การได้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ทั้งการพูดหรือการกระทำนั้น จะต้องระวังผลเสียที่จะเกิดขึ้นตามมา เพราะไม่เพียงส่งผลไม่ดีต่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อคนรอบข้างอีกด้วย โดยเฉพาะคนในครอบครัว เพื่อนสนิท มิตรสหาย ซึ่งจะค่อยๆ หายไปทีละคน จนไม่มีใครอยากจะคบ
การพูดจารุนแรง การใช้คำพูดหยาบคาย หรือการกระทำที่แสดงออกถึงความก้าวร้าวนั้น บางคนมองว่า เป็นการระบายอารมณ์ที่ดีอย่างหนึ่ง หรือพูดเพื่อหวังผลในด้านต่างๆ กับคู่สนทนา ทั้งการข่มขู่ การทำให้กลัว หรือเพื่อควบคุม ฯลฯ แต่หากทำแบบนี้บ่อยๆ แม้จะเป็นคนในครอบครัวก็ตาม สุดท้ายก็ไม่มีใครคบเช่นกัน
ตัวอย่างผลเสียที่จะเกิดขึ้นตามมา
เรื่องแบบนี้หากไม่เจอกับตัวเอง หลายคนก็อาจจะมองว่า ไม่เป็นอะไร แต่ผลเสียที่จะตามมานั้น อาจจะส่งผลหลังจากเวลาผ่านไปเป็นสิบปีก็ได้ แต่เมื่อเริ่มป่วยคราวนี้จะแก้ไขยากมาก เพราะการกระทำที่ก้าวร้าวทั้งการพูดและการกระทำยิ่งทำบ่อยๆ ก็เหมือนฉีดสารพิษใส่ตัวเอง เมื่อสะสมมากพอและคราวนี้ก็จะแสดงอาการป่วยในรูปแบบต่างๆ ช่น ขี้โมโห ขี้บ่น อารมณ์ร้าย ฯลฯ
ตัวอย่างผลเสียที่เกิดกับตัวเอง
อาการต่างๆ เหล่านี้จะเริ่มเกิดกับตัวผู้กระทำ เช่น
ขี้หงุดหงิด ขี้โมโห โกรธง่าย
ใครพูดอะไร หรือทำอะไรไม่เข้าท่า ไม่ถูกใจ หรือพูดผิดนิดเดียว เรื่องเท่ามด แต่ความโกรธรุนแรงมาก และพร้อมจะแสดงความก้าวร้าวทั้งการพูดและการกระทำทันที หากคนใกล้ตัวทำอะไรไม่ถูกใจ การคบคนแบบนี้ เป็นทุกข์มาก เพราะทำอะไรไม่พอใจหรือขัดใจนิดเดียว เป็นเรื่องทันที โดยเฉพาะหากเป็นแฟนกันหรือสามีภรรยาหรือคนในครอบครัวด้วยแล้ว จะยิ่งลำบากใจมาก
ขี้บ่น
อาการขี้บ่นจะเป็นอีกหนึ่งอาการป่วยของคนเหล่านี้ จะกลายเป็นคนขี้บ่น เห็นอะไรก็ติด ขัดไปเสียทุกเรื่อง บางเรื่องเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่น่าจะต้องเอามาคิด แต่ก็เก็บมาคิด โกรธแค้นจะเป็นจะตายก็มี บางคนเห็นข้อความในโฆษณาที่เขียนผิด ใช้ภาษาผิด ก็โกรธจะเป็นจะตาย เลิกใช้สินค้าตัวนั้นไปเลย
อารมณ์ร้าย
อารมณ์ร้าย โมโหร้าย ทำอะไรไม่ถูกใจ หรือขัดใจแม้จะเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็พร้อมจะระเบิดอารมณ์รุนแรงสุดๆ เหมือนคนบ้า โดยเฉพาะคนที่เอาแต่ใจ ผู้ชายหรือผู้หญิงแรงๆ หากเผลอไปได้มาเป็นแฟน ก็คิดหนัก เพราะแตะไมได้เลย แค่คิดก็สยอง
ไม่มีความสุขในชีวิต
การเป็นคนก้าวร้าว อารมณ์รุนแรงจะไม่มีความสุขในชีวิต เพราะอารมณ์ที่แปรปรวนง่าย และมีหลายความรู้สึกผสมปนเปกัน บางคนขี้อิจฉา อาฆาต ขี้ใจน้อย แต่ละอารมณ์ก็จะแรงสุดๆ
การเป็นคนที่ก้าวร้าว ชอบความรุนแรง นั้น บางคนก็ไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่า ที่ตัวเองเป็นแบบนี้ ก็เพราะนิสัยก้าวร้าวที่ตัวเองชอบทำ สะสมมากขึ้นทุกวันจะป่วยทางจิตไม่รู้ตัว เมื่อคนใกล้ตัวเริ่มหนีห่าง แทนที่จะคิดได้ กลับมีแต่ความโกรธแค้น อาฆาต ทำไมทิ้งตัวเอง ทำไมไม่สนใจตัวเอง แต่ไม่คิดเลยว่า การทำตัวแบบนั้นแล้วใครจะกล้าเข้าใกล้
ผลเสียต่อคนอื่นหรือคนรอบตัว
การอยู่ใกล้คนก้าวร้าว ชอบความรุนแรงแบบนี้ แม้ว่าจะเป็นคนจิตใจดีก็ตาม แต่เมื่อรับคำพูดลบๆ คำพูดไม่ดี ได้เห็นการกระทำไม่ดีบ่อยๆ ก็จะสะดสมโดยไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัว ก็อาจเริ่มป่วยแล้ว กลายเป็นคนขี้โมโห หงุดหงิดง่ายโดยไม่รู้ตัว ไม่มีสมาธิในการใช้ชีวิต เพราะบางคนจะเริ่มเก็บเอามาคิดๆๆ ว่าทำไมคนนั้นต้องเป็นแบบนั้น
เมื่อหงุดหงิดมากๆ ก็จะทำให้เกิดการทะเลาะกันได้ง่าย กับคนที่มีพฤติกรรมไม่ดี โดยเฉพาะการพยายามดัดนิสัยหรือพูดให้อีกฝ่ายคิดได้ แต่มักจะเป็นการสร้างความโกรธแค้นให้มากกว่า เพราะคนประเภทนั้นจะไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด ฉันต้องเป็นที่หนึ่งเท่านั้น ใครมีปัญหาก็ต้องมีเรื่องกัน หรือไม่ก็เลิกคบไปเลย ถ้าเลิกคบก็อาฆาตแค้นอีกต่างหาก
ผู้เขียนเคยคบคนประเภทนี้มาหลายคน แรกๆ ก็คิดว่า ไม่เป็นไร อยากจะบายก็จะยินดีรับฟัง คำบ่น คำด่าสารพัด อยากระบายอะไรก็เชิญ แต่พอฟังบ่อยๆ สุดท้ายก็ป่วยเสียเอง กลายเป็นคนก้าวร้าวไปอีกคน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้มีปัญหาชีวิตอะไรเลย สุดท้ายก็ต้องเลิกคบ และต้องอยู่ให้ห่างคนประเภทนี้ เพราะคบแล้วไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีแต่โทษทั้งนั้น
การพูดจาก้าวร้าว พูดไม่ดี มีพฤติกรรมก้าวร้าว จะทำให้คนใกล้ตัวเกิดอารมณ์ได้ง่าย มีโอกาสทะเลาะกันสูงมาก หากพ่อแม่มีลักษณะดังกล่าวคนในครอบครัวก็จะพากันเกิดปัญหาตามไปด้วย หลายคนชอบทำอะไรแบบสะใจ ทำอะไรแรงๆ เพราะมองว่านั่นคือการได้ระบาย แต่หากทำบ่อยๆ จนติดเป็นนิสัยหรือสันดานไปแล้ว คราวนี้จะแก้ไขยากมาก เพราะหลายคนมองว่าตัวเองไม่ผิด ใครรับได้ก็รับ ใครรับไม่ได้ก็ไม่ต้องคบ พอคิดแบบนี้แล้ว ก็จะไม่ง้อใคร ไม่ยอมลงให้ใคร คนแบบนี้จึงมักจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เพราะไม่มีใครรับได้