน้นเล่นเกม ไม่เน้นถ่ายวิดีโอ ถ่ายภาพ iPhone 7 ขึ้นไป ก็ใช้งานได้ไม่ น้อยกว่า 3 ปี เชื่อว่าจะยังได้รับการอัปเดตเป็น iOS รุ่นล่าสุด
iPhone กับการทำวิดีโอ
ถ้าหากเน้นซื้อเครื่องมาเพื่อทำงานอย่างการถ่ายทำวิดีโอ ก็แนะนำ รุ่นที่มีกล้อง 2 ตัวขึ้นไป ขึ้น iPhone 7 Plus, 8 Plus ขึ้นไป ซึ่ง iPhone จะมีกันสั่น ภาพวิดีโอไม่สั่นไหว ส่วนความจุของเครื่อง ควรเลือกขนาด 64 GB ขึ้นไป แต่หากงบน้อยมาก การเลือก 32 GB จำ เป็นจะต้องหาซื้อ OTG Lightning และ แฟลชไดรฟ์ หรือคอมพิวเตอร์มือสองราคา 2-3 พันบาทขึ้นไป มาเป็นเครื่องไว้สำรองข้อมูลใน iPhone ไปเก็บเอาไว้ ใช้ iPhone ทำวิดีโอแต่ละคลิป ตัดต่อเสร็จแล้ว ก็สำรองเก็บไว้ และลบข้อมูลในเครื่องออกไป
วิดีโอนี้ถ่ายทำ และตัดต่อด้วย iPhone 7
วิดีโอที่ในภาพมีการเคลื่อนไหว เคลื่อนที่ iPhone จะทำได้ดี เพราะมีกันสั่น แต่ต้องเป็น iPhone 7 ขึ้นไป ตัวอย่างเปรียบเทียบกับแอนดรอยด์
อุปกรณ์เสริมมีราคาสูง
อุปกรณ์เสริมอาจจะแยกเป็น 2 ประเภท 1. อุปกรณ์เสริมสำหรับใช้งานทั่วไป กรณีนี้จะมีแค่เคสกับฟิล์ม ราคาไม่กี่ร้อยบาท 2. อุปกรณ์เสริมสำหรับใช้เครื่องทำงาน เช่น ตัดต่อวิดีโอ ถ่ายวิดีโอ ก็จะต้องมีอุปกรณ์ต่างๆ อย่าง ขาตั้งมือถือ รีโมทชัตเตอร์บลูทูธ ไมค์ต่อภายนอก ฯลฯ รวมแล้วจะไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทขึ้นไป
ความนิ่งของระบบ
ความนิ่งของระบบ iPhone จะนิ่งมากกว่า แอนดรอยด์ หากสักแต่ใช้ไม่มีความรู้ เป็นมือใหม่ไม่รู้อะไรมาก การใช้ iPhone จะไม่มี ปัญหารบกวน เช่น การติดตั้งแอปที่ไม่ตั้งใจ ทำไปเพราะไม่รู้ว่า สิ่งที่ทำนั้น เป็นการติดตั้งแอป และแอปนั้นก็สร้างปัญหา มีโฆษณาโผล่ ขึ้นมารบกวน เป็นต้น
แต่การใช้มือถือแอนดรอยด์ จำเป็นจะต้องมีความรู้พื้นฐาน ต่อไปนี้ เครื่องก็จะไม่มีปัญหา นิ่งไม่ต่างไปจาก iPhone เช่น 1. รู้จักวิธีลบไฟล์ขยะในเครื่อง 2. รู้จักวิธีเคลียร์แรมให้เพิ่มมากขึ้น 3. รู้จักวิธีปิดแอปเมื่อเครื่องเริ่มทำงานช้า 4. รู้จักวิธีติดตั้งแอป ถอนแอปออกจากเครื่อง เพื่อจะไม่พลาดไปติดตั้งแอปที่สร้างปัญหาให้เครื่องในภายหลัง 5. ติดตั้งแอปตรวจและป้องกันไวรัส ป้องกันการถูกล้วงความลับในเครื่อง 6. ใช้แอปมาตรฐาน สำหรับเครื่องที่เอาไว้ใช้งานจริง เช่น สแกนรับเงิน จ่ายเงิน ใช้แอปทั่วไป แอปธนาคาร ถ้าจะติดตั้ง ทดลองใช้แอ ปต่างๆ ควรหาเครื่องมาไว้ทดลองโดยเฉพาะ แยกกันให้ชัดเจน
หลังจากที่ได้ลองใช้ iPhone มาประมาณ 2 เดือนกว่า การใช้ iPhone แทบจะไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้เลย อาจจะมีบ้าง สำหรับคน ใช้รุ่นพื้นที่เก็บข้อมูลน้อย และชอบถ่ายวิดีโอ ถ่ายภาพ เพราะเมื่อลบภาพถ่าย หรือ ลบวิดีโอแล้ว iPhone จะยังคงเก็บไว้ในถังขยะใน เครื่อง ยังไม่ลบออกไป ต้องตามไปลบอีกรอบ ทำให้พื้นที่เหลือน้อย นี่น่าจะเป็นเรื่องเดียวที่ต้องรู้ และต้องทำบ่อยๆ สำหรับผู้ใช้ iPhone ที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลน้อย
ขนาดของวิดีโอค่อนข้างใหญ่
กรณีใช้เครื่องความจุน้อย 32 GB การถ่ายวิดีโอบ่อยๆ ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้พื้นที่ในเครื่องเต็มเร็วมาก แต่ก็มีวิธีแก้ไขได้ด้วย การ ลดขนาดวิดีโอใน iPhone ให้เล็กลง ประหยัดพื้นที่ด้วยแอป VLLO หรือก็อปปี้สำรองเก็บไว้ในแฟลชไดรฟ์
การก็อปปี้ไฟล์เข้าออกเครื่อง
การก็อปปี้ไฟล์ออกจากเครื่องไม่ยาก เสียบแฟลชไดรฟ์แล้วก็อปปี้ได้เลย แต่การก็อปปี้ไฟล์จากแหล่งอื่นเข้า iPhone จะไม่ง่าย สำหรับมือใหม่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับมือถือ ไม่มีผู้รู้ใกล้ตัว และขี้เกียจเรียนรู้ อย่างการนำเพลง MP3 ไปฟังในเครื่อง จะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ก็เลี่ยงได้ ด้วยการใช้เน็ตรายปี แล้วฟังออนไลน์ไปเลย
มีค่าใช้จ่ายสูงตามมา
หากเน้นใช้ iPhone ทำงาน จำเป็นจะต้องซื้อแอป ซื้อสื่อ ซื้อเพลง ซื้อบริการต่างๆ เพื่อให้การทำงานไหลลื่น มีรายจ่ายตามมา แม้ กระทั่งชั่วโมงเน็ต เน็ตความเร็วช้า ก็อาจจะมีปัญหา เน็ตแทบไม่วิ่งเลย อีกทั้งการรับส่งข้อมูล การใช้แอปบางตัวจะต้องเชื่อมต่อเน็ต ดัง นั้น จะต้องใช้ซิมเน็ตกับ iPhone
ควรมีมือถือสำรอง
ในการใช้งาน iPhone นั้นควรจะมีมือถือสำรอง อาจหาซื้อมือถือแอนดรอยด์ราคาถูกมาไว้ใช้ร่วมกันสักเครื่อง เอาไว้สำรองข้อมูลใน iPhone ไปเก็บไว้ เอาไว้ใช้เมื่อแบตเตอรี่ iPhone หมด หรือเครื่องมีปัญหา ก็ใช้อีกเครื่องหาข้อมูล เพื่อแก้ปัญหา เป็นต้น
การซ่อม iPhone
กรณีเครื่องมีปัญหา เปลี่ยนจอ เปลี่ยนแบตเตอรี่ จะมีผู้ให้บริการออนไลน์ ส่งเครื่องไปให้ซ่อมที่บ้าน ราคาถูกกว่า ไปซ่อมตามห้าง ดังนั้น การซื้อเครื่องมือสอง เครื่องรุ่นเก่ามาใช้ จึงไม่ต้องกังวล
iPhone สามารถตรวจสอบข้อมูลเครื่องได้
มือถือ iPhone จะมีหมายเลขประจำเครื่อง ที่สามารถเอาไปตรวจสอบกับทางเว็บไซต์ Apple ได้ ว่าเป็นเครื่องแท้ เครื่องประกอบใหม่ มีการเปลี่ยนอุปกรณ์อะไรบ้าง เปลี่ยนกล้อง เปลี่ยนจอ เปลี่ยนแบตเตอรี่ ฯลฯ สามารถตรวจสอบได้ อย่าง iPhone 7 เครื่องนี้ เป็น เครื่องประกอบใหม่เดิมเป็นสีดำ พื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง 128 GB แต่ที่ได้มาเป็นเครื่องสีทอง พื้นที่เก็บข้อมูล 32 GB อายุเครื่อง ประมาณ 4 ปี
iPhone ที่ลงขายในเน็ต
ในเน็ตจะมี iPhone ลงขายหลายเว็บไซต์ จะมีทั้งเครื่องใหม่จริงๆ เครื่องแท้ เครื่องนำมาประกอบใหม่ เครื่องแท้มือสอง ต้องดูข้อมูล การรีวิวของลูกค้าที่ได้ซื้อเครื่องไปใช้ ว่าผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง ดีไม่ดี แล้วก็ตัดสินใจเอาเอง
ควรใช้เน็ตรายปีกับ iPhone
ที่แนะนำแบบนี้ก็เพราะว่า เพื่อให้สามารถใช้ iPhone ในเรื่องความบันเทิงได้อย่างคุ้มค่า เช่น อยากฟังเพลง ก็ฟังในแอป หรือ ยูทูป ดูวิดีโอ ไม่ต้องเสียเวลาก็อปปี้เพลงเข้าไปในเครื่องเพื่อเปิดฟัง อยากจะใช้แอปที่ต้องเชื่อมต่อเน็ต ก็ใช้ได้เลย เช่น แอปธนาคาร หรือ การถ่ายโอนข้อมูลข้ามระบบ เช่น ถ่ายโอนไปคอมพิวเตอร์ หรือ มือถือแอนดรอยด์
ควรมี iPhone หรือ iPad สำรอง
เมื่อเลือกจะใช้ iPhone ก็ควรซื้อเครื่องยี่ห้อเดียวกัน ไว้ใช้งานร่วมกัน เช่น iPad สักเครื่อง เอาไว้ใช้งานหนักๆ กินเวลานาน เช่น ดู หนัง ฟังเพลง ส่วน iPhone เอาไว้ติดต่องาน ไม่เน้นงานหนัก เพราะแบตเตอรี่ใช้งานได้ไม่นานเหมือน iPad จะให้ดีควรเลือกรุ่นความจุสูง เอาไว้สำรองข้อมูลของ iPhone
การซื้อ iPhone มาช่วยทำมาหากิน
เราอาจจะเห็นวิดีโอรีวิว แนะนำ iPhone สอนใช้ iPhone เล่นเกม สอนเล่นเกม แคสเกม ล้วนใช้ iPhone เพื่อช่วยสร้างรายได้ อย่าง การทำช่องยูทูปสอน iPhone บางช่องผู้ติดตามหลักแสน หลักล้าน รายได้อย่างน้อยๆ ก็หลักหมื่น หรือหลักแสนบาทต่อเดือน เช่นกัน
บางคนใช้ iPhone ช่วยเสริมภาพลักษณ์ตัวเองให้ดูดีขึ้น ดูน่าเชื่อถือ ก็มีส่วนทำให้การติดต่อทางธุรกิจเป็นไปได้ด้วยดี เป็นต้น
งานที่ต้องทำนั้น ใช้ iPhone สะดวกหรือไม่
สิ่งที่จะทำให้ iPhone ที่ซื้อมา มีความคุ้มค่า ก็ต้องมาวิเคราะห์งานของตัวเองเสียก่อน ตัวอย่าง ผู้เขียนเน้นตัดต่อวิดีโอ ใช้ iPhone จบ ถ่ายวิดีโอ นำวิดีโอไปตัดต่อ แล้วอัปโหลดเข้าช่อง ยูทูป คุณภาพวิดีโอใช้งานได้เลย เป็นต้น
นอกจากนี้ก็ต้องดูด้วยว่า แอปนั้นๆ รองรับ iPhone รุ่นใดด้วย เพื่อให้สามารถทำงานได้ไหลลื่น หรือสามารถใช้งานได้ อย่างการตัด ต่อวิดีโอ iPhone รุ่นใหม่ๆ จะยิ่งดีกว่า เร็ว แรง กล้องดีกว่ารุ่นเก่า เป็นต้น
การใช้งานร่วมกับมือถือแอนดรอยด์
สำหรับใครที่คิดจะนำ iPhone มาใช้งานร่วมกับมือถือแอนดรอยด์ โดยเฉพาะการรับส่งไฟล์ระหว่างเครื่อง ควรจะมีคอมพิวเตอร์ หรือ โน้ตบุ๊คเป็นสื่อกลาง ถ่ายโอนข้อมูลจะทำได้เร็วกว่า ใช้แฟลชไดรฟ์ ส่วนการใช้ผ่านช่องทางอื่นจะต้องต่อเน็ต
สรุป
สำหรับมือใหม่ใช้แอนดรอยด์ แต่อยากจะใช้ iPhone หากเน้นใช้งานทั่วไป ก็ใช้งานได้สบายๆ ไม่มีปัญหาอะไร ใช้ซิมเน็ตแบบรายปี เพื่อเอาไว้ดูหนัง ฟังเพลง ทำงาน ติดต่องาน หากไม่ได้ใช้เครื่องทำงานหนัก อย่างการตัดต่อวิดีโอ ถ่ายภาพ ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปใช้ เครื่องรุ่นใหม่ ใช้เครื่องรุ่นกลางๆ ก็พอแล้ว ตัวอย่างขณะนี้ iPhone 13 เป็นรุ่นล่าสุด ราคาหลายหมื่นบาท ผู้เขียนเลือกใช้แค่ iPhone 7 ราคา 4-5 พันบาท ก็ใช้งานได้ อีก 2-3 ปี หากไม่สามารถอัปเดตเป็น iOS ล่าสุดได้ ก็ค่อยเปลี่ยน อาจจะใช้ iPhone 8, X หรือ 11 เป็นต้น ประหยัดเงินหลายหมื่นบาทเลยทีเดียว แต่ก็ยังได้ใช้ระบบปฏิบัติการล่าสุด