อาการมือถือทั้งแอนดรอยด์ iPhone หรือแท็บเล็ต ชาร์จได้ช้ามาก เป็นชั่วโมงชาร์จได้ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ หรือ ชาร์จไฟไม่เข้าเลย ให้ลองแก้ปัญหาด้วยตัวเองง่ายๆ ดูก่อน เช่น ใช้แปรงสีฟัน แปรงทำความสะอาดรูชาร์จ ซึ่งอาจจะสกปรก ทำให้เกิดปัญหาในการชาร์จ

มือถือที่ใช้งานมานาน หรือ แม้จะเป็นมือถือใหม่แต่เป็นเครื่องตกรุ่น อาจจะมีปัญหาในการชาร์จ แบตเตอรี่เริ่มเสื่อม หรือ ตูดชาร์จ วงจรชาร์จเริ่มมีปัญหา หรืออาจจะแค่สกปรก ก็สามารถแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ตัวอย่างเช่น

ทำความสะอาดรูชาร์จ

ตูดชาร์จ รูชาร์จ อาจจะสกปรก ให้ลองทำความสะอาดดูก่อน ใช้แปรงสีฟัน ทั้งแบบขนแปรงแข็งและนิ่ม ระวังอย่าใช้แปรงเปียก อาจจะเกิดการลัดวงจรได้ จากนั้นก็นำไปลองชาร์จอีกที

อาจจะใช้ไม้จิ้มฟันเหลาให้ปลายแหลมเหมือนเข็ม หรือเหลาให้แบน แล้วเขี่ยในรูชาร์จ เพราะอาจจะมีเศษผ้า เศษผง อยู่ข้างใน มือถือที่ใช้รูชาร์จแบบ Micro USB และ Type-C ตรงกลางรูชาร์จจะมีแผ่นบางๆ ตรงกลาง ให้ดูว่า ยังอยู่ตรงกลาง หรือล้มไปติดขอบด้านบหรือด้านล่างหรือไม่ ถ้าล้ม ก็เขี่ยให้อยู่ตรงกลาง แต่ระวังหัก

ใช้หัวชาร์จหลายๆ แบบ

ทดลองนำมือถือไปชาร์จกับหัวชาร์จหลายๆ แบบ เช่น ชาร์จไฟล์ได้น้อยๆ ประมาณ 0.5A, 1A, 2A แต่ห้ามชาร์จกับหัวชาร์จที่จ่ายไฟแรงๆ ทั้งนี้ต้องดูสเปคมือถือที่ใช้งานอยู่นั้น ใช้แบตเตอรี่ความจุมากน้อยเพียงใด แบตเตอรี่ความจุไม่เกิน 1500 mAh ใช้กับหัวชาร์จไม่เกิน 1A ความจุแบตเตอรี่สูงประมาณ 3000 mAh ใช้หัวชาร์จไม่เกิน 2A หากชาร์จไฟแรงเกินไปแบตเตอรี่จะได้รับความเสียหายได้

ล้างเครื่องใหม่

การล้างเครื่องใหม่ให้เหมือนได้เครื่องมาครั้งแรก เพราะปัญหาอาจจะเป็นที่แอปในตัวเครื่อง ก่อนจะล้างเครื่องก็อย่าลืมสำรองข้อมูลเก็บไว้ก่อน มือถือแต่ละยี่ห้อจะมีวิธีล้างเครื่องใหม่ ต่างกันไป แต่จะเข้าไปใน การตั้งค่า หาคำสั่งเกี่ยวกับการสำรองข้อมูลและ รีเซ็ต

ตรวจสอบประสิทธิภาพแบตเตอรี่

เมื่อสามารถชาร์จได้ตามปกติแล้ว ให้ตรวจสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่เช่น ชาร์จจนเต็ม 100% จากนั้นก็ใช้จนกว่าแบตเตอรี่ใกล้จะหมดเกลี้ยงให้ดูว่า แบตเตอรี่หมดเร็วหรือไม่ ถ้าหมดเร็ว แสดงว่าแบตเริ่มจะเสื่อมแล้ว หรือเริ่มมีปัญหาแล้ว มือถือมียี่ห้อจะให้แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพดี ใช้งานได้นาน จะไม่ต่ำกว่า 3 ปีขึ้นไป แบตเตอรี่จึงจะเริ่มเสื่อม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการชาร์จด้วย ถ้าใช้มือถือจนแบตเตอรี่เหลือน้อย หรือหมดเกลี้ยงแล้วชาร์จ แบตเตอรี่จะเสื่อมเร็วมาก อาจจะไม่ถึงปี

การป้องกันปัญหาที่ต้นเหตุ

ปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่ของมือถือ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ คุณภาพของแบตเตอรี่ มือถือแบรนด์มียี่ห้อ เช่น Samsung, iPhone, Lenovo, ASUS, Oppo, Vivo เป็นต้น จะให้แบตเตอรี่คุณภาพดี ใช้งานได้นาน แต่ยกเว้นมือถือตกรุ่นที่นำมาขาย แม้จะเป็นเครื่องใหม่ แต่มือถือเหล่านี้ แบตเตอรี่อาจจะเสื่อมเร็วกว่าที่คิด

นอกจากนี้ก็อยู่ที่พฤติกรรมการชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อระดับแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 50-70% ก็ควรหาที่ชาร์จได้แล้ว หากปล่อยให้เหลือน้อยๆ ต่ำว่า 20-30% หรือใช้จนหมดเกลี้ยง แล้วชาร์จ แบตเตอรี่จะเสื่อมเร็วไม่ว่าจะเป็นมือถือมียี่ห้อหรือไม่ก็ตาม