การทำอาชีพส่วนตัวอาชีพอิสระในปัจจุบันมีความเสี่ยงที่จะทำให้ไปไม่รอด ต้องปิดกิจการด้วยหลายสาเหตุ ซึ่งบางที เราก็คิดไม่ทัน คาดไม่ถึง ไม่มีประสบการณ์ ดังนั้นจึงต้องเตรียมรับมือ เพราะบางทีสิ่งเหล่านั้นก็เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน รับมือไม่ทัน เช่น การเกิดโรคระบาด ทำให้ร้านค้า ร้านอาหาร หน่วยงานต่างๆ ผู้คนได้รับผลกระทบไปทั้งหมด หลายคนปรับตัวมาทำงานออนไลน์ ก็เลยรอด เป็นต้น

วิกฤตต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นและส่งผลต่อการทำอาชีพอิสระ อาชีพส่วนตัว ซึ่งอาศัยตัวเองเป็นจุดแข็งในเรื่องความมั่นคงของรายได้ในแต่ละเดือน จำเป็นต้องหมั่นศึกษาหาข้อมูล วิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ รอบตัว เพื่อเตรียมรับมือ แม้ว่า เหตุการณ์ สถานการณ์บางอย่างนั้นอยู่ไกลตัวมากก็ตาม

 

อย่างการเกิดสงครามในตะวันออกกลาง ก็ยังส่งผลกระทบต่อประเทศไทย คนไทย เพราะมีเรื่องน้ำมันเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าน้ำมันแพงขึ้น ต้นทุนการผลิตก็สูงขึ้น รายจ่ายก็เพิ่มมากขึ้นทันที

 

ดังนั้นจึงต้องเตรียมรับมือด้วยการศึกษาหาข้อมูล และพิจารณาดูว่า งานที่เราทำอยู่นั้น จะมีโอกาสได้รับผลกระทบหรือไม่ ตัวอย่างเช่น

 

ร้านอาหาร เครื่องดื่ม

อาหารเป็นสิ่งจำเป็นที่คนเราต้องกินทุกวัน ธุรกิจที่เกี่ยวกับปากท้อง ยากจะล้มหายตายจาก ร้านอาหารจึงยังสามารถดำเนินต่อไปได้ หากทางร้านไม่สร้างปัญหาให้ตัวเอง ด้วยการสร้างหนี้ สร้างรายจ่ายจำนวนมาก เพราะบางคน เมื่อร้านเริ่มจะไปได้ดี ก็รีบสร้างหนี้เร็วเกินไป เช่น ผ่อนรถยนต์ใหม่ ซื้อบ้าน ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ทำให้มีภาระต้องใช้จ่ายมากขึ้น หรือมีค่าเช่า ค่าจ้างลูกจ้าง ฯลฯ
ส่วนวิกฤติที่อาจจะเจอและส่งผลทำให้ร้านอาหารมีปัญหา ก็อย่างที่เคยเกิดขึ้น เช่น โรคระบาดโควิดที่ผ่านมา หรือกรณีเปิดร้านอาหารใกล้โรงเรียน ช่วงปิดเทอม รายได้จะลดลง หากมีหนี้ มีรายจ่ายสารพัด ความเสี่ยงก็จะมากยิ่งขึ้น

ส่วนแนวทางป้องกันความเสี่ยง
1. ลดการสร้างหนี้ จนกว่าจะแน่ใจว่า มีรายได้ มีเงินทุนสำรองมากพอ ไม่เดือดร้อน หากต้องเจอกับวิกฤติต่างๆ เพราะเวลามีปัญหาเกิดขึ้น บางทีก็จะมีปัญหาอื่นซ้ำเติม บางคนเปิดร้านอาหาร ปิดเทอม นักศึกษากลับบ้าน ลูกค้าน้อยมาก ซ้ำพ่อแม่หรือสมาชิกในครอบครัว เกิดป่วยขึ้นมาอีก ร้านก็ต้องปิด คนก็ต้องช่วยกันดู เงินก็มีแต่จ่ายกับจ่าย หากมีหนี้ มีรายจ่ายค่อนข้างมาก ชีวิตลำบากแน่นอน

2. สร้างรายได้หลายช่องทาง ไม่ใช่มีรายได้ทางเดียว จากลูกค้าที่มาซื้ออาหารในร้าน เช่น การทำสินค้าของตัวเอง ขายเสริมในร้าน หรือ ผ่านช่องทางอื่น บางคนมีหน้าร้าน ก็ให้คนมาเช่าพื้นที่หน้าร้าน เป็นต้น

 

การให้บริการผ่านเว็บไซต์ ขายสินค้า ให้บริการข้อมูล

เว็บไซต์เป็นอีกหนึ่งช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ เช่น ขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ หรือหาเงินจากการคลิกโฆษณาอย่าง Google Adsense การเข้ามาอ่านข้อมูลในเว็บไซต์ ผ่านมือถือ ไม่สะดวก เมื่อเทียบกับการดูวิดีโอ อย่างใน Tiktok, Facebook, Youtube

เมื่อความนิยมของผู้คนเปลี่ยนไป จึงทำให้รายได้จากการทำเว็บไซต์ลดลง ซึ่งผู้ที่ทำอาชีพแนวนี้จะเป็นคนกลุ่มน้อย และมีความรู้ในเรื่องเทคโนโลยี่ค่อนข้างดีอยู่แล้ว การปรับตัวจึงไม่อยาก

ส่วนแนวทางป้องกันความเสี่ยง
ใครที่ยังจะทำเว็บไซต์ หรือสื่อให้ความรู้ต่างๆ ก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้เหมาะสม เพื่อเอาตัวรอด ด้วยการปรับเปลี่ยนเนื้อหาหรือ คอนเทนต์ เช่น นำเนื้อหาไปทำวิดีโอ แทนที่จะให้อ่านจากหน้าจอเว็บไซต์หรือบล็อกอย่างเดียว เป็นต้น

 

ร้านขายของชำ มินิมาร์ท

ร้านขายของชำ ร้านมินิมาร์ท ในหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ก็จะไปซื้อสินค้าในห้างใหญ่ๆ มาขายต่อ เช่น Makcro หากเป็นร้านที่ยังอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง เป็นร้านในหมู่บ้าน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ก็จะยังคงไปได้ แต่หากเมืองเริ่มขยายตัว มี 7-11 BigC Lotus น้อย เข้ามา พฤติกรรมของผู้คนก็จะเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มไปใช้บริการร้านสะดวกซื้อเหล่านี้ เพราะมีสินค้าให้เลือกมากกว่า

ส่วนแนวทางป้องกันความเสี่ยง
สำหรับใครที่เปิดร้านสะดวกซื้อ จำเป็นต้องปรับตัว ต้องวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ว่า บรรดาร้านสะดวกซื้อยอดนิยมต่างๆ จะมีโอกาสเข้ามาเปิดใกล้บ้านหรือไม่ ถ้ามีโอกาสมาเปิดใกล้ๆ ก็ต้องเตรียมตัวรับมือ เช่น อย่าสร้างหนี้ ลดรายจ่าย สร้างสินค้าของตัวเอง สร้างรายได้หลายทาง หรือไม่ก็เตรียมเลิกกิจการ เซ้งปล่อยให้คนอื่นทำต่อ

บางคนปรับตัวทัน รีบหยุดกิจการ หรือปล่อยให้คนอื่นทำต่อ ก็รอดตัวไป เพราะ 7-11 มาเปิดใกล้ๆ ห่างไม่ถึง 1 กิโลเมตร ทำให้ได้รับความนิยมมากกว่า รายได้ของร้านก็เริ่มมีปัญหา เฉพาะค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ ก็หลักหมื่นต่อเดือนแล้ว

 

ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า งานฝีมือ

งานตัดเย็บ เสื้อผ้า กางเกง กระเป๋า หรือ สินค้าที่ทำจากผ้า จะมีสินค้าจากจีนเข้ามาเยอะมาก การขายสินค้าของตัวเองในลักษณะนี้ จึงไม่ง่ายนัก กับการทำตลาด เพราะจะโดนสินค้าจากจีนแย่งตลาดไปเสียก่อน อีกทั้งการก็อปปี้ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเร็วมาก เช่นกัน

ส่วนแนวทางป้องกันความเสี่ยง
การผลิตสินค้าประเภทนี้ หลายคนเอาตัวรอดด้วยการสร้างตัวตน เป็นเจ้าของสินค้านั้นๆ ให้ผู้คนติดตามทั้งเจ้าของ ทั้งสินค้า ก็จะป้องกันการก็อปปี้ และ สินค้าราคาถูกจากจีนแย่งตลาดได้ ในระดังหนึ่ง

ส่วนบางคนก็มีช่องทางสร้างรายได้ให้ตัวเอง ที่ยากจะเลียนแบบ อย่างการรับแก้ไข แก้ทรง ขนาดเสื้อผ้า กางเกงเพราะเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ซื้อมานั้น จะไม่พอดีตัว จำเป็นต้องแก้ไข แก้ทรง ดังนั้นหากไม่มีงานตัดเย็บ ก็ยังมีงานในลักษณะนี้รองรับ ซึ่งหาช่างได้ไม่ง่ายนัก

 

การผลิตสินค้าของตัวเองแบบต่างๆ

การผลิตสินค้าเป็นของตัวเอง เป็นสิ่งจำเป็น ที่จะต้องทำ โดยอาจจะเริ่มจากการต่อยอดจากงานที่ทำอยู่ หรือไม่ก็ทำสินค้าที่ต่างออกไป หลังจากมีสินค้าเป็นของตัวเองแล้ว การทำการตลาด ก็มีหลายช่องทาง เช่น ขายเองผ่านหน้าร้าน การขายผ่านโซเชียล ฯลฯ

แต่สิ่งสำคัญก็คือ ต้องวางแผนกระจายสินค้าให้ดี เพราะการก็อปปี้สินค้าจะเกิดขึ้นเร็วมาก หากกระจายสินค้าได้เร็ว ก็จะมีโอกาสขายได้เร็ว คืนทุนเร็ว และมีกำไร กระจายสินค้าได้ช้า จะเสียเปรียบคนที่มีทุนหนา และเก่งการตลาดมากกว่า เมื่อครั้งที่ผู้เขียนยังทำหนังสือขาย บางทีขายได้ไม่ถึงเดือน ก็มีคู่แข่งทำหนังสือเรื่องเดียวกันออกมา ก็ขายแทบไม่ได้

ยิ่งในโลกโซเชียลแบบนี้ด้วยแล้ว หากวางแผนไม่ดี แม้จะมีสินค้าดี ก็อาจจะขายได้ไม่มาก ยอดขายไม่ดี เพราะสู้สินค้าเลียนแบบหรือก็อปปี้ไม่ทัน

ส่วนแนวทางป้องกันความเสี่ยง
การผลิตสินค้าเป็นของตัวเอง เป็นเรื่องดี สินค้าช่วยทำงานแทนเราได้ ส่วนการป้องกันความเสี่ยง จำเป็นจะต้องสร้างตัวตน ถึงการเป็นเจ้าของสินค้า ให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าของแท้ ก็จะช่วยป้องกันการก็อปปี้ได้ในระดับหนึ่ง

การสร้างฐานลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Facebook, Tiktok, Youtube ฯลฯ เพราะลูกค้าจะมีส่วนช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืน
เมื่อมีสินค้าเป็นของตัวเองแล้ว ต้องศึกษาวิธีกระจายสินค้าให้เร็ว ติดต่อกับผู้ผลิตที่สามารถผลิตสินค้าได้จำนวนมาก เพราะหากสินค้าไปได้ดี ก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องการผลิต ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันคู่แข่งที่จะเลียนแบบหรือก็อปปี้ อีกทั้งการผลิตจำนวนมาก ต้นทุนจะต่ำกว่า สามารถลดราคามาแข่งขันได้

 

การขายสินค้าของคนอื่น นำสินค้ามาขายต่อ

การขายสินค้าของคนอื่น อาจจะมีหน้าร้าน หรือ เปิดร้านแล้วนำสินค้าของคนอื่นมาขาย เช่น ร้านทุกอย่าง 20 บาท ร้านขายเสื้อผ้า ฯลฯ ปัจจุบัน สินค้าที่นำเข้ามา ก็จะเป็นสินค้าราคาถูกจากจีน ซึ่งก็จะมีผู้คนเปิดร้านในลักษณะเดียวกัน ไม่น้อย

นอกจากนี้ก็จะมีอาชีพในลักษณะที่เป็นนายหน้าขายสินค้า ซึ่งปัจจุบัน (ปี 2024) กำลังได้รับความนิยม โดยใครที่สนใจ ก็อาจจทำเพจเฟสบุ๊ค หรือ ทำช่อง TIktok, Youtube ฯลฯ เพื่อสร้างผู้ติดตาม จากนั้นก็ไปสมัครเป็นสมาชิกร้านค้า แล้วนำสินค้ามาขาย และบรรดาผู้ติดตามเหล่านี้นั่นเอง ที่จะเป็นลูกค้าซื้อสินค้า

ส่วนแนวทางป้องกันความเสี่ยง
การนำสินค้าของคนอื่นมาขายอย่างการเป็นนายหน้าขายสินค้าจะไม่มีความเสี่ยงมาก เหมือนกับกาเปิดร้าน รซื้อสินค้ามาขายต่อ ที่เราจะพบเห็นได้ทั่วไป เพราะจะต้องจ่ายเงินออกไปเพื่อซื้อสินค้ามาขาย แต่จะมีความเสี่ยงในเรื่องรายได้ เพราะเป็นการทำงานที่ไม่ต้องลงทุนมาก และใครๆ ก็สามารถทำได้ จึงมีคู่แข่งค่อนข้างมาก อีกทั้งเป็นการทำงานบนระบบของคนอื่น การทำผิดกฏ ร้านหรือช่องก็จะถูกปิด รายได้จะหายไปทันที

บางคนทำช่อง Tiktok, Facebook เพจ Youtube ฯลฯ มีผู้ติดตามจำนวนมาก มีรายได้จากการขายสินค้าค่อนข้างมาก โดยการเป็นนายหน้าขายสินค้า แต่อาจจะมีเหตุให้ช่องโดนปิด รายได้ ก็จะหายไปทันที ดังนั้นนี่คือความเสี่ยงที่จะต้องเตรียมตัวรับมือ ระวังการสร้างรายจ่าย สร้างหนี้ผูกพันระยะยาว อย่างการผ่อนรถ ผ่อนบ้าน เพราะหากรายได้ขาดหายไป จะสร้างปัญหาให้ชีวิตทันที

 

การให้บริการมือถือ การให้บริการเกี่ยวกับมือถือ

สำหรับผู้ให้บริการเกี่ยวกับมือถือ ช่างซ่อมมือถือ เมื่อก่อนอาจจะมีงาน มีรายได้ดี เพราะผู้คนส่วนใหญ่ซ่อมมือถือเองไม่เป็น ทางร้านซ่อมจะเรียกค่าบริการเท่าไร ก็ต้องจ่าย อย่างผู้เขียนต้องการเปลี่ยนจอแท็บเล็ต ไปสอบถามราคาร้านค้าตามห้าง คิด 2,200 บาท แต่การมียูทูป ก็จะมีวิดีโอสอน สามารถศึกษาและทำเองได้ เสียเงินซื้ออะไหล่เองประมาณ 400 บาท เท่านั้นเอง

เมื่อการซ่อมมือถือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆ สามารถทำเองได้ อีกทั้งราคามือถือก็ถูกลงมาก ตัวเลือกมีมาก หากค่าซ่อมแพงมาก ก็จะตัดสินใจไม่ยากในการซื้อเครื่องใหม่ ดังนั้น เราก็จะพบว่า คนที่ทำอาชีพเป็นช่างซ่อม จะน้อยลง

ส่วนแนวทางป้องกันความเสี่ยง
ร้านซ่อมมือถือส่วนใหญ่ ก็จะมีบริการอื่นๆ นอกเหนือจากการซ่อมอยู่แล้ว เช่น ขายเครื่อง ขายซิม ส่วนบางคน ก็จะทำวิดีโอให้ความรู้ โดยเฉพาะผู้ที่เคยเป็นช่างมาก่อน บางคนก็ปรับตัว ทำช่องยูทูป ช่อง Tiktok มีรายได้มากกว่า การซ่อมมือถือเสียอีก เช่น ช่อง ครูหนึ่งสอนดี

 

สินค้าประเภทให้ความรู้ หนังสือ วิดีโอ คอร์ส

การให้ความรู้ในรูปแบบต่างๆ ทั้ง หนังสือ วิดีโอ คอร์ส อีบุ๊ค สไลด์ นอกจากการให้ฟรีแล้ว ก็จะมีช่องทางสร้างรายได้ อาจจะขายคอร์ส หรือติดโฆษณากรณีเป็นบทความในเว็บไซต์ หรือ วิดีโอ สำหรับใครที่มีรายได้จากบริการเหล่านี้ โดยเฉพาะทำงานคนเดียว กำลังผลิตจำกัด อาจจะสู้ทุนใหญ่ไม่ได้

เว็บไซต์ขนาดใหญ่เช่น แนวชอปปิ้ง ต่างพากันสร้างบทความ สร้างเนื้อหาเป็นของตัวเอง แทนการไปลงโฆษณาในเว็บไซต์อย่างที่เคยทำ ด้วยความที่มีทุนมาก การทำบทความก็จะทำได้เร็วกว่า มากกว่า ดังนั้นใครที่ให้บริการข้อมูล ให้ความรู้ แนวรีวิวสินค้า จึงต้องศึกษาในเรื่องนี้ เพราะหากทำบทความได้น้อยลง ไม่นาน ก็จะหายไปจากระบบ ที่เห็นได้ชัด ก็เว็บไซต์ขนาดเล็กจะเริ่มหายไป เพราะคนทำมีรายได้น้อย สู้เว็บใหญ่ไม่ได้

ในขณะที่การทำวิดีโอนั้น ปัจจุบันก็มี AI สามารถดึงบทความ เนื้อหา ความรู้ ในหนังสือ เว็บไซต์ ไปทำวิดีโอแบบอัตโนมัติได้ ซึ่งทำได้เร็วกว่าการใช้คน ใครที่ทำช่องยูทูป ทำวิดีโอให้ความรู้ มีโอกาสได้รับผลกระทบในอนาคตอย่างแน่นอน

ส่วนแนวทางป้องกันความเสี่ยง
สำหรับใครที่ให้สร้างรายได้จากการให้ความรู้ เว็บไซต์ บล็อก ช่องวิดีโอ จำเป็นต้องป้องกันความเสี่ยงให้ตัวเอง เช่น นำเนื้อหาหรือความรู้ที่มีไปแปลงเป็นสื่อหลายๆ แบบ ทำเป็นสไลด์ วิดีโอ อีบุ๊ค ฯลฯ

การศึกษาการใช้ AI ช่วยในการสร้างเนื้อหา จะช่วยให้การทำงานทำได้เร็วมากขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้สามารถสู้กับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ ที่มีทุนมากกว่าได้

 

สินค้าที่คู่แข่งมีทุนมากกว่า กำลังผลิตมากกว่า ราคาถูกกว่า

ทุนใหญ่ เจ้าใหญ่กว่า จะมีกำลังผลิตมากกว่า ทำราคาได้ถูกกว่า และยังมีช่องทางได้เปรียบอีกมาก แต่สิ่งสำคัญก็คือ ต้องศึกษาว่า ธุรกิจ หรือ อาชีพส่วนตัวของเรานั้น จะมีโอกาสได้รับผลกระทบหรือไม่ ซึ่งมีกรณีศึกษาหลายอย่าง เช่น>
- การขยายสาขาของ 7-11 ไปใกล้ชุมชนมากขึ้น โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งจะมีร้านขายของชำในหมู่บ้าน เริ่มได้รับผลกระทบ เพราะผู้คนนิยมไป 7-11 มากกว่า มีสินค้ามากกว่า
- การทำเว็บไซต์ เจ้าใหญ่อย่าง True, Shopee, Wongnai ฯลฯ ต่างพากันลงมาทำบทความกันเองแล้ว เพื่อสร้างฐานผู้เข้าชม และเปลี่ยนให้เป็นลูกค้าในอนาคต จากที่เมื่อก่อนจะใช้บริการเว็บไซต์ต่างๆ แนวรีวิว ท่องเที่ยว แนะนำร้านอาหาร ไปลงโฆษณากับเว็บไซต์เหล่านั้น แต่การมาทำเอง ทุนใหญ่กว่า กำลังผลิตย่อมจะมากกว่า สุดท้าย เว็บไซต์ หรือสื่อขนาดเล็ก ก็จะหายไปอย่างแน่นอน ลองสังเกตว่า ค้นหาอะไรก็ตาม เว็บไซต์ใหญ่ๆ จะมาอยู่ลำดับต้นๆ
- สำหรับกรณีนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง ก็คือ ธุรกิจอาหาร เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ต่างๆ มีหลายร้านเปิดในรูปแฟรนไชส์ แต่หากมีเจ้าใหญ่ ทุนหนา ลุยเปิดร้าน ทำสาขาเอง ขยายตัวไปทั่วทุกที่ เหมือนซีเอ็ดเคยเปิดร้านหนังสือตามห้างต่างๆ ก็ย่อมจะส่งผลทำให้ร้านอาหารทั่วไป ได้รับผลกระทบแน่นอน
- การผลิตสินค้าชนิดอื่นๆ ซึ่งก็ยังมีอีกมาก ที่ผู้มีทุนมากกว่า ย่อมจะได้เปรียบ อย่างสินค้าจากจีน ที่เริ่มครองตลาดในประเทศไทยอย่างมากแล้ว มีแต่สินค้าจากจีนทั้งนั้น การผลิตสินค้าแบบเดียวกันไปขายแข่ง เป็นเรื่องยาก ในเรื่องราคาและต้นทุน

ส่วนแนวทางป้องกันความเสี่ยง
ธุรกิจที่ต้องต่อสู้สู้กับทุนที่ใหญ่กว่า ย่อมเป็นเรื่องยาก จำเป็นต้องศึกษาให้รู้เขารู้เรา จุดเด่น จุดแข็ง ของเราอยู่ตรงไหน เช่น เป็นร้านอาหาร ร้านเป็นของเราเอง ไม่ต้องเช่า ไม่มีหนี้ รถไม่ต้องผ่อน รายจ่ายน้อยมากๆ สินค้าที่ขายก็จะสามารถขายในราคาที่ถูกกว่า แต่ยังได้กำไรที่รับได้ ก็ย่อมจะยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปได้ มีลูกค้า เพราะราคาไม่แพง ถือเป็นจุดแข็งของทางร้าน เป็นต้น

ส่วนจุดอ่อนของเรานั้น ก็ต้องศึกษาด้วยเช่นกัน เช่น รายจ่ายมีอะไรบ้าง ที่ค่อนข้างมาก และหากเกิดปัญหาขึ้นมา ก็จะส่งผลกระทบต่องานทันที ตัวอย่าง มีรายจ่ายทั้งการส่งเสียดูแลบุตรหลาน ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ร้านค้าก็ต้องเช่า มีลูกจ้าง จะเห็นว่า นี่คือจุดอ่อน ที่จะต้องรีบหาทางปิดให้เร็ว เพราะถ้าทุนใหญ่ลงมาเล่นกับธุรกิจที่เราทำเมื่อไร ก็ไปไม่รอดแน่นอน

 

ระบบอัตโนมัติ AI กับอาชีพส่วนตัวบางประเภท

การมาของระบบ AI จะได้รับผลกระทบกับบางสายงานที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์เข้าไปช่วยได้ เช่น การทำเว็บไซต์ อย่างการเขียนบทความแบบนี้ สามารถใช้ AI เขียนแทนได้ การทำวิดีโอ การวาดภาพ ดังนั้นใครที่ทำงานแนวนี้ ก็ต้องเตรียมรับมือ

ส่วนแนวทางป้องกันความเสี่ยง
0แนวทางป้องกันความเสี่ยงก็คือ จำเป็นต้องศึกษาและหาทางนำความสามารถของ AI มาประยุกต์ใช้กับงานของเรา เพื่อจะได้ลดต้นทุน ลดพนักงาน ลดรายจ่าย หรือ ให้พนักงาน ศึกษาและใช้ประโยชน์จาก AI ให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถผลิตผลงานออกมาได้มากขึ้น เป็นต้น
AI สามารถช่วยงานเราได้หลายแบบ สำหรับคนทั่วไป ก็คือ การคิดเนื้อหาสำหรับการทำวิดีโอ หรือข้อความเอาไว้โพสต์ในเฟจเฟสบุ๊ค ซึ่งเป็นสื่อประเภทหนึ่งที่ช่วยสร้างฐานผู้เข้าชม ผู้ติดตาม ได้ บางคนทำวิดีโอโพสต์ลงเฟสบุ๊คบ่อยๆ แนะนำร้านค้า ก็ทำให้คนในพื้นที่รู้จักร้านของตนเองมากขึ้น มีลูกค้าหน้าใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น มีฐานลูกค้ามากขึ้น

อ่านบทความ การใช้ AI แต่งเรื่อง เขียนสคริปต์ แต่งนิทาน
-> ลองใช้ AI Gemini ค้นหาข้อมูล แต่งเรื่อง เล่านิทาน แปลภาษา .โอ้..เยี่ยมไปเลย!!!

 

สรุป

ธุรกิจส่วนตัว อาชีพอิสระมีหลายแบบ แต่โดยรวมแล้วก็จะเป็นการทำงานที่มีตัวเองเป็นผู้ลงมือทำทุกอย่าง รับผลประโยชน์หรือความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว ความผิดพลาดใดๆ จึงต้องน้อยที่สุด จึงจะอยู่รอดได้ ในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ เปลี่ยนไปเร็วมาก ดังนั้นต้องหมั่นศึกษา ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับงานของตัวเอง เพื่อจะได้เตรียมรับมือ ก่อนจะสายเกินไป เพราะบางทีก็มา ไม่ทันตั้งตัว ปิดตัวกะทันหัน และอาจจะปิดตัวแบบยาวๆ หากก่อหนี้ไว้มาก มีรายจ่ายมาก ก็ตายกันพอดี

ตัวอย่างการทำเว็บไซต์ในลักษณะนี้ บางคนเคยมีรายได้วันละหลาย $ แต่กลับลดเหลือไม่ถึง 10% ก็มี หากตั้งรับไม่ทัน ก็ลำบากแน่นอน งานต่างๆ ย่อมจะมีผลกระทบทั้งสิ้น ใครหาจุดอ่อนตัวเองเจอก่อน และหาทางป้องกัน จะได้เปรียบ

คนทำช่องยูทูป Tiktok เองก็เช่นกัน บางคนเคยมีรายได้หลักแสน แต่ปัจจุบันเหลือหลัก เพราะประมาท คิดว่าคงจะมีรายได้แบบนี้ไปอีกนาน แต่อาจจะไม่ใช้อย่างที่คิด หากรายได้ลดลง ช่องโดนปิด โดยไม่รู้สาเหตุ