สำหรับมือใหม่ที่เคยแต่ใช้ซิม ค่ายอื่น True, dtac หรือ Ais อยากจะเปลี่ยนไปใช้ซิม My by Cat บ้าง ก็มีขั้นตอนง่ายๆ 1, 2, 3 ... ตามนี้เพื่อความสะดวกรวดเร็ว และป้องกันความผิดพลาด โดยเฉพาะคนที่ไม่รู้ ชาวบ้านทั่วไป ซิมค่ายนี้ ราคาถูก มีหลายแพ็กเกจ แต่ละแพ็จเกจ เหมาะกับใคร ข้อดีข้อเสีย อย่างไร บทความนี้ อาจจะมีคำตอบให้มือใหม่

 

ซิม My by Cat เป็นซิมจาก บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง ด้วยบริการ 4G บนคลื่นความถี่ 1800/2100 MHz. และ 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz. จุดเด่นเมื่อเทียบกับมือถือ ค่ายอื่นก็คือ ราคาประหยัด หากเน้นเอาไว้ใช้งานพื้นฐานทั่วไป ใช้ LINE ใช้เฟสบุ๊ค ดู Yotube บ้าง ใช้แบบประหยัดค่าบริการ 100 บาท ต่อเดือน ก็เอาอยู่ มีเน็ตให้ใช้ทุกวัน แต่จ่ายไม่แพง การโทรศัพท์ระหว่างซิม My ด้วยกัน ก็ฟรี ไม่เสียค่าบริการ

 

ขั้นตอนการใช้งาน ซิม My by Cat

สำหรับมือใหม่ที่ ไม่เคยใช้ซิม My by Cat มาก่อน และอยากจะใช้งาน ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ตามนี้

 

1. ตรวจสอบมือถือ รองรับซิม My by Cat หรือไม่

สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือ ตรวจสอบมือถือของเรา หรือ อุปกรณ์แชร์เน็ต หรือ เราเตอร์ เสียก่อนว่า รองรับการใช้งานกับซิม My by Cat หรือไม่ หากไม่รองรับ ก็อาจจะเชื่อมต่อได้ที่ความเร็วต่ำมาก หรือ เชื่อมต่อไม่ได้เลย กรณีนี้จะไม่ต้องเสียเวลา เสียเงิน เพื่อซื้อซิมมาใช้งาน

 

2. ตรวจสอบพื้นที่ให้บริการรองรับซิม My by Cat หรือไม่

หากมือถือรองรับ สิ่งที่ต้องตรวจสอบต่อไป ก็คือ พื้นที่ที่เราอยู่อาศัย หรือ ที่ทำงานนั้น รองรับมือถือหรืออุปกรณ์ของเราหรือไม่ เนื่องจากในบางพื้นที่อยู่ห่างจากเสาส่งสัญญาณ เช่น ตามแพ็กเกจระบุไว้ว่า มีความเร็ว 30 Mbps แต่ในพื้นที่นั้นๆ กลับเชื่อมต่อได้ความเร็วเน็ตเพียง 5-6 Mbps เท่านั้นเอง ไม่ถึง 30 Mbps เนื่องจากห่างไกลจากเสาส่งสัญญาณ

 

3. การซื้อซิม My by Cat

เมื่อตัดสินใจว่าจะใช้ซิม My by Cat การซื้อซิม ในราคา 69 บาท อาจจะ ...
1. ไปซื้อที่ ศูนย์บริการมายดิจิทัล หรือ สำนักงานบริการลูกค้า กสท ใกล้บ้าน ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปด้วย เพื่อทำการลงทะเบียนซิม
2. ซื้อผ่านเน็ต ในเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Lazada หรือ Shopee ให้เลือกร้านที่มีบริการลงทะเบียนซิมให้ด้วย โดยทางร้านจะให้ติดต่อผ่านทาง Line


3. ซื้อซิมผ่านเน็ต และลงทะเบียนด้วยตัวเอง สำหรับผู้ที่มีความรู้ในการใช้มือถือ โดยติดตั้งแอป App myRegisPlus ใน Youtube มีวิดีโอสอนวิธีใช้งาน

 

สำคัญมาก

เมื่อได้ลงทะเบียนซิมเรียบร้อยแล้ว อย่าเพิ่งเติมเงิน ให้ศึกษาเกี่ยวกับแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตหรือการโทรให้ดี ให้เข้าใจเสียก่อน เพื่อจะได้เลือกให้เหมาะสมกับตัวเอง

 

4. เลือกโปรโมชันหรือแพ็กเกจซิม My

เมื่อลงทะเบียนซิมเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ต้องทำลำดับต่อไป ก็คือการเลือกแพ็กเกจโปรเน็ตเพื่อใช้งาน ซึ่งมีหลายแบบ ที่จะต้องทำความเข้าใจ

 

ทำความรู้จักแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตแบบต่างๆ

ซิม My by Cat จะมีแพ็กเกจอินเตอร์เน็ต โดยแยกเป็น 2 กลุ่มตามนี้
1. แพ็กเก็จอินเตอร์เน็ต ไม่อั้น ไม่ลดสปีด ความเร็ว ไม่เกิน 4 Mbps ก็จะมี 2 แบบ คือ ความเร็ว 2 Mbps และความเร็ว 4 Mbps รับได้เฉพาะสัญญาณ 4G ทั้งสองแพ็กเกจนี้จะใช้เสาส่งสัญญาณเดียวกับ True การโทรศัพท์ระหว่างซิม My ด้วยกัน ฟรี!!! แต่โทรไปค่ายอื่นเสียเงิน

2. แพ็กเก็จอินเตอร์เน็ต ไม่อั้น ไม่ลดสปีด ความเร็ว 15 Mbps ขึ้นไป รับได้ทั้งสัญญาณ 4G /5G เช่น 15 Mbps, 20 Mbps, 30 Mbps จะใช้เสาส่งสัญญาณเดียวกับ AIS แพ็กเกจนี้จะมีทั้งเล่นเน็ตไม่อั้น และ โทรไม่อั้นในเครือข่ายเดียวกัน และ โทรฟรี 60 นาที/เดือน นอกเครือข่าย หรือโทรไป Ais, True หรือ dtac ได้รวม 60 นาทีต่อเดือน

 

ความเร็วแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตแบบต่างๆ

ในพื้นที่ที่ผู้เขียนอาศัยอยู่นั้น ก็ได้มีโอกาสทดสอบวัดความเร็วการเชื่อมต่อเน็ตผ่านซิม 3 แบบด้วยกันคือ
1. แพ็กเกจความเร็ว 2 Mbps ค่าบริการเดือนละ 100 บาท สามารถเชื่อมต่อได้ที่ความเร็ว 1.8 Mbps
2. แพ็กเกจความเร็ว 15 Mbps ค่าบริการเดือนละ 170 บาท เชื่อมต่อได้ที่ความเร็วประมาณ 2-3 Mbps
3. แพ็กเกจความเร็ว 30 Mbps เชื่อมต่อได้ที่ความเร็วประมาณ 5-6 Mpps

ในผลการทดสอบก็มีตัวแปรหลายอย่าง ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ เช่น
1. ทำไมแพ็กเกจความเร็ว 2 Mbps ถึงเชื่อมต่อได้เร็วมาก ใกล้เคียงแพ็กเก็จความ 15 Mbps แต่ประหยัดกว่าเดือนละ 70 บาท ที่คิดเอาเองก็คือ คนใช้น้อย และเสาสัญญาณคนละแบบกัน เมื่อคนใช้น้อย ก็เลยได้ความเร็วมากกว่า ดังนั้น ก็ลองสมัครใช้แพ็กเกจนี้ดูก่อน เพื่อดูว่า ความเร็วเน็ต เพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่

2. ทำไมแพ็กเกจความเร็ว 15 และ 30 Mbps เชื่อมต่อได้ที่ความเร็วต่ำมาก ซึ่งมีตัวแปรหลายอย่าง เช่น ห่างเสาส่งสัญญาณ มือถือไม่รองรับ หรือสภาพอากาศ ดังนั้น ต้องหาข้อมูลให้ดี เสียก่อน เพื่อจะได้เลือกแพ็กเกจให้เหมาะสม เช่น เลือกความเร็ว 15 Mbps แล้วเชื่อมต่อได้ประมาณ 2-3 Mbps ก็ใช้แบบ 4 Mbps น่าจะดีกว่า เชื่อมต่อเน็ตได้ความเร็วใกล้เคียงกัน (ความเร็วเชื่อมต่อขึ้นอยู่กับสถานที่ ความห่างของเสาส่งสัญญาณ)

*** การเลือกแพ็คเกจความเร็ว 15 Mbps ขึ้นไป อาจจะไม่ได้ความเร็วมากอย่างที่คิด โดยเฉพาะช่วงฝนตก เพื่อนบางคนที่ใช้งาน 30 Mbps เชื่อมต่อได้ไม่ถึง 1 Mbps ก็มี ในขณะที่ อีกคนใช้แพ็กเกจ 2 Mbps ความเร็วไม่ตกเลย เชื่อมต่อได้ประมาณ 1.8 Mbps แม้ฝนจะตก แดดจะออก

ผู้เขียนจึงคิดว่า น่าจะเกิดจาก คนส่วนใหญ่แห่ไปใช้เน็ตความเร็วสูง เลยกลายเป็นปัญหาคอขวด ในขณะที่คนใช้เน็ต 2 หรือ 4 Mbps มีน้อย จึงไม่มีปัญหา แย่งสัญญาณเน็ตกัน  ดังนั้น หาข้อมูลให้ดีเสียก่อน จะไม่เสียเงินมากเกินไป เพราะหากเป็นอย่างนี้ ใช้แค่ 4 Mbps ก็พอแล้ว***

 

5. การเติมเงินซิม My

เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะเลือกแพ็กเกจแบบใดแล้ว คราวนี้ก็จัดการเติมเงิน ซึ่งทำได้หลายวิธีเช่น
1. เติมเงินที่ตู้เติมเงินตามยอดเงินของแพ็กเกจที่ตัดสินใจเลือก เช่น
- 2 Mbps 100 บาท ต่อเดือน
- 4 Mbps 150 บาท ต่อเดือน

2. เติมเงินผ่านบัญชีธนาคาร ข้อดีก็คือ เราสามารถตั้งเวลาในการโอนเงินได้ อย่างการโอนทุกเดือน ทุกวันที่ ... ของเดือนจะไม่เสียเวลาเติมเงินด้วยตัวเอง เมื่อถึงวันที่ที่กำหนด แอปธนาคารจะทำการโอนเงินเข้าไปในซิม การเติมเงินแบบนี้ ก็จะไม่มีค่าบริการ

 

สำคัญมาก ก่อนเติมเงิน ห้ามลืม ไม่เช่นนั้น เงินอาจจะไม่เหลือ

ก่อนจะทำการเติมเงินเข้าระบบ ให้ทำการตรวจสอบ 2 เรื่องต่อไปนี้ให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกันเงินหาย
1. ตรวจดูว่า มีการแอปสมัครรับ SMS หรือไม่ ด้วยการกด *137 โทรออก หากมีการแอปสมัคร ทันทีที่มีเงินเข้าไป ก็จะโดนหักเงินออกไป
2. ปิดการเชื่อมต่อเน็ตในมือถือเสียก่อน หรือ ปิดข้อมูลอินเตอร์เน็ตนั่นเอง

 

6. สมัครแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตที่ต้องการ

เมื่อเติมเงินเรียบร้อยแล้วคราวนี้ ก็ทำการสมัครแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตที่ต้องการได้เลย เช่น
1. ตัวอย่าง ต้องการสมัครแพ็กเกจความเร็ว 4 Mbps ให้เติมเงิน 150 บาท แล้วกด *906*706# กด โทรออก
2. จากนั้นให้รอรับ SMS ยืนยันการสมัครบริการเสียก่อน เมื่อได้รับข้อความว่า สมัครเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ ให้ตั้งค่า APN ก่อนจะใช้งาน 3. และเมื่อครบกำหนด 31 วัน ก็เติมเงินเข้าไป ระบบจะทำการสมัคเน็ตให้อัตโนมัติ เป็นจำนวน 12 รอบเดือน หลังจากนั้น ก็ทำการสมัครแพ็กเกจใหม่ เริ่มจากข้อ 1 อีกครั้ง สมัคร 1 ครั้งใช้ได้ 12 เดือน


.

7. ตั้งค่า APN เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

การตั้งค่า APN จะทำให้มือถือ หรืออุปกรณ์ที่ใส่ซิม สามารถเชื่อมต่อเน็ตได้ มือถือแอนดรอยด์ หรือ iPhone จะมีวิธีตั้งค่าคล้ายๆ กัน หลังจากนั้นก็เปิดข้อมูลมือถือ เพื่อเชื่อมต่อเน็ตได้เลย

 

8. เบอร์สำคัญที่จะต้องรู้ ในระหว่างการใช้งานซิม My

ในระหว่างใช้งานซิม My by Cat นั้น ก็จำเป็นจะต้องรู้เบอร์โทรที่สำคัญตามนี้
1. *902# โทรออก เพื่อเช็คยอดเงิน เหลือกี่บาท
2. *905*00# โทรออก เพื่อเช็คโปรโมชันหลักของซิมนั้นๆ เช่น อินเตอร์เน็ต การโทร
3. *906*00# โทรออก เพื่อเช็คโปรโมชันเสริมของซิมนั้นๆ
4. กด *137 โทรออก ตรวจสอบว่ามีการแอปสมัครรับ SMS เสียเงินหรือไม่ หากมีการเติมเงินเข้าไป จะไม่โดนหักเงิน

 

สรุป

สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยใช้ซิม My by Cat มาก่อน ทั้ง 8 ขั้นตอนดังกล่าว ก็น่าจะช่วยให้เข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร การใช้อินเตอร์เน็ต เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสาร และ ซิมค่ายนี้ มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นเพียง 100 บาท ต่อเดือน ก็ถือว่าประหยัด และคุ้มค่าอย่างมาก เอาไว้ใช้แอป Line ดู Youtube รับส่งอีเมล์ ใช้แอปธนาคาร ประหยัดกว่าซิมค่ายอื่นอย่าง Ais, True หรือ dtac