การหาเงินทุกวันนี้ง่ายกว่าเดิม แต่สิ่งสำคัญก็คือ เราจะต้องรู้หลักการเปลี่ยน สิ่งรอบตัวให้เกิดรายได้ เช่น กิจกรรมที่ทำแต่ละวัน งานอดิเรคที่ชอบ ทำไมต้องคิดอะไรให้เป็นเงินเป็นทองมากขนาดนี้ ก็เพื่อไว้รองรับวันที่เป็นขาลงของชีวิต เพราะทุกวันนี้อะไรก็ไม่แน่นอน และสิ่งสำคัญก็คือ ทุกคนมีวันแก่ชรา เมื่อนั้นก็จะเริ่มมีปัญหาในเรื่องการทำงาน เมื่อมีแรงจึงควรหาช่องทางสร้างรายได้ไว้ก่อน
ตัวอย่างการเปลี่ยนกิจกรรมที่ทำหรืองานอดิเรกให้เป็นรายได้แบบต่างๆ
กิจการมที่เราทำนั้นก็มีมากมายหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีช่องทางสร้างรายได้แตกต่างกันไป เช่น
1. การอ่านหนังสือ
หากเป็นคนชอบอ่านหนังสือให้ลองพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกนิด ด้วยการพยายามฝึกเขียนสรุปเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน หรือเรียบเรียงใหม่ให้เป็นภาษาของตัวเอง ข้อมูลเหล่านี้สามารถขายได้ คนที่ซื้อไปอาจจะนำไปทำบทความลงเว็บไซต์หรือนำไปทำวิดีโอแบบเรื่องเล่า หรืออาจจะอ่านแล้วอัดเสียงเก็บไว้ใช้เอง ไว้ทำวิดีโอแบบสไลด์โชว์หรือเรื่องเล่าหรืออ่านหนังสือให้ฟัง เอาไว้แจกโรงเรียนคนตาบอดก็ยังได้บุญ
โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา แทนที่จะเรียนเพื่อทำเกรดอย่างเดียว ก็ควรอ่าน สรุปแล้วเรียบเรียงเนื้อหาวิชาต่างๆ ไว้ทำบทความขาย ทำวิดีโอเรื่องเล่า ติว หรือไว้ทำแอป ก็มีช่องทางสร้างรายได้จากโฆษณา
2. การออกกำลังกายแบบต่างๆ
การออกกำลังกาย บางคนมองว่าเป็นกิจกรรมที่ไร้ประโยชน์ ทำไปแล้วเสียเวลาเปล่า หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องพยายามหาวิธีทำประโยชน์จากการออกกำลังกาย บางคนทำแอปเกี่ยวกับการวิ่ง บางคนผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้อง บางคนก็เลี่ยงไปทำกิจกรรมอื่นแทนการออกกำลังกาย หรือเปลี่ยนการออกกำลังกายให้กลายเป็นคอร์สต่างๆ ด้วยการศึกษาให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ
บางคนเน้นทำสิ่งที่ตัวองชอบวันละไม่กี่ชั่วโมงแทนการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นการผลิตสินค้าขึ้นมา ได้ทั้งเงินได้ทั้งเหงื่อ ไม่เสียเหงื่อ เสียเวลาไปเปล่าๆ กับการออกกำลังกาย
3. การทำงานอดิเรก
งานอดิเรกมีหลายแบบ บางคนชอบวาดภาพ บางคนชอบถักนิตติ้ง ฯลฯ สิ่งที่ควรจะพัฒนาตัวเองให้มากกว่านั้นก็คือ การผลิตเป็นผลงานขึ้นมา เช่น ถักนิตติ้งเป็นหมวกแบบต่างๆ อาจจะมีรูปแบบเหมือนกัน แต่ทำไว้หลายสี ปลายปีก็ปล่อยขายเป็นชุด ได้เงินเป็นก้อน เช่นเดียวกับการวาดภาพ บางคนเน้นวาดภาพลงบนหมวก กางเกงเสื้อผ้า แล้วรอปล่อยขายเป็นชุดๆ รับทรัพย์เป็นก้อนเช่นกัน
4. งานดนตรี
หากชอบเล่นดนตรีก็มีแนวทางพัฒนาตัวเองเพื่อให้มีรายได้ขึ้นมา ด้วยการพยายามออกแบบสไตล์การเล่นของตนเอง ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เลียนแบบใคร หรือทำแบบฝึกหัดสอนเล่นเพลงทุกแนว ทุกเพลง โดยเฉพาะเพลงยอดนิยม ตัวอย่างการจัดทำเป็นคอร์ดกีตาร์เพลงต่างๆ นี่เป็นตัวอย่างการเปลี่ยนความชอบทางดนตรีให้เป็นสิ่งที่จับต้องได้ และสามารถนำไปใช้สร้างรายได้ให้เราได้
6. วางแผนทำกิจกรรมต่างๆ ให้มีความเชี่ยวชาญ เป็นมืออาชีพ
วางแผนทำกิจกรรมหรือทำงานต่างๆ ให้เกิดเป็นความชำนาญ เกิดความรู้ในเรื่องนั้นๆ อย่างมืออาชีพ เช่น แบ่งเวลาวันละ 1 ชั่วโมงในการศึกษาการซ่อมรถ ซ่อมอุปกรณ์อีเล็คทรอนิค ฯลฯ เมื่อเกิดเป็นความชำนาญแล้วก็จะสามารถสร้างอาชีพหรือสินค้าที่เกี่ยวข้องได้
ยังมีกิจกรรมอีกมายมายที่แต่ละคนทำตามความชอบ ตามความฝันของตัวเอง แต่หลักการเปลี่ยนกิจกรรมที่ชอบให้เป็นรายได้ ก็จะใช้หลักการเดียวกัน ให้พยายามพัฒนาตัวเองให้มีความเป็นมืออาชีพ หรือเปลี่ยนความรู้ให้เป็นสินค้าให้ได้ และผลิตสินค้าไว้จำนวนมาก ไว้ปล่อยขายทีเดียว รับเงินเป็นก้อน เป็นต้น
การพัฒนาตัวเองด้วยการเปลี่ยนกิจกรรมที่ทำ งานอดิเรกให้มีช่องทางสร้างรายได้ นอกจากจะได้ความสุขใจกับการทำสิ่งที่รัก ก็ยังได้สินค้าไว้ขายอีกทางหนึ่ง ก็จะเป็นเรื่องดี หากสินค้าสามารถขายได้ มีรายได้เข้ามาสามารถทำกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องนำเงินจากทางอื่นมาใช้ และหากสามารถยึดเป็นอาชีพได้ ก็จะทำงานอย่างมีความสุข ได้ทำสิ่งที่รักและยังมีรายได้เข้ามาเลี้ยงชีพได้โดยไม่ต้องทำงานประจำเลย