เมื่อแบตเตอรี่มือถือเริ่มเสื่อม เก็บไฟไม่อยู่ ใช้งานได้ไม่นาน แบตเตอรี่หมดเร็ว ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ก็มีหลายเรื่องที่ควรรู้ โดยเฉพาะผู้ที่มีมือถือเพียง 1-2 เครื่อง และใช้งานแทบทั้งวัน ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว
สำหรับผู้ที่มีมือถือเพียง 1-2 เครื่อง เมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ก็มีเรื่องที่ควรพิจารณาดังนี้
ศึกษาพฤติกรรมการใช้มือถือของตัวเองก่อน
หากรู้ว่าการใช้งานมือถือของตนเองเป็นอย่างไร ในแต่ละวัน ก็จะรู้ว่าควรจะใช้มือถืออย่างไร และควรมีกี่เครื่อง ตัวอย่างเช่น ชอบดูยูทูป แทบทั้งวัน ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว การมีมือถือเพียงเครื่องเดียว ก็จะต้องชาร์จบ่อยๆ โดยเฉพาะหากใช้งานมือถือจนแบตเตอรี่แทบหมดเกลี้ยง แล้วนำไปชาร์จ ก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว
หากมีมือถือเพียงเครื่องเดียว เมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม และตัดสินใจเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ โดยเฉพาะหากไม่ใช่แบตเตอรี่ของแท้ แต่ยังมีพฤติกรรมใช้งานมือถือแทบทั้งวันเหมือนเดิม ก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วมาก เพราะไม่ใช่ของแท้ ไม่นานก็จะต้องเปลี่ยนอีกครั้ง ดังนั้นแทนที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ ก็ควรหามือถือมาใช้อีกสักเครื่อง จะดีกว่า
ซื้อมือถือเพิ่มให้เพียงพอ
หากพบว่าพฤติกรรมการใช้งานมือถือของตนเอง เป็นการใช้งานแทบทั้งวัน โดยเฉพาะการใช้แอปที่ใช้พลังงานมาก และทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว อย่างการเล่นเกม การดูวิดีโอ ก็ควรจะหาซื้อมือถืออีกเครื่อง หรือ อีกหลายเครื่องมาไว้สำรอง สลับกันใช้งาน เครื่องไหนที่แบตเตอรี่เริ่มเสื่อม ก็เน้นเอาไว้ใช้งานกับแอปบางตัวที่ไม่ใช้พลังงานแบตเตอรี่มากนัก เช่น เอาไว้อ่านอีเมล์บ้าง ดูไลน์บ้าง โทรออก หรือรับสาย ก็จะยังใช้งานเครื่องต่อไปได้อีกนาน
เมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม การเปลี่ยนแบตเตอรี่หากทำเองไม่ได้ จะต้องพึ่งพาร้านซ่อมมือถือมีค่าใช้จ่ายหลักพันบาท หรือ ใกล้เคียง ก็ควรพิจารณาหามือถือสำรอง มาไว้ใช้งาน อย่างผู้เขียนชอบดูยูทูป แทบทั้งวัน ก็จะมีมือถือสำรองหลายเครื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องก็ไม่ได้แพงมาก เป็นเครื่องมือสอง แทนที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ ก็หาเครื่องมือถือราคาไม่ถึงพันบาท มาใช้งานอีกเครื่อง หรือ หลายเครื่องจนกว่าจะเพียงพอ ต่อพฤติกรรมการใช้งานของตนเอง
กรณีนี้การซื้อมือถือมือสองมาใช้งาน ก็ควรเลือกรุ่นที่เปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้ง่าย แค่แกะฝาหลัก ถอดเปลี่ยนได้เลย อย่าไปเลือกรุ่นที่เปลี่ยนยาก ต้องใช้บริการช่างซ่อมมือถือ เพราะจะมีค่าใช้จ่ายสูง ตามมา เน้นเครื่องมียี่ห้อที่ไว้ใจได้ เพราะใช้วัสดุที่มีคุณภาพมากกว่า อย่างมือถือ Samsung, Asus, Wiko, Vivo การซื้อเครื่อง อาจจะไปหาตามร้านรับจำนำ เพราะทางร้านจะมีการตรวจสอบเครื่องก่อนจะรับจำนำ จึงมีโอกาสได้เครื่องดีไว้ใช้งาน
ชาร์จมือถือให้เร็วขึ้น หากยังไม่มีเงินเปลี่ยนแบตเตอรี่
หากยังไม่มีเงินเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือ หาซื้อเครื่องสำรอง ให้ชาร์จมือถือให้เร็วมากขึ้น เมื่อแบตเตอรี่เหลือประมาณ 60-70% ก็เสียบสายชาร์จได้แล้ว ควรมีพาวเวอร์แบงก์ติดตั้ง เพื่อให้พร้อมในการชาร์จได้ตลอดเวลา และลดการใช้งานเครื่องลง วิธีนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้น อีกหน่อย
เปลี่ยนพฤติกรรมการชาร์จแบตเตอรี่
ทุกวันนี้ควรมีมือถือไว้อย่างน้อยสัก 2 เครื่องขึ้นไป ไม่จำเป็นจะต้องแพง อย่าง ASUS เครื่องนี้ผู้เขียนซื้อมา 1000 บาท ใช้งานมาหลายปีแล้ว ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เอาไว้ดูยูทูป เป็นหลัก ในการใช้งานจะไม่ปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 50% ก็จะนำไปชาร์จ และหยิบเครื่องใหม่มาใช้งานแทน
พฤติกรรมการชาร์จแบตเตอรี่แบบนี้ จึงทำให้แบตเตอรี่ไม่เสื่อมเร็ว เพราะไม่ได้ใช้จนแทบหมดเกลี้ยงแล้วจึงนำไปชาร์จ ดังนั้นเมื่อซื้อมือถือมาใช้งานหลายเครื่อง เมื่อแบตเตอรี่เหลือประมาณ 50-70% ก็ควรชาร์จได้แล้ว คราวนี้จะใช้งานได้นาน แบตเตอรี่ไม่เสื่อมง่ายๆ
สรุป
การมีมือถือเครื่องเดียว ในทุกวันนี้ดูจะไม่เพียงพอ หากมีพฤติกรรมใช้งานมือถือค่อนข้างมาก ควรหามือถือสำรองมาไว้ใช้งาน เช่น ไว้ติดต่อ LINE ก็เครื่องหนึ่ง ไว้ดูยูทูป ดูหนัง ก็เครื่องหนึ่ง หรือหลายเครื่อง และรีบชาร์จทันทีที่เครื่องใด เครื่องหนึ่งมีแบตเตอรี่เหลือ 50% ขึ้นไป อย่าใช้จนหมด