การใช้ตาข่ายหุ้มเบาะมอเตอร์ไซค์มีข้อดีหลายอย่าง เช่น ลดความร้อน ขณะเดินทางกลางวัน เป็นของแต่งรถช่วยให้เบาะดูดีขึ้น เพราะปิดทับเบาะเก่า สีซีดจางแล้ว แต่ข้อเสียก็มีนั่นก็คือ ฝุ่นเกาะง่าย ด้วยความที่มีลักษณะเป็นรูตารางเล็กๆ เปียกน้ำแห้งยาก เจอฝนจะลำบาก จึงอาจจะไม่เหมาะที่จะติดไว้ตลอดเวลาแต่ใช้ในยามจำเป็นอย่างการเดินทางไกล การเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ ช่วยลดความร้อนของเบาะได้

จากการทดลองใช้ตาข่ายหุ้มเบาะมอเตอร์ไซต์เดินทางไกลประมาณ 100 กิโลเมตร ในช่วงเวลาประมาณ 10:00-12:00 มีจอดพักบ้าง จอดรถตากแดดบ้าง การใช้ตาข่ายหุ้มเบาะแบบนี้ เบาะไม่ร้อนเลย และยังนุ่มมากขึ้น ในความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน การใช้งานควรจะใช้ในลักษณะดังต่อไปนี้
1. ถ้าชอบความสวยงาม ก็ติดตาข่ายหุ้มเบาะไว้ตลอดเวลา แต่ต้องขยันหมั่นถอดออกมาซักล้างทำความสะอาด เพราะเป็นที่ดักฝุ่น เศษชิ้นส่วนเล็กๆ จะมาอยู่ในรูตาข่าย และเอาออกยาก ต้องถอดเบาะออก จึงจะเอาเศษชิ้่นส่วนเล็กๆ ที่มาเกาะออกไปได้

2. หน้าฝนควรถอดออกเพราะจะเป็นที่กักเก็บน้ำฝน สร้างปัญหาเวลาขับขี่ กางเกงหรือกระโปรงจะเปียก หรือขณะเดินทางหากเจอฝน ก็จะสร้างปัญหา กว่าจะแห้งต้องใช้เวลา จำเป็นจะต้องถอดออก และต้องมีที่เก็บ ต้องมีถุงสำหรับเก็บหรือรถมีตะกร้าหน้า ถอดออกไปเก็บไว้

3. การใช้งานที่แนะนำ ก็คือ ใช้ในกรณีเดินทางไกล อากาศร้อน แตะเบาะนั่งจะไม่ร้อน แต่ก็ไม่เหมาะกับหน้าฝน พับแล้วก็พอจะพกติดรถได้ ใช้ในโอกาสเฉพาะ

การวัดขนาดเบาะก่อนซื้อมาใช้งาน

ก่อนจะซื้อหามาใช้งานควรจะวัดขนาดเบาะรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง และสอบถามทางร้านเสียก่อน กันพลาด ได้ขนาดเล็ก หรือ ใหญ่กว่าเบาะรถมอเตอร์ไซต์ เสียเวลา ทั้งสองฝ่าย
1. การวัดเบาะรถมอเตอรไซค์ให้ใช้สายวัดตัวสำหรับตัดเสื้อผ้า หรือเชือกวัดขนาดจากส่วนที่ยาวที่สุด ของเบาะ แล้วนำไปวัดกับไม้บรรทัด เพื่อหาความยาวของเบาะ
2. วัดความกว้างของเบาะ เลือกจุดที่กว้างที่สุด ด้วยสายวัดตัว หรือ เชือก วัดขนาดแล้วนำไปเทียบกับไม้บรรทัด เพื่อหาขนาดความกว้างของเบาะ

3. ถ่ายภาพรถ รุ่นของรถ แล้วสอบถามทางร้านก่อนสั่งซื้อ โดยแจ้งขนาดของเบาะ ความยาว ความกว้าง ให้ทางร้านช่วยตัดสินใจ ซึ่งจะมีความชำนาญมากกว่า ช่วยป้องกันความผิดพลาดไม่เสียเวลา

สรุปข้อดี ข้อเสีย ใช้ตาข่ายหุ้มเบาะ/h2>

หลังจากได้ลองใช้มาสักพัก ตาข่ายหุ้มเบาะมอเตอร์ไซต์มีประโยชน์มากกรณีขับรถกลางวันแดดร้อน แต่เบาะจะไม่ร้อน แต่ข้อเสียดูเหมือนจะมากกว่า เป็นที่ดักฝุ่น เศษผงชิ้นเล็ก ต้องเสียเวลาถอดซัก และที่จะสร้างปัญหามากกว่านั้นก็คือ กรณีที่เจอฝน เพราะหน้าฝนเมืองไทยเรามี 3 ฤดู เจอน้ำ เปียกแล้ว ต้องใช้เวลากว่าจะแห้ง ไม่แห้งก็อาจจะมีกลิ่นติดเสื้อผ้า ซึ่งจะต้องถอดออก เก็บใส่ถุง ไม่สะดวกอย่างมาก กรณีต้องเดินทางไกล แล้วเจอฝน เจอน้ำ

สรุปแล้ว ข้อเสียมากกว่าข้อดี เว้นแต่ว่าจะชอบจริงๆ และมีที่เก็บในรถกรณีเจอฝน เปียก ก็ถอดเก็บ ถึงบ้านก็ตาก แล้วก็เอามาใส่ต่อ เปียกก็ถอด วนปายยย ถ้าไม่ถอด ก็ต้องเปิดเบาะไว้ให้น้ำไหลออก ควรหาวิธีลดความร้อนของเบาะด้วยวิธีอื่นจะดีกว่า เช่น กรณีเบาะรถเดิมๆ เป็นสีดำ ก็ลองใช้ผ้าหุ้มเบาะสีอ่อนๆ เพื่อช่วยลดความร้อน